ว่าด้วยเหตุที่ไม่ทรงพยากรณ์อันตคาหิกทิฏฐิ 10

ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ   อะไรหนอ เป็นเหตุเป็นปัจจัย ที่ปริพพาชกเดียรถีย์อื่นเมื่อถูกถามแล้ว ย่อมพยากรณ์ว่าโลกเที่ยง หรือว่าโลกไม่เที่ยง ...ฯลฯ... 
หรือว่าตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมมีอีกก็หามิได้ไม่มีอีกก็หามิได้, ดังนี้ ? 

อะไรหนอ เป็นเหตุเป็นปัจจัย ที่พระโคดมผู้เจริญ เมื่อถูกถามแล้ว ย่อมไม่ทรงพยากรณ์ว่าโลกเที่ยง หรือว่าโลกไม่เที่ยง...ฯลฯ... หรือว่าตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมมีอีกก็หามิได้ไม่มีอีกก็หามิได้, ดังนี้ ?” 

ดูก่อนวัจฉะ  ปริพพาชกเดียรถีย์อื่นทั้งหลาย ย่อมตามเห็นซึ่งจักษุ ...ซึ่งโสตะ ...ซึ่งฆานะ...ซึ่งชิวหา...ซึ่งกายะ...ซึ่งมนะ ว่า “นั่นของเรา; นั่นเป็นเรา; นั่นเป็นอัตตาของเรา” ดังนี้; 
วัจฉะ ! เพราะเหตุนั้น ปริพพาชกเดียรถีย์อื่นเหล่านั้น เมื่อถูกถามแล้ว จึงพยากรณ์ว่าโลกเที่ยง หรือว่าโลกไม่เที่ยง ... ฯลฯ... หรือว่าตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมมีอีกก็หามิได้ไม่มีอีกก็หามิได้ ดังนี้. 

ดูก่อนวัจฉะ  ส่วนตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ ย่อมตามเห็นซึ่งจักษุ ... ...ซึ่งโสตะ ...ซึ่งฆานะ ...ซึ่งชิวหา ...ซึ่งกายะ ...ซึ่งมนะ ว่า “นั่นไม่ใช่ของเรา; นั่นไม่เป็นเรา; นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา” ดังนี้;   

วัจฉะ !  เพราะเหตุนั้นตถาคต เมื่อถูกถามแล้ว จึงไม่พยากรณ์ว่าโลกเที่ยง หรือว่าโลกไม่เที่ยง ...ฯลฯ... หรือว่าตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมมีอีกก็หามิได้ไม่มีอีกก็หามิได้ดังนี้.  
- บาลี สฬา.สํ. ๑๘/๔๗๘/๗๙๒,
ตรัสแก่วัจฉโคตตปริพพาชกที่ไปทูลถามเรื่องนี้กะพระองค์.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่