JJNY : ไข่ตู่ขึ้นราคา│‘เศรษฐา’ นำทีมปราศรัยระยอง│‘นิติพล’จี้ดูแลผู้ประสบภัย│วิษณุคาด พระราชกฤษฎีกายุบสภา ประกาศลงวันนี้

ไข่ลุงตู่ ขึ้นราคาอีกแล้ว ลูกค้าหายเกลี้ยง แม่ค้าเผย งงมาก ปิดเทอมปกติจะลด นี่กลับเพิ่ม
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3882187
 
 
ไข่ลุงตู่ ขึ้นราคา ลูกค้าหายเกลี้ยง แม่ค้าเผย งงมาก ปิดเทอมปกติจะลด นี่กลับเพิ่ม
 
อุทัยธานี: วันที่ 20 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาขายไข่ไก่ ที่หน้าแผงขายไข่สดในเขตเทศบาลหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี หลังจากที่ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มขยับราคาขึ้นอีกครั้งรวมแล้วที่ 6 บาท/แผง ส่งผลให้ปัจจุบันราคาไข่ไก่หน้าแผงตอนนี้แต่ละเบอร์ต้องถูกปรับราคาขึ้นมาอีกรอบ
 
โดยไข่ไก่เบอร์ 4 ราคาแผงละ 100 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาแผงละ 110 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาแผงละ 115 บาท และไข่ไก่เบอร์ 1 ราคาแผงละ 120 บาท ส่วนไข่เยี่ยวม้านั้นยังคงอยู่ที่ราคา ฟองละ 8 บาท แผงละ 220 บาท และลังละ 350 บาท
 
เนื่องจากใช้ไข่เป็ดในการทำ ประกอบกับปัจจุบันราคาไข่เป็ดหน้าเล้านั้นยังคงไม่มีการปรับขึ้นราคา ส่วนราคาไข่ไก่ที่ปรับขึ้นมาอีกรอบในครั้งนี้ ทำให้หน้าแผงยังคงต้องปรับตัวแบ่งขายแบบชุด 5 ฟอง 20 บาท 10 ฟอง 45 บาท และ 12 ฟอง 120 บาท เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการซื้อไข่ยกแผง
 
นางปวิตรา ม่วงเจริญ เจ้าของร้านกาญจนาค้าไข่ ในตลาดสดเขตเทศบาลหนองฉาง กล่าวว่า ตอนนี้ไข่ไก่ปรับขึ้นราคาแผงละ 6 บาท ซึ่งมีประกาศจากหน้าฟาร์มเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา ผลกระทบนั้นก็มีเพิ่มตามมาบ้าง จากเดิมที่ตลาดค่อนข้างเงียบอยู่แล้ว หลังราคาปรับขึ้นอีกตอนนี้ลูกค้าก็ซื้อค่อนข้างน้อยลง 
 
โดยปกติแล้วทุกปีช่วงที่ปิดเทอมนั้นราคาไข่ไก่จะต้องปรับลดลง แต่ปีนี้กลับมีการประกาศขึ้นราคาจึงยิ่งทำให้คนซื้อไข่ไก่น้อยลงกว่าเดิมไปอีก ซึ่งบวกกับหลายปัจจัยลูกค้าก็จะไปเลือกใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นมากกว่าอย่างพวก ข้าวสาร น้ำมัน ฯลฯ ทำให้ช่วงนี้คนซื้อไข่ไก่กันแค่ 20-40 บาท หรือแค่ที่จำเป็นจะใช้ก่อนเท่านั้น และคาดว่าราคาไข่ไก่ขายจะหยุดอยู่แค่นี้ไม่น่าจะมีการปรับราคาขึ้นอีก”นางปวิตรา กล่าว
 
นางปวิตรา กล่าวว่า ทั้งนี้ในช่วงปิดเทอมทุกๆปี ที่ราคาไข่ไก่จะปรับลดลงนั้น เป็นสาเหตุมาจาก ยอดขายหลักของไข่ไก่ที่นอกจากจะเป็นร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่แล้วนั้น โรงเรียนทุกแห่งยังเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีการซื้อไข่ไก่ในปริมาณมากพอสมควรแทบทุกวัน เพื่อใช้ประกอบอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน ทำให้หลังจากที่เข้าสู่ช่วงปิดภาคเรียนแต่ละโรงเรียนหยุดซื้อไข่ไก่ จึงทำให้ยอดซื้อลดลงไปตามลำดับ เป็นผลทำให้ราคาไข่ไก่ถูกปรับลดลงตามไปด้วย
 

