JJNY : 5in1 อิ๊งค์นำทัพบุกสุรินทร์│‘อิ๊ง’ขอบคุณชาวบุรีรัมย์│พิธา-ปิยบุตรพบชาวอุดรฯ│สะพัด! ไม่ต่อ"พักหนี้"│บัคมุตเดือด

อิ๊งค์ นำทัพบุกสุรินทร์ โบกธงเพื่อไทยแลนด์สไลด์ยกจังหวัด “พ่อแม้ว-อาปู” ฝากความคิดถึงทุกคน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7544061
 
 
อิ๊งค์ นำทัพบุกสุรินทร์ โบกธงเพื่อไทยแลนด์สไลด์ยกจังหวัด โอ๊ค ขนาบข้างกายคอยระวังหลังให้น้องสาว เผย “พ่อแม้ว-อาปู” ฝากความคิดถึงทุกคน
 
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.66 ที่จ.สุรินทร์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคฯ พร้อมคณะ และว่าที่ผู้สมัครส.ส.สุรินทร์ ทั้ง 8 เขต เดินทางเข้าสักการะอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ที่อ.เมืองสุรินทร์ โดยว่าที่ผู้สมัครส.ส.สุรินทร์ พร้อมใจกันชูธงแดงโบกสะบัดขอพร เพื่อให้พรรค พท. แลนด์สไลด์ยกจังหวัด
 
จากนั้นเวลา 15.00 น. น.ส.แพทองธาร และคณะ เดินทางเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ตลาดเมืองใหม่ไอคิว อ.เมืองสุรินทร์ ท่ามกลางประชาชนร่วมเวทีปราศรัยเนืองแน่นจนล้นพื้นที่ และส่งเสียงเชียร์ดังกึกก้องต้อนรับน.ส.แพทองธาร เมื่อเดินทางมาถึงเวทีปราศรัย
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวทีปราศรัยตั้งแต่จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และจ.สุรินทร์ นายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย ได้เดินขนาบข้างคอยระวังหลังให้ น.ส.แพทองธาร ที่มีอยู่อายุครรภ์ 7 เดือนกว่า อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เดินเข้าสถานที่และขึ้นลงเวทีปราศรัย เนื่องจากช่วงนี้น.ส.แพทองธาร มักมีอาการเหนื่อยหอบและอาการหายใจไม่ทันอยู่บ่อยครั้ง
 
น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า วันนี้ได้มาสุรินทร์รู้สึกดีใจมาก ขอบคุณสำหรับกำลังใจอันล้นหลามในวันนี้ ถามว่าทุกคนคิดถึงพ่อใหญ่ทักษิณ และคุณอายิ่งลักษณ์ บ้างหรือไม่ ซึ่งทางไกลก็ฝากความคิดถึงกับพี่น้องชาวสุรินทร์มาด้วย และย้ำนโยบายต่างๆ หากพรรค พท. ได้กลับมาเป็นรัฐบาล ทั้งการปราบปรามยาเสพติดด้วยวิธี 3 “ป.” แก้ไขปัญหาที่ทำดินทำกิน และสินค้าการเกษตรต้องมีราคาสูงขึ้น ยืนยันว่าเราไม่ได้สัญญาลมๆ แล้งๆ เพราะเคยทำมาแล้วและจะทำอีก ดังนั้นขอให้พี่น้องเข้าคูหากาพรรค พท. ทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ทั้งสุรินทร์


 
‘อิ๊ง’ ขอบคุณชาวบุรีรัมย์ แห่ฟังปราศรัยเยอะ ลั่นทุกพื้นที่สำคัญ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3857266
 
‘อิ๊ง’ ขอบคุณชาวบุรีรัมย์ แห่ฟังปราศรัยเยอะ ลั่นทุกพื้นที่สำคัญ ‘ชลน่าน’ ชี้ ปชช.อยากออกจากวิกฤตเป็นคำตอบในคูหาเลือกตั้ง
 
