สาปอัปสรานครขอมโบราณ ตอน อวสานสมิงบายันนครอินทร์ (P.2)
ล. วิลิศมาหรา
ตะวันรู้สึกว่าใบหน้าของสางดงเริ่มเห็นเด่นชัดขึ้นตามลำดับ เห็นมีดวงตา จมูก ปาก อย่างชัดเจน จากที่มีแต่ความมืดดำมองไม่เห็นอะไรเลย แสดงว่าหากมันมีอาการบาดเจ็บ อาถรรพ์ในตัวมันก็คงจะอ่อนกำลังลง
เสือสมิงคล้ายจะได้รับบาดเจ็บไปด้วยกับสางดง เหมือนพวกมันผูกร่างอยู่ด้วยกัน เพราะทันทีที่สางดงถูกนางตะเคียนพุ่งเข้าจู่โจมจนเลือดสาด ร่างของเสือสมิงก็สั่นกระตุกขึ้น มันหยุดชะงักจากการกัดฟัดกับจ่าชิตและคะยอ หันมามองสางดงที่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป้าหมายพุ่งเข้ามาหานางตะเคียนแทน แรงปะทะอันมหาศาลของเสือตัวใหญ่กว่าแปดศอก พุ่งโถมทับลงบนร่างของนางตะเคียนให้ตกอยู่ภายใต้ร่างของมัน สางดงพุ่งทะยานตามมา หวังจะรุมสกรัมนางตะเคียนด้วยอีกคน นางตะเคียนดิ้นรนป้องกันตัว กรีดร้องเสียงแหลม ฟาดกรงเล็บเข้าใส่ใบหน้าของเสือสมิงอย่างไม่ยั้ง ทำให้มันก้มลงทำร้ายเธอได้ไม่ถนัด
จ่าชิตรีบพุ่งตัวไปคว้าปืนที่พื้นขึ้นมาลั่นไกใส่สางดง แต่แรงกระสุนก็แค่ทำให้มันสะดุดหยุดลงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น มันหันขวับมาทางจ่าชิตกับคะยอ ย่างสามขุมเข้ามาหาอีกคำรบหนึ่ง จ่าชิตยิงกระสุนเข้าปะทะมันไว้เป็นระยะ ทำให้มันก้าวขาช้าลง จนกระทั่งเหนี่ยวไกยิงได้ยินเสียงดังแชะ! แสดงว่าลูกกระสุนได้หมดลงเสียแล้ว สางดงแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย บัดนี้เนื้อตัวมันเห็นกระจ่างชัดแล้วว่า เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง
“พราหมณ์สุมณะ”
คะยอร้องออกมาอย่างตกใจ เพราะจำใบหน้าของสางดงตนนี้ได้ทันที ผู้ชายคนนี้แต่ก่อนเคยเป็นชาวทมิฬวรรณะพราหมณ์ ได้เดินทางมาจากอินเดีย หวังจะมาตามหาเมืองปริศนาอินทรบุรี แต่ตามหาอย่างไรก็หาไม่เจอ จึงเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเป็นเวลานานหลายปี ก่อนจะออกเดินทางกลับไปยังบ้านเมืองเดิมของตน ไม่นึกว่าแท้จริงแล้ว เขาไม่ได้กลับไป แต่กลับกลายเป็นสางดงอยู่ในป่าแห่งนี้นี่เอง
สางดงครางฮื่อในลำคอ สืบเท้าเข้ามาหาด้วยสีหน้าท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือ
อีกด้านหนึ่งที่เสือสมิงกำลังต่อสู้อยู่กับนางตะเคียน อ่องแลค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้นยืน เขากระชับกริชลงอาคมของแม่หมอยีบาที่เคยได้รับมาเมื่อนานมาแล้ว แม่หมอให้มาเพื่อใช้ป้องกันตัว มันเป็นกริชของเผ่าบายันที่เอาไว้ป้องกันเสือบายันที่บางทีอาจกลายเป็นเสือสมิง สายตาจ้องมองไปยังเสือที่กำลังก้มลงพยายามขบกัดนางตะเคียน อ่องแลรวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่โผนเข้าแทงกริชไปที่ดวงตาข้างขวาของมัน
ฉึก!
