‘ตรีชฎา’ จี้ กกต.สอบ ‘อนุทิน’ ปมติดป้ายของขวัญปีใหม่มีรูปตัวเอง หน้ารพ.รัฐทั่วประเทศ แฝงหาเสียงหรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3798765

 
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 31 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงถึงกรณีที่ปรากฎป้ายประชาสัมพันธ์โครงการของขวัญปีใหม่ ปี 2566 ด้านหน้าโรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐทั่วประเทศ โดยมีภาพของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปรากฎอยู่ภายในแผ่นประชาสัมพันธ์ดังกล่าวด้วย ว่า เป็นการติดป้ายเพื่อแฝงการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ มีประเด็นที่ขัดต่อกฎหมายการเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากอีกตำแหน่งหนึ่งของนายอนุทินคือหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ซึ่งเรื่องนี้พรรค พท.ได้ติดตามและให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และระหว่างนี้ควรมีการถอดป้ายดังกล่าวออกก่อนเพื่อที่จะไม่ได้เป็นประเด็นที่เอาเปรียบต่อพรรคการเมืองที่เป็นรัฐมนตรี และได้ใช้สิทธิ์หรืองบประมาณในขณะนี้ โดยการติดตั้งป้ายดังกล่าวมีคำสั่งทางราชการไปยังทุกหน่วยงานให้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์นั้น อยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต.เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เอกสารสั่งการจากกระทรวงสาธารณสุข เป็นเอกสารจริงหรือไม่
 
น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า หากเป็นเอกสารจริงก็ควรตรวจสอบว่าถ้อยคำที่ใช้ในป้ายประชาสัมพันธ์ และการมีรูปของนายอนุทินปรากฎอยู่ในภาพเป็นการใช้งบประมาณและบุคลากรของรัฐในการหาเสียงหรือไม่ และถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบเพื่อเป็นคุณแก่พรรคของตนและผู้สมัครของพรรคตน อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ หากเป็นข้อเท็จจริงนอกจากจะเป็นการกระทำผิดในทางกฎหมายแล้ว ยังขัดต่อคุณธรรม และจริยธรรมทางการเมืองด้วย เพราะถือเป็นการใช้งบหลวงจากภาษีประชาชนมาหาเสียง เป็นการแข่งขันทางการเมืองที่ไม่เป็นธรรม

น.ส.ตรีชฎา กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค ภท. ร้อนตัวรีบออกมาแก้ต่างว่าการกระทำการดังกล่าวไม่ผิดระเบียบ กกต.พร้อมยกกรณีตัวอย่างโดยรวม โดยไม่ได้ยกรายละเอียดทั้งหมดมาชี้แจง ว่าเป็นกรณีของใคร เมื่อไหร่ และกระทำอย่างไร หวังจะลดทอนข้อทักท้วงของสังคม การจะบอกว่าการกระทำดังกล่าวว่าผิดหรือไม่ อยู่ที่ กกต. เท่านั้น นายศุภชัยไม่เกี่ยวข้อง
 
“การกระทำนี้ พี่น้องประชาชนรู้ทันเกมนักการเมืองว่าใครกำลังเอาเปรียบผู้อื่น เพราะบนโลกแห่งความเป็นจริงตอนนี้มีการใช้วิธีการสกปรก ไม่ละอาย หวังหาคะแนนเสียงก่อนเลือกตั้งโดยใช้ภาษีประชาชน และเพิ่งมาทำก่อนการเลือกตั้งอีกด้วย แต่เพื่อไทยไม่หวั่นไหว ขอหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ แต่หากใครมาเอาเปรียบเราก็ขอร้องให้ผู้รับผิดชอบช่วยตรวจสอบ เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างเป็นธรรม” น.ส.ตรีชฎา กล่าว

---

 
สาวไต้หวัน ร่ายความในใจ หลังตร.ห้วยขวาง รับไถเงิน ‘จริง’ บอกไว้จะมาเที่ยวใหม่
https://www.matichon.co.th/local/news_3798770

ดาราไต้หวัน ขอบคุณคนไทยช่วยหาความจริง หลังตร.ห้วยขวาง รับแล้วไถเงินจริง ไว้จะมาเที่ยวอีกในอนาคต
 
