ยุบสภา! ‘บิ๊กตู่’ ให้ปชช.ตัดสิน -14พ.ค.กาบัตร ‘เศรษฐา’ ชี้จุดเริ่มต้นเปลี่ยนปท.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3884088
ยุบสภา! ‘บิ๊กตู่’ ให้ ปชช.ตัดสิน 14 พ.ค.กาบัตร – ‘เศรษฐา’ ชี้จุดเริ่มต้นเปลี่ยน ปท.
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ด้วยนายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลฯ ว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ พ.ศ.2562 และบัดนี้ได้ปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีที่สี่ อันเป็นปีสุดท้ายของอายุสภาผู้แทนราษฎรแล้ว สมควรยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อันเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนโดยเร็วเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 103 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป
มาตรา 4 ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
มาตรา 5 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
นาย
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการหารือกับนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ว่า กกต.จะออกประกาศภายใน 5 วัน นับแต่วันที่มีประกาศยุบสภา ในประกาศนั้นจะบอกว่า
1.วันเลือกตั้งเป็นวันไหน
2.วันรับสมัครวันไหน
3.สถานที่รับสมัครที่ใด ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.เขต หรือบัญชีรายชื่อก็ตาม โดยไม่ต้องมีการออกเป็นพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) อื่นใดอีกที่กฎหมายบอกว่าให้มีการออก พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ให้ กกต.ถือว่า พ.ร.ฎ.ยุบสภาคือ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งในตัวเอง เพราะใน พ.ร.ฎ.จะบอกว่า
1.ให้มีการยุบสภา
2.ให้มีการเลือกตั้ง นั่นแปลว่านี่คือ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งเข้าใจว่าไม่เกินวันศุกร์ที่ 24 มีนาคมนี้ก็จะออกประกาศนั้นได้ โดย กกต.เป็นคนกำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัคร และสถานที่
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งนั้น ได้ประชุมกับพรรคการเมืองทั้งหมดแล้ว ตกลงกันว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ ค่าใช้จ่ายรวมกันทั้งหมด 100 รายชื่อ จะต้องไม่เกิน 44 ล้านบาท ส่วน ส.ส.เขตแต่ละคนต้องไม่เกินคนละ 1.9 ล้านบาท หากยุบวันที่ 20 มีนาคม คงเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม หากยุบสภาวันที่ 21 มีนาคม จะยังคงเป็นวันที่ 14 พฤษภาคม เพราะจะถอยหลังเกินวันที่ 14 พฤษภาคม ไม่ได้แล้ว
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวภายหลังที่มีการประกาศยุบสภา โดยระบุว่า วันนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทยที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในอีกไม่เกิน 60 วันข้างหน้านี้ ที่คนไทยทุกคนจะได้คัดเลือกผู้แทนประชาชนชุดใหม่ทดแทนชุดที่กำลังหมดวาระ ถือเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนมีสิทธิและบทบาทเท่าเทียมกันต่อการกำหนดทิศทาง 4 ปีถัดจากนี้ของประเทศไทย
‘อานนท์’ ฟาดติ่งบิ๊กตู่ ‘ก้มหน้าก้มตา เลียท็อปบูต’วิจารณ์ไม่ได้ คาดปมซีเซียม137
https://www.matichon.co.th/social/news_3884019
เดือด ‘ดร.อานนท์’ ฟาดติ่งบิ๊กตู่’ ก้มหน้าก้มตาเลียท็อปบูต’ วิจารณ์ไม่ได้ คาด ปมซีเซียม137
จากกรณีการประกาศตามหาท่อขนาดใหญ่ที่มี ซีเซียม-137 สารกัมมันตรังสีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหากไม่ได้อยู่ในท่อ หรือถูกแกะออก ซึ่งหายไปจากโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ต่อมา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566) ได้มีการตรวจพบ วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียมแล้ว ในโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปราจีนบุรี
และนาย
เพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ออกมาเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารซีเซียม-137 ในเขม่าหรือฝุ่นแดง ซึ่งบรรจุอยู่ในบิ๊กแบ็ก เตรียมจะขนส่งไปขายต่อ แต่ยังไม่ได้ขนส่งออกไป เบื้องต้นตรวจทั้งรถบรรทุกที่ขนส่งของโรงงานไม่พบสารกัมมันตรังสี รวมถึงรอบๆ โรงงานในรัศมี 5 กิโลเมตร ยังไม่พบสารกัมมันตรังสีแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประเด็นดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ผศ.ดร.
อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ นักวิชาการ คณะสถิตประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ผ่านมา เฟซบุ๊ก
Arnond Sakworawich ในหลายประเป็น โดยวิพากษ์วิจารณ์ การแก้ปัญหาดังกล่าว อาทิเช่น
‘นายกรัฐมนตรีควร take action ทันทีครับ กระทบกระเทือนถึงชีวิตคนไทยตายผ่อนส่งด้วยมะเร็งนับล้านคน’
“ข่าวเรื่องยุบสภาเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ไม่ถึงตาย แต่ข่าวซีเซียม 137 เข้าโรงหลอม ส่งผลทำให้คนไทยตายผ่อนส่งด้วยโรคมะเร็งนับล้านคน นายกรัฐมนตรีรักษาการต้อง take action เรื่องนี้ทันที นักข่าวควรให้ความสนใจข่าวนี้มากกว่าข่าวขี้ปะติ๋วอย่างการยุบสภา”
ซึ่งหลายสเตตัสนั้นมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นตอบโต้กันอย่างดุเดือด และล่าสุด มีอีกหนึ่งสเตตัส ที่เรียกได้ร้อนระอุ เดือดปุด ปุด ก็คือ
“เบื่อติ่งตู่ประเภทไม่ลืมหูลืมตา ก้มหน้าก้มตาเลียท็อปบู้ตไม่หยุดเสียที ตู่ดีไปทุกอย่าง วิจารณ์ไม่ได้เลย”
ทำให้เอฟซี บิ๊กตู่ พาทัวร์มาลง ดร.
อานนท์ กันเป็นจำนวนมาก
ต่อมาทางดร.
อานนท์ได้เข้าไป ตอบโต้ในบางความเห็นอย่างดุเดือดเช่นกัน อาทิเช่น
(รูปอยู่ในข่าวครับ)
https://www.facebook.com/Arnond.s
ธุรกิจขานรับคืนอำนาจ ปลุกความเชื่อมั่น เรียกร้องเร่งฟอร์รบ.
https://www.matichon.co.th/economy/news_3884089
ธุรกิจขานรับคืนอำนาจ ปลุกความเชื่อมั่น เรียกร้องเร่งฟอร์รบ. หุ้นดีดรับข่าว’กดปุ่ม’
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นาย
สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยุบสภาในวันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากเป็นการสร้างความชัดเจนให้กับทุกพรรคการเมืองได้เดินหน้าหาเสียงกันอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ประชาชน ภาคเอกชน รวมถึงนักลงทุนต่างประเทศ เกิดความเชื่อมั่นและมีความชัดเจนในการเดินหน้าทางเศรษฐกิจของไทยนับจากนี้
“
หอการค้าไทยอยากเห็นการฟอร์มทีมรัฐบาล หลังการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และราบรื่น เพราะจะเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมไปถึงนโยบายและมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ของพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องเร่งนำมาใช้ทันที และจะช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ด้วย” นาย
สนั่นกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ เปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,563.67 จุด จากนั้นติดลบลงไปต่ำกว่าสุดกว่า 20 จุด ก่อนค่อยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,555.45 จุด ปรับลดลง 8.22 จุด หรือ 0.53% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,569.76 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,543.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 62,838.25 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีปรับลดลงแรงกว่า 20 จุด ก่อนจะถูกดึงคืนในช่วงท้ายตลาด โดยสาเหตุยังเป็นปัจจัยเดิมๆ ที่ยังสร้างความกังวลต่อเนื่อง คือ ความกังวลธนาคารสหรัฐล้มและลามไปยังธนาคารเครดิตสวิสในยุโรป จึงเห็นบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกค่อนข้างไม่สดใสนัก
“
ประเมินแรงกระทบกับแบงก์ไทยอาจไม่ได้มากนัก แต่ป็นบรรยากาศการลงทุนที่ถูกกระทบแทน ส่วนสาเหตุที่ดัชนีถูกดึงคืนในช่วงก่อนปิดตลาดนั้น เป็นเพราะมีการประกาศราชกิจจานุเบกษาในยุบสภาแบบชัดเจนแล้ว ทำให้ตลาดมีภาพการฟื้นตัวจากภาวะตื่นตระหนก (แพนิก) จากกรณีธนาคารเครดิตสวิสได้ แต่ยังไม่ได้มีผลสนับสนุนให้ดัชนีวิ่งขึ้นได้ดีมากนัก” นาย
วิจิตรกล่าว
JJNY : ยุบสภา! ‘เศรษฐา’ชี้จุดเริ่มต้นเปลี่ยนปท.│‘อานนท์’ ฟาดติ่งตู่│ธุรกิจขานรับคืนอำนาจ│"สี จิ้นผิง" เยือนรัสเซีย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3884088
ยุบสภา! ‘บิ๊กตู่’ ให้ ปชช.ตัดสิน 14 พ.ค.กาบัตร – ‘เศรษฐา’ ชี้จุดเริ่มต้นเปลี่ยน ปท.
