เรื่อง:
ระวังไวรัสเมอร์ส
บทคัดย่อ:
ดูเหมือนโรคไวรัสเมอร์สที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ จะใกล้ตัวคนไทยเข้าไปทุกที ยิ่งกว่านั้นยังเป็นเชื้อใหม่ที่ไม่มียารักษา อ.นพ.สุสัณห์ อาศนะเสน ภาควิชาอายุรศาสตร์ แนะให้เฝ้าระวังและดูแลตนเองให้รอดพ้นจากความเสี่ยงต่างๆ
โรคเมอร์ส เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ที่มาจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อาการของโรคนี้ มีความหลากหลาย ตั้งแต่ มีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเหลว จนกระทั่งหอบเหนื่อย และปอดอักเสบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต จากอาการที่ไม่จำเพาะ การวินิจฉัยจึงต้องอาศัยการตรวจทางไวรัสวิทยา
โรคนี้สามารถติดต่อได้ทั้งจากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโดยตรง สัมผัสสารคัดหลั่งต่าง ๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วยที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม หรือผ่านละอองฝอยที่เกิดจากการไอ จาม หายใจของผู้ป่วย โดยเฉพาะในระยะ 1 เมตร รวมถึงจากการสัมผัสสัตว์ที่เป็นแหล่งโรค เช่น อูฐ รวมทั้งการดื่มนมอูฐที่อาจปนเปื้อนเชื้อนี้
การก่อโรค เริ่มตั้งแต่สัมผัสโรคจนเริ่มมีอาการ ใช้ระยะเวลา 2-14 วัน โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 5-7 วัน ดังนั้นหากท่านเดินทางไปในประเทศที่มีการแพร่ระบาด เช่น ประเทศในแถบตะวันออกกลาง หรือเกาหลีใต้ ภายใน 14 วัน แล้วมีอาการไม่สบาย ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้
การรักษาในปัจจุบัน เป็นการประคับประคองอาการ เนื่องจากยังไม่มียาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพดี อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ ร้อยละ 30-40 ส่วนใหญ่ผู้ที่เสียชีวิตจะมีอายุมากกว่า 40 ปี และมีโรคเรื้อรังต่าง ๆ ร่วมด้วย โดยเฉพาะโรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคปอด
ดังนั้นหากท่านสงสัยว่าเป็นโรคเมอร์ส ต้องหยุดทำงาน ใส่หน้ากากอนามัย หากท่านไอหรือจามต้องปิดปากและจมูกด้วยกระดาษชำระ หากไม่ทันอาจใช้แขนเสื้อของตนเองปิดแทน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ทำความสะอาดมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่นและสิ่งของต่าง ๆ รวมทั้งเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร ที่สำคัญโทรศัพท์ติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านท่านว่า ท่านอาจเป็นโรคเมอร์ส เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมความพร้อมในการดูแลรักษา
สำหรับการป้องกันโรคเมอร์สนั้น นอกจากหลีกเลี่ยงการเดินทางไป หรือผ่านประเทศที่มีการระบาดแล้ว ท่านควรปรับพฤติกรรมเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อโรคทางเดินหายใจ ได้แก่
• ทำความสะอาดมือ บ่อย ๆ เป็นประจำ
• ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
• หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วย ที่มีอาการไม่สบายคล้ายหวัด
• หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่น หรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก หากจำเป็นควร
ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง
โรคภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากเราติดตามข่าวสาร เตรียมรับมือและป้องกัน โดยทำร่างกายให้แข็งแรง อยู่แบบถูกสุขอนามัย ก็ป้องกันได้นะครับ
จากศิริราช มาจากข้อมูลจาก เว็บโรงพยาบาลเอกชัย ครับ
ไวรัสเมอร์ส (MERS-CoV)
ไวรัสเมอร์ส (MERS-CoV)
ไวรัสเมอร์ส คืออะไร อาการเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้ยังไม่มียารักษา เพียงแค่ 5 นาทีก็ติดต่อได้ ทำให้อัตราการตายสูง ! คำถาม-คำตอบต่อไปนี้จะทำให้เรารู้จักเชื้อไวรัสลึกลับนี้มาก ขึ้น
ไวรัสเมอร์ส ที่มีข่าวแพร่ระบาดและคร่าชีวิตชาวเกาหลีใต้ไปบ้างแล้วนั้น ทำให้คนไทยหวาดวิตกพอสมควร เพราะเป็นโรคระบบทางเดินหายใจตระกูลเดียวกับซาร์ส ซึ่งเคยคร่าชีวิตคนไปเป็นจำนวนมาก ที่น่ากลัวคือจนถึงวันนี้ยังไม่มียารักษา ถึงเวลาต้องทำความรู้จักกับเชื้อร้ายมรณะตัวนี้ให้มากขึ้น รู้ให้ครบทุกด้านก่อนตื่นตระหนกจนเกินควร
ไวรัสเมอร์ส คืออะไร
ไวรัสเมอร์ส ก็คือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ กลุ่มอาการระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันในประเทศตะวันออกกลาง (Middle East respiratory syndrome coronavirus (MERS-CoV)) หรือบางครั้งก็เรียกว่า “ไวรัสโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012” คือ โรคระบบทางเดินหายใจชนิดหนึ่ง เกิดจากเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (MERS-CoV) ซึ่งตรวจพบเป็นครั้งแรกที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี พ.ศ. 2555 โดยเชื้อตัวนี้มาจากค้างคาวแล้วมาติดอูฐ ก่อนจะแพร่ไปยังชายชาวซาอุฯ ที่เป็นผู้ป่วยรายแรก
โคโรน่าไวรัส จัดเป็นกลุ่มใหญ่ของไวรัสวงหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคได้หลายโรค ตั้งแต่โรคหวัดธรรมดาไปจนถึงโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส
ไวรัสเมอร์ส อาการป่วยเป็นอย่างไร?
