โทนี่ ทาย ‘มิ่งขวัญ’ เป็นแคนดิเดตนายกฯพรรค พปชร. อันดับต่อจาก ‘บิ๊กป้อม’ เผยรู้จักดี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3712673

 
โทนี่ ทาย ‘มิ่งขวัญ’ เป็นแคนดิเดตนายกฯพรรค พปชร. อันดับต่อจาก ‘บิ๊กป้อม’ เผยรู้จักดี
 
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 ธันวาคม เฟซบุ๊ก CARE • แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์สด การพูดคุยกับ โทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อ จาก “คิดใหม่ ทำใหม่” ของไทยรักไทย มาถึงยุคสมัย “คิดใหญ่ ทำเป็น” ของเพื่อไทย’  โดย นายโทนี่ ได้กล่าวระหว่างการไลฟ์สด ช่วงหนึ่งถึงกรณีนาย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า

วันนี้พรรคพลังประชารัฐเอา นายมิ่งขวัญ ไปเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่พนันได้เลยนะว่า ต้องเป็นแคนดิเดตนายกฯ ต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะรับหรือไม่ได้รับ ผมไม่รู้ แต่ผมรู้จักมิ่งขวัญดี ไม่งั้น มิ่งขวัญไม่ไป ถ้าไม่มีดีลเป็นนายกฯ มิ่งขวัญไม่ไปที่นี่หรอก
 

---

กก.บห.พลังประชารัฐ มึนตึ้บ! ไม่รู้ 'มิ่งขวัญ' เสนอตัวเป็น 1 ในแคนดิเดตนายกฯ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7401730

กก.บห.พลังประชารัฐ มึนตึ้บ! ไม่รู้ ‘มิ่งขวัญ’ เสนอตัวเป็น 1 ในแคนดิเดตนายกฯ ยังไม่ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคแต่อย่างใด
 
วันที่ 6 ธ.ค.65 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ แถลงเปิดตัว นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เข้าเป็นสมาชิกพรรค พร้อมระบุเป็น 1 ในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคด้วย

ขณะที่ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประวิตร ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วยหรือไม่ โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ ยังไม่รู้ แล้วแต่สมาชิกพรรค เมื่อถามว่าจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ครบ 3 คนใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่าใครจะเป็น เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร พร้อมเป็นเบอร์หนึ่งใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ยังไม่รู้ ก็แล้วแต่เขา” เมื่อถามย้ำว่า แล้วแต่ที่ประชุมพรรคใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามดังกล่าวและเดินขึ้นลิฟต์ไปทันที

รายงานข่าวแจ้งว่า ในกรณีนายมิ่งขวัญ ประกาศกลางวงแถลงข่าวว่า จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพปชร. สร้างความแปลกใจให้กับกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคจำนวนมาก เนื่องจากไม่รู้มาก่อนว่ามีประเด็นดังกล่าว รู้เพียงว่านายมิ่งขวัญ จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค และมีความพยายามขอเป็นแคนดิเดตนายกฯกับพล.อ.ประวิตร เท่านั้น และก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร ระบุแล้วว่าการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ เป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่การตัดสินใจของตนเพียงคนเดียว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนการแถลงข่าวเปิดตัว นายมิ่งขวัญ ขอเข้าพบกับ พล.อ.ประวิตร เป็นการส่วนตัว และมีการพูดคุยกันประมาณ 15 นาที จึงตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดเผยเรื่องแคนดิเดตนายกฯของพรรคในครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ทราบเรื่องมาก่อนการแถลงข่าวหรือไม่
  

---

‘พริษฐ์’ ขอ ‘ส.ส.-ส.ว.’ รับร่างปลดล็อกท้องถิ่น ยันไม่สุดโต่งจนกระทบรูปแบบรัฐ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3712886

‘พริษฐ์’ ขอ ‘ส.ส.-ส.ว.’ รับร่างปลดล็อกท้องถิ่น รีบกระจายอำนาจให้ไทยก้าวทันโลก ยันไม่สุดโต่งจนกระทบรูปแบบรัฐ
 