 
‘เศรษฐา’ นำทีมปราศรัยระยอง ย้ำนโยบายเติมเงินลงกระเป๋าเงินดิจิทัล
https://siamrath.co.th/n/431936

‘เศรษฐา’ นำทีมปราศรัยระยอง ย้ำนโยบายเติมเงินลงกระเป๋าเงินดิจิทัล สำหรับคนอายุ 16 ปีขึ้นไป อุบยังไม่บอกตัวเลข
 
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทยยกพลปราศรัย ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ จังหวัดระยอง ณ เวทีปราศรัยลานหมู่บ้านเพลินใจ5 (ข้างขนส่งใหม่) อ.เมือง จ.ระยอง โดยนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเองมีความเชื่อในอำนาจประชาชน รังเกียจการรัฐประหาร ไม่เอาดอกผลของมัน 8 ปีที่ผ่านมา ชาวประมงทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น นายกรัฐมนตรีไปเจรจามาจนเรือประมงของเราออกไปจับปลาไม่ได้ เงินในกระเป๋าเราก็หายไปด้วย นี่คือข้อพิสูจน์ว่าไม่มีความสามารถในการเจรจาการค้าทำให้ประเทศชาติเสียเปรียบ ทุกวันนี้ยาเสพติดแพร่หลายกระจายไปทุกหย่อมหญ้า คนไทยหนี้สินท่วมตัว ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ การท่องเที่ยว โควิดจบไปแล้ว แต่รัฐบาลไม่มีการบริหารจัดการที่ดี นักท่องเที่ยวยังไม่เข้ามาเท่าที่ควร ทั้งที่ระยองมีของดีเชิดหน้าชูตามากมาย ล้วนเป็นความบกพร่องของผู้นำ
 
ส.ส.ที่ผ่านมาเป็นฝ่ายรัฐบาลหมด ไม่มีใครเป็นฝ่ายค้าน ทำไมแก้ปัญหาไม่ได้ เราต้องการให้เขาอธิบายว่าทำไมทำไม่ได้หรือครับ เราต้องการให้เขาแก้ปัญหาให้ได้ต่างหาก ดังนั้น 8 ปีพอแล้วครับ ไม่ไหวแล้ว ประเทศเงียบสงบ เงียบสงัด ประชาชนกระเป๋าแห้ง” เศรษฐากล่าว
 
นายเศรษฐา กล่าวว่า มี 2 นโยบายที่อยากนำมาเล่าให้ฟังนั่นคือ คนที่มีอายุเกิน 16 ปี จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน มอบกระเป๋าดิจิทัล ใส่เงินเข้าไปให้กับทุกคน เพื่อให้ทุกคนจับจ่าย เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ใช้ในท้องถิ่นในรัศมี 4 กิโลเมตร ในเวลา 6 เดือน อุบยังไม่บอกตัวเลขว่าจะเติมให้เท่าไร กลัวพรรคข้างเคียงลอกการบ้าน แต่ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อกระตุ้นจากฐานราก พร้อมสำรวจครอบครัวที่รายได้ไม่ถึง 20,000 บาท จะเติมให้เป็น 20,000 บาททันที เชื่อว่าโดนใจพี่น้อง พร้อมไปกับที่พรรคจะแก้ปัญหาประมงด้วย
 
การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ถึงเวลาที่ประเทศชาติต้องเริ่มต้นที่จังหวัดระยอง เรามีผู้สมัครที่มีคุณภาพ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ทั้ง 5 คน ถ้าอยากให้นโยบายเด็ดๆ เกิดขึ้นได้จริง เลือกเพื่อไทยเป็นตัวแทนประชาชนของชาวระยอง ผมไม่อยากกลับมาที่ระยองเพื่อมาอธิบายว่าทำไมทำไม่ได้ เพราะว่าพรรคร่วมไม่ให้ความร่วมมือ ถ้าเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน 310 เสียง ไม่มีคำอธิบายนี้แน่นอน ผมมั่นใจว่าเราทำได้” นายเศรษฐากล่าวทิ้งท้าย
 