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ด้วยนายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลฯ ว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ พ.ศ.2562 และบัดนี้ได้ปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีที่สี่ อันเป็นปีสุดท้ายของอายุสภาผู้แทนราษฎรแล้ว สมควรยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อันเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนโดยเร็วเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 103 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป
มาตรา 4 ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
มาตรา 5 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการหารือกับนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ว่า กกต.จะออกประกาศภายใน 5 วัน นับแต่วันที่มีประกาศยุบสภา ในประกาศนั้นจะบอกว่า
1.วันเลือกตั้งเป็นวันไหน
2.วันรับสมัครวันไหน
3.สถานที่รับสมัครที่ใด ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.เขต หรือบัญชีรายชื่อก็ตาม โดยไม่ต้องมีการออกเป็นพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) อื่นใดอีกที่กฎหมายบอกว่าให้มีการออก พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ให้ กกต.ถือว่า พ.ร.ฎ.ยุบสภาคือ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งในตัวเอง เพราะใน พ.ร.ฎ.จะบอกว่า
1.ให้มีการยุบสภา
2.ให้มีการเลือกตั้ง นั่นแปลว่านี่คือ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งเข้าใจว่าไม่เกินวันศุกร์ที่ 24 มีนาคมนี้ก็จะออกประกาศนั้นได้ โดย กกต.เป็นคนกำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัคร และสถานที่
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งนั้น ได้ประชุมกับพรรคการเมืองทั้งหมดแล้ว ตกลงกันว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ ค่าใช้จ่ายรวมกันทั้งหมด 100 รายชื่อ จะต้องไม่เกิน 44 ล้านบาท ส่วน ส.ส.เขตแต่ละคนต้องไม่เกินคนละ 1.9 ล้านบาท หากยุบวันที่ 20 มีนาคม คงเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม หากยุบสภาวันที่ 21 มีนาคม จะยังคงเป็นวันที่ 14 พฤษภาคม เพราะจะถอยหลังเกินวันที่ 14 พฤษภาคม ไม่ได้แล้ว
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวภายหลังที่มีการประกาศยุบสภา โดยระบุว่า วันนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทยที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในอีกไม่เกิน 60 วันข้างหน้านี้ ที่คนไทยทุกคนจะได้คัดเลือกผู้แทนประชาชนชุดใหม่ทดแทนชุดที่กำลังหมดวาระ ถือเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนมีสิทธิและบทบาทเท่าเทียมกันต่อการกำหนดทิศทาง 4 ปีถัดจากนี้ของประเทศไทย
‘อานนท์’ ฟาดติ่งบิ๊กตู่ ‘ก้มหน้าก้มตา เลียท็อปบูต’วิจารณ์ไม่ได้ คาดปมซีเซียม137
https://www.matichon.co.th/social/news_3884019
เดือด ‘ดร.อานนท์’ ฟาดติ่งบิ๊กตู่’ ก้มหน้าก้มตาเลียท็อปบูต’ วิจารณ์ไม่ได้ คาด ปมซีเซียม137
จากกรณีการประกาศตามหาท่อขนาดใหญ่ที่มี ซีเซียม-137 สารกัมมันตรังสีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหากไม่ได้อยู่ในท่อ หรือถูกแกะออก ซึ่งหายไปจากโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ต่อมา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566) ได้มีการตรวจพบ วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียมแล้ว ในโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปราจีนบุรี
และนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ออกมาเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารซีเซียม-137 ในเขม่าหรือฝุ่นแดง ซึ่งบรรจุอยู่ในบิ๊กแบ็ก เตรียมจะขนส่งไปขายต่อ แต่ยังไม่ได้ขนส่งออกไป เบื้องต้นตรวจทั้งรถบรรทุกที่ขนส่งของโรงงานไม่พบสารกัมมันตรังสี รวมถึงรอบๆ โรงงานในรัศมี 5 กิโลเมตร ยังไม่พบสารกัมมันตรังสีแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประเด็นดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ นักวิชาการ คณะสถิตประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ผ่านมา เฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ในหลายประเป็น โดยวิพากษ์วิจารณ์ การแก้ปัญหาดังกล่าว อาทิเช่น
‘นายกรัฐมนตรีควร take action ทันทีครับ กระทบกระเทือนถึงชีวิตคนไทยตายผ่อนส่งด้วยมะเร็งนับล้านคน’
“ข่าวเรื่องยุบสภาเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ไม่ถึงตาย แต่ข่าวซีเซียม 137 เข้าโรงหลอม ส่งผลทำให้คนไทยตายผ่อนส่งด้วยโรคมะเร็งนับล้านคน นายกรัฐมนตรีรักษาการต้อง take action เรื่องนี้ทันที นักข่าวควรให้ความสนใจข่าวนี้มากกว่าข่าวขี้ปะติ๋วอย่างการยุบสภา”
ซึ่งหลายสเตตัสนั้นมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นตอบโต้กันอย่างดุเดือด และล่าสุด มีอีกหนึ่งสเตตัส ที่เรียกได้ร้อนระอุ เดือดปุด ปุด ก็คือ
“เบื่อติ่งตู่ประเภทไม่ลืมหูลืมตา ก้มหน้าก้มตาเลียท็อปบู้ตไม่หยุดเสียที ตู่ดีไปทุกอย่าง วิจารณ์ไม่ได้เลย”
ทำให้เอฟซี บิ๊กตู่ พาทัวร์มาลง ดร.อานนท์ กันเป็นจำนวนมาก
ต่อมาทางดร.อานนท์ได้เข้าไป ตอบโต้ในบางความเห็นอย่างดุเดือดเช่นกัน อาทิเช่น
(รูปอยู่ในข่าวครับ)
https://www.facebook.com/Arnond.s
ธุรกิจขานรับคืนอำนาจ ปลุกความเชื่อมั่น เรียกร้องเร่งฟอร์รบ.
https://www.matichon.co.th/economy/news_3884089
ธุรกิจขานรับคืนอำนาจ ปลุกความเชื่อมั่น เรียกร้องเร่งฟอร์รบ. หุ้นดีดรับข่าว’กดปุ่ม’
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยุบสภาในวันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากเป็นการสร้างความชัดเจนให้กับทุกพรรคการเมืองได้เดินหน้าหาเสียงกันอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ประชาชน ภาคเอกชน รวมถึงนักลงทุนต่างประเทศ เกิดความเชื่อมั่นและมีความชัดเจนในการเดินหน้าทางเศรษฐกิจของไทยนับจากนี้
“หอการค้าไทยอยากเห็นการฟอร์มทีมรัฐบาล หลังการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และราบรื่น เพราะจะเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมไปถึงนโยบายและมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ของพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องเร่งนำมาใช้ทันที และจะช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ด้วย” นายสนั่นกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ เปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,563.67 จุด จากนั้นติดลบลงไปต่ำกว่าสุดกว่า 20 จุด ก่อนค่อยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,555.45 จุด ปรับลดลง 8.22 จุด หรือ 0.53% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,569.76 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,543.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 62,838.25 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีปรับลดลงแรงกว่า 20 จุด ก่อนจะถูกดึงคืนในช่วงท้ายตลาด โดยสาเหตุยังเป็นปัจจัยเดิมๆ ที่ยังสร้างความกังวลต่อเนื่อง คือ ความกังวลธนาคารสหรัฐล้มและลามไปยังธนาคารเครดิตสวิสในยุโรป จึงเห็นบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกค่อนข้างไม่สดใสนัก
“ประเมินแรงกระทบกับแบงก์ไทยอาจไม่ได้มากนัก แต่ป็นบรรยากาศการลงทุนที่ถูกกระทบแทน ส่วนสาเหตุที่ดัชนีถูกดึงคืนในช่วงก่อนปิดตลาดนั้น เป็นเพราะมีการประกาศราชกิจจานุเบกษาในยุบสภาแบบชัดเจนแล้ว ทำให้ตลาดมีภาพการฟื้นตัวจากภาวะตื่นตระหนก (แพนิก) จากกรณีธนาคารเครดิตสวิสได้ แต่ยังไม่ได้มีผลสนับสนุนให้ดัชนีวิ่งขึ้นได้ดีมากนัก” นายวิจิตรกล่าว