จับตาหุ้นโลก หวั่นวิกฤต ‘ดอยช์แบงก์’ ฉุดตลาดหุ้นร่วง
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3892128
REUTERS
จับตาหุ้นโลก หวั่นวิกฤต ‘ดอยช์แบงก์’ ฉุดตลาดหุ้นร่วง
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์ความวุ่นวายในตลาดการเงินโลกอันเนื่องมาจากวิกฤตธนาคารในหลายประเทศยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติโดยเร็ว หลังจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารดอยช์แบงก์ส่อว่าจะเป็นธนาคารใหญ่ในยุโรปล่าสุดที่จะประสบปัญหา ทำให้ต้องจับตาดูว่าหลังจากตลาดหุ้นเปิดทำการใหม่ในวันนี้ (27 มี.ค.) หุ้นของธนาคารจะเป็นไปในทิศทางใด
ทั้งนี้ หุ้นธนาคารในยุโรปหลายแห่งปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันศุกร์ (24 มี.ค.) หุ้นของธนาคารดอยช์แบงก์ปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยร่วงลงต่ำสุดกว่า 14% ก่อนที่จะไต่ขึ้นมาปิดตลาดที่ลบ 8.5% หลังต้นทุนในการประกันพันธบัตรของธนาคารดอยช์แบงก์พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ และหุ้นของธนาคารสูญเสียมูลค่าไปแล้วราว 1 ใน 5 นับตั้งแต่เข้าสู่เดือนมีนาคม
สจ๊วต โคล หัวหน้าเศรษฐศาสตร์มหภาค จากบริษัทอีควิตี แคปิตอล ให้ความเห็นว่า “
ดอยช์แบงก์ถูกจับตามองมาสักระยะแล้วในลักษณะเดียวกับธนาคารเครดิตสวิส” โคลกล่าวอีกว่า ธนาคารดอยช์แบงก์เผชิญกับการปรับโครงสร้าง และเปลี่ยนแปลงผู้บริหารธนาคารหลายครั้ง เพื่อพยายามที่จะทำให้ธนาคารกลับมามีรากฐานที่มั่นคงอีกครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ ดูเหมือนว่าความพยายามดังกล่าวจะไม่ได้ผล
หุ้นของธนาคารยูบีเอสก็อยู่ในขาลงเช่นกันโดยปรับตัวลดลง 6% เจฟฟรีย์ ธนาคารด้านการลงทุน ปรับลดระดับคำแนะนำในการซื้อ-ขายหุ้นของธนาคารยูบีเอส จาก
“ควรซื้อ” เป็น “ควรถือ” โดยให้เหตุผลว่าการที่ธนาคารยูบีเอสเข้าเทกโอเวอร์ธนาคารเครดิตสวิสได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของธนาคารไป จากเดิมที่เคยมีพื้นฐานอยู่บนความเสี่ยงต่ำ อัตราการเติบโตที่เป็นธรรมชาติ และมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูง
หุ้นของธนาคารอื่นๆ ในทวีปยุโรปหลายแห่งก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน อาทิ ธนาคารโซซิเอเต้ เจเนราล ของฝรั่งเศส ปิดตลาดปรับตัวลดลงกว่า 6% ขณะที่ธนาคารบาร์เคลย์ ร่วงลงราว 4% และสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ดิ่งลงกว่า 6% เช่นกัน คริส โบชอมป์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การตลาดของบริษัทไอจี กล่าวว่า “เรากำลังเฝ้าจับตาดูโดมิโนล้มลงอีกตัว และดอยช์แบงก์เป็นธนาคารที่หลายคนคาดว่าจะเป็นโดมิโนตัวต่อไปที่จะล้ม” โบชอมป์ยังให้ความเห็นอีกว่า ดูเหมือนว่าวิกฤตธนาคารจะยังไม่สิ้นสุดซะทีเดียว
เพื่อไทย ฉะรัฐบาล ไม่แก้ฝุ่นพิษ ปล่อยจนเกิดวิกฤตติดอันดับโลก ชง4ข้อ ทำด่วน!
