JJNY : 4in1 ชูศักดิ์ชงถกกกต.2เรื่อง/สหรัฐฯ จับตาเลือกตั้งส.ส.คุยพท.ชลบุรี/อนค.สงขลามั่นใจคว้า1-2ที่นั่ง/ประมง ปัตตานีจอด

'ชูศักดิ์' ชงถกกกต.2เรื่อง จับกลุ่มประชันนโยบาย-จำกัดป้ายหาเสียง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1278117

“ชูศักดิ์” เห็นด้วยกับการมีโลโก้-ชื่อพรรคบนบัตร ลต. แต่ยังมีปัญหาเรื่องเบอร์ผู้สมัคร เผย 19 ธ.ค.นี้ ถก กกต. 2 เรื่อง จับกลุ่มประชันนโยบาย-จำกัดป้ายหาเสียง

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ​นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ใช้บัตรเลือกตั้งแบบสมบูรณ์ที่มีชื่อผู้สมัคร ชื่อพรรคการเมือง และโลโก้ของพรรคในบัตรเลือกตั้ง ว่าการที่ กกต.ได้มีมติให้ใช้รูปแบบของบัตรเลือกตั้งตามรูปแบบนี้ ถือว่าสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง รวมถึงสอดคล้องกับความเห็นของบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งตนเห็นด้วย ส่วนเรื่องหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้งที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.กำหนดให้หมายเลขผู้สมัครแต่ละเขตเรียงตามลำดับเลขที่ของหลักฐานการรับสมัครรับเลือกตั้งที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งออกให้นั้น เห็นว่าจะเป็นปัญหาในทางปฏิบัติ เนื่องจากผู้สมัครแต่ละคนจะไปถึงที่สมัครรับเลือกตั้งแต่เช้า และจะเกิดการโต้เถียงกันว่าใครมาก่อนหลัง เพราะผู้สมัครแต่ละคนก็อยากได้หมายเลขผู้สมัครเป็นเลขหลักเดียว และข้อสำคัญเมื่อแต่ละเขตเลือกตั้งของผู้สมัครแต่ละพรรคมีเบอร์ที่แตกต่างกัน จะทำให้เกิดความสับสนและยุ่งยากต่อการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่ต้องแยกพิมพ์ 350 เขต ดังนั้น เพื่อความสะดวกทั้งแก่ กกต.และประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมถึงพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร จึงขอเสนอว่าควรที่จะใช้วิธีการแบบเดิมคือให้พรรคการเมืองจับสลากหมายเลขประจำพรรคแล้วใช้หมายเลขดังกล่าวสำหรับการเลือกตั้งในทุกเขตการเลือกตั้ง การดำเนินการดังกล่าวคงต้องแก้มาตรา 48 ของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ หากตั้งใจจะทำและเห็นปัญหาร่วมกัน

​นายชูศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ กกต.ได้เชิญหัวหน้าพรรคการเมืองไปหารือในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ว่าตนมีข้อเสนอที่จะฝากไปยัง กกต.อยู่ 2 เรื่อง คือการที่ กกต.ได้จัดกลุ่มพรรคการเมืองเพื่อประชันนโยบายในการบริหารประเทศโดยกำหนดให้แบ่งกลุ่มตามจำนวนผู้สมัครที่ส่งสมัครรับเลือกตั้งนั้น เห็นว่าอาจจะไม่เป็นธรรมกับพรรคเล็กที่ส่งผู้สมัครไม่มาก แต่อาจมีนโยบายที่ดี และอาจต้องการประชันนโยบายกับพรรคการเมืองใหญ่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมจึงเห็นว่าควรจะใช้วิธีการแบ่งกลุ่ม ส่วนพรรคใดจะอยู่ในกลุ่มใดให้ใช้วิธีจับฉลากแทน อีกเรื่องคือการกำหนดจำนวนและสถานที่ติดป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองก็ไม่ควรที่จะมีข้อจำกัดมากเกินไป เช่น ลดจำนวนป้ายลงจากเดิม ลดขนาดป้าย และกำหนดสถานที่สำหรับติดป้ายหาเสียง เนื่องจาก กกต.ได้กำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายไว้อยู่แล้ว ดังนั้นควรจะมีข้อจำกัดเฉพาะสถานที่ที่ห้ามติดป้ายหาเสียงก็พอ ไม่ใช่ไปกำหนดว่าต้องไปติดตรงไหน ควรเป็นเรื่องของพรรคการเมืองจะพิจารณาเอง



สหรัฐฯ จับตาเลือกตั้งส.ส. ส่งจนท.หาข้อมูล-พูดคุยว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยชลบุรี
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1278909

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 ธันวาคม ที่สมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตร ชลบุรี อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 4 ชลบุรี นายสรายุทธ วงษ์แสงทอง ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 ชลบุรี และนายจำโนทย์ ปล้องอุดม ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 1 ชลบุรี ได้ให้การต้อนรับ น.ส.แอนนา โฮ เจ้าหน้าที่การทูต ฝ่ายการเมือง สถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทยและคณะ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในพื้นที่ จ.ชลบุรี ใช้เวลาในการพูดคุยนานประมาณ 1 ชั่วโมง

