JJNY : เอกชนอัดรัฐขึ้นค่าไฟ│“สกลนคร”เขต5 สู้เดือด พ.ท.ลุ้นยกจังหวัด│‘ธนาธร’ปลุกคนปากน้ำ│ยูเครนเตรียมโจมตีรุกกลับรัสเซีย

เอกชนอัดรัฐขึ้นค่าไฟครัวเรือนสวนทางต้นทุนลดลง แนะให้เยียวยาลดค่าใช้จ่าย ปชช.
https://www.matichon.co.th/local/news_3890326
 
 
เอกชนอัดรัฐขึ้นค่าไฟครัวเรือนสวนทางต้นทุนลดลง แนะให้เยียวยาลดค่าใช้จ่าย ปชช.
 
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เคาะค่าไฟงวด พฤษภาคม-สิงหาคม 2566 อัตรา 4.77 บาทต่อหน่วย เป็นอัตราเดียวทั้งครัวเรือนและเอกชน นั้น ภาคเอกชนมองว่ามติของ กกพ. ที่ออกมา พิจารณาความเหมาะสม เพื่อที่จะสะท้อนต้นทุนต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด สำหรับการลดราคาค่าไฟของภาคเอกชนจาก 5.33 บาทต่อหน่วย เป็น 4.77 บาทต่อหน่วย มองว่าใกล้เคียงกับ การสำรวจความคิดเห็นของภาคเอกชนว่าต้องการ อยากเห็นราคาพลังงานที่ไม่เพิ่มไปมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้ต้นทุนภาคการผลิตเพิ่มสูงขึ้น จนนำไปสู่การปรับราคาสินค้าซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อและเป็นการผลักภาระให้กับภาคประชาชนในท้ายที่สุด

นายสนั่นกล่าวต่อว่า ส่วนค่าไฟภาคประชาชนปรับขึ้นจาก 4.72 บาทต่อหน่วย เป็น 4.77 บาทต่อหน่วย ในระยะต่อไปรัฐบาลจะต้องมีมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับภาคประชาชน เชื่อว่าจากแนวโน้มค่าก๊าซธรรมชาติน่าจะปรับลดลง รัฐบาลควรทบทวนและปรับมาตรการโดยการลดค่าไฟฟ้า เพื่อให้สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ เห็นว่าภาครัฐควรพิจารณาให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการหารือและร่วมกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และเป็นแนวทางที่ทุกภาคส่วนเห็นพ้องในทิศทางเดียวกันต่อไป

ขณะที่นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังเพราะไม่ได้ช่วยครัวเรือนเลย ทำไมครัวเรือนต้องจ่ายแพงขึ้นแค่ 5 สตางค์ ทั้งๆ ที่รอบจากนี้ไปเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ทิศทางพลังงานของโลกก็ลง ทำไมภาครัฐไม่ปรับสมมุติฐานราคาให้เป็นบวกกับผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งงวดนี้ราคาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ลงเพราะปัจจัยภายนอก อาทิ ค่าเงินและราคาพลังงานทั่วโลกเป็นหลัก ไม่ได้มีกลไกแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างและหาทางเลือกอื่นเลย นอกจากก๊าซในอ่าวไทยที่เพิ่มขึ้น

การคิดค่าเอฟทีในช่วงพลังงานและเศรษฐกิจโลกผันผวน รัฐควรเปลี่ยนจาก 3 งวดต่อปี งวดละ 4 เดือน เป็น 6 งวดต่อปี หรือทุก 2 เดือนจะดีกว่าไหม เพื่อให้การคำนวณต้นทุนค่าไฟฟ้ารวดเร็ว แม่นยำมากขึ้น” นายอิศเรศกล่าว
 


เจาะลึกเลือกตั้ง “สกลนคร” เขต 5 สู้เดือด เพื่อไทยลุ้นยกจังหวัดอีกครั้ง
https://www.matichon.co.th/clips/news_3890241

The Politics เลือกตั้ง 66 เจาะสนามเลือกตั้ง จ.สกลนคร ซึ่งปี 62 เพื่อไทยชนะยกจังหวัด ขณะที่ในปี 66 นี้ มีการแบ่งเขตเพิ่ม และเพื่อไทยเปลี่ยนตัวผู้สมัครบางเขต แต่ยังถูกมองว่ามีโอกาสสูงที่จะชนะยกจังหวัด ชมคลิปด้านล่าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


‘ธนาธร’ ปลุกคนปากน้ำ หลุดพ้นการเมืองเก่า อย่ายอมถูกเก็บบัตร ปชช. ก่อนเข้าคูหา
https://www.matichon.co.th/election66/news_3890319