เนื่อง จากโรคนี้เป็นไวรัสตระกูลเดียวกับโรคซาร์ส ดังนั้นอาการที่พบคืออาการทางระบบทางเดินหายใจ โดยผู้ป่วยจะเป็นไข้ ไอ หอบ หายใจลำบาก และเมื่อตรวจร่างกายจะพบ “ปอดบวม” ปอดอักเสบ หรือนิวโมเนีย บางรายอาจมีอาการท้องร่วงร่วมด้วย
ทั้งนี้เมื่อผู้ป่วยมีอาการปอดบวม หรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ซึ่งจําเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจประกอบกับการดูแลด้านอื่น ๆ ผู้ป่วยบางรายมีภาวะอวัยวะล้มเหลวโดยเฉพาะไตวาย หรือมีภาวะช็อกจากการติดเชื้อ สํา หรับผู้ที่มีโรคประจําตัว ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน มะเร็งและโรคปอดเรื้อรัง อาการป่วยจะรุนแรง
ไวรัสเมอร์ส ติดต่อกันได้อย่างไร
ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า โรคนี้การติดต่อเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพียง 5 นาทีก็สามารถติดต่อกันได้ผ่านทาง
การสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง
ติดต่อผ่านละอองน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย การไอ หรือจาม
มือที่สัมผัสของใช้ร่วมกับผู้ป่วย
การสัมผัสกับอูฐที่มีเชื้อ
ไวรัสเมอร์ส รักษาได้ไหม อัตราการเสียชีวิตสูงแค่ไหน?
น่า กลัวทีเดียวเพราะปัจจุบันนี้ยังไม่มีวัคซีนรักษาโรคไวรัสเมอร์ส จึงทำได้เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น และเนื่องจากยังไม่มียารักษา จึงทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตถึงร้อยละ 40 ต่างจากโรคซาร์สที่แม้จะแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าไวรัสเมอร์ส แต่อัตราการเสียชีวิตมีเพียงร้อยละ 9.6 เท่านั้น เรื่องนี้จึงทำให้วงการแพทย์เป็นกังวลกันมากกับการลุกลามของไวรัสเมอร์สครั้งนี้
หากต้องสงสัยป่วยไวรัสเมอร์ส ต้องทำอย่างไร?
หากใคร มีประวัติเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด แล้วมีอาการไอ เป็นหวัด ให้ใส่หน้ากากอนามัย และพักผ่อนอยู่ที่บ้าน หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางไปต่างประเทศด้วย แต่ถ้าผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ไตวาย โรคปอดเรื้อรัง และภูมิต้านทานโรคต่ำ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ต้องรอถึง 2 วัน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่า
นอกจากนี้ยังสามารถโทร. 1422 ปรึกษาสายด่วนกรมควบคุมโรค ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่เว็บไซต์สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค ddc.moph.go.th
ไวรัสเมอร์ส ป้องกันอย่างไรดี?
วิธีป้องกันไวรัสเมอร์สก็ทำเหมือนกับโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจทั่วไป คือต้องรักษาร่างกายตัวเองให้แข็งแรง อีกทั้งต้องมีสุขอนามัยที่ดี เช่น
หมั่นล้างมือฟอกสบู่บ่อย ๆ
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด
สวมหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค
ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
หากต้องเดินทางไปในประเทศตะวันออกกลาง ไม่ควรสัมผัสอูฐ หรือสัตว์ป่า
ท่านสมาชิกชาวพันทิป มีปัญหาโรคเมอร์ส ใช่หรือไม่ครับ ?
รายการ พบหมอศิริราช ตอน ระวัง!!! โรคไวรัสเมอร์ ?