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ จ.บุรีรัมย์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดเผยถึงบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียง จ.บุรีรัมย์ ว่ารู้สึกใจชื้น และขอเป็นตัวแทนพรรค พท.ขอบคุณพี่น้องชาวบุรีรัมย์ที่มากันเยอะมาก และไม่ลุกออกจากที่นั่งเลยจนจบ ถึงแม้จะเป็นเวลาเที่ยงก็ยังแน่นเหมือนเดิม
 
เมื่อถามถึงนโยบายยาเสพติดจะนำมาใช้ในการชิงคะแนนเสียงจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า นโยบายยาเสพติดของพรรค พท.เป็นนโยบายระดับประเทศ แต่ใน จ.บุรีรัมย์ เราได้ทำการศึกษาพื้นที่แล้วพบว่าเป็นจังหวัดที่ยาเสพติดเยอะมาก จึงต้องนำเอานโยบายนี้มาใช้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรามีแนวทางแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและลูกหลานจริงๆ
 
ส่วนการตั้งข้อสังเกตจากผู้สนับสนุนพรรคที่มองว่าเวทีบุรีรัมย์การปราศรัยเข้มข้นนั้น น.ส.แพทองธารหัวเราะก่อนถามกลับว่า “ดุเดือดไหม เวทีอื่นเป็นยังไง เราก็เต็มที่
 
ถามต่อว่า จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นพื้นที่สำคัญของพรรค ภท.จะแข่งขันอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ทุกพื้นที่สำคัญ การแลนด์สไลด์จะอาศัยเพียงพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งไม่ได้ ทุกพื้นที่สำคัญมาก และไม่ว่าคนจะมองว่าพื้นที่นั้นเราจะแพ้ หรือชนะก็เดินหน้าเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจต่อ
 
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึง ความคาดหวังจำนวน ส.ส.ในบุรีรัมย์ว่า จากการเลือกตั้งปี 2554 เราได้ 2 ที่นั่ง มาวันนี้ก็ไม่น่าจะต่ำกว่านั้น
 
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรค พท. กล่าวเสริมว่า อยู่ที่ความไว้วางใจของประชาชน ซึ่งกระแสของพรรคก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้น ขอไม่คำนวณตัวเลข แต่มั่นใจว่าประชาชนอยากออกจากวิกฤต นี่คือคำตอบในคูหาเลือกตั้ง
 
เมื่อถามถึงหลักการการบุกรุกที่ดินเขากระโดง กรณีการทุจริตรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไปจนถึงกรณีการซุกหุ้น จะถูกหยิบยกมาใช้ในการปราศรัยด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าพฤติการณ์ของกลุ่มการเมือง หรือนักการเมืองที่เข้าไปทำหน้าที่เพื่อประชาชนนั้นเกิดผลกระทบต่อประชาชนอย่างไร อย่างกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่เห็นว่าไม่ชอบในการซุกหรือถือหุ้นอยู่ ศาลก็รับคำร้องและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีผลการพิจารณาเรื่องการดำเนินการตามมาตรา 144 นำงบประมาณไปใช้ทางตรงหรืออ้อมในฐานะกรรมาธิการกำลังจะตามมาอีก สิ่งเหล่านี้ต้องทำความจริงให้ปรากฏจนได้
  

  
พิธา-ปิยบุตร เดินสายพบชาวอุดรฯ ปลุกกาเลือกก้าวไกล เปลี่ยนให้การเมืองดี ประเทศมีอนาคต
https://www.matichon.co.th/politics/news_3857391

พิธา-ปิยบุตร เดินสายพบชาวอุดรฯ ปลุกกาเลือกก้าวไกล เปลี่ยนให้การเมืองดี ประเทศมีอนาคต
 
