ยิ่งลักษณ์ ควง ทักษิณ เยือนนครโรแมนติกแห่งอินเดีย-พระราชวังเมืองอุเดปุระ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7562232
ยิ่งลักษณ์ ควง ทักษิณ เยือนนครโรแมนติกแห่งอินเดีย-พระราชวังเมืองอุเดปุระ เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของราชสถาน
วันที่ 16 มี.ค.66 น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพในเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ขณะเดินทางไปประเทศอินเดีย พร้อมกับนาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมระบุข้อความว่า
“ดิฉันได้มีโอกาสเยือนประเทศอินเดียหลายครั้งสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาเยี่ยมชมเมืองอุเดปุระ เมืองทางใต้ของแคว้นราชสถาน หรือที่รู้จักกันในนาม “เมืองแห่งทะเลสาบ” ว่ากันว่าเมืองนี้โด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก จนได้รับฉายาว่าเป็น “นครโรแมนติกแห่งอินเดีย” เพราะความสวยงามของธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเลยคือ ทะเลสาบพิโชล่า ทะเลสาบที่สวยงามแห่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการขุดเพื่อกักเก็บน้ำและใช้บริโภคในเมืองเมื่อนานมาแล้ว
ส่วนอีกที่ที่ถ้าไม่ได้เยี่ยมชมก็เหมือนมาไม่ถึง คือ พระราชวังเมืองอุเดปุระ เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของราชสถาน ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองพอดีค่ะ ใครมีโอกาสมาอินเดียก็ลองแวะมาเที่ยวกันนะคะ”
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/pfbid026ye6wo1pY5jBqRLtCGQJ7LegtuMEkNDyZh1KS2T3EXWSVsEJAnW5Q6t6uNLgo53Jl
รับผิดชอบไหวหรือ! เพื่อไทย โวย กกต. แบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ส่อผิดกม. เป็นโมฆะ
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7562493
เพื่อไทย โวย กกต. เลือกเขตเลือกตั้ง กทม. แบบที่ 1 ส่อผิดกม. หวั่นเลือกตั้งโมฆะ ถามกกต.รับผิดชอบไหวหรือ แนะใช้แบบแบ่งเขตแบบปี 54-57 เหมาะสุด
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.เขตลาดกระบัง พร้อมด้วยนาย
สุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ ร่วมแถลงข่าวคัดค้านแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.กทม.
น.ส.
ธีรรัตน์ กล่าวว่า ได้เห็นประกาศจากสำนักงาน กกต. ถึง กกต.กทม. ว่าจะเลือกใช้การแบ่งเขตการเลือกตั้งของ กกต.แบบที่ 1 ซึ่งเป็นแบบที่พรรคเพื่อไทยกังวลใจว่า ส่อขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ที่ผ่านมามีความหวังว่า กกต.จะได้ยินเสียงการทักท้วงของพรรค แต่สุดท้ายมีประกาศออกมาเลือกแบบที่ 1 จึงจำเป็นต้องส่งเสียงอีกครั้ง เพราะถือว่าไม่เป็นธรรม เรียกว่า Gerrymandering (การแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างไม่ยุติธรรม) ที่ผู้มีอำนาจจงใจเปลี่ยนแปลงเส้นเขตเลือกตั้ง เพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ผู้ที่รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุดคือ ภาคประชาชน
เมื่อคืนวานนี้ ประชาชนร้องเรียนมาว่าได้รับผลกระทบจากการแบ่งเขต เพราะพวกเขา หมายมั่นปั้นมือว่าจะเลือก ส.ส.คนนี้ให้เป็นผู้แทน ให้มาทำงานต่อเพราะเคยร่วมงานใกล้ชิดกันมาก่อน ทั้งนี้ หาก กกต.ยืนยันจะใช้การแบ่งเขตแบบที่ 1 ซึ่งสุ่มเสี่ยงจะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ท้ายที่สุดอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะทั้งประเทศ กกต.ต้องกำหนดเขตเลือกตั้งและจำนวน ส.ส.แต่ละเขตเลือกตั้งกันใหม่ แล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ รวมถึงจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคง ความมีเสถียรภาพของประเทศชาติ ความขัดแย้งทางการเมือง และงบประมาณแผ่นดิน
น.ส.
ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า หากการเลือกตั้งเป็นโมฆะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรักษาการนายกฯ ต่อไปจนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จ นานเท่าใดไม่มีใครรู้ หมายความว่าผู้มีอำนาจนำประเทศและประชาชน เป็นตัวประกันให้กับความเสียหายนี้ ใช่หรือไม่ หาก กกต.ไม่พิจารณาคำท้วงติงของพรรค หากเกิดอันตรายเสียหายขึ้น กกต.จะรับผิดชอบไหวหรือ ถ้าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ทั้งนี้ พรรคพร้อมสู้ทุกกติกาที่มีความยุติธรรมหรือที่ถูกกำหนดขึ้น พรรคจะเดินหน้าต่อเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งให้ได้ ให้พี่น้องประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง นำประชาธิปไตยกลับมา และทำให้ประชาชนเห็นว่าพรรคการเมืองที่พวกเขาสนับสนุนได้ใช้พลังประชาชน ไม่โอนอ่อนผ่อนตาม ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจที่ไม่เป็นธรรมเหล่านั้น
ด้านนาย
สุรชาติ กล่าวว่า การแบ่งเขตแบบที่ 1-2 จะยึดหลักตามตัวเลขประชากรที่ให้สมดุลกัน ส่วนแบบที่ 3-4 จะยึดหลักเขตปกครอง เมื่อเราไปดูที่มาตรา 27 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ให้รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง และให้ดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งตามสภาพของชุมชนที่ราษฎรมีการติดต่อกันเป็นประจำ ในลักษณะที่เป็นชุมชนเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน เป็นเรื่องหลักในการแบ่งเขต ไม่ใช่แบ่งเขตเลือกตั้งตามแขวง
อย่างกรณีเขตเลือกตั้งที่ 9 ของเขตบางเขน 1 แขวงของเขตบางเขน จะไปรวมกับ 2 แขวงของเขตจตุจักร และจะมารวมกับอีก 1 แขวงของเขตหลักสี่ ถือเป็นการเอาเศษเสี้ยวของ 3 เขตการปกครองมารวมเป็นหนึ่งเขตการเลือกตั้ง หรือฝั่งธนบุรีเขตที่ 32 ของ 1 แขวงบางกอกน้อย มารวมกันกับเขตบางกอกใหญ่ และมารวมกับบางแขวงภาษีเจริญ บางแขวงของเขตตลิ่งชัน บางแขวงของเขตธนบุรี ถือเป็นการแบ่งเขตที่พิลึกพิลั่น
ถ้าเราไปดูตามมาตรา 27 เข้าข่ายสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายชัดเจน แม้วันนี้จะมีพรรคการเมืองไปยื่นร้องต่อศาลปกครอง แล้วทาง กกต.ยืนยันให้การเลือกตั้งในการแบ่งเขตแบบนี้ ถ้าหากศาลปกครองตัดสินมาภายหลัง ต้องมีผู้รับผิดชอบ
นาย
สุรชาติ กล่าวต่อว่า หลักการการยึดอำเภอเป็นเขตเลือกตั้ง เมื่อมีการเอาเศษเสี้ยวของแต่ละแขวง จะเห็นได้ว่ามีรูปร่างการแบ่งเขตที่บิดเบี้ยว ทั้งที่การแข่งเขตเลือกตั้งควรอำนวยความสะดวกให้ประชาชน และประชาชนไม่ได้ใกล้ชิดกัน พรรคเสนอไปแล้วว่าควรจะยึดเขตการเลือกตั้งตามแบบให้ใกล้เคียงกับปี 2554 และปี 2557 มากที่สุด
ฝ่ายค้านกัดไม่ปล่อย ล่าชื่อ ส.ส. ยื่นตรงศาล รธน. เอาผิด ม.144 ศักดิ์สยาม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3876125
‘ปกรณ์วุฒิ’ ยื่นศาล รธน.ฟัน ‘ศักดิ์สยาม’ ผิด ม.144 วันที่ 17 มี.ค.
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 มีนาคม เวลา 09.00 น. ตน และพรรคประชาชาติ โดย พ.ต.อ.