‘นิติพล’ จี้หน่วยงานรัฐดูแลผู้ประสบภัย ‘พายุลูกเห็บ’ ด่วน เผย ฟ้าฮ่ามยังหนัก
https://www.matichon.co.th/region/news_3881876

‘นิติพล’ จี้หน่วยงานรัฐดูแลผู้ประสบภัย ‘พายุลูกเห็บ’ ด่วน เผย ฟ้าฮ่ามยังหนักไฟดับหลายจุด หวั่นกระทบผู้ป่วยรักษาตัวที่บ้าน
 
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุลูกเห็บที่ตกในหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างความเสียหายทั้งต่อทรัพย์สินและบริการพื้นฐาน เช่น เสาไฟฟ้าล้ม ไฟดับในหลายพื้นที่ยาวนานมาถึงในช่วงเช้าของวันที่ 19 มีนาคม ก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยเฉพาะที่ตำบลฟ้าฮ่าม ได้รับผลกระทบค่อนข้างหนัก
 
ตอนนี้อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบสำรวจพื้นที่ไฟฟ้าดับแล้วนำเครื่องปั่นไฟไปให้พวกเขาใช้ชั่วคราว เพราะประชาชนอยู่ท่ามกลางความมืดมาหนึ่งคืนแล้ว เป็นเรื่องที่ทำให้มีทั้งความลำบากและอันตราย สัตว์เลื้อยคลาน งู สัตว์มีพิษต่างๆอาจเข้ามาทำอันตรายกับคน รวมถึงอันตรายจากคนด้วยกันเองที่ใช้ช่วงเวลาแบบนี้ฉวยโอกาสเขาไปแอบลักขโมยได้”นายนิติพล กล่าว
 
นายนิติพล กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า เชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจและเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคเหนือ แต่ยังไม่มีแผนรับมือภัยพิบัติ หรือมีก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้จริง ทำให้เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน การรับมือเป็นไปอย่างล่าช้าและกระจัดกระจายซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของเจ้าหน้าที่ เพราะพวกเขาทำงานกันอย่างหนักเพื่อกู้วิกฤตอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการที่มองไม่เห็นเจ้าภาพบริหารจัดการสถานการณ์ให้มีทิศทาง
  
นายนิติพล กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางที่ตนอยากเสนอเป็นการเฉพาะหน้าในเหตุการณ์นี้คือ การประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเพื่อให้มีผู้บัญชาการเหตุการณ์ มีอำนาจในการบูรณาการหน่วยงานต่างๆมาช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุดตามความเร่งด่วนของปัญหา เช่น การช่วยเหลือกรณีเร่งด่วนในการย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลและผู้ป่วยที่อยู่รักษาที่บ้านที่ได้รับผลกระทบไฟดับไปพื้นที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ อย่างเช่นการมีโรงพยาลสนามฉุกเฉิน การเร่งคืนสภาพปกติเช่นเคลียร์ทางที่ต้นไม้ล้ม หรือป้ายปลิวมากีดขวางทางจราจร นอกจากนี้ ยังจะมีผลให้เรื่องของการฟื้นฟูและเยียวยาเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบด้วย
 
สำหรับในระยะยาว ทุกเมืองควรมีแผนรับมือภัยพิบัติและหมั่นฝึกซ้อมการเผชิญเหตุ เพราะภัยพิบัติในอนาคตมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ยิ่งเมืองใหญ่ ปัญหาก็ยิ่งซับซ้อน ผลกระทบมีหลากหลายและอาจต้องแก้หลายปัญหามากมายไปพร้อมๆกัน ดังนั้น งานรับมือภัยพิบัติจะต้องมีเจ้าภาพที่ชัดเจน มีงบประมาณ เครื่องมือ บุคลากรและองค์ความรู้ เพื่อให้การเผชิญเหตุในอนาคตสามารถเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา และประชาชนจะอุ่นใจได้ว่าจะไม่ถูกทอดทิ้ง ความช่วยเหลือจะไปถึงพวกเขาโดยเร็วอย่างแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่