‘ธนาธร’ ปลุกชาวปากน้ำหลุดพ้นการเมืองเดิมๆ อย่ายอมให้ถูกเก็บบัตร ปชช.ก่อนเข้าคูหา
 
เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรค ก.ก. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมหาเสียงกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ
 พรรค ก.ก. ตลอดทั้งวัน

นายธนาธรขึ้นเวทีปราศรัยในพื้นที่ อ.สำโรง เพื่อช่วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ช่วงหนึ่งกล่าวว่า ประเทศไทยไม่สามารถสร้างอนาคตจากการแจกเงินอย่างเดียว แต่ต้องสร้างอุตสาหกรรมใหม่มาสร้างงานให้ประชาชน รองรับคนจบการศึกษาใหม่ปีละ 7-8 แสนตำแหน่ง ทุกวันนี้อุตสาหกรรมหลักของประเทศ ทั้งยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ล้วนแต่ไม่ได้เป็นอุตสาหกรรมของคนไทย และไม่สามารถพาประเทศไปไกลกว่านี้แล้ว ประเทศไทยสามารถสร้างอุตสาหกรรมใหม่ขึ้นมา มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองได้มากมายจากปัญหาที่ดำรงอยู่ เช่น รถเมล์ไฟฟ้า เพื่อแก้ทั้งปัญหามลพิษ การจราจร และการเข้าไม่ถึงระบบขนส่งสาธารณะของคนไทย ไปได้พร้อมๆ กัน เป็นต้น
 
นายธนาธรกล่าวต่อว่า ทั้งหมดจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าการเมืองยังเป็นแบบนี้อยู่ จะสร้างสังคมและประเทศไทยที่มีอนาคต จะต้องมีการปฏิรูปในเรื่องยากๆ ในเรื่องที่จะต้องเจอตอ เช่น การปฏิรูปกองทัพ การต่อสู้กับทุนผูกขาด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ และวันนี้พรรคที่ตนเห็นว่ามีเจตจำนงปฏิรูปในเรื่องยากๆ กล้าชนปัญหาที่ต้นตอแบบนี้ ก็มีอยู่เพียงพรรคเดียวเท่านั้นคือพรรคก้าวไกล

นายธนาธรกล่าวว่า หลายคนบอกว่าพรรคอนาคตใหม่มาจนเป็นพรรคก้าวไกลในวันนี้เป็นพรรคที่สุดโต่ง แต่ความจริงแล้วทุกข้อเสนอของพรรคก้าวไกลคือข้อเสนอขั้นต่ำของทุกประเทศที่เจริญแล้วบนโลก คำถามคือสรุปแล้วพรรคก้าวไกลสุดโต่งหรือประเทศของเราล้าหลังเกินไปกันแน่ และการที่คนจำนวนหนึ่งไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเป็นเพราะระบบแบบนี้กำลังเอื้อประโยชน์ให้คุณอยู่ใช่หรือไม่ ไม่ต้องไปมองที่ไหนไกล สมุทรปราการเป็นเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทย แต่คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นบ้างหรือไม่ภายใต้ระบบที่เป็นมา น้ำในคลอง ขยะหน้าบ้าน ฟุตบาทริมทาง ถนนหนทาง ดีขึ้นบ้างหรือไม่ จากการเมืองแบบเดิม
 
นายธนาธรกล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก หนึ่งเสียงของทุกคนกำหนดอนาคตของประเทศไทยได้ ขออย่าชินชากับการเมืองแบบเดิมๆ ที่ไล่เก็บบัตรประชาชนก่อนวันเลือกตั้ง ความยากจน ความไม่ยุติธรรม การเอารัดเอาเปรียบ จนยอมรับและรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ทั้งที่ความจริงแล้วอำนาจอยู่ในมือของทุกคนที่จะทำให้ชีวิตของเราดีกว่านี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องยอมจำนน
  
ภารกิจของคนรุ่นเราคือการส่งต่อสังคมที่ดีกว่านี้ให้คนรุ่นต่อไปลำบากน้อยกว่าเรา อำนาจคือบัตรเลือกตั้งของทุกคน พรรคก้าวไกลเพียงลำพังไม่พอจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องอาศัยแรงจากทุกคนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง อย่าให้ความอยุติธรรมเป็นส่วนหนึ่งจนชาชิน เพราะเราสร้างสังคมและประเทศที่ดีกว่านี้ให้ลูกหลานของเราได้” นายธนาธรกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่