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7580509
มหันตภัยฝุ่นพิษ PM 2.5 เชียงใหม่-เชียงราย ยังรุนแรงติดลำดับโลก เพื่อไทย เฉ่งรัฐบาลไร้ยุทธศาสตร์แก้ปัญหา แนะส่งรัฐมนตรีบินด่วนเจรจาเพื่อนบ้าน
วันที่ 27 มี.ค.2566 นาย
นพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศและรองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่หลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ ที่มีวิกฤตเกินค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกหลายเท่า เรื่องนี้เกิดต่อเนื่องมานานแล้ว เป็นอัตรายต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ที่เศร้ายิ่งกว่านั้นคือ ประชาชนยังไม่เห็นการระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและมียุทธศาสตร์แก้ปัญหาระยะยาวเป็นระบบ เพราะปัญหาเกิดซ้ำซาก ปัญหาที่เชียงราย อยู่ที่ชายแดน มีทั้งเกิดจากการเผาในพื้นที่และฝุ่นที่ถูกลมพัดมาจากเพื่อนบ้าน และอย่างหลังมีจุดความร้อนมากน่าตกใจ
ตนเสนอให้รัฐบาลเร่ง
1. ลงพื้นที่ไปรับทราบความทุกข์ของประชาชน อาจจัดประชุม ครม.สัญจร เพื่อทราบความรุนแรงของปัญหาและระดมสรรพกำลังในพื้นที่เพื่อจัดการแหล่งเกิดฝุ่น เช่น การเผาป่าเผาไร่ การจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือเก็บเกี่ยวที่เกษตรกรเข้าถึงได้แทนการเผา
2. ส่งรัฐมนตรีที่มีหน้าที่บินไปเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านด่วน เพื่อร่วมมือจัดการปัญหาในดินแดนของตน
3. จัดประชุมด่วนและหยิบยกเรื่องนี้ในเวทีอาเซียนเพื่อหาแนวทางและแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ปัญหา PM 2.5 ทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว เพราะถ้าไม่ร่วมมือระหว่างประเทศจะไม่สำเร็จ
4. หารือกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่จ้างเกษตกรปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพดในรูปเกษตรพันธสัญญา (contract farming) เพื่อป้องกันการเผาไร่ และหาเทคโนโลยีการหมุนเวียนใช้ของเหลือหลังเก็บเกี่ยว ไม่ว่าจะไปใช้ทำปุ๋ยหรือพลังงาน
นาย
นพดล กล่าวต่อว่า ปัญหา PM 2.5 ปีนี้รุนแรงที่สุด เป็นปัญหาระดับชาติและระดับอาเซียนไปแล้ว ใครเป็นรัฐบาล ต้องทำให้คนไทยมีอากาศสะอาดหายใจ ซึ่งผู้นำและรัฐบาลต้องเอาจริง มุ่งมั่น ต่อเนื่องจึงจะแก้ได้ เพราะข้อมูล องค์ความรู้มีอยู่แล้ว
ตนดีใจที่พรรคเพื่อไทยตระหนักในปัญหา PM 2.5 และประกาศเป็นนโยบายสำคัญที่จะแก้ไขทั้งในพื้นที่เมืองและต่างจังหวัด ซึ่งโดนใจประชาชน และเชื่อมั่นว่าถ้ามีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้เพื่อให้ประชาชนมีอากาศสะอาดหายใจและปกป้องคนไทยจากภัย PM2.5 ได้เพราะคิดใหญ่ ทำเป็น
‘ธนาธร’ ลุย ‘ยโสธร’ ช่วย ส.ส.หาเสียง ลั่น เพิ่มสวัสดิการ สร้างความเท่าเทียมในสังคม
https://www.matichon.co.th/election66/news_3894956
‘ธนาธร’ ลุย ‘ยโสธร’ ช่วย ส.ส.ก้าวไกลหาเสียง ลั่น ลดงบกองทัพ มาเพิ่มสวัสดิการ สร้างความเท่าเทียมในสังคม ขอให้เชื่อมั่นพรรคเข้มแข็งมากขึ้นกว่าปี 62 แล้ว
