ดูจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตไทย ที่นับวันจะด้อยลงเรื่อยๆ โรงงานมีแต่ย้ายออก แทบไม่มีย้ายเข้า รถยนต์ไฟฟ้าที่โม้นักหนา ก็ไม่เกิดซักเจ้า มีแต่นำเข้ามาขาย ยิ่งภาษีถูกๆ นี่ตัวดี ฐานผลิตน่าจะอยู่ที่ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย
การส่งออกแทบไม่เพิ่มขึ้นมาหลายปีแล้ว เพราะแข่งขันไม่ได้ ค่าไฟก็ยังมาแพงอีก น่าจะเร่งให้เกิดการย้ายฐานมากขึ้น
หลังๆนี้ มีแต่การท่องเที่ยว ที่พอทำรายได้เข้าประเทศ แต่ก็มูลค่าสู้ อุตสาหกรรมการผลิตไม่ได้ ค่าจ้างต่ำ เพราะเป็นงานทักษะต่ำ ดังนั้นการบริโภคก็ต่ำตามไปด้วย จึงวนเป็นงูกินหาง ในเมื่อ พึ่งตลาดภายในไม่ได้ ก็ต้องดึงต่างชาติเข้ามา จึงเกิดปัญหา ธุรกิจสีเทาไม่จบไม่สิ้น เพราะ ตลาดภายในซบเซา
ถ้าเศรษฐกิจไทยผันตัวมาเป็น ภาคบริการ เต็มตัว อัตราว่างงานน่าจะสูงกว่านี้มาก อาจจะ 10 % เพราะ ภาคบริการ ดูดซับแรงงานได้น้อย กว่า อุตสาหกรรม และ น่าจะขาดดุลการค้ามหาศาล เพราะไม่ผลิตอะไรเองต้องนำเข้าทุกอย่าง
ส่วนภาคเกษตรกรรม ก็จัดว่าเป็นตัวถ่วงเศรษฐกิจชั้นยอด แม้จะผลิตอาหารได้เอง แต่ราคาาหารก็ดันแพงกว่า ประเทศที่นำเข้า ด้วยเหตุผลบางอย่าง ถ้า ไม่มีภาคเกษตรกรรม gdp น่าจะสูงกว่านี้ 20 %
เศรษฐกิจไทยกำลัง deindustrialization หรือไม่
การส่งออกแทบไม่เพิ่มขึ้นมาหลายปีแล้ว เพราะแข่งขันไม่ได้ ค่าไฟก็ยังมาแพงอีก น่าจะเร่งให้เกิดการย้ายฐานมากขึ้น
หลังๆนี้ มีแต่การท่องเที่ยว ที่พอทำรายได้เข้าประเทศ แต่ก็มูลค่าสู้ อุตสาหกรรมการผลิตไม่ได้ ค่าจ้างต่ำ เพราะเป็นงานทักษะต่ำ ดังนั้นการบริโภคก็ต่ำตามไปด้วย จึงวนเป็นงูกินหาง ในเมื่อ พึ่งตลาดภายในไม่ได้ ก็ต้องดึงต่างชาติเข้ามา จึงเกิดปัญหา ธุรกิจสีเทาไม่จบไม่สิ้น เพราะ ตลาดภายในซบเซา
ถ้าเศรษฐกิจไทยผันตัวมาเป็น ภาคบริการ เต็มตัว อัตราว่างงานน่าจะสูงกว่านี้มาก อาจจะ 10 % เพราะ ภาคบริการ ดูดซับแรงงานได้น้อย กว่า อุตสาหกรรม และ น่าจะขาดดุลการค้ามหาศาล เพราะไม่ผลิตอะไรเองต้องนำเข้าทุกอย่าง
ส่วนภาคเกษตรกรรม ก็จัดว่าเป็นตัวถ่วงเศรษฐกิจชั้นยอด แม้จะผลิตอาหารได้เอง แต่ราคาาหารก็ดันแพงกว่า ประเทศที่นำเข้า ด้วยเหตุผลบางอย่าง ถ้า ไม่มีภาคเกษตรกรรม gdp น่าจะสูงกว่านี้ 20 %