เรื่อง:
ระวังไวรัสเมอร์ส
บทคัดย่อ:
ดูเหมือนโรคไวรัสเมอร์สที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ จะใกล้ตัวคนไทยเข้าไปทุกที ยิ่งกว่านั้นยังเป็นเชื้อใหม่ที่ไม่มียารักษา อ.นพ.สุสัณห์ อาศนะเสน ภาควิชาอายุรศาสตร์ แนะให้เฝ้าระวังและดูแลตนเองให้รอดพ้นจากความเสี่ยงต่างๆ
โรคเมอร์ส เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ที่มาจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อาการของโรคนี้ มีความหลากหลาย ตั้งแต่ มีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเหลว จนกระทั่งหอบเหนื่อย และปอดอักเสบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต จากอาการที่ไม่จำเพาะ การวินิจฉัยจึงต้องอาศัยการตรวจทางไวรัสวิทยา
โรคนี้สามารถติดต่อได้ทั้งจากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโดยตรง สัมผัสสารคัดหลั่งต่าง ๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วยที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม หรือผ่านละอองฝอยที่เกิดจากการไอ จาม หายใจของผู้ป่วย โดยเฉพาะในระยะ 1 เมตร รวมถึงจากการสัมผัสสัตว์ที่เป็นแหล่งโรค เช่น อูฐ รวมทั้งการดื่มนมอูฐที่อาจปนเปื้อนเชื้อนี้
การก่อโรค เริ่มตั้งแต่สัมผัสโรคจนเริ่มมีอาการ ใช้ระยะเวลา 2-14 วัน โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 5-7 วัน ดังนั้นหากท่านเดินทางไปในประเทศที่มีการแพร่ระบาด เช่น ประเทศในแถบตะวันออกกลาง หรือเกาหลีใต้ ภายใน 14 วัน แล้วมีอาการไม่สบาย ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้
การรักษาในปัจจุบัน เป็นการประคับประคองอาการ เนื่องจากยังไม่มียาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพดี อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ ร้อยละ 30-40 ส่วนใหญ่ผู้ที่เสียชีวิตจะมีอายุมากกว่า 40 ปี และมีโรคเรื้อรังต่าง ๆ ร่วมด้วย โดยเฉพาะโรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคปอด
ดังนั้นหากท่านสงสัยว่าเป็นโรคเมอร์ส ต้องหยุดทำงาน ใส่หน้ากากอนามัย หากท่านไอหรือจามต้องปิดปากและจมูกด้วยกระดาษชำระ หากไม่ทันอาจใช้แขนเสื้อของตนเองปิดแทน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ทำความสะอาดมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่นและสิ่งของต่าง ๆ รวมทั้งเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร ที่สำคัญโทรศัพท์ติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านท่านว่า ท่านอาจเป็นโรคเมอร์ส เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมความพร้อมในการดูแลรักษา
สำหรับการป้องกันโรคเมอร์สนั้น นอกจากหลีกเลี่ยงการเดินทางไป หรือผ่านประเทศที่มีการระบาดแล้ว ท่านควรปรับพฤติกรรมเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อโรคทางเดินหายใจ ได้แก่
• ทำความสะอาดมือ บ่อย ๆ เป็นประจำ
• ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
• หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วย ที่มีอาการไม่สบายคล้ายหวัด
• หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่น หรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก หากจำเป็นควร
ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง
โรคภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากเราติดตามข่าวสาร เตรียมรับมือและป้องกัน โดยทำร่างกายให้แข็งแรง อยู่แบบถูกสุขอนามัย ก็ป้องกันได้นะครับ
จากศิริราช มาจากข้อมูลจาก เว็บโรงพยาบาลเอกชัย ครับ
ไวรัสเมอร์ส (MERS-CoV)
ไวรัสเมอร์ส (MERS-CoV)
ไวรัสเมอร์ส คืออะไร อาการเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้ยังไม่มียารักษา เพียงแค่ 5 นาทีก็ติดต่อได้ ทำให้อัตราการตายสูง ! คำถาม-คำตอบต่อไปนี้จะทำให้เรารู้จักเชื้อไวรัสลึกลับนี้มาก ขึ้น
ไวรัสเมอร์ส ที่มีข่าวแพร่ระบาดและคร่าชีวิตชาวเกาหลีใต้ไปบ้างแล้วนั้น ทำให้คนไทยหวาดวิตกพอสมควร เพราะเป็นโรคระบบทางเดินหายใจตระกูลเดียวกับซาร์ส ซึ่งเคยคร่าชีวิตคนไปเป็นจำนวนมาก ที่น่ากลัวคือจนถึงวันนี้ยังไม่มียารักษา ถึงเวลาต้องทำความรู้จักกับเชื้อร้ายมรณะตัวนี้ให้มากขึ้น รู้ให้ครบทุกด้านก่อนตื่นตระหนกจนเกินควร
ไวรัสเมอร์ส คืออะไร
ไวรัสเมอร์ส ก็คือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ กลุ่มอาการระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันในประเทศตะวันออกกลาง (Middle East respiratory syndrome coronavirus (MERS-CoV)) หรือบางครั้งก็เรียกว่า “ไวรัสโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012” คือ โรคระบบทางเดินหายใจชนิดหนึ่ง เกิดจากเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (MERS-CoV) ซึ่งตรวจพบเป็นครั้งแรกที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี พ.ศ. 2555 โดยเชื้อตัวนี้มาจากค้างคาวแล้วมาติดอูฐ ก่อนจะแพร่ไปยังชายชาวซาอุฯ ที่เป็นผู้ป่วยรายแรก
โคโรน่าไวรัส จัดเป็นกลุ่มใหญ่ของไวรัสวงหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคได้หลายโรค ตั้งแต่โรคหวัดธรรมดาไปจนถึงโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส
ไวรัสเมอร์ส อาการป่วยเป็นอย่างไร?