ทวี สอดส่อง ในฐานะผู้ร้องที่ 1 และผู้ร้องที่ 2 จะร่วมกันยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ สืบเนื่องจากกรณี นาย
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีการคงไว้ซึ่งหุ้นส่วน และยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144
ซึ่งก่อนหน้านี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านเคยยื่นต่อประธานสภามาแล้ว พร้อมกับคำร้องมาตรา 170 และมาตรา 82 ที่มีผลให้นาย
ศักดิ์สยามถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่เนื่องจากฝ่ายกฎหมายของสภาตีความว่าความผิดตามมาตรา 144 นั้น ไม่อยู่ในอำนาจของประธานสภาที่จะยื่น ทางพรรค ก.ก.และพรรคประชาชาติ จึงร่วมกันร่างคำร้องและรวบรวมชื่อ ส.ส.จำนวน 1 ใน 10 ของ ส.ส.ทั้งหมด เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง
ปัจจุบันได้รายชื่อ ส.ส.ครบแล้ว จังหวะการยื่นครั้งนี้ไม่ใช่การฉวยโอกาสทางการเมือง คำร้องฉบับนี้ มีความจำเป็นที่ต้องยื่นอยู่แล้ว เป็นส่วนประกอบที่จะทำให้คำร้องฉบับก่อนหน้านั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น คาดว่าผลคำวินิจฉัยในคำร้องก่อนหน้า จะส่งผลต่อเนื่องมาถึงคำร้องนี้ด้วย
เมื่อถามถึง คำร้องเดิมที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ นาย
ศักดิ์สยามหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้วนั้น นาย
ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เมื่อดูตามข้อกฎหมายแล้ว เรื่องนี้จะมีผลสืบเนื่องในอนาคต เพราะตามคุณสมบัติของรัฐมนตรีนั้น ระบุว่าหากเคยถูกวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติ จะไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ไปอีก 2 ปี ดังนั้นคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่านายศักดิ์สยามจะยังอยู่ในตำแหน่งในวันที่มีคำวินิจฉัยหรือไม่ก็ตาม
เสียหายแน่! ผู้ส่งออกข้าว คาดจีนหยุดซื้อข้าวหอมมะลิไทย หลังถูกปลอม จี้พณ.แก้ปัญหา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7563072
ผู้ส่งออกข้าว คาดจีนหยุดซื้อข้าวหอมมะลิไทย หลังถูกปลอม จี้พณ.แก้ปัญหา เผยโรงงานนำตราสัญลักษณ์ไปแอบอ้าง เข้าข่ายละเมิดเครื่องหมายการค้า ต้องดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.66 นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงผลกระทบต่อการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย กรณีโรงงานข้าวในประเทศจีนปลอมข้าวหอมมะลิไทย โดยใช้ชื่อแบรนด์เป็นภาษาไทย และใช้สารย้อมกลิ่นให้หอมเหมือนข้าวหอมมะลิไทย เพื่อให้ขายได้ในราคาสูง ว่า ปัญหาดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับตลาดข้าวหอมมะลิไทยในจีนแน่นอน
แต่คาดว่าจะเป็นปัญหาระยะสั้น เพราะเกิดจากการตื่นตระหนกของตลาดและผู้บริโภค อาจทำให้หยุดซื้อข้าวหอมมะลิไทย เพราะไม่มั่นใจว่าเป็นข้าวหอมมะลิจริง หรือปลอม คาดว่าในช่วง 1-2 เดือนปัญหาจะคลี่คลายได้ ผู้บริโภคจะกลับมาซื้อข้าวหอมมะลิไทยอีกครั้ง เนื่องจากผู้บริโภคจีนมีความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยอยู่แล้ว โดยในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวหอมมะลิไปยังตลาดจีนประมาณ 1 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท
“กระทรวงพาณิชย์ของไทย ควรเร่งเข้าไปแก้ปัญหา ด้วยการให้ความรู้และประชาสัมพันธ์แก่ผู้บริโภคในตลาดจีนว่า ข้าวหอมมะลิไทยแท้มีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อให้เลือกซื้อข้าวหอมมะลิไทยได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ เพราะการที่ไทยจะเข้าไปปราบของปลอมในจีนเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเป็นเจ้าแห่งการเลียนแบบสินค้ามาแล้วหลายตัว และยังมีตลาดขนาดใหญ่ที่เราควบคุมไม่ได้ ส่วนการจะฟ้องร้องคนทำผิดก็ทำได้ลำบาก ต้องใช้เงินจำนวนมากในการดำเนินการ” นายชูเกียรติ กล่าว
