ในช่วงวันสำคัญทางศาสนา จะมีประชาชนผู้มีจิตศรัทธาซื้อสินค้าชุดสังฆทานหรือชุดไทยธรรม นำไปถวายภิกษุสงฆ์เพื่อทำบุญเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว ในปัจจุบันได้มีการนำสินค้าหลายชนิดมาบรรจุ หรือห่อหุ้มรวมกันเป็นสินค้าชุดสังฆทาน หรือชุดไทยธรรม (ชุดไทยทาน) เพื่อขาย ซึ่งสินค้าบางชนิดที่นำมารวมนั้น มีอายุการใช้งาน เมื่อนำมาบรรจุ หรือห่อรวมกันแล้ว ทำให้ผู้ซื้อไม่รู้ว่าสินค้าภายในมีอะไรบ้าง และหมดอายุเมื่อไหร่ นอกจากนี้สินค้าดังกล่าวอาจทำปฏิกิริยากันได้อีกด้วย เช่น สินค้าเมื่อหมดอายุ หรือ เกิดปฏิกิริยาเมื่อนำมาไว้รวมกัน อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสี กลิ่น หรือรส จนอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับข้อมูลข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องตรงต่อความจริง ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ คณะกรรมการว่าด้วยฉลากจึงออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ ๒๓ (พ.ศ. ๒๕๕๐) เรื่อง ให้ชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก โดยผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม มีหน้าที่ต้องจัดทำฉลาก ใช้ข้อความที่ตรงต่อความเป็นจริงไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ และต้องเป็นภาษาไทยหรือภาษาไทยกำกับภาษาต่างประเทศที่สามารถเห็นและอ่านได้อย่างชัดเจน ซึ่งข้อความที่แสดงจะต้องระบุข้อความดังนี้
๑. คำว่า “ชุดสังฆทาน หรือชุดไทยธรรม”
๒. รายการสินค้าที่ระบุขนาด มิติ ปริมาณ ปริมาตร น้ำหนัก จำนวน และราคาของสินค้าแต่ละรายการ
๓. ชื่อและสถานที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายชุดสังฆทานหรือชุดไทยธรรม
๔. วันเดือนปีที่หมดอายุ หรือวันเดือนปีที่ควรใช้ก่อน ของสินค้าใดสินค้าหนึ่งที่นำมารวมนั้นระบุว่าเร็วที่สุด
๕. วันเดือนปีที่บรรจุ
๖. ราคารวมชุดจัดบรรจุที่ระบุหน่วยเป็นบาท
๗. คำเตือน เช่น ใบชา ข้าวสาร สบู่ และผงซักฟอก อาจทำปฏิกิริยากัน จนทำให้มีสี กลิ่น หรือรส เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค เนื่องจากในการใช้หรือโดยสภาพของสินค้านั้นได้ ดังนั้น ผู้ใช้ควรแยกสินค้าที่อาจทำปฏิกิริยากันได้นั้นออกจากกันโดยเร็ว (กรณีที่มีการนำสินค้าที่อาจทำปฏิกิริยากันจนทำให้มี กลิ่น หรือ รสเปลี่ยนแปลงไปซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค เนื่องจากในการใช้หรือโดยสภาพของสินค้านั้นได้)
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบธุรกิจไม่ดำเนินการจัดทำฉลากสินค้าให้ถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการ
ว่าด้วยฉลาก ๒๓ (พ.ศ. ๒๕๕๐) เรื่อง ให้ชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก จะมีความผิดตามมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผู้ใดขายสินค้าที่ควบคุมฉลากตามมาตรา ๓๐ โดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง โดยรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าการไม่มีฉลากหรือการแสดงฉลากดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทถ้วน หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นการกระทำของผู้ผลิตเพื่อขาย หรือสั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าดังกล่าวสามารถร้องเรียนผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางแอปพลิเคชัน OCPB Connect พูดคุยสอบถามกับ Chat Bot พี่ปกป้องได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ทางเว็บไซต์ www.ocpb.go.th โดยผู้บริโภคสามารถร้องเรียนออนไลน์ได้สะดวก ประหยัดเวลา หรือโทรมาสอบถามข้อมูลที่ สายด่วน สคบ. ๑๑๖๖ หรือมาด้วยตนเองที่ศูนย์ราชการฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี หรืออาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ทุกจังหวัด
การเลือกซื้อสังฆทานอย่างไรให้ได้บุญและประโยชน์
๑. คำว่า “ชุดสังฆทาน หรือชุดไทยธรรม”
๒. รายการสินค้าที่ระบุขนาด มิติ ปริมาณ ปริมาตร น้ำหนัก จำนวน และราคาของสินค้าแต่ละรายการ
๓. ชื่อและสถานที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายชุดสังฆทานหรือชุดไทยธรรม
๔. วันเดือนปีที่หมดอายุ หรือวันเดือนปีที่ควรใช้ก่อน ของสินค้าใดสินค้าหนึ่งที่นำมารวมนั้นระบุว่าเร็วที่สุด
๕. วันเดือนปีที่บรรจุ
๖. ราคารวมชุดจัดบรรจุที่ระบุหน่วยเป็นบาท
๗. คำเตือน เช่น ใบชา ข้าวสาร สบู่ และผงซักฟอก อาจทำปฏิกิริยากัน จนทำให้มีสี กลิ่น หรือรส เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค เนื่องจากในการใช้หรือโดยสภาพของสินค้านั้นได้ ดังนั้น ผู้ใช้ควรแยกสินค้าที่อาจทำปฏิกิริยากันได้นั้นออกจากกันโดยเร็ว (กรณีที่มีการนำสินค้าที่อาจทำปฏิกิริยากันจนทำให้มี กลิ่น หรือ รสเปลี่ยนแปลงไปซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค เนื่องจากในการใช้หรือโดยสภาพของสินค้านั้นได้)
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบธุรกิจไม่ดำเนินการจัดทำฉลากสินค้าให้ถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการ
ว่าด้วยฉลาก ๒๓ (พ.ศ. ๒๕๕๐) เรื่อง ให้ชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก จะมีความผิดตามมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผู้ใดขายสินค้าที่ควบคุมฉลากตามมาตรา ๓๐ โดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง โดยรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าการไม่มีฉลากหรือการแสดงฉลากดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทถ้วน หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นการกระทำของผู้ผลิตเพื่อขาย หรือสั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าดังกล่าวสามารถร้องเรียนผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางแอปพลิเคชัน OCPB Connect พูดคุยสอบถามกับ Chat Bot พี่ปกป้องได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ทางเว็บไซต์ www.ocpb.go.th โดยผู้บริโภคสามารถร้องเรียนออนไลน์ได้สะดวก ประหยัดเวลา หรือโทรมาสอบถามข้อมูลที่ สายด่วน สคบ. ๑๑๖๖ หรือมาด้วยตนเองที่ศูนย์ราชการฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี หรืออาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ทุกจังหวัด