บิ๊กอสังหาฯ ชี้ ‘เศรษฐา’ เหมาะแคนดิเดตนายก ‘บิ๊กตู่’ บอกประเทศไม่ใช่ธุรกิจ คิดแบบทหาร
https://www.matichon.co.th/economy/news_3851931
บิ๊กอสังหาฯ เผยเลือกตั้งใหม่ดีต่อเศรษฐกิจ ชี้”เศรษฐา”เหมาะแคนดิเดตนายก กล้าคิด ตัดสินใจฉับไว
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นาย
ศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการที่รัฐบาลจะประกาศยุบสภา เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2566 จะทำให้ประชาชนและนักลงทุนไทยและต่างชาติ เกิดความหวังและเห็นความชัดเจนทั้งสถานการณ์การเมืองและนโยบายใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศจากรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง หลัง 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลอาจจะทำอะไรไม่ได้มาก เพราะสถานะของรัฐบาลก็ไม่เสถียรและมุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงมากเกินไป
นาย
ศานิตกล่าวว่า ขณะที่เศรษฐกิจไทยต้องการแรงขับเคลื่อนหลังเจอวิกฤตทั้งภายในและภายนอก ทำให้เกิดความเปราะบาง ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามา ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ต้องมีทีมครม.ที่เข้มแข็ง และทีมเศรษฐกิจที่เก่งและมีฝีมือจริงๆ เพื่อดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน เช่น ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสู้กับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม
กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เมียนมา รวมถึงจีน ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเศรษฐกิจไทยจะกลับมาได้ก็ต่อเมื่อมีการเลือกตั้งใหม่
“
อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งสางเรื่องภาวะหนี้ครัวเรือนที่กระทบต่อภาคธุรกิจให้มีสัดส่วนที่ลดลง ซึ่งธุรกิจอสังหาฯจะเจอปัญหากู้ซื้อบ้านไม่ผ่านเยอะมาก รวมถึงอยากให้เร่งรัดผังเมืองรวมกรุงเทพฯและจังหวัดปริมณฑล มีผลบังคับใช้โดยเร็วเพราะล่าช้ามานานมากแล้ว หากปลดล็อกได้จะทำให้การลงทุนและพัฒนาใหม่เกิดขึ้นและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะในแนวรถไฟฟ้าในเมืองและชานเมือง อีกทั้งขอให้เร่งเปิดใช้รถไฟฟ้าสายที่กำลังสร้างทั้งสีชมพู สีเหลือง สีส้ม และสร้างส่วนต่อขยายที่เหลือโดยเร็ว เพราะช่วยทั้งการพัฒนาเมืองและแก้ปัญหาการจราจรได้” นาย
ศานิตกล่าว
นาย
ศานิตยังกล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยมีการแต่งตั้งนาย
เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและยังติดโผเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่า
“
คุณเศรษฐาถือว่ามีความเหมาะสม ด้วยวัย บุคลิก มีความสด และเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจนพาแสนสิริมาอยู่แถวหน้าของวงการ ยังเป็นคนที่กล้าคิด มีการตัดสินใจที่ฉับไว ถือว่าเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้อีกคน เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้”
นาย
ศานิตกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม พรรคไหนจะเป็นรัฐบาลขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนมากกว่า การที่พลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพูดว่า ”
ประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ” เพราะท่านคิดแบบทหาร ซึ่งประเทศไทยมีคนหลายกลุ่ม ซึ่งนักธุรกิจก็เป็นกลุ่มหนึ่ง อยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินจะเลือกพรรคไหน เพราะพรรคการเมืองเท่าเทียมกันหมดและพรรคเพื่อไทยก็เป็นพรรคใหญ่
ดร.พิชาย วิเคราะห์เกมเดือด ชูวิทย์vsภูมิใจไทย สมคบคิดทำลายคู่แข่ง ตัดคะแนน
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_3851631
สัมภาษณ์พิเศษ: ดร.
พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) วิเคราะห์การเมืองร้อนแรง เดินหน้าสู่ศึกเลือกตั้ง เบื้องหลัง
ชูวิทย์ ฟาดแรง
อนุทิน -เนวิน ผลพวงแข่งขันชิงคะแนน รวมไทยสร้างชาติ เข้าข่ายทฤษฎีสมคบคิด ชมคลิปด้านล่าง
ศาลสั่งจำคุก 'อาชีวะปกป้องสถาบัน' ทำร้ายช่างภาพข่าว #ม็อบ22เมษา65
https://www.matichon.co.th/politics/news_3851943
ศาลสั่งจำคุก ‘อาชีวะปกป้องสถาบัน’ คดีทำร้ายร่างกาย ช่างภาพข่าว #ม็อบ22เมษา65
เว็บไซค์ประชาไท รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษา คดี
เบญภกรณ์ วิคะบำเพิง จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ข้อหาความผิดต่อร่างกาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จากกรณีทำร้ายร่างกาย
ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ช่างภาพข่าว ที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาราชดำเนิน เมื่อ 22 เมษายน 2565
โดย จำเลยที่ 1 และ 2 ถูกตัดสินจำคุก 4 เดือน และปรับ 1 หมื่นบาท แต่จำเลยทั้งสองรับสารภาพจึงลดโทษครึ่งหนึ่ง จำคุก 2 เดือน ปรับ 5,000 บาท
สำหรับจำเลยที่ 1 ให้รอลงโทษ 2 ปี ระหว่างนี้ให้มีการคุมประพฤติ และต้องมารายงานตัวทุก 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่รอลงโทษ เนื่องจากมีคดีทำร้ายร่างกายหลายคดี เจ้าตัวประสงค์สู้คดีต่อชั้นอุทธรณ์ โดยศาลให้วางเงินประกัน จำนวน 20,000 บาท
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 21.35 น. ของวันที่ 22 เมษายน 2565 หลัง
ณัฐพล ติดตามทำข่าวการชุมนุมทัวร์มูล่าผัว ได้ถูกกลุ่มชาย 3 คน ทำร้ายโดยใช้กระบองดิ้วตีที่บริเวณหลังและศีรษะ บริเวณหน้าร้านอาหารแมคฯ ราชดำเนิน จนได้รับบาดเจ็บ
ข้อน่าสังเกตในคดีนี้คือกลุ่มผู้มาทำร้ายมีการถามชื่อ และสถานะของ
ณัฐพลว่าเป็นนักข่าวหรือไม่ และพอ
ณัฐพล ตอบกลับว่าเป็นสื่อมวลชน ก็ถูกทำร้ายร่างกาย โดยครั้งนั้น
เบญภกรณ์ กล่าวในไลฟ์สด เมื่อ 25 เมษายน 2565 หรือ 3 วันหลังเกิดเหตุว่า เขาไม่เชื่อว่า
ณัฐพลเป็นสื่อมวลชนจริง เพราะไม่มีการแสดงหลักฐาน และอ้างว่า
ณัฐพล มีการเรียกพวกจะมาทำร้ายพวกเขา เขาจึงต้องทำร้าย
ณัฐพล เพื่อป้องกันตัว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไปที่คลิปไลฟ์สดเพจ “
อาชีวะปกป้องสถาบันและภาคีทุกภาคส่วน” เมื่อ 15 มกราคม 2566 พบว่า บันทึกไลฟ์สดไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว โดยปรากฏข้อความว่า “เนื้อหานี้ไม่พร้อมใช้งานในขณะนี้ เหตุการณ์นี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากเจ้าของแชร์เนื้อหากับคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น หรือเปลี่ยนกลุ่มคนที่สามารถดูได้ หรือเนื้อหาถูกลบไปแล้ว
JJNY : ประเทศไม่ใช่ธุรกิจ คิดแบบทหาร│ดร.พิชาย วิเคราะห์ ชูวิทย์vsภท.│จำคุก 'อาชีวะปกป้องสถาบัน'│ผู้นำยูเครนขอบคุณทุกฝ่าย
https://www.matichon.co.th/economy/news_3851931
บิ๊กอสังหาฯ เผยเลือกตั้งใหม่ดีต่อเศรษฐกิจ ชี้”เศรษฐา”เหมาะแคนดิเดตนายก กล้าคิด ตัดสินใจฉับไว
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการที่รัฐบาลจะประกาศยุบสภา เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2566 จะทำให้ประชาชนและนักลงทุนไทยและต่างชาติ เกิดความหวังและเห็นความชัดเจนทั้งสถานการณ์การเมืองและนโยบายใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศจากรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง หลัง 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลอาจจะทำอะไรไม่ได้มาก เพราะสถานะของรัฐบาลก็ไม่เสถียรและมุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงมากเกินไป
นายศานิตกล่าวว่า ขณะที่เศรษฐกิจไทยต้องการแรงขับเคลื่อนหลังเจอวิกฤตทั้งภายในและภายนอก ทำให้เกิดความเปราะบาง ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามา ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ต้องมีทีมครม.ที่เข้มแข็ง และทีมเศรษฐกิจที่เก่งและมีฝีมือจริงๆ เพื่อดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน เช่น ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสู้กับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม
กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เมียนมา รวมถึงจีน ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเศรษฐกิจไทยจะกลับมาได้ก็ต่อเมื่อมีการเลือกตั้งใหม่
“อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งสางเรื่องภาวะหนี้ครัวเรือนที่กระทบต่อภาคธุรกิจให้มีสัดส่วนที่ลดลง ซึ่งธุรกิจอสังหาฯจะเจอปัญหากู้ซื้อบ้านไม่ผ่านเยอะมาก รวมถึงอยากให้เร่งรัดผังเมืองรวมกรุงเทพฯและจังหวัดปริมณฑล มีผลบังคับใช้โดยเร็วเพราะล่าช้ามานานมากแล้ว หากปลดล็อกได้จะทำให้การลงทุนและพัฒนาใหม่เกิดขึ้นและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะในแนวรถไฟฟ้าในเมืองและชานเมือง อีกทั้งขอให้เร่งเปิดใช้รถไฟฟ้าสายที่กำลังสร้างทั้งสีชมพู สีเหลือง สีส้ม และสร้างส่วนต่อขยายที่เหลือโดยเร็ว เพราะช่วยทั้งการพัฒนาเมืองและแก้ปัญหาการจราจรได้” นายศานิตกล่าว
นายศานิตยังกล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยมีการแต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและยังติดโผเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่า
“คุณเศรษฐาถือว่ามีความเหมาะสม ด้วยวัย บุคลิก มีความสด และเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจนพาแสนสิริมาอยู่แถวหน้าของวงการ ยังเป็นคนที่กล้าคิด มีการตัดสินใจที่ฉับไว ถือว่าเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้อีกคน เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้”
นายศานิตกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม พรรคไหนจะเป็นรัฐบาลขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนมากกว่า การที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพูดว่า ”ประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ” เพราะท่านคิดแบบทหาร ซึ่งประเทศไทยมีคนหลายกลุ่ม ซึ่งนักธุรกิจก็เป็นกลุ่มหนึ่ง อยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินจะเลือกพรรคไหน เพราะพรรคการเมืองเท่าเทียมกันหมดและพรรคเพื่อไทยก็เป็นพรรคใหญ่
ดร.พิชาย วิเคราะห์เกมเดือด ชูวิทย์vsภูมิใจไทย สมคบคิดทำลายคู่แข่ง ตัดคะแนน
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_3851631
สัมภาษณ์พิเศษ: ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) วิเคราะห์การเมืองร้อนแรง เดินหน้าสู่ศึกเลือกตั้ง เบื้องหลัง ชูวิทย์ ฟาดแรง อนุทิน -เนวิน ผลพวงแข่งขันชิงคะแนน รวมไทยสร้างชาติ เข้าข่ายทฤษฎีสมคบคิด ชมคลิปด้านล่าง
ศาลสั่งจำคุก 'อาชีวะปกป้องสถาบัน' ทำร้ายช่างภาพข่าว #ม็อบ22เมษา65
https://www.matichon.co.th/politics/news_3851943
ศาลสั่งจำคุก ‘อาชีวะปกป้องสถาบัน’ คดีทำร้ายร่างกาย ช่างภาพข่าว #ม็อบ22เมษา65
เว็บไซค์ประชาไท รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษา คดีเบญภกรณ์ วิคะบำเพิง จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ข้อหาความผิดต่อร่างกาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จากกรณีทำร้ายร่างกาย ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ช่างภาพข่าว ที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาราชดำเนิน เมื่อ 22 เมษายน 2565
โดย จำเลยที่ 1 และ 2 ถูกตัดสินจำคุก 4 เดือน และปรับ 1 หมื่นบาท แต่จำเลยทั้งสองรับสารภาพจึงลดโทษครึ่งหนึ่ง จำคุก 2 เดือน ปรับ 5,000 บาท
สำหรับจำเลยที่ 1 ให้รอลงโทษ 2 ปี ระหว่างนี้ให้มีการคุมประพฤติ และต้องมารายงานตัวทุก 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่รอลงโทษ เนื่องจากมีคดีทำร้ายร่างกายหลายคดี เจ้าตัวประสงค์สู้คดีต่อชั้นอุทธรณ์ โดยศาลให้วางเงินประกัน จำนวน 20,000 บาท
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 21.35 น. ของวันที่ 22 เมษายน 2565 หลังณัฐพล ติดตามทำข่าวการชุมนุมทัวร์มูล่าผัว ได้ถูกกลุ่มชาย 3 คน ทำร้ายโดยใช้กระบองดิ้วตีที่บริเวณหลังและศีรษะ บริเวณหน้าร้านอาหารแมคฯ ราชดำเนิน จนได้รับบาดเจ็บ
ข้อน่าสังเกตในคดีนี้คือกลุ่มผู้มาทำร้ายมีการถามชื่อ และสถานะของณัฐพลว่าเป็นนักข่าวหรือไม่ และพอณัฐพล ตอบกลับว่าเป็นสื่อมวลชน ก็ถูกทำร้ายร่างกาย โดยครั้งนั้น เบญภกรณ์ กล่าวในไลฟ์สด เมื่อ 25 เมษายน 2565 หรือ 3 วันหลังเกิดเหตุว่า เขาไม่เชื่อว่าณัฐพลเป็นสื่อมวลชนจริง เพราะไม่มีการแสดงหลักฐาน และอ้างว่าณัฐพล มีการเรียกพวกจะมาทำร้ายพวกเขา เขาจึงต้องทำร้ายณัฐพล เพื่อป้องกันตัว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไปที่คลิปไลฟ์สดเพจ “อาชีวะปกป้องสถาบันและภาคีทุกภาคส่วน” เมื่อ 15 มกราคม 2566 พบว่า บันทึกไลฟ์สดไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว โดยปรากฏข้อความว่า “เนื้อหานี้ไม่พร้อมใช้งานในขณะนี้ เหตุการณ์นี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากเจ้าของแชร์เนื้อหากับคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น หรือเปลี่ยนกลุ่มคนที่สามารถดูได้ หรือเนื้อหาถูกลบไปแล้ว