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภาจะลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 14 การปกครองท้องถิ่น หรือร่างปลดล็อกท้องถิ่น ที่เสนอโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 76,591 คน ในวันนี้ว่า จากการเข้าชี้แจงร่างเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลายฝ่ายในที่ประชุมรัฐสภาเห็นตรงกันถึงประโยชน์และทิศทางของการกระจายอำนาจว่าประเทศเราควรมีการกระจายอำนาจมากขึ้น เพราะจะสร้างประโยชน์ในหลายมิติ เช่น มิติเศรษฐกิจ ทำให้งบประมาณถูกใช้อย่างถูกจุดมากขึ้นโดยคนและหน่วยงานที่ใกล้ชิดปัญหา นำไปสู่การสร้างงาน สร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ สร้างรายได้ใหม่ๆ ให้ประชาชนในทุกพื้นที่ ในมิติความเหลื่อมล้ำ

นายพริษฐ์กล่าวว่า หลายคนเห็นตรงกันว่าการกระจายอำนาจจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างแต่ละพื้นที่ได้ และช่วยยกระดับบริการสาธารณะในทุกจังหวัด ในมิติระบบราชการ จะทำให้ข้าราชการทำงานตอบสนองความต้องการของประชาชนได้มากขึ้น หน่วยงานไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน และในมิติการเมือง การกระจายอำนาจทำให้อำนาจอยู่ใกล้ชิดประชาชน เป็นการอัดฉีดประชาธิปไตยที่ฐานราก
 
นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า บางฝ่ายกังวลว่าร่างของเราเป็นการกระจายอำนาจแบบสุดโต่ง แต่ความจริงแล้วสิ่งที่เราทำอยู่เป็นเพียงการพยายามวิ่งตามให้ทันการกระจายอำนาจในประเทศอื่นที่พัฒนาแล้วทั่วโลก หวังว่าคำตอบของทีมผู้ชี้แจงในสภาจะทำให้ทุกคนคลายข้อข้องใจ ส่วนข้อกังวลเรื่องรัฐเดี่ยว เรายืนยันว่าการกระจายอำนาจการบริหารนั้นไม่ได้กระทบรูปแบบของรัฐ
  
“ส่วนประเด็นการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ต้องยืนยันว่าเราไม่ได้ทำทันที แต่จะเป็นการเปิดบทสนทนาให้สังคมมีการถกเถียงเรื่องดังกล่าว ก่อนมีการจัดประชามติให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน โดยมีระยะเวลาชัดเจนในการวางแผนและเตรียมรับมือหากผลประชามติออกมาให้ยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ซึ่งเราจะวางหลักประกันให้ข้าราชการส่วนภูมิภาคทุกคนไม่มีใครตกงาน หรือสูญเสียสิทธิประโยชน์
 
“ทุกตำแหน่งยังคงอยู่ ทุกความก้าวหน้าทางอาชีพยังคงมี และไม่ว่าในอนาคตราชการส่วนภูมิภาคจะเป็นอย่างไร ขอยืนยันว่าข้อเสนอของเราไม่ได้มีการเสนอให้ยกเลิกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแต่อย่างใด” นายพริษฐ์กล่าว
 
นายพริษฐ์กล่าวว่า จากฉันทามติของทุกฝ่ายเกี่ยวกับประโยชน์และทิศทางของการกระจายอำนาจที่ควรเพิ่มขึ้น และด้วยความพยายามของเราในการชี้แจง หวังว่ารัฐสภาทั้ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว.จะร่วมลงมติรับหลักการในวาระ 1 เพื่อเปิดบทสนทนาให้ทุกฝ่ายถกเถียงรายละเอียดเพิ่มเติมในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) และขอเชิญชวนประชาชนติดตามการลงมติว่าถึงที่สุดแล้วการตัดสินใจของรัฐสภาจะเป็นจุดเริ่มต้นฟื้นวาระกระจายอำนาจของประเทศให้คืบหน้าเร็วขึ้นได้หรือไม่