JJNY : 8 สาเหตุ ‘หนี้ครัวเรือน’ โตดุ│‘ลิณธิภรณ์’ดัก‘ประยุทธ์’│'ชูวิทย์'ไม่ไหวจะทน!│ม็อบเพื่อนหมอสุภัทรเคลื่อนพลบุกสภา

เปิด 8 สาเหตุ ‘หนี้ครัวเรือน’ โตดุไม่เกรงใจใคร พบ 58% Gen Y เป็นหนี้เร็ว-กว่า 25% เป็นหนี้เสีย
https://www.matichon.co.th/economy/news_3824085
 
 
เปิด 8 สาเหตุ ‘หนี้ครัวเรือน’ โตดุไม่เกรงใจใคร พบ 58% Gen Y เป็นหนี้เร็ว-กว่า 25% เป็นหนี้เสีย
 
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายจิตเกษม พรประพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายส่งเสริมความรู้ทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ว่า ปัญหานี้ครัวเรือนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ขยับเพิ่มขึ้นกว่า 30% จากระดับ 59.3% ในปี 2553 มาอยู่ที่ระดับ 86.8% ในไตรมาสที่ 3/2565 เพิ่มขึ้นในระดับสูง เกินกว่าระดับเฝ้าระวังที่ 80% ต่อจีดีพีตามที่ธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (บีไอเอส) กำหนดไว้

มองภาพรวมหนี้ครัวเรือนไทย 14.9 ล้านล้านบาท โดย 2 ใน 3 เป็นหนี้ที่เกี่ยวกับการบริโภค อีก 1 ใน 3 เป็นหนี้มี่เกี่ยวกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย แม้อย่างหลังจะเป็นหนี้ที่เป็นประโยชน์และมีความจำเป็น เมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่น หรือฮ่องกง สัดส่วนกลับกัน โดย 2 ใน 3 เป็นหนี้บ้าน และ 1 ใน 3 เป็นหนี้เพื่อการบริโภค จึงทำให้ภาคครัวเรือนประเทศดังกล่าวมีเสถียรภาพมากกว่าไทย” นายจิตเกษม กล่าว

นายจิตเกษม กล่าวว่า ธปท.ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เอ็นซีบี) รวมถึงได้ลงพื้นที่พบกับลูกหนี้กลุ่มต่างๆ พบว่ามี 8 ข้อเท็จจริงการเป็นหนี้ของคนไทย ที่ทำให้เป็นปัญหาสะสม 

1. เป็นหนี้เร็ว คนวัยเริ่มทำงาน (อายุ 25-29 ปี) มากกว่า 58% เป็นหนี้ และมากกว่า 25% เป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) 

2. เป็นหนี้เกินตัว เกือบ 30% ของลูกหนี้บัตรเครดิตและหนี้ส่วนบุคคล มีหนี้เกิน 4 บัญชีต่อคน วงเงินรวมต่อคนสูงถึง 10-25 เท่าของรายได้ในแต่ละเดือน จนทำให้รายได้เกินกว่าครึ่งต้องเอาไปจ่ายคืนหนี้
 
3. เป็นหนี้โดยไม่ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนหรือถูกต้อง โดย 4 ใน 5 ของปัญหาหนี้ มาจากขั้นตอนการเสนอขายสินเชื่อของสถาบันการเงิน ที่ลูกหนี้มักได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง 

4. เป็นหนี้เพราะมีเหตุจำเป็น กว่า 62% ของครัวเรือนไทยมีเงินออมเผื่อฉุกเฉินไม่เพียงพอ และหากเกิดเหตุที่ทำให้รายได้ลดลง 20% จะมีครัวเรือนเกินครึ่งที่มีเงินไม่พอจ่ายหนี้ 

5. เป็นหนี้นาน : เกินกว่า 1 ใน 4 ของคนอายุเกิน 60 ปี ยังมีภาระหนี้ที่ต้องผ่อนชำระ โดยมีหนี้เฉลี่ยสูงกว่า 415,000 บาทต่อคน รวมทั้งลูกหนี้มักผ่อนจ่ายขั้นต่ำ (เกือบ 40%)

6. เป็นหนี้เสีย โดยลูกหนี้กว่า 10 ล้านบัญชีที่เป็นหนี้เสีย เกือบครึ่งหรือ 4.5 ล้านบัญชี เพิ่งเป็นหนี้เสียในช่วงโควิด-19 

7. เป็นหนี้ไม่จบไม่สิ้น กว่า 20% ของบัญชีหนี้เสียถูกยื่นฟ้อง โดย 1 ใน 3 ของลูกหนี้ในคดีที่จบด้วยการยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดแล้ว ก็ยังปิดหนี้ไม่ได้ 

และ 8. เป็นหนี้นอกระบบ โดย 42% ของ 4,600 ครัวเรือน ที่สุ่มตัวอย่างจากทั่วทุกภูมิภาค มีหนี้นอกระบบเฉลี่ยคนละ 54,300 บาท

ทั้งนี้ สำหรับผู้มีหนี้อยากเขเาร่วมมาตรการต่างๆ เพื่อเข้าร่วมแก้ไขปัญหาหนี้เสีย สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ ธปท. www.bot.or.th/app/doctordebt/ หรือแอดไลน์ https://lin.ee/OBOmemL #แบงก์ชาติ #แก้หนี้ #ทางด่วนแก้หนี้ #หมอหนี้เพื่อประชาชน