ด้าน นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด โดยประสานขอข้อมูลไปยังทูตพาณิชย์ไทยในประเทศจีน และอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับ กรมการข้าว และกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่า โรงงานจีนนำตราสัญลักษณ์ข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ของไทยไปแอบอ้างหรือไม่ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายละเมิดเครื่องหมายการค้า อาจจะต้องดำเนินคดี
ส่วนปัญหาการปลอมข้าวหอมมะลิไทยไทยในจีนคาดว่า ทางการจีนดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนต่อไป โดยในส่วนของไทยจะต้องรอประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร
JJNY : 5in1 เยือนนครโรแมนติก│เพื่อไทยโวยกกต.│เอาผิดศักดิ์สยาม│จีนหยุดซื้อข้าวหอมมะลิ│รัสเซีย-ยูเครนดัดแปลง“โดรนจีน”
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7562232
ยิ่งลักษณ์ ควง ทักษิณ เยือนนครโรแมนติกแห่งอินเดีย-พระราชวังเมืองอุเดปุระ เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของราชสถาน
วันที่ 16 มี.ค.66 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพในเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ขณะเดินทางไปประเทศอินเดีย พร้อมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมระบุข้อความว่า
“ดิฉันได้มีโอกาสเยือนประเทศอินเดียหลายครั้งสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาเยี่ยมชมเมืองอุเดปุระ เมืองทางใต้ของแคว้นราชสถาน หรือที่รู้จักกันในนาม “เมืองแห่งทะเลสาบ” ว่ากันว่าเมืองนี้โด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก จนได้รับฉายาว่าเป็น “นครโรแมนติกแห่งอินเดีย” เพราะความสวยงามของธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเลยคือ ทะเลสาบพิโชล่า ทะเลสาบที่สวยงามแห่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการขุดเพื่อกักเก็บน้ำและใช้บริโภคในเมืองเมื่อนานมาแล้ว
ส่วนอีกที่ที่ถ้าไม่ได้เยี่ยมชมก็เหมือนมาไม่ถึง คือ พระราชวังเมืองอุเดปุระ เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของราชสถาน ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองพอดีค่ะ ใครมีโอกาสมาอินเดียก็ลองแวะมาเที่ยวกันนะคะ”
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/pfbid026ye6wo1pY5jBqRLtCGQJ7LegtuMEkNDyZh1KS2T3EXWSVsEJAnW5Q6t6uNLgo53Jl
รับผิดชอบไหวหรือ! เพื่อไทย โวย กกต. แบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ส่อผิดกม. เป็นโมฆะ
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7562493
เพื่อไทย โวย กกต. เลือกเขตเลือกตั้ง กทม. แบบที่ 1 ส่อผิดกม. หวั่นเลือกตั้งโมฆะ ถามกกต.รับผิดชอบไหวหรือ แนะใช้แบบแบ่งเขตแบบปี 54-57 เหมาะสุด
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.เขตลาดกระบัง พร้อมด้วยนายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ ร่วมแถลงข่าวคัดค้านแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.กทม.
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ได้เห็นประกาศจากสำนักงาน กกต. ถึง กกต.กทม. ว่าจะเลือกใช้การแบ่งเขตการเลือกตั้งของ กกต.แบบที่ 1 ซึ่งเป็นแบบที่พรรคเพื่อไทยกังวลใจว่า ส่อขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ที่ผ่านมามีความหวังว่า กกต.จะได้ยินเสียงการทักท้วงของพรรค แต่สุดท้ายมีประกาศออกมาเลือกแบบที่ 1 จึงจำเป็นต้องส่งเสียงอีกครั้ง เพราะถือว่าไม่เป็นธรรม เรียกว่า Gerrymandering (การแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างไม่ยุติธรรม) ที่ผู้มีอำนาจจงใจเปลี่ยนแปลงเส้นเขตเลือกตั้ง เพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ผู้ที่รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุดคือ ภาคประชาชน
