JJNY : พท.ปลื้มโพล ‘อิ๊ง’ทิ้งห่าง ‘ตู่’│“ก้าวไกล”พร้อมลงสนามเลือกตั้ง│สอท.จับตา‘เครดิตสวิส’│พ่อชาวยูเครนดั้นด้นไปรัสเซีย

พท.ปลื้มโพลชิงนายกฯ ‘อิ๊ง’ ทิ้งห่าง ‘บิ๊กตู่’ สะท้อนปชช.ต้องการความหวัง หลังทุกข์ 8 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3882662
 
 
‘เพื่อไทย’ ขอบคุณผลโพลหนุนทุกด้าน สะท้อน ปชช.ต้องการความหวังหลังจมทุกข์ 8 ปี พร้อมเดินหน้าเสนอนโยบาย พาประเทศออกจากวิกฤต
 
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า

จากกรณีที่นิด้าโพลเผยผลสำรวจประชาชน เรื่องศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1 เมื่อวานนี้ (19 มีนาคม) ซึ่งพบว่าประชาชนให้ความสนใจและสนับสนุนพรรค พท.ทั้งคนและพรรค โดยประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 38.20 สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรค พท. และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คะแนนเป็นอันดับ 1 ทิ้งห่างจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ได้อันดับที่ 3 นั้น
 
ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจให้พรรค พท. เป็นพรรคอันดับ 1 ที่ยังครองใจประชาชนอยู่ทุกด้าน และสะท้อนว่าพรรค พท.คือความหวังที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนหลุดพ้นออกจากความทุกข์ที่สะสมมานานนับ 8 ปี และมีความหวังกับผู้นำของพรรค

ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าผู้นำของพรรค พท.ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนถึง 3 คนได้แก่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. น.ส.แพทองธาร และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เป็นความหวังของพี่น้องประชาชน
 
ทั้งหมดถือเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานต่อไปด้วยการนำเสนอนโยบาย ผ่านการลงพื้นที่พบปะและรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน สู่เป้าหมายที่พรรคเพื่อไทย มาขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน นำเอาชัยชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อนำพารัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพ เป็นสถาบันการเมืองแห่งความหวังที่จะผลักดันนโยบายที่จะเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาส กลับคืนสู่อ้อมกอดของพี่น้องประชาชน เป็นชัยชนะของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน” นายอนุสรณ์ กล่าว



“ก้าวไกล” พร้อมลงสนามเลือกตั้ง หลังยุบสภาทันที กางตาราง “พิธา-ธนาธร” ตั้งเป้าเป็นรัฐบาล
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7568248

“ก้าวไกล” พร้อมลงสนามเลือกตั้ง หลังยุบสภาทันที กางตาราง “พิธา-ธนาธร” หาเสียงทั่วประเทศ ตั้งเป้าเป็นรัฐบาล เข้าไปบริหารประเทศ
 
วันที่ 20 มี.ค.2566 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงการยุบสภาและการลงพื้นที่ของแกนนำพรรค ว่า ปฎิเสธไม่ได้ว่าภายในช่วงเวลานี้ ประเด็นการเมืองที่ร้อนแรง เป็นเรื่องการยุบสภา เพื่อเปิดทางให้นักการเมืองที่ต้องการย้ายเข้าพรรคการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สามารถย้ายพรรคได้ทัน ดังนั้น เป็นไปได้อย่างมากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค.2566และกำหนดวันรับสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ในวันที่ 3-4 เม.ย.
 
สำหรับพรรคก้าวไกล มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเลือกตั้ง โดยจะจัดประชุมสมาชิกพรรคทั่วประเทศทีละจังหวัด เพื่อรับฟังความคิดเห็นในการส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 2 แบบ ให้แล้วเสร็จภายในประเทศในวันที่ 26 มี.ค.นี้ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งและคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อรับรองรายชื่อทั้งหมดตามกฎหมาย
 
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำและผู้ช่วยหาเสียง ใช้กลยุทธ์ดาวกระจายไปพบพี่น้องประชาชนหลายจังหวัด ทุกจังหวัด ประชาชนให้การต้อนรับพรรคก้าวไกลอย่างอบอุ่น โดยจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ทหาร นายพิธา ได้ย้ำนโยบาย ททท. ทลายทุนทหาร และในวันนี้ (20 มี.ค.) นายพิธา จะเดินทางต่อเนื่องไปพบปะพี่น้องประชาชนที่จังหวัดสงขลาและปัตตานี เพื่อนำเสนอนโยบายเศรษฐกิจภาคใต้ และนโยบายสันติภาพก้าวหน้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
 
หลังจากนั้น แกนนำพรรคและผู้ช่วยหาเสียงของพรรคจะกระจายไปพบปะพี่น้องประชาชนในหลายจังหวัดต่อเนื่อง ได้แก่
23 มี.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะไปพบประชาชนที่จังหวัดสมุทรปราการ
24 มี.ค. นายพิธา และนายธนาธร จะไปที่จังหวัดชลบุรี
25 มี.ค. นายธนาธร จะเดินทางไปที่จังหวัดอำนาจเจริญ
26 มี.ค. นายพิธา จะไปที่จังหวัดนนทบุรี นายธนาธรไปจังหวัดยโสธร