โฮกกกก!
เสือสมิงผงะออกจากร่างของนางตะเคียน กริชเล่มนั้นอาจไม่ระคายผิวส่วนอื่นของมัน แต่ไม่ใช่ที่ดวงตามัน!
เลือดสีแดงไหลโกรกท่วมดวงตาข้างนั้นของเสือ กริชปักคาตาอย่างน่าสยดสยอง และก็เช่นกัน สางดงเองก็ได้ร้องลั่นขึ้น มันยกมือกุมตาขวา หันมาจ้องอ่องแลด้วยดวงตาข้างเดียวที่เรืองแสงสีเขียวปัด ผละออกมาจากจ่าชิตและคะยอ ทะยานเข้าหาอ่องแลด้วยท่าทางโกรธจัด แต่นางตะเคียนที่หลุดออกจากอุ้งเล็บของเสือมาแล้ว ก็พุ่งปราดเข้าขวางทางมัน มันจึงใช้มือที่มีเล็บแหลมยาวจับตัวเธอด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างกระซวกเสียบทะลุหน้าท้องของเธอไป ขิ่นยอกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด สางดงกระซวกเล็บแหลมซ้ำ ๆ เข้าไปในตำแหน่งเดิม ได้ยินเสียงนางตะเคียนสำลักเลือดดังอยู่ในลำคอ ก่อนที่ลำตัวจะอ่อนพับลง คล้ายกำลังจะถึงกาลอวสานแห่งดวงวิญญาณตนเอง อ่องแลกู่ก้องออกมาอย่างเจ็บแค้น
“ไอ้สางระyam มืงฆ่าน้องกูซ้ำอีกแล้วเหรอ”
ติดตามเรื่องราวปริศนาอันน่าตื่นเต้นต่อได้ที่ลิ้งค์นี้นะคะ
https://youtu.be/FaHAyFegKSE
สาปอัปสรานครขอมโบราณ ตอน อวสานสมิงบายันนครอินทร์ (P.2)
เสือสมิงคล้ายจะได้รับบาดเจ็บไปด้วยกับสางดง เหมือนพวกมันผูกร่างอยู่ด้วยกัน เพราะทันทีที่สางดงถูกนางตะเคียนพุ่งเข้าจู่โจมจนเลือดสาด ร่างของเสือสมิงก็สั่นกระตุกขึ้น มันหยุดชะงักจากการกัดฟัดกับจ่าชิตและคะยอ หันมามองสางดงที่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป้าหมายพุ่งเข้ามาหานางตะเคียนแทน แรงปะทะอันมหาศาลของเสือตัวใหญ่กว่าแปดศอก พุ่งโถมทับลงบนร่างของนางตะเคียนให้ตกอยู่ภายใต้ร่างของมัน สางดงพุ่งทะยานตามมา หวังจะรุมสกรัมนางตะเคียนด้วยอีกคน นางตะเคียนดิ้นรนป้องกันตัว กรีดร้องเสียงแหลม ฟาดกรงเล็บเข้าใส่ใบหน้าของเสือสมิงอย่างไม่ยั้ง ทำให้มันก้มลงทำร้ายเธอได้ไม่ถนัด
จ่าชิตรีบพุ่งตัวไปคว้าปืนที่พื้นขึ้นมาลั่นไกใส่สางดง แต่แรงกระสุนก็แค่ทำให้มันสะดุดหยุดลงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น มันหันขวับมาทางจ่าชิตกับคะยอ ย่างสามขุมเข้ามาหาอีกคำรบหนึ่ง จ่าชิตยิงกระสุนเข้าปะทะมันไว้เป็นระยะ ทำให้มันก้าวขาช้าลง จนกระทั่งเหนี่ยวไกยิงได้ยินเสียงดังแชะ! แสดงว่าลูกกระสุนได้หมดลงเสียแล้ว สางดงแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย บัดนี้เนื้อตัวมันเห็นกระจ่างชัดแล้วว่า เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง
“พราหมณ์สุมณะ”
คะยอร้องออกมาอย่างตกใจ เพราะจำใบหน้าของสางดงตนนี้ได้ทันที ผู้ชายคนนี้แต่ก่อนเคยเป็นชาวทมิฬวรรณะพราหมณ์ ได้เดินทางมาจากอินเดีย หวังจะมาตามหาเมืองปริศนาอินทรบุรี แต่ตามหาอย่างไรก็หาไม่เจอ จึงเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเป็นเวลานานหลายปี ก่อนจะออกเดินทางกลับไปยังบ้านเมืองเดิมของตน ไม่นึกว่าแท้จริงแล้ว เขาไม่ได้กลับไป แต่กลับกลายเป็นสางดงอยู่ในป่าแห่งนี้นี่เอง
สางดงครางฮื่อในลำคอ สืบเท้าเข้ามาหาด้วยสีหน้าท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือ
อีกด้านหนึ่งที่เสือสมิงกำลังต่อสู้อยู่กับนางตะเคียน อ่องแลค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้นยืน เขากระชับกริชลงอาคมของแม่หมอยีบาที่เคยได้รับมาเมื่อนานมาแล้ว แม่หมอให้มาเพื่อใช้ป้องกันตัว มันเป็นกริชของเผ่าบายันที่เอาไว้ป้องกันเสือบายันที่บางทีอาจกลายเป็นเสือสมิง สายตาจ้องมองไปยังเสือที่กำลังก้มลงพยายามขบกัดนางตะเคียน อ่องแลรวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่โผนเข้าแทงกริชไปที่ดวงตาข้างขวาของมัน
ฉึก!
โฮกกกก!
เสือสมิงผงะออกจากร่างของนางตะเคียน กริชเล่มนั้นอาจไม่ระคายผิวส่วนอื่นของมัน แต่ไม่ใช่ที่ดวงตามัน!
เลือดสีแดงไหลโกรกท่วมดวงตาข้างนั้นของเสือ กริชปักคาตาอย่างน่าสยดสยอง และก็เช่นกัน สางดงเองก็ได้ร้องลั่นขึ้น มันยกมือกุมตาขวา หันมาจ้องอ่องแลด้วยดวงตาข้างเดียวที่เรืองแสงสีเขียวปัด ผละออกมาจากจ่าชิตและคะยอ ทะยานเข้าหาอ่องแลด้วยท่าทางโกรธจัด แต่นางตะเคียนที่หลุดออกจากอุ้งเล็บของเสือมาแล้ว ก็พุ่งปราดเข้าขวางทางมัน มันจึงใช้มือที่มีเล็บแหลมยาวจับตัวเธอด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างกระซวกเสียบทะลุหน้าท้องของเธอไป ขิ่นยอกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด สางดงกระซวกเล็บแหลมซ้ำ ๆ เข้าไปในตำแหน่งเดิม ได้ยินเสียงนางตะเคียนสำลักเลือดดังอยู่ในลำคอ ก่อนที่ลำตัวจะอ่อนพับลง คล้ายกำลังจะถึงกาลอวสานแห่งดวงวิญญาณตนเอง อ่องแลกู่ก้องออกมาอย่างเจ็บแค้น
“ไอ้สางระyam มืงฆ่าน้องกูซ้ำอีกแล้วเหรอ”
ติดตามเรื่องราวปริศนาอันน่าตื่นเต้นต่อได้ที่ลิ้งค์นี้นะคะ https://youtu.be/FaHAyFegKSE