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ร่วมกันเดินสายหาเสียงในภาคอีสานอย่างต่อเนื่องที่จังหวัดอุดรธานี ช่วงเช้า ได้ร่วมเดินสายหาเสียงไปกับ อานันท์ อมรินทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี พรรคก้าวไกล โดยขึ้นรถอีแต๋นแห่หาเสียงไปตามถนนสายหลักของ อ.ศรีธาตุ ก่อนร่วมกันเปิดเวทีปราศรัยที่โรงเรียนศรีธาตุวิทยาคม ท่ามกลางประชาชนชาวศรีธาตุที่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
 
นายปิยบุตร ปราศรัยว่าที่ผ่านมาจากพรรคอนาคตใหม่มาสู่พรรคก้าวไกล เราได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นพรรคการเมืองที่ทำหน้าที่ในสภาได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีมวยล้มต้มคนดู อภิปรายทุกครั้งทุกคนยกให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่อภิปรายได้ดีเยี่ยม ไม่มีมองว่ารัฐมนตรีคนไหนเป็นเพื่อนเก่า ไม่มีมองว่ารัฐมนตรีคนไหนช่วยดูแลอยู่ รัฐมนตรีคนไหนประพฤติมิชอบพรรคก้าวไกลอภิปรายแทนประชาชนทั้งหมด
 
พรรคก้าวไกลยังได้เสนอแนวนโยบายแทนประชาชนหลายเรื่องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งเรื่องการยกเลิกเกณฑ์ทหาร ทั้ง พ.ร.บ.แรงงาน, พ.ร.บ.บำนาญประชาชน, การแก้ปัญหาที่ดิน ฯลฯ หลายกฎหมายถูกนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตีตก ถูกคว่ำร่างกฎหมาย แต่ก็สร้างแรงสั่นสะเทือน ประชาชนสนับสนุนสิ่งที่พรรคก้าวไกลผลักดันอย่างกว้างขวาง ขนาดพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านยังทำได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นรัฐบาลจะทำได้ขนาดไหน
 
ขณะที่นายพิธา ระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทุกคนสามารถเลือกเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้ เพื่ออนาคต 60% ของเด็กเล็กในอุดรธานีอยู่ในครอบครัวที่ยากจน เราต้องมีรัฐสวัสดิการให้ลูกเด็กเล็กแดง คืนครูให้กับห้องเรียน ยกเลิกระบบครูเวรทันที โรงเรียนต้องเป็นที่ปลอดภัยของทุกคน เราต้องกระจายอำนาจ เพิ่มอำนาจและงบประมาณให้ท้องถิ่นทุกระดับ ยกเลิกรัฐราชการรวมศูนย์ ไม่ใช่อย่างที่ประยุทธ์ไปพูดผิดๆ ว่าจะยุบ อบต.
 
การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกลเสนอว่านอกจากเรื่องของปัญหาปากท้องแล้ว เรายังต้องแก้ปัญหาการเมือง ซึ่งรวมไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีที่แล้วด้วย ยืนยันในนโยบายการเมืองของเรา ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีที่แล้วต้องได้รับการแสวงหาข้อเท็จจริง จึงจะสร้างการปรองดองได้
.
ไม่ต้องกลัวคะแนนตกน้ำ เลือกทั้งทีต้องเลือกให้ขาด เลือกให้เปลี่ยนจริงๆ เลือกก้าวไกลให้ถล่มทลายเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนแปลงได้ เปลี่ยนให้การเมืองดี เปลี่ยนให้ปากท้องดี ให้ประเทศไทยมีอนาคต” นายพิธา กล่าว
 

  
สะพัด! ชงครม.ไม่ต่อ "พักหนี้" ธุรกิจหวั่นหมุนเงินก้อนไม่พอจ่าย เสี่ยงหนี้ท่วมหนัก
https://www.matichon.co.th/economy/news_3857273