เนื่อง จากโรคนี้เป็นไวรัสตระกูลเดียวกับโรคซาร์ส ดังนั้นอาการที่พบคืออาการทางระบบทางเดินหายใจ โดยผู้ป่วยจะเป็นไข้ ไอ หอบ หายใจลำบาก และเมื่อตรวจร่างกายจะพบ “ปอดบวม” ปอดอักเสบ หรือนิวโมเนีย บางรายอาจมีอาการท้องร่วงร่วมด้วย
ทั้งนี้เมื่อผู้ป่วยมีอาการปอดบวม หรือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ซึ่งจําเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจประกอบกับการดูแลด้านอื่น ๆ ผู้ป่วยบางรายมีภาวะอวัยวะล้มเหลวโดยเฉพาะไตวาย หรือมีภาวะช็อกจากการติดเชื้อ สํา หรับผู้ที่มีโรคประจําตัว ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน มะเร็งและโรคปอดเรื้อรัง อาการป่วยจะรุนแรง
ไวรัสเมอร์ส ติดต่อกันได้อย่างไร
ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า โรคนี้การติดต่อเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพียง 5 นาทีก็สามารถติดต่อกันได้ผ่านทาง
การสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง
ติดต่อผ่านละอองน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย การไอ หรือจาม
มือที่สัมผัสของใช้ร่วมกับผู้ป่วย
การสัมผัสกับอูฐที่มีเชื้อ
ไวรัสเมอร์ส รักษาได้ไหม อัตราการเสียชีวิตสูงแค่ไหน?
น่า กลัวทีเดียวเพราะปัจจุบันนี้ยังไม่มีวัคซีนรักษาโรคไวรัสเมอร์ส จึงทำได้เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น และเนื่องจากยังไม่มียารักษา จึงทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตถึงร้อยละ 40 ต่างจากโรคซาร์สที่แม้จะแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าไวรัสเมอร์ส แต่อัตราการเสียชีวิตมีเพียงร้อยละ 9.6 เท่านั้น เรื่องนี้จึงทำให้วงการแพทย์เป็นกังวลกันมากกับการลุกลามของไวรัสเมอร์สครั้งนี้
หากต้องสงสัยป่วยไวรัสเมอร์ส ต้องทำอย่างไร?
หากใคร มีประวัติเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด แล้วมีอาการไอ เป็นหวัด ให้ใส่หน้ากากอนามัย และพักผ่อนอยู่ที่บ้าน หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางไปต่างประเทศด้วย แต่ถ้าผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ไตวาย โรคปอดเรื้อรัง และภูมิต้านทานโรคต่ำ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ต้องรอถึง 2 วัน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่า
นอกจากนี้ยังสามารถโทร. 1422 ปรึกษาสายด่วนกรมควบคุมโรค ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่เว็บไซต์สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค ddc.moph.go.th
ไวรัสเมอร์ส ป้องกันอย่างไรดี?
วิธีป้องกันไวรัสเมอร์สก็ทำเหมือนกับโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจทั่วไป คือต้องรักษาร่างกายตัวเองให้แข็งแรง อีกทั้งต้องมีสุขอนามัยที่ดี เช่น
หมั่นล้างมือฟอกสบู่บ่อย ๆ
หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด
สวมหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค
ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
หากต้องเดินทางไปในประเทศตะวันออกกลาง ไม่ควรสัมผัสอูฐ หรือสัตว์ป่า
ท่านสมาชิกชาวพันทิป มีปัญหาโรคเมอร์ส ใช่หรือไม่ครับ ?