จากกรณีดาราสาวไต้หวัน อันหยูชิง หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Charlene An ออกมาแฉว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยรีดไถเงิน จำนวน 27,000 บาท ช่วงที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ด่านตรวจของ สน.ห้วยขวาง ให้การปฎิเสธ โดยอ้างว่าดาราสาวไต้หวันมีบุหรี่ไฟฟ้าในครอบครอง ซึ่งผิดกฎหมายนั้น ล่าสุด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง 1 ใน 7 นาย ที่อยู่ในด่านตรวจที่เกิดเหตุคืนนั้น ยอมรับว่า มีการรีดไถเงินจากดาราสาวไต้หวัน  27,000 บาท จริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับนั้น รับรู้กันว่า ผบ.หมู่
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 มกราคม อันหยูชิง ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง ใจความว่า
 
ขอบคุณสื่อมวลชนทั้งหมด รวมถึงสื่อในประเทศไต้หวันที่ใช้พื้นที่ของพวกคุณในการรับฟังและเผยแพร่ข้อเท็จจริง ขอบคุณทุกๆ ข้อความที่สนับสนุนฉัน ให้กำลังใจและห่วงใยฉัน มันช่วยให้ฉันผ่านจุดที่มืดมนที่สุดมาได้ ที่สำคัญต้องขอบคุณมิตรภาพของคนไทยจำนวนมากที่สอนให้ฉันได้รู้จักกับความกล้าหาญโดยปราศจากกำแพงทางภาษา

สำหรับประเทศไทย วัฒนธรรมของคุณ คนไทยและอาหารไทย ยังคงพิเศษสำหรับฉันเสมอ ฉันหวังว่าในครั้งต่อไปที่ฉันมาเที่ยวประเทศไทย ฉันจะได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิม

สุดท้ายเมื่อความจริงปรากฎขึ้นแล้ว เรื่องนี้ก็ถึงจบลงเสียที

ด้วยความสัตย์จริง
อันหยูชิง
 

---

  
กกต.สั่งทุกจังหวัด เตรียมพร้อมแบ่งเขต ส.ส. เปิด 3 รูปแบบ รับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสีย คาด 20 วันรู้เรื่อง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3798801

กกต.สั่งทุกจังหวัด เตรียมพร้อมแบ่งเขตส.ส. เปิด 3 รูปแบบ รับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสีย ยึดความเหมาะสม จำนวนปชช.- สภาพแวดล้อม ก่อนชงเคาะ 400 เขต เดินหน้าเลือกตั้ง
 
เมื่อวันที่ 31 มกราคม แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า จะต้องดำเนินการทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้งส.ส.เป็นการทั่วไป ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เปลี่ยนจาก 350 เขตมาเป็น 400 เขต ทันทีที่ร่างระเบียบกกต.ว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ กกต.จังหวัดทุกจังหวัดรวมถึงกกต.กทม.ต้องนำรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่เตรียมไว้อย่างน้อย 3 รูปแบบ ปิดประกาศ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนได้เสีย คือ พรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัด เป็นเวลา 10 วัน นับแต่วันปิดประกาศ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะต้องประกอบด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับอำเภอหรือตำบลหรือเขตพื้นที่อยู่ในเขตเลือกตั้งแต่ละเขต จำนวนราษฎรของแต่ละเขตเลือกตั้ง ผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง จากจำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อส.ส. หนึ่งคนในจังหวัดนั้น เหตุผลประกอบการเสนอแนะการแบ่งเขตเลือกต้ัง และแผนท่ีแสดงรายละเอียดของพื้นที่ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งแต่ละเขตเลือกต้ัง 
 
แหล่งข่าวระบุต่อว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลา ทางกกต.แต่ละจังหวัดจะต้องนำความคิดเห็นของประชาชนทุกคนและทุกพรรคการเมืองที่เสนอ มาประมวลเพื่อวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสียให้เรียบร้อยภายใน 3 วัน จากนั้นจึงนำเสนอสรุปรายงานเสนอเข้าที่ประชุมกกต.ผ่านทางเลขาธิการกกต.เพื่อพิจารณาตามขั้นตอน เบื้องต้นคาดว่ากระบวนการของจังหวัดจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 20 วัน ขั้นตอนหลังจากนั้น ที่ประชุมกกต.ต้องพิจารณาเลือกรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่เหมาะสมและตรงตามหลักเกณฑ์มากที่สุด คำนึงถึงพื้นที่ที่ติดต่อใกล้ชิดกัน ความสะดวกการคมนาคมระหว่างกัน และการเคยอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน และเมื่อคณะกรรมการดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ข้อสรุปครบถ้วนทุกจังหวัดทั้ง 400 เขตแล้ว ให้ประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษาต่อไป