สะพัด! ชงครม.ไม่ต่อมาตรการ “พักหนี้” ภาคธุรกิจหวั่นหมุนเงินก้อนไม่พอจ่าย เสี่ยงหนี้ท่วมหนัก ฟากแบงก์ยันหมดพักหนี้ไม่กระทบลูกค้า  คาดรัฐเตรียมแพ็คเกจใหม่อุ้ม
 
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม แหล่งข่าวจากสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า หลังจากภาคธุรกิจได้มีการร้องขอให้รัฐบาล โดยได้นำหนังสือผ่านกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอให้ทบทวนมาตรการและขยายมาตรการพักหนี้ ที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายนนี้ ไปอีกอย่างน้อย 1 ปี
เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่เจอผลกระทบจากช่วงโควิด ส่งผลต่อรายได้และสภาพคล่องทางการเงินยังไม่ฟื้นตามคาดการณ์ ต้องเจอปัญหาไม่อาจหาเงินก้อนเพื่อจ่ายชำระหนี้ได้ และอาจถูกขึ้นเป็นลูกค้าเสียของธนาคาร ซึ่งกระทบต่อการเข้าถึงแหล่งทุนใหม่ในอนาคต อาจทำให้บ้างส่วนต้องเลิกกิจการ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี และรายย่อย
 
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือกันมาตลอด และยังมีเสียงที่แตกต่างกัน ผู้คุมนโยบายรัฐบางส่วน ไม่เห็นด้วยให้ต่อมาตรการพักหนี้ แต่ให้ความสำคัญและปรับเป็นมาตรการฟื้นฟูในแบบต่างๆแทน โดยให้ ธปท.รวบรวมและส่งให้กระทรวงการคลังนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มีกระแสว่าจะนำเสนอเร็วสุดต่อที่ประชุม ครม. วันที่ 7 มีนาคมนี้ หากไม่ทันก็จะเสนอให้ทันเดือนมีนาคมนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนได้ทันที หากมีการยุบสภาและอยู่ในช่วงการเลือกตั้ง” แหล่งข่าว กล่าว
 
นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงกรณีมาตรการสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟู และพักทรัพย์ พักหนี้ (Ware Housing) จะครบอายุวันที่ 9 เมษายน 2566 และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กับกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการพิจารณาจะต่อขยายอายุมาตรการเพิ่มอีก 1 ปีหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่สามารถต่ออายุได้อีก 1 ปี โดยเป็นเรื่องกระทรวงการคลังพิจารณาและนำเรื่องเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้พิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการต่อหรือปรับเปลี่ยน นั้น
 
นางสาวเกวลิน กล่าวว่า เรื่องอายุมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ หากกรณีที่มีการต่ออายุจะช่วยให้ลูกหนี้ที่อยู่นอกมาตรการเข้าร่วมได้มากขึ้น รวมถึงลูกหนี้ที่อยู่ในมาตรการยังได้รับประโยชน์ตามเงื่อนไขที่มาตรการกำหนด ขณะเดียวกัน ถ้าพิจารณาแล้วไม่มีการต่ออายุ และมีกลุ่มลูกหนี้อยู่ในมาตรการกังวลเรื่องการชำระหนี้ที่ต้องนำเงินก้อนมาชำระทันที นั้น
 
มองว่า สถาบันการเงิน หรือธนาคารต่างๆ เป็นเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการ โดยเงื่อนไขการชำระหนี้คืนของลูกหนี้ อาจมีการเจรจาที่มีเงื่อนไขระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อการชำระหนี้คืน เช่น การทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาวตามวงเงินหนี้ การพิจารณาการชำระเงินตามความสามารถของลูกหนี้ที่ต้องไม่ส่งผลกระทบทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ หรือส่งผลกระทบต่อลูกหนี้น้อยที่สุด เป็นต้น
 
นอกจากนี้ สถาบันการเงินต้องมีมาตรการของแต่ละธนาคารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ลูกหนี้ และต้องลดความเสี่ยงของธุรกิจธนาคาร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) จนกระทบต่อต้นทุนธุรกิจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่