ทั้งนี้ หลังจากการยุบสภาเกิดขึ้น ภายในวันสงกรานต์ แกนนำพรรคและผู้ช่วยหาเสียงจะกระจายไปพบปะพี่น้องประชาชนให้ครบทุกจังหวัด โดยยิ่งใกล้ช่วงเลือกตั้งมากเท่าไหร่ กระแสตอบรับถึงแนวทางการทำงานและนโยบายก็ได้รับการตอบรับมากขึ้นเรื่อยๆ
 
เรามั่นใจว่าในการเลือกตั้ง 66 พรคก้าวไกลจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งมากยิ่งกว่าพรรคอนาคตใหม่ในปี 2562 ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเราได้พิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนเห็นแล้วว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลในวันนี้ เราเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานในสภาได้ดีที่สุด คุ้มค่าภาษีของพี่น้องประชาชนมากที่สุด ซื่อตรงต่อพี่น้องประชาชนเสมอ เราทำงานตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจใคร เกรงใจคนเดียวคือพี่น้องประชาชน” นายชัยธวัชกล่าว
 
นายชัยธวัช ย้ำว่า การเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่ได้ทำให้เปลี่ยนแปลงเพื่อพี่น้องประชาชน อย่างเต็มที่ตามที่ตั้งใจ ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องการเสียงสนับสนุน จากประชาชนเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล และผู้แทนราษฎรแบบก้าวไกล จะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวังอย่างแน่นอน
 
ทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้กับพรรคก้าวไกล คือทุกคะแนนเสียงที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ เปลี่ยนแปลงการเมืองไทยไปตลอด ผู้แทนราษฎรและรัฐบาลแบบก้าวไกลจะทำในสิ่งที่นักการเมืองในอดีตไม่เคยทำสำเร็จหรือไม่คิดจะทำ ดังนั้น เลือกตั้งรอบนี้ เรากลับสู่ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ขอให้พี่น้องไม่ต้องลังเลที่จะกาให้ก้าวไกลทั้ง 2 ใบ” นายชัยธวัชกล่าว



สอท.จับตา ‘เครดิตสวิส’ ห่วงฉุดภาคส่งออกไทย
https://www.matichon.co.th/economy/news_3882046

สอท.จับตา ‘เครดิตสวิส’ ห่วงฉุดภาคส่งออกไทย

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถานบัน หรือ  กกร. กล่าวเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ถึงกรณีธนาคารสหรัฐล้มละลาย ขณะที่ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) ประเทศฝรั่งเศส ประสบปัญหาสภาพคล่องราคาหุ้นร่วงหนัก ทำให้เกิดความความหวั่นวิตกเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคารทั่วโลก ว่าความกังวลต่อประเด็นดังกล่าว โดยภาพรวมของการเงินและธนาคารจากที่ตรวจสอบภาพรวมระบบการเงินและธนาคารไทยยังแข็งแกร่ง มีความระมัดระวังในการทำธุรกรรม จึงไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อไทย แต่มีผลด้านจิตวิทยาเนื่องจากยังมีธนาคารระดับเล็กและกลางในสหรัฐมีความเสี่ยงจะเกิดปัญหาอีก 10 กว่าแห่ง ต้องติดตามการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะประชุมกลางสัปดาห์นี้
 
ธนาคารในสหรัฐที่ถูกปิดเป็นธนาคารขนาดกลาง-เล็ก ยังมีผลกระทบน้อย แต่ธนาคารเครดิต สวิส เป็นธนาคารขนาดใหญ่ในยุโรป ต้องติดตามว่าปัญหาของธนาคารนี้จะเป็นตัวต้นตอให้เกิดโดมิโนในธนาคารแถบประเทศเดียวกันหรือไม่ ขณะที่ไทยยังห่างไกล และยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง” นายเกรียงไกรกล่าว

นายเกรียงไกรกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับภาคอุตสาหกรรม จากการประเมินภาคส่งออกไทยลดลงเหลือ 0% ถึงติดลบ 1% ดังนั้น ถ้าผลกระทบยืดเยื้อและส่งผลวงกว้างในหลายภาคส่วนอาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น กำลังซื้อตกลง ส่งผลให้การส่งออกไทยหดตัว แต่เชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวไทยคงไม่ได้รับผลกระทบ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 25-28 ล้านคนขึ้นไป ทำให้เศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อได้ แต่ต้องติดตามต่อเนื่องเพราะปัญหาเพิ่งเริ่มต้น ปัญหาเหล่านี้ต้องเป็นช่วงติดตามใกล้ชิดระยะ 1-2 เดือน แต่ถ้าเกิดการลุกลามจะต้องมีการเจรจาต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่