เมื่อคืนวานนี้ ประชาชนร้องเรียนมาว่าได้รับผลกระทบจากการแบ่งเขต เพราะพวกเขา หมายมั่นปั้นมือว่าจะเลือก ส.ส.คนนี้ให้เป็นผู้แทน ให้มาทำงานต่อเพราะเคยร่วมงานใกล้ชิดกันมาก่อน ทั้งนี้ หาก กกต.ยืนยันจะใช้การแบ่งเขตแบบที่ 1 ซึ่งสุ่มเสี่ยงจะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ท้ายที่สุดอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะทั้งประเทศ กกต.ต้องกำหนดเขตเลือกตั้งและจำนวน ส.ส.แต่ละเขตเลือกตั้งกันใหม่ แล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ รวมถึงจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคง ความมีเสถียรภาพของประเทศชาติ ความขัดแย้งทางการเมือง และงบประมาณแผ่นดิน
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า หากการเลือกตั้งเป็นโมฆะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรักษาการนายกฯ ต่อไปจนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จ นานเท่าใดไม่มีใครรู้ หมายความว่าผู้มีอำนาจนำประเทศและประชาชน เป็นตัวประกันให้กับความเสียหายนี้ ใช่หรือไม่ หาก กกต.ไม่พิจารณาคำท้วงติงของพรรค หากเกิดอันตรายเสียหายขึ้น กกต.จะรับผิดชอบไหวหรือ ถ้าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ทั้งนี้ พรรคพร้อมสู้ทุกกติกาที่มีความยุติธรรมหรือที่ถูกกำหนดขึ้น พรรคจะเดินหน้าต่อเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งให้ได้ ให้พี่น้องประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง นำประชาธิปไตยกลับมา และทำให้ประชาชนเห็นว่าพรรคการเมืองที่พวกเขาสนับสนุนได้ใช้พลังประชาชน ไม่โอนอ่อนผ่อนตาม ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจที่ไม่เป็นธรรมเหล่านั้น
ด้านนายสุรชาติ กล่าวว่า การแบ่งเขตแบบที่ 1-2 จะยึดหลักตามตัวเลขประชากรที่ให้สมดุลกัน ส่วนแบบที่ 3-4 จะยึดหลักเขตปกครอง เมื่อเราไปดูที่มาตรา 27 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ให้รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง และให้ดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งตามสภาพของชุมชนที่ราษฎรมีการติดต่อกันเป็นประจำ ในลักษณะที่เป็นชุมชนเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน เป็นเรื่องหลักในการแบ่งเขต ไม่ใช่แบ่งเขตเลือกตั้งตามแขวง
อย่างกรณีเขตเลือกตั้งที่ 9 ของเขตบางเขน 1 แขวงของเขตบางเขน จะไปรวมกับ 2 แขวงของเขตจตุจักร และจะมารวมกับอีก 1 แขวงของเขตหลักสี่ ถือเป็นการเอาเศษเสี้ยวของ 3 เขตการปกครองมารวมเป็นหนึ่งเขตการเลือกตั้ง หรือฝั่งธนบุรีเขตที่ 32 ของ 1 แขวงบางกอกน้อย มารวมกันกับเขตบางกอกใหญ่ และมารวมกับบางแขวงภาษีเจริญ บางแขวงของเขตตลิ่งชัน บางแขวงของเขตธนบุรี ถือเป็นการแบ่งเขตที่พิลึกพิลั่น
ถ้าเราไปดูตามมาตรา 27 เข้าข่ายสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายชัดเจน แม้วันนี้จะมีพรรคการเมืองไปยื่นร้องต่อศาลปกครอง แล้วทาง กกต.ยืนยันให้การเลือกตั้งในการแบ่งเขตแบบนี้ ถ้าหากศาลปกครองตัดสินมาภายหลัง ต้องมีผู้รับผิดชอบ
นายสุรชาติ กล่าวต่อว่า หลักการการยึดอำเภอเป็นเขตเลือกตั้ง เมื่อมีการเอาเศษเสี้ยวของแต่ละแขวง จะเห็นได้ว่ามีรูปร่างการแบ่งเขตที่บิดเบี้ยว ทั้งที่การแข่งเขตเลือกตั้งควรอำนวยความสะดวกให้ประชาชน และประชาชนไม่ได้ใกล้ชิดกัน พรรคเสนอไปแล้วว่าควรจะยึดเขตการเลือกตั้งตามแบบให้ใกล้เคียงกับปี 2554 และปี 2557 มากที่สุด
ฝ่ายค้านกัดไม่ปล่อย ล่าชื่อ ส.ส. ยื่นตรงศาล รธน. เอาผิด ม.144 ศักดิ์สยาม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3876125
‘ปกรณ์วุฒิ’ ยื่นศาล รธน.ฟัน ‘ศักดิ์สยาม’ ผิด ม.144 วันที่ 17 มี.ค.
