สวัสดีค่ะ เราคือผู้หญิงคนนึง อายุกำลังจะ23 ค่ะ ครอบครัวเราตอนนี้ มีเเม่ พี่สาว พี่ชาย พี่สะใภ้ และหลาน1 คนค่ะ อยู่ม ต้นเเล้ว พ่อเราเสียตั้งเเต่เรา6 ขวบ ตั้งเเต่นั้นมา แม่ก็ต้องทำงานหนักมาตลอด แม่เป็นคนที่ไม่ได้ศึกษาสูงมา มีอาชีพทำนา แล้วก็รับจ้างให้กับคนทั่วไป พี่สาวเรา ก็เรียนต่อรามคำแหง พร้อมกับทำงานไป เราก็ใช้ชีวิตปกติมาเรื่อยๆ แต่ค่อนข้างรู้สึกขาดค่ะ ถ้าเทียบกับเพื่อนๆที่อยู่ด้วยกัน เเต่ไม่เป็นไรค่ะ เราจะไม่เอาควรมรู้สึกนั้น มาเรียกร้องอะไรกับคนที่บ้าน เพราะเขาเองก็เสียสละ แล้วก็ต้องเเข็งเเกร่งมากขนาดไหน ความเป็นเราในตอนนั้นคือไม่รู้เลย..... พอถึงเวลาเรียนจบมสาม เราเลยตัดสินใจ เรียนต่อปวชทันที ทั้งที่ใช้อยากใช้ชีวติวัยรุ่น อยู่กับเพื่อนในสายมปลายแบบปกติ แต่ก็นั่นแหละค่ะ เพื่อที่จะได้ทำงานเร็วๆ เราเลยเลือกเรียนต่อปวช บัญชีค่ะ ระยะเวลาที่เรียนปวช ด้วยความฐานะไม่ได้ดี พี่สาวกับเเม่ต้องกัดฟันอย่างหนัก วิทยาลัยก็ไกล ต้นทุนชีวิตสูงขึ้น เราเริ่มรู้สึกถึงความอดทนที่ต้องมีมากขึ้น อีกทั้ง ยังกดดันตัวเองบ่อยครั้ง แต่ก็จบมาได้ด้วยดีค่ะ และที่รู้สึกดีกว่านั้น คือได้มิตรภาพที่คิดว่า โชคดีจัง เราตัดสินใจถูกที่มาที่นี่ นี่คือเพื่อนที่เราจะคบไปจนแก่ พอเราเริ่มทำงานตอนอายุ19 ตอนนั้น เราร้องไห้ทุกวันหลังเลิกงาน แม่ก็สงสารเรา แต่ทำอะไรไม่ได้มาก ได้เเต่คอยให้กำลังใจ เราก็ต้องประกอบตัวเองขึ้นใหม่ในทุกเช้า และไปทำงาน ยิ้มทั้งน้ำตา เเละเต็มที่กับงานค่ะ แต่เต็มที่เเล้ว มันก็ไม่ใช่เเค่เราที่จะทำให้งานลุล่วงไปด้วยดี ด้วยอะไรหลายๆอย่าง งานเกิดปัญหาแทบจะตลอด เราเลยคิด ว่าเราคงไม่เหมาะกับตรงนี้ และลาออกมา ใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆ จนวันนี้เรากำลังศึกษาป ตรี ภาควันอาทิตย์ ปีนี้เป็นปีสุดท้าย แล้วค่ะและงานที่เราทำอยู่ตอนนี้ เป็นที่ที่3แล้วค่ะ เป็นงานด้านบ/ชโดยตรง ยอมรับว่ากดดัน ด้วยสังคม และหน้างาน โดยปกติเราเป็นคนไม่ค่อยเเกร่ง อ่อนไหวง่ายมากแต่เราก็พยายามๆๆๆ บางทีกินข้าวไม่ลง แต่ก็ฝืนใจไป แล้วมาบ่นกับเเม่เอา ไม่อยากเป็นอาการซึมเศร้า และมาวันนี้ เรารู้สึกได้ถึง แม่ แม่อาจจะเป็นซึมเศร้า ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่แกต้องอดทนมา ฝนตก นำ้ท่วม ข้าวของเสียหาย รายได้ไม่ดี เขาไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน เราก็ไม่เคยบอกว่าเขาเป็นภาระเลย แต่เขาก็ดื้อที่จะทำต่อไป เราบอกเราพูด เขาก็เครียดซ้ำ เราเลยได้เเต่ปล่อย รอวะนที่เรียนจบ หมดภาระค่าเทอมที่เเสนจะเเพงสำหรับเรา ถึงตอนนั้น เราคงทำอะไรได้บ้าง เพื่อที่จะให้ครอบครัวได้ไปไกลกว่านี้ พอนั่งจับเข่าคุยกันในครอบครัว เราก็พบว่า แม่กับพี่สาวก็เเค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง ที่ทำเท่าจะทำได้แล้ว ส่วนพี่ชาย เราปล่อยวาง เพราะเขาต้องดูแลครอบครัวเขา สิ่งที่เราต้องการ คือความเเน่วเเน่ อยากแกร่งมากกว่านี้ มากพอที่จะอุ้มคนในบ้าน ให้มีปัจจัยพื้นฐานที่ครบ และอยู่อย่างไม่ลำบาก อุปสรรคข้างต้นที่พิมพ์มา เป็นเเค่พ้อยต์หลักๆที่เราเจอ จริงๆแล้วมีเรื่องยิบย่อยอีกมากมาย ทั้งปัญหาการเดินทาง การขนส่งที่ย่ำแย่ การจัดการปัญหาที่ทำงาน ตำแหน่งที่พักอาศัยที่ไม่เอื้ออำนวยอะไรเลย ทุกอย่างนี้มีปัญหาทั้งหมดเลยค่ะ ที่ทำให้เรารู้สึกแบบนี้ อ่านมาถึงตรงนี้ ก็ขอบคุณนะคะ อ่านจะวกวนไปมา แต่มันคือความรู้สึกของเราที่อยากระบายค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ
อยากระบายความรู้สึกตอนนี้ค่ะ