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม เวลา 17.45 น. ที่ลานตรงข้ามปั๊ม ปตท.สวนพญาแถน ถนนแจ้งสนิท เขตเทศบาลเมืองยโสธร นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมทั้งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้ง 3 เขตประกอบด้วย เขต 1 นาย
สมชัย คำเพราะ เขต 2 นาย
พิริยพงศ์ พุ่มพ่วง และเขต 3 นาย
ณัฐพล ศรีอุบล โดยมีประชาชนนำดอกไม้ ผ้าขาวม้า มามอบให้กับนายธนาธร ด้วยความอบอุ่น
นาย
ธนาธรกล่าวว่า ตนเดินทางไปทั่วประเทศพี่น้องทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เดี๋ยวนี้กระเป๋าหนักมาก เพราะไม่มีแบงก์มีแต่เหรียญ พี่น้องคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่ทำไมชีวิตถึงเหลื่อมล้ำกันขนาดนี้ มีหลายคนบอกว่าคนอีสานขี้เกียจ ตนตอบกลับไปว่าลองจับมือชาวไร่ชาวนาดู ว่ามือของพวกเขาหยาบกระด้างขนาดนี้ไม่ใช่มือของคนขี้เกียจแน่ แต่ทำไมคนทำงานหนักขนาดนี้ถึงไม่มีชีวิตที่ดีเลย นั่นเป็นเพราะโครงสร้างที่มีอยู่วันนี้มันเอารัดเอาเปรียบคนจนเกินไป
ดังนั้นการแก้ปัญหาที่แท้จริงต้องแก้ที่ต้นตอ พี่แม่พี่น้องพรรคก้าวไกลต้องการสร้างรัฐสวัดิการเพื่อรองรับคนที่ล้มแล้วให้ลุกขึ้นได้ การจะแก้ปัญหานี้ได้ต้องมีรัฐสวัสดิการเท่านั้น จะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ ในการหางบมาสร้างรัฐสวัสดิการ เช่น การปฏิรูปกองทัพ ลดงบกองทัพ เก็บภาษีคนรวยมาดูแลคนจน หากเพียงสามารถดึงงบเหล่านี้ออกมาจากมือของกองทัพ ระบบราชการ และนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้ การทำรัฐสวัสดิการก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ตนอยากชักชวนพ่อแม่พี่น้องมาร่วมเดินกับพวกเรา เลือกพรรคก้าวไกลเพื่อให้เข้าไปเปลี่ยนแปลงปัญหาสังคม ดังนั้นวันที่ 14 พฤษภาคมนี้อนาคตประเทศไทยอยู่ในมือท่าน ขอโอกาสพวกเราพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ขอโอกาสพวกเราไปสร้างสังคมไทยที่คนเสมอภาคเท่าเทียม ขอให้พวกเราเข้าไปสร้างอนาคตที่สดใสให้กับคนรุ่นต่อไป วันนี้พรรคก้าวไกล ปี 2566 เข้มแข็งมากกว่า มีประสบการณ์มากกว่าและพร้อมกว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ ปี 2562 เสียอีก
หลังจากนั้นนาย
ธนาธร ให้สัมภาษณ์ว่าตนในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล จะทำให้พรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศมากที่สุด เพราะตนไว้ใจว่าเมื่อพรรคก้าวไกลเข้าไปมีอำนาจแล้วจะนำประเทศไปสู่อนาคตที่สว่างไสว อย่างไรก็ตามพรรคก้าวไกลได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่าพรรคไม่ร่วมมือกับพรรคทหารจำแลงแน่ๆ เราจะไม่ร่วมมือกับบุคคลที่ทำความเสียหายให้กับประเทศชาติผ่านการทำรัฐประหารปี 2557
นอกจากนี้ตนหวังว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านในปัจจุบันจะจับตัวรวมกันให้แน่นที่จะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ และนำพาประเทศไทยไปสู่อำนาจประชาธิปไตยอีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 26 มีนาคม ที่เขตเทศบาลเมืองยโสธร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ขึ้นรถแห่รอบเทศบาลเมืองยโสธร พร้อมทั้งกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง แนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 1 นาย