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 มีนาคม เวลา 09.00 น. ตน และพรรคประชาชาติ โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะผู้ร้องที่ 1 และผู้ร้องที่ 2 จะร่วมกันยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ สืบเนื่องจากกรณี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีการคงไว้ซึ่งหุ้นส่วน และยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144
ซึ่งก่อนหน้านี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านเคยยื่นต่อประธานสภามาแล้ว พร้อมกับคำร้องมาตรา 170 และมาตรา 82 ที่มีผลให้นายศักดิ์สยามถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่เนื่องจากฝ่ายกฎหมายของสภาตีความว่าความผิดตามมาตรา 144 นั้น ไม่อยู่ในอำนาจของประธานสภาที่จะยื่น ทางพรรค ก.ก.และพรรคประชาชาติ จึงร่วมกันร่างคำร้องและรวบรวมชื่อ ส.ส.จำนวน 1 ใน 10 ของ ส.ส.ทั้งหมด เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง
ปัจจุบันได้รายชื่อ ส.ส.ครบแล้ว จังหวะการยื่นครั้งนี้ไม่ใช่การฉวยโอกาสทางการเมือง คำร้องฉบับนี้ มีความจำเป็นที่ต้องยื่นอยู่แล้ว เป็นส่วนประกอบที่จะทำให้คำร้องฉบับก่อนหน้านั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น คาดว่าผลคำวินิจฉัยในคำร้องก่อนหน้า จะส่งผลต่อเนื่องมาถึงคำร้องนี้ด้วย
เมื่อถามถึง คำร้องเดิมที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ นายศักดิ์สยามหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้วนั้น นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เมื่อดูตามข้อกฎหมายแล้ว เรื่องนี้จะมีผลสืบเนื่องในอนาคต เพราะตามคุณสมบัติของรัฐมนตรีนั้น ระบุว่าหากเคยถูกวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติ จะไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ไปอีก 2 ปี ดังนั้นคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่านายศักดิ์สยามจะยังอยู่ในตำแหน่งในวันที่มีคำวินิจฉัยหรือไม่ก็ตาม
เสียหายแน่! ผู้ส่งออกข้าว คาดจีนหยุดซื้อข้าวหอมมะลิไทย หลังถูกปลอม จี้พณ.แก้ปัญหา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7563072
ผู้ส่งออกข้าว คาดจีนหยุดซื้อข้าวหอมมะลิไทย หลังถูกปลอม จี้พณ.แก้ปัญหา เผยโรงงานนำตราสัญลักษณ์ไปแอบอ้าง เข้าข่ายละเมิดเครื่องหมายการค้า ต้องดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.66 นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงผลกระทบต่อการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย กรณีโรงงานข้าวในประเทศจีนปลอมข้าวหอมมะลิไทย โดยใช้ชื่อแบรนด์เป็นภาษาไทย และใช้สารย้อมกลิ่นให้หอมเหมือนข้าวหอมมะลิไทย เพื่อให้ขายได้ในราคาสูง ว่า ปัญหาดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับตลาดข้าวหอมมะลิไทยในจีนแน่นอน
แต่คาดว่าจะเป็นปัญหาระยะสั้น เพราะเกิดจากการตื่นตระหนกของตลาดและผู้บริโภค อาจทำให้หยุดซื้อข้าวหอมมะลิไทย เพราะไม่มั่นใจว่าเป็นข้าวหอมมะลิจริง หรือปลอม คาดว่าในช่วง 1-2 เดือนปัญหาจะคลี่คลายได้ ผู้บริโภคจะกลับมาซื้อข้าวหอมมะลิไทยอีกครั้ง เนื่องจากผู้บริโภคจีนมีความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยอยู่แล้ว โดยในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวหอมมะลิไปยังตลาดจีนประมาณ 1 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท
“กระทรวงพาณิชย์ของไทย ควรเร่งเข้าไปแก้ปัญหา ด้วยการให้ความรู้และประชาสัมพันธ์แก่ผู้บริโภคในตลาดจีนว่า ข้าวหอมมะลิไทยแท้มีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อให้เลือกซื้อข้าวหอมมะลิไทยได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ เพราะการที่ไทยจะเข้าไปปราบของปลอมในจีนเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเป็นเจ้าแห่งการเลียนแบบสินค้ามาแล้วหลายตัว และยังมีตลาดขนาดใหญ่ที่เราควบคุมไม่ได้ ส่วนการจะฟ้องร้องคนทำผิดก็ทำได้ลำบาก ต้องใช้เงินจำนวนมากในการดำเนินการ” นายชูเกียรติ กล่าว
ด้าน นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด โดยประสานขอข้อมูลไปยังทูตพาณิชย์ไทยในประเทศจีน และอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับ กรมการข้าว และกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่า โรงงานจีนนำตราสัญลักษณ์ข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ของไทยไปแอบอ้างหรือไม่ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายละเมิดเครื่องหมายการค้า อาจจะต้องดำเนินคดี
ส่วนปัญหาการปลอมข้าวหอมมะลิไทยไทยในจีนคาดว่า ทางการจีนดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนต่อไป โดยในส่วนของไทยจะต้องรอประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร