เนื่องจากคนใกล้ตัวของผมประสบปัญหาเรื่องที่ทำงานมา คือไม่รู้ว่าแบบนี้ถือว่าหนักมั้ยสำหรับสมาชิกท่านอื่น แต่สำหรับผม ถือว่าหนักไป
เรื่องมีอยู่ว่า...
คุณ A (นามสมมติ) เป็นคนใกล้ตัวของผมเอง ได้ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ 26 เกี่ยวกับซื้อขายสารเคมีและอุปกรณ์ห้องแลป ในการทำงานช่วงแรกๆ เจ้านายของคุณ A พยายามกดดันให้คุณ A ทำงานให้เป็นภายใน 1 เดือน พอเรื่องไหนทำช้า ทำไม่ทันก็จะถูกด่าทันที แต่คุณ A ก็ทน จนสามารถทำงานได้คล่อง ต่อมามีพนักงานเข้ามาใหม่ในตำแหน่งเดียวกัน แต่ด้วยความที่มี "ประสบการณ์" มากกว่า จึงได้ฐานเงินเดือนเยอะกว่า (วุฒิ ป. ตรี เท่ากัน) หลายพัน ขอใช้ชื่อว่าคุณ B ในช่วงที่คุณ B เข้ามา เจ้านายที่เคยสอนคุณ A ก็มาสอนคุณ B แต่ความลำเอียงมันก็เกิดขึ้นทันทีคือ ไม่ว่าคุณ B จะทำช้า ทำไม่เสร็จอะไรยังไงก็ไม่เคยถูกด่าสักครั้ง แถมเอางานที่ทำไม่เสร็จมาให้คุณ A ทำด้วย อย่าลืมนะครับว่าคุณ B คือคนที่มีประสบการณ์เยอะกว่า แต่กลับเรียนรู้งานได้ช้า (จนตอนนี้ผ่านไปเกือบปี ก็ยังทำไม่เป็น) พอถึงวันที่คุณ A ผ่านโปร ตอนแรกเจ้าของบริษัทตกลงว่าจะเพิ่มเงินเดือนให้ แต่พอถึงเวลาเงินก็ไม่เพิ่ม คุณ A จึงไปถามว่าทำไมไม่ได้ เจ้าของตอบว่า ถามลูกเขาแล้ว (คนที่เป็นเจ้านาย) ลูกบอกไว้ค่อยปรับพร้อมกับคนที่มาใหม่ ซึ่งแบบนี้ เท่ากับไม่แฟร์แน่นอน เพราะคนที่มาใหม่ (คุณ B) มาทีหลังตั้ง 3 เดือน ทางเจ้าของบริษัทเลยเสนอว่า ส่วนที่ไม่ได้จะเอาไปเป็นโบนัสปีใหม่แทน คือแบบนี้ก็ไม่แฟร์อีก เพราะเงินโบนัสก็ควรจะแยกออก ไม่เกี่ยวกับการปรับเงินเดือน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต่อมาคุณ A ได้รับการประบเงินเดือนขึ้นจริงๆ แต่! ได้ไม่ตรงกับที่ตกลงตอนแรก คือน้อยกว่าประมาณพันนึงกับที่คุยกันไว้ ทางเจ้าของกลับคอบว่าเขาไม่เคยบอกนะว่าจะให้เท่าไร ใช่แล้วครับ เขาสัญญาปากเปล่า แล้าคุณ A เชื่อใจ ไม่คิดว่าจะโกงกันตรงๆ แบบนี้ และในช่วงเวลาที่ทำงานหลังๆ มานี้ งานของใครไม่เสร็จก็จะโยนมาให้คุณ A ทำคนเดียว ในขณะที่คุณ B ทำงานช้า เลยไม่ค่อยมีใครโยนงานให้ ความเห็นแก่ตัวของคุณ B และทางฝั่งเจ้านายยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเมื่อไรก็ตามที่คุณ A ทำงานไม่ทันก็จะบังคับให้อยู่ล่วงเวลา แต่ไม่มีการจ่ายโอทีให้ เพราะอ้างว่าต้องช่วยเหลือกัน อ่านไม่ผิดหรอกครับ เขาไม่จ่ายโอทีให้แม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งตอนขากลับ ระหว่างทางก็เป็นซอยน่ากลัว ข้างหลังบริษัทมีลักษณะเป็นชุมชนแออัด มีเล่นยา มั่วสุม สารพัดอบายมุขเต็มไปหมด มีขี้ยาเดินเต็ม แต่ทางบริษัทไม่สนใจความปลอดภัยตรงนี้ จะห่วงแค่ว่าต้องทำงานให้เสร็จเท่านั้น บางครั้งคุณ B พอไม่มีใครสั่งงานเพิ่มก็เอาเวลามาดูยูทูปต่อหน้าต่อตาคุณ A ที่กำลังทำงานให้คุณ B พอไปขอให้ช่วยก็บอกว่าทำไม่เป็น มีอยู่ครั้งนึงที่เจ้านายลองเอางานคุณ A ไปให้คุณ B ช่วย แต่พอมาตรวจอีกทีกลับทำผิดเกือบหมด จนลูกค้าบ่นกลับ เจ้านายก็มาด่าคุณ A เพราะบอกว่านี่เป็นงานคุณ A โดยที่ไม่แตะต้องคุณ B เลยสักนิด ราวกับว่าเขาเป็นพระเจ้า ในส่วนของปัญหาอื่นๆก็เช่น มีบางครั้งที่เจ้าของบริษัทเรียกคุณ A ไปคุยแล้วก็บอกว่าคุณ A ทำงานช้า พอคุณ A อธิบายสถานการณ์ที่ผมเล่าไปก่อนหน้าให้เขาฟัง เขากลับตอบว่าคุณ A ยังไม่เข้าใจระบบการทำงานที่นี่ เพราะคุณ A ไม่เคยไปเมืองนอก ไม่รู้ว่าเมืองนอกเขาใช้ชีวิตยังไง ใช่แล้วครับ เขาบูลลี่พนักงาน ซึ่งคุณ A นั้นเคยไปเมืองนอกมาหลายที่แล้วครับ แต่ไม่อยากเถียงกลับ ส่งนตัวผมคือเจ้าของบริษัทที่นี่ดูเป็นคนที่สปอยลูกตัวเอง (คนที่เป็นเจ้านายคุณ A B) มากๆ มีครั้งหนึ่งที่คุณ A ถูกแม่ของเจ้านายมาคุยด้วยว่าอย่าทำให้ลูกเขาโกรธ เพราะชอบมาลงกับแม่ ??? หรือบางครั้งมีงานอะไรเร่งด่วน ก็ต้องรอเจ้านายคนนี้มาเข้างานซึ่งชอบมาสาย บางครั้งก็มีการบังคับให้คุณ A ตอบแชทลูกค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นเวลานอนพักผ่อน พอไม่ทำก็เรียกไปด่า แต่พอพูดว่าจะขอโอที กลับเปลี่ยนเรื่องคุย ในช่วงทำงานเกือบปี เจอการเอาเปรียบสารพัดมากมายจนบรรยายไม่หมดแน่นนอน อย่างล่าสุดที่คุณ A เริ่มมีอาการป่วยจึงลาไปหาหมอ และหมดได้นัดอีกทีในอีก 3 วันต่อมา แต่พอจะขอลาไปตามนัดหมอ ทางเจ้านายคนนั้นกลับด่าหาว่าลาบ่อย ทั้งที่ความเป็นจริง คุณ A ตั้งแต่ทำงานมา ยังลาไม่ถึง 5 วันด้วยซ้ำครับ ทำให้สุดท้ายคุณ A ตัดสินใจเขียนใบลาออกล่วงหน้าตั้งเดือนครึ่ง แต่ทางบริษัทไม่เซ็นให้พร้อมบอกว่าไม่มีใครทำแทน จะให้ทำงานเก่าให้เสร็จก่อนแล้วจะไปลาออกก็เชิญ คือผมคิดว่าถ้าบริษัทดีจริง ภายในเวลาเดือนครึ่งนี้น่าจะหาคนมาทำแทนได้ไม่ยากนะครับ นอกจากว่าบริษัทนี้จะห่วยจนไม่มีใครอยากมาทำงานจริงๆ ผมไม่เข้าใจว่าบริษัทนี้คือเขาไม่กลัวกฎหมายแรงงานเลยหรอครับ หรือพอจะเป็นไปได้ไหมครับที่พวกเขามีแบ็คอัพใหญ่ในเรื่องกฎหมายอะไรพวกนี้
ขอบคุณที่อ่านจบครับ แต่อยากจะปรึกษาจริงๆ ว่าแบบนี้เราฟ้องกรมแรงงานอะไรแบบนี้ได้ไหมครับ?
บริษัทแห่งหนึ่งใช้งานเยี่ยงทาส
เรื่องมีอยู่ว่า...
คุณ A (นามสมมติ) เป็นคนใกล้ตัวของผมเอง ได้ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ 26 เกี่ยวกับซื้อขายสารเคมีและอุปกรณ์ห้องแลป ในการทำงานช่วงแรกๆ เจ้านายของคุณ A พยายามกดดันให้คุณ A ทำงานให้เป็นภายใน 1 เดือน พอเรื่องไหนทำช้า ทำไม่ทันก็จะถูกด่าทันที แต่คุณ A ก็ทน จนสามารถทำงานได้คล่อง ต่อมามีพนักงานเข้ามาใหม่ในตำแหน่งเดียวกัน แต่ด้วยความที่มี "ประสบการณ์" มากกว่า จึงได้ฐานเงินเดือนเยอะกว่า (วุฒิ ป. ตรี เท่ากัน) หลายพัน ขอใช้ชื่อว่าคุณ B ในช่วงที่คุณ B เข้ามา เจ้านายที่เคยสอนคุณ A ก็มาสอนคุณ B แต่ความลำเอียงมันก็เกิดขึ้นทันทีคือ ไม่ว่าคุณ B จะทำช้า ทำไม่เสร็จอะไรยังไงก็ไม่เคยถูกด่าสักครั้ง แถมเอางานที่ทำไม่เสร็จมาให้คุณ A ทำด้วย อย่าลืมนะครับว่าคุณ B คือคนที่มีประสบการณ์เยอะกว่า แต่กลับเรียนรู้งานได้ช้า (จนตอนนี้ผ่านไปเกือบปี ก็ยังทำไม่เป็น) พอถึงวันที่คุณ A ผ่านโปร ตอนแรกเจ้าของบริษัทตกลงว่าจะเพิ่มเงินเดือนให้ แต่พอถึงเวลาเงินก็ไม่เพิ่ม คุณ A จึงไปถามว่าทำไมไม่ได้ เจ้าของตอบว่า ถามลูกเขาแล้ว (คนที่เป็นเจ้านาย) ลูกบอกไว้ค่อยปรับพร้อมกับคนที่มาใหม่ ซึ่งแบบนี้ เท่ากับไม่แฟร์แน่นอน เพราะคนที่มาใหม่ (คุณ B) มาทีหลังตั้ง 3 เดือน ทางเจ้าของบริษัทเลยเสนอว่า ส่วนที่ไม่ได้จะเอาไปเป็นโบนัสปีใหม่แทน คือแบบนี้ก็ไม่แฟร์อีก เพราะเงินโบนัสก็ควรจะแยกออก ไม่เกี่ยวกับการปรับเงินเดือน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต่อมาคุณ A ได้รับการประบเงินเดือนขึ้นจริงๆ แต่! ได้ไม่ตรงกับที่ตกลงตอนแรก คือน้อยกว่าประมาณพันนึงกับที่คุยกันไว้ ทางเจ้าของกลับคอบว่าเขาไม่เคยบอกนะว่าจะให้เท่าไร ใช่แล้วครับ เขาสัญญาปากเปล่า แล้าคุณ A เชื่อใจ ไม่คิดว่าจะโกงกันตรงๆ แบบนี้ และในช่วงเวลาที่ทำงานหลังๆ มานี้ งานของใครไม่เสร็จก็จะโยนมาให้คุณ A ทำคนเดียว ในขณะที่คุณ B ทำงานช้า เลยไม่ค่อยมีใครโยนงานให้ ความเห็นแก่ตัวของคุณ B และทางฝั่งเจ้านายยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเมื่อไรก็ตามที่คุณ A ทำงานไม่ทันก็จะบังคับให้อยู่ล่วงเวลา แต่ไม่มีการจ่ายโอทีให้ เพราะอ้างว่าต้องช่วยเหลือกัน อ่านไม่ผิดหรอกครับ เขาไม่จ่ายโอทีให้แม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งตอนขากลับ ระหว่างทางก็เป็นซอยน่ากลัว ข้างหลังบริษัทมีลักษณะเป็นชุมชนแออัด มีเล่นยา มั่วสุม สารพัดอบายมุขเต็มไปหมด มีขี้ยาเดินเต็ม แต่ทางบริษัทไม่สนใจความปลอดภัยตรงนี้ จะห่วงแค่ว่าต้องทำงานให้เสร็จเท่านั้น บางครั้งคุณ B พอไม่มีใครสั่งงานเพิ่มก็เอาเวลามาดูยูทูปต่อหน้าต่อตาคุณ A ที่กำลังทำงานให้คุณ B พอไปขอให้ช่วยก็บอกว่าทำไม่เป็น มีอยู่ครั้งนึงที่เจ้านายลองเอางานคุณ A ไปให้คุณ B ช่วย แต่พอมาตรวจอีกทีกลับทำผิดเกือบหมด จนลูกค้าบ่นกลับ เจ้านายก็มาด่าคุณ A เพราะบอกว่านี่เป็นงานคุณ A โดยที่ไม่แตะต้องคุณ B เลยสักนิด ราวกับว่าเขาเป็นพระเจ้า ในส่วนของปัญหาอื่นๆก็เช่น มีบางครั้งที่เจ้าของบริษัทเรียกคุณ A ไปคุยแล้วก็บอกว่าคุณ A ทำงานช้า พอคุณ A อธิบายสถานการณ์ที่ผมเล่าไปก่อนหน้าให้เขาฟัง เขากลับตอบว่าคุณ A ยังไม่เข้าใจระบบการทำงานที่นี่ เพราะคุณ A ไม่เคยไปเมืองนอก ไม่รู้ว่าเมืองนอกเขาใช้ชีวิตยังไง ใช่แล้วครับ เขาบูลลี่พนักงาน ซึ่งคุณ A นั้นเคยไปเมืองนอกมาหลายที่แล้วครับ แต่ไม่อยากเถียงกลับ ส่งนตัวผมคือเจ้าของบริษัทที่นี่ดูเป็นคนที่สปอยลูกตัวเอง (คนที่เป็นเจ้านายคุณ A B) มากๆ มีครั้งหนึ่งที่คุณ A ถูกแม่ของเจ้านายมาคุยด้วยว่าอย่าทำให้ลูกเขาโกรธ เพราะชอบมาลงกับแม่ ??? หรือบางครั้งมีงานอะไรเร่งด่วน ก็ต้องรอเจ้านายคนนี้มาเข้างานซึ่งชอบมาสาย บางครั้งก็มีการบังคับให้คุณ A ตอบแชทลูกค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นเวลานอนพักผ่อน พอไม่ทำก็เรียกไปด่า แต่พอพูดว่าจะขอโอที กลับเปลี่ยนเรื่องคุย ในช่วงทำงานเกือบปี เจอการเอาเปรียบสารพัดมากมายจนบรรยายไม่หมดแน่นนอน อย่างล่าสุดที่คุณ A เริ่มมีอาการป่วยจึงลาไปหาหมอ และหมดได้นัดอีกทีในอีก 3 วันต่อมา แต่พอจะขอลาไปตามนัดหมอ ทางเจ้านายคนนั้นกลับด่าหาว่าลาบ่อย ทั้งที่ความเป็นจริง คุณ A ตั้งแต่ทำงานมา ยังลาไม่ถึง 5 วันด้วยซ้ำครับ ทำให้สุดท้ายคุณ A ตัดสินใจเขียนใบลาออกล่วงหน้าตั้งเดือนครึ่ง แต่ทางบริษัทไม่เซ็นให้พร้อมบอกว่าไม่มีใครทำแทน จะให้ทำงานเก่าให้เสร็จก่อนแล้วจะไปลาออกก็เชิญ คือผมคิดว่าถ้าบริษัทดีจริง ภายในเวลาเดือนครึ่งนี้น่าจะหาคนมาทำแทนได้ไม่ยากนะครับ นอกจากว่าบริษัทนี้จะห่วยจนไม่มีใครอยากมาทำงานจริงๆ ผมไม่เข้าใจว่าบริษัทนี้คือเขาไม่กลัวกฎหมายแรงงานเลยหรอครับ หรือพอจะเป็นไปได้ไหมครับที่พวกเขามีแบ็คอัพใหญ่ในเรื่องกฎหมายอะไรพวกนี้
ขอบคุณที่อ่านจบครับ แต่อยากจะปรึกษาจริงๆ ว่าแบบนี้เราฟ้องกรมแรงงานอะไรแบบนี้ได้ไหมครับ?