สมชัย คำเพราะ เขต 2 นาย
พิริยพงศ์ พุ่มพ่วง และเขต 3 นาย
ณัฐพล ศรีอุบล
JJNY : หวั่นวิกฤต ‘ดอยช์แบงก์’│เพื่อไทยฉะรัฐบาลไม่แก้ฝุ่นพิษ│‘ธนาธร’ลุย‘ยโสธร’ ช่วยส.ส.หาเสียง│ยูเครนจี้ยูเอ็นประชุมด่วน
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3892128
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์ความวุ่นวายในตลาดการเงินโลกอันเนื่องมาจากวิกฤตธนาคารในหลายประเทศยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติโดยเร็ว หลังจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารดอยช์แบงก์ส่อว่าจะเป็นธนาคารใหญ่ในยุโรปล่าสุดที่จะประสบปัญหา ทำให้ต้องจับตาดูว่าหลังจากตลาดหุ้นเปิดทำการใหม่ในวันนี้ (27 มี.ค.) หุ้นของธนาคารจะเป็นไปในทิศทางใด
ทั้งนี้ หุ้นธนาคารในยุโรปหลายแห่งปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันศุกร์ (24 มี.ค.) หุ้นของธนาคารดอยช์แบงก์ปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยร่วงลงต่ำสุดกว่า 14% ก่อนที่จะไต่ขึ้นมาปิดตลาดที่ลบ 8.5% หลังต้นทุนในการประกันพันธบัตรของธนาคารดอยช์แบงก์พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ และหุ้นของธนาคารสูญเสียมูลค่าไปแล้วราว 1 ใน 5 นับตั้งแต่เข้าสู่เดือนมีนาคม
สจ๊วต โคล หัวหน้าเศรษฐศาสตร์มหภาค จากบริษัทอีควิตี แคปิตอล ให้ความเห็นว่า “ดอยช์แบงก์ถูกจับตามองมาสักระยะแล้วในลักษณะเดียวกับธนาคารเครดิตสวิส” โคลกล่าวอีกว่า ธนาคารดอยช์แบงก์เผชิญกับการปรับโครงสร้าง และเปลี่ยนแปลงผู้บริหารธนาคารหลายครั้ง เพื่อพยายามที่จะทำให้ธนาคารกลับมามีรากฐานที่มั่นคงอีกครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ ดูเหมือนว่าความพยายามดังกล่าวจะไม่ได้ผล
หุ้นของธนาคารยูบีเอสก็อยู่ในขาลงเช่นกันโดยปรับตัวลดลง 6% เจฟฟรีย์ ธนาคารด้านการลงทุน ปรับลดระดับคำแนะนำในการซื้อ-ขายหุ้นของธนาคารยูบีเอส จาก “ควรซื้อ” เป็น “ควรถือ” โดยให้เหตุผลว่าการที่ธนาคารยูบีเอสเข้าเทกโอเวอร์ธนาคารเครดิตสวิสได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของธนาคารไป จากเดิมที่เคยมีพื้นฐานอยู่บนความเสี่ยงต่ำ อัตราการเติบโตที่เป็นธรรมชาติ และมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูง
หุ้นของธนาคารอื่นๆ ในทวีปยุโรปหลายแห่งก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน อาทิ ธนาคารโซซิเอเต้ เจเนราล ของฝรั่งเศส ปิดตลาดปรับตัวลดลงกว่า 6% ขณะที่ธนาคารบาร์เคลย์ ร่วงลงราว 4% และสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ดิ่งลงกว่า 6% เช่นกัน คริส โบชอมป์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การตลาดของบริษัทไอจี กล่าวว่า “เรากำลังเฝ้าจับตาดูโดมิโนล้มลงอีกตัว และดอยช์แบงก์เป็นธนาคารที่หลายคนคาดว่าจะเป็นโดมิโนตัวต่อไปที่จะล้ม” โบชอมป์ยังให้ความเห็นอีกว่า ดูเหมือนว่าวิกฤตธนาคารจะยังไม่สิ้นสุดซะทีเดียว
เพื่อไทย ฉะรัฐบาล ไม่แก้ฝุ่นพิษ ปล่อยจนเกิดวิกฤตติดอันดับโลก ชง4ข้อ ทำด่วน!