‘ลิณธิภรณ์’ ดัก ‘ประยุทธ์’ อย่ากลัวซักฟอก อยากเห็นตอบตรงคำถาม เป็นบุญตาก่อนหมดวาระ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3824322

‘ลิณธิภรณ์’ ดักทาง ‘ประยุทธ์’ อย่ากลัวซักฟอก ม.152 ชี้ประชาชนอยากเห็น ครม.ตอบให้ตรงคำถาม เห็นเป็นบุญตาสักครั้ง
 
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมกระชากหน้ากากคนดีในวันนี้เป็นวันแรกว่า พรรค พท.และพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เตรียมเสนอประเด็นอภิปรายรวม 20 ประเด็น ครอบคลุมในหลายมิติ ทั้งการบริหารราชการแผ่นดิน การบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลว การทุจริตคอร์รัปชั่น การทุจริตในแวดวงราชการ ธุรกิจสีเทา และอาชญากรรมทางไซเบอร์ ภัยคุกคามที่รัฐบาลไม่รู้ร้อนรู้หนาว เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพี่น้องประชาชน รวมทั้งปัญหายาเสพติดที่กลับกลายมาเป็นบ่อนทำลายประเทศอีกครั้ง พี่น้องประชาชนคงรอคอยรับชมการอภิปรายครั้งสุดท้ายของรัฐบาลอย่างใจจดใจจ่อ เพราะอยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และองคาพยพ ตอบให้ตรงกับคำถามที่พรรค พท.และพรรคร่วมฝ่ายค้านนำเสนอให้เห็นเป็นบุญตาสักครั้งก่อนจะหมดวาระของรัฐบาลนี้

น.ส.ลิณธิภรณ์กล่าวต่อว่า ให้เหมือนกับที่ พล.อ.ประยุทธ์กล้าพูดอย่างมั่นใจว่าไม่ทุจริตแม้แต่บาทเดียว และรู้ว่าทำอะไรอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้ตอนนี้จะไปสังกัดพรรคอื่น แต่ความรับผิดชอบที่มีต่อสภาผู้แทนราษฎรยังต้องมี รวมถึง ส.ส.ในฟากฝั่งของรัฐบาลเองก็ควรมีความรับผิดชอบ มีความกล้าที่จะเข้าร่วมอภิปรายในสภาในครั้งนี้ด้วย อย่าสร้างสถานการณ์เพื่อโปรยทางไปสู่การยุบสภา หนีการอภิปราย เพราะกลัวว่าจะทนรับความจริงที่พวกท่านก่อไว้ไม่ได้และอาจสูญเสียคะแนนเสียงที่พี่น้องประชาชนจะมอบให้ในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
 
พล.อ.ประยุทธ์ที่ยืนยันเสมอมาว่าเป็นนายกฯจากการเลือกตั้ง รับผิดชอบในหน้าที่นี้มา 4 ปี คงไม่กลัวอะไรกับการอภิปรายที่ไม่ได้ยกมือโหวตลงมติ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ในเมื่อท่านบอกว่ามาทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนก็อย่ากลัวการอภิปราย พรรคร่วมฝ่ายค้านมีหน้าที่ชี้แนะ ท่านมีหน้าที่ชี้แจง นี่คือหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ผู้แทนของประชาชนที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง” น.ส.ลิณธิภรณ์กล่าว



'ชูวิทย์'ไม่ไหวจะทน!กวักมือเรียก 'สารวัตรซัว'กลับไทย ชี้ขู่ฟ้องมุกแป้กจบไม่สวย
https://siamrath.co.th/n/423389

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจ โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ระบุว่า 
 
ด้วยความปรารถนาดี เห็นซัวท่องเที่ยวรอบโลกอย่างมีความสุข คุณไม่ได้เพิ่งทำผิดหรอก จะต้องไปอดใจรอให้คุณเที่ยวเสร็จก่อนใช่ไหมครับ ท่านสารวัตรซัวผู้ร่ำรวย?

หากสังเกตุดีๆ พวกใกล้ถึงจุดจบมักงัดเอามุข “ทีมทนายเก็บข้อมูล ขู่ฟ้อง” พุทธโธ่! พอไม่มีทางไป คำก็ฟ้อง สองคำก็รักษาสิทธิ์ จะดำเนินคดีตามกฎหมาย  แต่เชื่อไหม ท้ายสุดจบไม่สวยสักราย ไม่ทันได้ฟ้องสื่อที่ไหน แต่คนขู่ดันเข้าคุกซะก่อน เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

คนพยายามโกหก เส้นเงินมันพันกันระหว่างคุณกับลุค เรื่องพวกนี้โกหกกันไม่ได้ และเคลียร์ไม่ได้กับบิ๊กก้อง รีบกลับมาไวๆ ไปท่องเที่ยวทั่วโลกที่ไหนก็สู้ “คุกพลาซ่า” แถวงามวงศ์วานไม่ได้ ที่นี่อเมซิ่งไทยแลนด์ หากไปรอบโลกมาแล้ว ขอเชิญแวะมาเที่ยวได้
 
ผมเคยอยู่มาแล้ว เอาสุภาษิต “อดีตคนคุก” อย่างผมไว้ใช้ “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” ใช้ได้หมดกับพวกทำพนันออนไลน์
 
https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/pfbid06xrrm6psXTvD94ydPyFdZAG9MDEN97TBnkv6sxihvqnXkPWHmKuxiiksnL5NoX3Nl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่