นายกฯชูปี 68 แก้ยาเสพติด- ดันสุราชุมชน ไร้พูด “30 บาทรักษาทุกที่” คาดรอแถลง 25 ธ.ค.ทำเนียบรัฐบาล

แพทองธาร ชูนโยบายปี 68 คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติด จัดแพลตฟอร์มแจ้งเบาะแสส่งตรงนายกฯ ทุกอย่างเป็นความลับ พร้อมดัน สุราชุมชน เปิดโอกาสเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สร้างอาชีพ ส่วนประเด็น 30 บาทรักษาทุกที่ ยังไม่ได้พูดในเวทีนี้ คาดเตรียมแถลงแยกเปิดความพร้อม 25 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2567 ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลงานครบรอบ 90 วันที่รัฐบาลได้ปฏิบัติหน้าที่   ภายใต้แคมเปญ  “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง : 2025 Empowering Thais: A Real Possibility ”   

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวเริ่มต้นงานว่า ผลงานของรัฐบาลแพทองธาร เป็นผลงานที่ต่อเนื่องมาจากการบริหารงานของอดีตนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา   วันนี้รัฐบาลแพทองธารได้ทำงานผ่านความร่วมมือของคณะรัฐมนตรีและพี่น้องข้าราชการ เพื่อพี่น้องประชาชนมาแล้ว 90 วันเต็ม ทำให้วันนี้  “ทุกคนคือทีมเดียวกัน”  และจะร่วมกันเดินไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ วางรากฐานของประเทศไทยในทศวรรษหน้า ให้คนไทยมีกิน-มีใช้-มีเกียรติ-มีศักดิ์ศรี ประเทศไทยในปี 2568 จะเป็นปีแห่ง “โอกาส” รัฐบาลจะสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างอนาคตที่เป็นจริง

แก้น้ำท่วมน้ำแล้ง -หมอกควัน
 
นโยบายแรก คือ การแก้ไขปัญหา “น้ำท่วม-น้ำแล้ง”  น้ำต้องเพียงพอสำหรับการอุปโภค บริโภค เกษตร และอุตสาหกรรม ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการทั้งระยะสั้น-กลาง-ระยะยาว   รวมทั้งการศึกษาแนวทางที่จะอนุญาตให้ประชาชนขุดลอกคูคลองแล้วนำดินไปใช้หรือขายได้ และให้มีการศึกษาโครงการ Floodway และโครงสร้างขนาดใหญ่ที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างยั่งยืนด้วย
 
นโยบายต่อมาคือเรื่องปัญหา “หมอกควัน”  นายกรัฐมนตรีประกาศ KPI ว่า PM 2.5 จะต้องลดน้อยลง ทั้งในแง่ปริมาณฝุ่นและตัวเลขประชาชนที่ป่วยจากฝุ่น ต้องลดลงทุกปี โดยปัจจุบันรัฐบาลควบคุมการเผาในประเทศ การเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านให้ลดการเผา และการออกกฎหมาย พ.ร.บ. อากาศสะอาด
 
จัดแพลตฟอร์มแจ้งเบาะแสยาเสพติด

“เรื่องยาเสพติด กลับมาระบาดในประเทศไทย เรื่องนี้กักศักยภาพคนไทยเอาไว้ แต่มียาเสพติดเป็นอุปสรรค รัฐบาลเอาจริงเรื่องนี้และประชาชนต้องช่วยกัน โดยจะทำแพลตฟอร์มแจ้งเบาะแสยาเสพติด สามารถส่งข้อความตรงถึงนายกรัฐมนตรี และรักษาข้อมูลของท่านเป็นความลับ ไม่ต้องกังวล เรามุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย และจากโมเดลท่าวังผา จ.น่าน และธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ถือเป็นโมเดลการแก้ปัญหายาเสพติดได้ดี โดยจะศึกษาจากโมเดลนี้และขยายไปทั่วประเทศ โดยเรื่องนี้มอบให้รองนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย ดำเนินการ” น.ส.แพทองธาร กล่าว 
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “การผูกขาดทุกชนิด เป็นการเพิ่มต้นทุนให้ประชาชน และทำให้พี่น้องประชาชนยากจนลง” รัฐบาลจะเร่งดำเนินการปลดล็อคการผูกขาด โดยเฉพาะ เรื่องข้าว ที่ตั้งเป้าให้เกษตรกรทุกคนสามารถส่งออกข้าวไปทั่วโลกได้เอง หรือการปลดล็อคการผูกขาดราคาพลังงานด้วยเงื่อนไขทางกฎหมาย เพื่อปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า ค่าพลังงานให้ถูกลงให้ได้