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7580509
มหันตภัยฝุ่นพิษ PM 2.5 เชียงใหม่-เชียงราย ยังรุนแรงติดลำดับโลก เพื่อไทย เฉ่งรัฐบาลไร้ยุทธศาสตร์แก้ปัญหา แนะส่งรัฐมนตรีบินด่วนเจรจาเพื่อนบ้าน
วันที่ 27 มี.ค.2566 นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศและรองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่หลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ ที่มีวิกฤตเกินค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกหลายเท่า เรื่องนี้เกิดต่อเนื่องมานานแล้ว เป็นอัตรายต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ที่เศร้ายิ่งกว่านั้นคือ ประชาชนยังไม่เห็นการระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและมียุทธศาสตร์แก้ปัญหาระยะยาวเป็นระบบ เพราะปัญหาเกิดซ้ำซาก ปัญหาที่เชียงราย อยู่ที่ชายแดน มีทั้งเกิดจากการเผาในพื้นที่และฝุ่นที่ถูกลมพัดมาจากเพื่อนบ้าน และอย่างหลังมีจุดความร้อนมากน่าตกใจ
ตนเสนอให้รัฐบาลเร่ง
1. ลงพื้นที่ไปรับทราบความทุกข์ของประชาชน อาจจัดประชุม ครม.สัญจร เพื่อทราบความรุนแรงของปัญหาและระดมสรรพกำลังในพื้นที่เพื่อจัดการแหล่งเกิดฝุ่น เช่น การเผาป่าเผาไร่ การจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือเก็บเกี่ยวที่เกษตรกรเข้าถึงได้แทนการเผา
2. ส่งรัฐมนตรีที่มีหน้าที่บินไปเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านด่วน เพื่อร่วมมือจัดการปัญหาในดินแดนของตน
3. จัดประชุมด่วนและหยิบยกเรื่องนี้ในเวทีอาเซียนเพื่อหาแนวทางและแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ปัญหา PM 2.5 ทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว เพราะถ้าไม่ร่วมมือระหว่างประเทศจะไม่สำเร็จ
4. หารือกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่จ้างเกษตกรปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพดในรูปเกษตรพันธสัญญา (contract farming) เพื่อป้องกันการเผาไร่ และหาเทคโนโลยีการหมุนเวียนใช้ของเหลือหลังเก็บเกี่ยว ไม่ว่าจะไปใช้ทำปุ๋ยหรือพลังงาน
นายนพดล กล่าวต่อว่า ปัญหา PM 2.5 ปีนี้รุนแรงที่สุด เป็นปัญหาระดับชาติและระดับอาเซียนไปแล้ว ใครเป็นรัฐบาล ต้องทำให้คนไทยมีอากาศสะอาดหายใจ ซึ่งผู้นำและรัฐบาลต้องเอาจริง มุ่งมั่น ต่อเนื่องจึงจะแก้ได้ เพราะข้อมูล องค์ความรู้มีอยู่แล้ว
ตนดีใจที่พรรคเพื่อไทยตระหนักในปัญหา PM 2.5 และประกาศเป็นนโยบายสำคัญที่จะแก้ไขทั้งในพื้นที่เมืองและต่างจังหวัด ซึ่งโดนใจประชาชน และเชื่อมั่นว่าถ้ามีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้เพื่อให้ประชาชนมีอากาศสะอาดหายใจและปกป้องคนไทยจากภัย PM2.5 ได้เพราะคิดใหญ่ ทำเป็น
‘ธนาธร’ ลุย ‘ยโสธร’ ช่วย ส.ส.หาเสียง ลั่น เพิ่มสวัสดิการ สร้างความเท่าเทียมในสังคม
https://www.matichon.co.th/election66/news_3894956
‘ธนาธร’ ลุย ‘ยโสธร’ ช่วย ส.ส.ก้าวไกลหาเสียง ลั่น ลดงบกองทัพ มาเพิ่มสวัสดิการ สร้างความเท่าเทียมในสังคม ขอให้เชื่อมั่นพรรคเข้มแข็งมากขึ้นกว่าปี 62 แล้ว