นายจิรวุฒิกล่าวว่า การพบกับเจ้าหน้าที่การทูต ฝ่ายการเมือง สถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทยได้ชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทยนั้นได้ถูกจับตามองมานาน ทำให้การเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยดำเนินกิจการทางการเมืองลำบาก เพราะกลัวว่าจะผิดกฎหมาย ในส่วนของเขตเลือกตั้งที่ 4 ชลบุรี ประกอบไปด้วยอำเภอบ้านบึง บ่อทอง หนองใหญ่นั้น ได้มีการแบ่งเขตเหมือนเดิม ทำให้ไม่ยากลำบากต่อการหาเสียง แต่ก็ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ การเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ ยังมีอิทธิพล โดยเฉพาะการที่นักการเมืองท้องถิ่นระดับจังหวัด ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพรรคการเมืองหนึ่ง พร้อมทั้งประกาศว่าหากไม่ช่วยเหลือในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในการพัฒนาท้องถิ่น ทำให้คนที่เคยเป็นพรรคพวก เมื่อกลับไปหาอีกครั้งมีท่าทีเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามในฐานะที่ครอบครัวคลุกคลีการเมืองมาตลอด โดยเฉพาะนายดรงค์ สิงห์โตทอง บิดาเคยเป็น ส.ส.ในพื้นที่ จ.ชลบุรี มานานถึง 4 สมัย ถือว่าการเมืองอยู่ในสายเลือด ถึงแม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีอุปสรรคมากมายก็พร้อมที่จะสู้

นายจิรวุฒิกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังถูกถามอีกว่า มีความคาดหวังว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 หรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้ได้ตอบไปว่า ในเมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งในวันดังกล่าว ตนก็ต้องเชื่อ ถึงแม้ว่าจะไม่มีความมั่นใจก็ตาม อย่างไรก็ตามหาเลื่อนไปเล็กน้อยคงไม่เป็นไร แต่หากเลื่อนไปยาวนานอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ และยังชี้แจงว่าในส่วนของการเลือกตั้งเขต 4 ชลบุรีอีกว่า ต้องยอมรับว่าฐานคะแนนของตนเองนั้นเป็นชาวไร่ ซึ่งจะต้องต่อสู้ทางการเมืองกับพรรคที่มีฐานอำนาจของรัฐ การบังคับหัวคะแนน รวมทั้งปัจจัยที่ใช้ในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการซื้อเสียงยอมรับว่าหนักใจเหมือนกัน แต่ก็พยายามชี้ให้เห็นว่าการทำงานของพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมาได้ประจักษ์กับสายประชาชนแล้วว่า สามารถทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดี ก็หวังว่าจะได้รับคะแนนนิยมในส่วนนี้

“ส่วนการหาเสียงกับคนรุ่นใหม่นั้น จะเน้นในเรื่องระบบโซเซียล เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นเข้าถึงได้ง่าย ส่วนการโพสต์ข้อความต่างๆ นั้นจะล้อนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก เพราะเกรงว่าจะทำผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้กำลังถูกจับตามองทุกฝีก้าว ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เชื่อว่าคงไม่โดนข้อหาทำผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ เพราะจะเน้นข้อความที่พรรคกำหนดไว้ ซึ่งฝ่ายกฎหมายได้มีการตรวจสอบแล้ว” นายจิรวุฒิกล่าวและว่า ส่วนการฝากข้อความไปถึงสถานทูตสหรัฐอเมริกานั้น อยากให้ลงมาดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม ส่วนการออกเสียงให้เป็นสิทธิของประชาชนเท่านั้นก็พอใจแล้ว




อนค.สงขลา ปลื้มหัวคะแนนธรรมชาติเพียบ มั่นใจมีโอกาสล้มยักษ์ คว้า 1-2 ที่นั่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1278261

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นายสัมพันธ์ ละอองจิตต์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 6 พรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ทั้ง 8 เขตได้ผ่านการทำไพรมารีโหวตครั้งสุดท้าย และพรรคอนุมัติทุกเขตแล้ว เขต 1 นายไพฑูรย์ สรรเสริญ เขต 2 นายอัครพล ทองพูล เขต 3 นายฌาฆีภัตฐ์ เพชรคง เขต 4 นายอมรเทพ สังข์น้อย เขต 5 นายอนุชิต พุทธโร เขต 6 นายสัมพันธ์ ละอองจิตต์ เขต 7 น.ส.จันจิรา สุขัง และเขต 8 นายอภิสิทธิ์ เพชรประพันธ์

นายสัมพันธ์ระบุว่า จากการลงพบปะประชาชนและทางโซเซียล กระแสการตอบรับจากประชาชนดีมาก โดยร้อยละ 30-40 อยากจะเห็นสงขลาเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะจากการผูกขาดทางการเมืองระดับชาติ ทำให้บ้านเมืองเสียโอกาสไปหลายครั้ง หากมีผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นได้รับการเลือกตั้งเข้ามาด้วย ประโยชน์จจะเกิดกับประชาชนและ จ.สงขลา และจะมีการแข่งขันในการทำความดี

“เกิดหัวคะแนนธรรมชาติในหมู่บ้าน ไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ผมมั่นใจว่าว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่มีโอกาสล้มยักษ์ รับการเลือกตั้งในสนามสงขลาอย่างน้อย 1-2 ที่นั่งได้” นายสัมพันธ์กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่