ดัน "สุราชุมชน"
 
ยังมีเรื่อง “สุราชุมชน” เป็นการเปิดโอกาส เปิดพื้นที่ให้ประชาชนที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างอาชีพตนเอง แต่ยังมีข้อจำกัดด้านกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตลาดเครื่องดื่มของไทย อย่างน้ำแร่ น้ำหวาน ส่งออกมากกว่าปีละ 7 หมื่นล้านบาท และรัฐเก็บภาษีได้กว่า 1.8 กว่าแสนล้านบาทต่อปี ถือมีโอกาสเติบโตเกี่ยวกับธุรกิจเรื่องน้ำ ซึ่งการส่งเสริมสุราชุมชน เกษตรกรย่อมได้ประโยชน์
“รัฐจะนำธุรกิจนอกระบบ จากใต้ดิน ขึ้นมาบนดิน เพื่อจะปกป้องประชาชนได้ เอาทุกอย่างขึ้นมา ควบคุมได้ เก็บภาษีได้นำมาต่อยอดประเทศได้” น.ส.แพทองธารกล่าว
 
30 บาทรักษาทุกที่รอแถลง 25 ธ.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย ในการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น 30 บาทรักษาทุกที่ ไม่ได้มีการหยิบยกมาพูดในเวทีดังกล่าว คาดว่า จะแยกออกมาเพื่อรอเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ธ.ค.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อคิกออฟความพร้อม 30 บาทรักษาทุกที่ครอบคลุมทุกจังหวัดในปี 2567 และในปี 2568 พร้อมรันระบบ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวกระดาษ แต่เป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อมข้อมูลผู้ป่วยถึงกันระหว่างสถานพยาบาลภายใต้ความปลอดภัยทางไซเบอร์

นโยบายใหม่ปี 68

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการแถลงวันนี้(12 ธ.ค.) ส่วนใหญ่เน้นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการพัฒนาคนเพื่อมาพัฒนาประเทศ อย่าง นโยบายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปี 2568  นายกฯ กล่าวถึงนโยบาย “หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน” หรือ ODOS กลับมาอีกครั้ง โดยใช้งบประมาณจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งมีโครงการที่เปิดโอกาสให้เด็กไทยได้ไปฝึกภาษาที่ต่างประเทศเป็นเวลาสั้นๆ ในโครงการ “1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์” และโครงการอัพเกรดโรงเรียนประจำอำเภอ ทำให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ เติมครู เติมเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา และ AI ให้เด็ก ๆ ในทุกอำเภอ และยังมี โครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” (Public Housing) คอนโดคุณภาพดีพร้อมเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ เริ่มต้นประมาณ 30 ตารางเมตร ผ่อนเดือนละประมาณ 4,000 บาท เป็นเวลาประมาณ 30  ปี และให้สิทธิอยู่อาศัย 99 ปี ที่จะเป็นความหวังของคนไทยที่อยากมีบ้าน
 
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีประกาศว่า จะดำเนินโครงการเงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 โดยเงินสดจะถึงมือผู้สูงอายุประมาณ 4 ล้านราย  ไม่เกินตรุษจีน นี้  หลังจากนั้น จะดำเนินการระยะที่ 3 สำหรับบุคคลทั่วไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องพร้อมกับยกระดับประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัล
 
ยังมีการแก้หนี้ครัวเรือน โดยเน้นที่หนี้  “รถยนต์”  และ “บ้าน” โดยธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคาร ตกลงที่จะลดการส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูลง 0.23% ซึ่งเป็นเงินกว่า 39,000 ล้านต่อปี และธนาคารพาณิชย์จะเติมให้อีก 39,000 รวมกันเป็น 78,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อพักดอกเบี้ย 3 ปี ให้ลูกหนี้จ่ายคืนเงินต้นได้เต็มจำนวน โดยจะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2568 พร้อมมาตรการประนอมหนี้แบบพิเศษที่จะล้างหนี้ให้ทั้งหมด สำหรับลูกหนี้มูลหนี้ต่ำกว่า 5,000 บาท.

https://www.hfocus.org/content/2024/12/32484
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่