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม เวลา 17.45 น. ที่ลานตรงข้ามปั๊ม ปตท.สวนพญาแถน ถนนแจ้งสนิท เขตเทศบาลเมืองยโสธร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมทั้งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้ง 3 เขตประกอบด้วย เขต 1 นายสมชัย คำเพราะ เขต 2 นายพิริยพงศ์ พุ่มพ่วง และเขต 3 นายณัฐพล ศรีอุบล โดยมีประชาชนนำดอกไม้ ผ้าขาวม้า มามอบให้กับนายธนาธร ด้วยความอบอุ่น
นายธนาธรกล่าวว่า ตนเดินทางไปทั่วประเทศพี่น้องทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เดี๋ยวนี้กระเป๋าหนักมาก เพราะไม่มีแบงก์มีแต่เหรียญ พี่น้องคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่ทำไมชีวิตถึงเหลื่อมล้ำกันขนาดนี้ มีหลายคนบอกว่าคนอีสานขี้เกียจ ตนตอบกลับไปว่าลองจับมือชาวไร่ชาวนาดู ว่ามือของพวกเขาหยาบกระด้างขนาดนี้ไม่ใช่มือของคนขี้เกียจแน่ แต่ทำไมคนทำงานหนักขนาดนี้ถึงไม่มีชีวิตที่ดีเลย นั่นเป็นเพราะโครงสร้างที่มีอยู่วันนี้มันเอารัดเอาเปรียบคนจนเกินไป
ดังนั้นการแก้ปัญหาที่แท้จริงต้องแก้ที่ต้นตอ พี่แม่พี่น้องพรรคก้าวไกลต้องการสร้างรัฐสวัดิการเพื่อรองรับคนที่ล้มแล้วให้ลุกขึ้นได้ การจะแก้ปัญหานี้ได้ต้องมีรัฐสวัสดิการเท่านั้น จะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ ในการหางบมาสร้างรัฐสวัสดิการ เช่น การปฏิรูปกองทัพ ลดงบกองทัพ เก็บภาษีคนรวยมาดูแลคนจน หากเพียงสามารถดึงงบเหล่านี้ออกมาจากมือของกองทัพ ระบบราชการ และนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้ การทำรัฐสวัสดิการก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ตนอยากชักชวนพ่อแม่พี่น้องมาร่วมเดินกับพวกเรา เลือกพรรคก้าวไกลเพื่อให้เข้าไปเปลี่ยนแปลงปัญหาสังคม ดังนั้นวันที่ 14 พฤษภาคมนี้อนาคตประเทศไทยอยู่ในมือท่าน ขอโอกาสพวกเราพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ขอโอกาสพวกเราไปสร้างสังคมไทยที่คนเสมอภาคเท่าเทียม ขอให้พวกเราเข้าไปสร้างอนาคตที่สดใสให้กับคนรุ่นต่อไป วันนี้พรรคก้าวไกล ปี 2566 เข้มแข็งมากกว่า มีประสบการณ์มากกว่าและพร้อมกว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ ปี 2562 เสียอีก
หลังจากนั้นนายธนาธร ให้สัมภาษณ์ว่าตนในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล จะทำให้พรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศมากที่สุด เพราะตนไว้ใจว่าเมื่อพรรคก้าวไกลเข้าไปมีอำนาจแล้วจะนำประเทศไปสู่อนาคตที่สว่างไสว อย่างไรก็ตามพรรคก้าวไกลได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่าพรรคไม่ร่วมมือกับพรรคทหารจำแลงแน่ๆ เราจะไม่ร่วมมือกับบุคคลที่ทำความเสียหายให้กับประเทศชาติผ่านการทำรัฐประหารปี 2557
นอกจากนี้ตนหวังว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านในปัจจุบันจะจับตัวรวมกันให้แน่นที่จะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ และนำพาประเทศไทยไปสู่อำนาจประชาธิปไตยอีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 26 มีนาคม ที่เขตเทศบาลเมืองยโสธร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ขึ้นรถแห่รอบเทศบาลเมืองยโสธร พร้อมทั้งกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง แนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 1 นายสมชัย คำเพราะ เขต 2 นายพิริยพงศ์ พุ่มพ่วง และเขต 3 นายณัฐพล ศรีอุบล