ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภอุบายเครื่องข่มกิเลสที่เกิดขึ้นภายในพวกภิกษุในยามรุ่งแจ้ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์ในเมืองพาราณสี เมื่อเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มได้ไปเรียนศิลปวิทยาในสำนักอาจารย์คนหนึ่งในเมืองนั้นเอง
ที่สำนักเรียน อาจารย์มีลูกสาวสวยคนหนึ่ง เขาต้องการอยากจะได้ลูกเขยเป็นผู้มีศีลธรรม จึงคิดแผนการได้อย่างหนึ่งแล้วก็เรียกประชุมลูกศิษย์ทั้งหมดและประกาศให้ทราบว่า "นี่เธอทั้งหลาย ลูกสาวเราเติบโตเป็นสาวแล้ว เราจักให้เธอแต่งงานแต่ยังขาดผ้าประดับอยู่อีกมาก ขอให้พวกเธอจงลักเอาผ้าประดับของพวกญาติๆมาให้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่มีใครเห็นนะ ผ้าที่มีคนเห็นเราจะไม่รับ" พวกลูกศิษย์ต่างรับคำ
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ลูกศิษย์คนอื่น ๆ ต่างก็พากันนำผ้าประดับที่แอบลักได้มามอบให้อาจารย์ ท่านก็เก็บรวบรวมไว้ที่หนึ่ง มีเพียงพระโพธิสัตว์เท่านั้นที่ไม่มีผ้าอะไรมามอบให้ อาจารย์จึงถามว่า "ทำไมเธอถึงไม่ลักผ้าประดับมาให้อาจารย์ล่ะ?"
พระโพธิสัตว์ตอบว่า "อาจารย์ แม้แต่ท่านก็ไม่รับเอาสิ่งของที่เขาเอามาให้ เมื่อมีคนเห็น ผมก็ไม่เห็นที่ลับในการทำบาปเลย"
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า "ชื่อว่าที่ลับในโลก ย่อมไม่มีแก่ผู้กระทำบาปกรรม ต้นไม้ที่เกิดในป่าก็ยังมีคนเห็น คนพาลย่อมสำคัญบาปกรรมนั้นว่าเป็นความลับ"
อาจารย์เลื่อมใสเขามาก จึงยกลูกสาวให้แก่เขา พร้อมกับประกาศให้ศิษย์ทุกคนทราบ และให้เอาผ้าที่ทุกคนลักมาให้นำกลับคืนบ้านไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
ความลับไม่มีในโลก แม้นไม่มีผู้อื่นทราบ ตัวเราเองก็ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ
( ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม
http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt38.php )
🌷🤍🌷 นิทานชาดก ๐๓๘ (สีลวิมังสชาดก) : ความลับไม่มีในโลก 🌷🤍🌷
พระโพธิสัตว์ตอบว่า "อาจารย์ แม้แต่ท่านก็ไม่รับเอาสิ่งของที่เขาเอามาให้ เมื่อมีคนเห็น ผมก็ไม่เห็นที่ลับในการทำบาปเลย"
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า "ชื่อว่าที่ลับในโลก ย่อมไม่มีแก่ผู้กระทำบาปกรรม ต้นไม้ที่เกิดในป่าก็ยังมีคนเห็น คนพาลย่อมสำคัญบาปกรรมนั้นว่าเป็นความลับ"