วันที่ 24 มกราคม 2566 เวลา 09.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้
1. เรื่อง ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. 2560 รวม 2 ฉบับ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ผู้มีหน้าที่รายงานรวบรวม และนำส่งข้อมูลที่ต้องรายงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับการขอหนังสือรับรองสถานะว่าเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยให้รับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการการต่อไปได้ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงฯ รวม 2 ฉบับ ที่กระทรวงการคลังเสนอเป็นการออกกฎกระทรวง เพื่อกำหนดให้ผู้มีหน้าที่รายงานตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความความตกลงระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. 2560 ได้แก่ สถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทประกันชีวิต เป็นต้น มีหน้าที่รวบรวมและนำส่งข้อมูล เช่น ข้อมูลบัญชีทางการเงิน ข้อมูลทางภาษี ฯลฯ ต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีเพื่อปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ) และมีหน้าที่ในการจัดเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ปีนับแต่ปีที่ได้รับข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อมูล รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการการขอหนังสือรับรองสถานะว่าเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน โดยให้มี “คณะกรรมการเพื่อพิจารณาหนังสือรับรองสถานะ” ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้ง เป็นผู้พิจารณาการออกหนังสือรับรองสถานะดังกล่าว
ร่างกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศและการดำเนินการตาม FATCA (Agreement between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the United States of America to Improve International Tax Compliance and to Implement FATCA) (ความตกลง FATCA) ที่ได้มีการลงนามเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2559 ซึ่งประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อนำข้อมูลของผู้เสียภาษีมาใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพของการจัดเก็บภาษีอากรของประเทศในระยะยาว ประกอบกับเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรวบรวมและนำส่งข้อมูลให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่รายงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตามความตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษี ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับแล้ว ซึ่งผู้แสดงความคิดเห็นไม่ได้คัดค้านในหลักการของ ร่างกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบด้วยในหลักการ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ผู้มีหน้าที่รายงานรวบรวม และนำส่งข้อมูลที่ต้องรายงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ พ.ศ. .... เป็นการกำหนดหน้าที่ของผู้มีหน้าที่รายงาน [1) สถาบันการเงิน 2) บริษัทหลักทรัพย์ 3) บริษัทประกันชีวิต 4) บริษัทประกันวินาศภัย 5) ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 6) ผู้ดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญาตามกฎหมายว่าด้วยการดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา 7) ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต และ 8) บุคคลที่ประกอบธุรกิจรับฝากหลักทรัพย์ รับฝากเงิน หรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน] ในการรวบรวมข้อมูลที่ต้องรายงานและนำส่งข้อมูลดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ตลอดจนหน้าที่ในการจัดเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ สรุปได้ดังนี้
1.1 กำหนดหน้าที่ของผู้มีหน้าที่รายงานในการรวบรวมข้อมูลที่ต้องรายงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีเพื่อปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ) เช่น ข้อมูลบัญชีทางการเงิน ข้อมูลภาษี ฯลฯ
1.2 กำหนดระยะเวลาในการนำส่งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ โดยให้ผู้มีหน้าที่รายงานนำส่งข้อมูลภายในเดือนมิถุนายนของปีถัดไปนับแต่วันสุดท้ายของปีปฏิทินของการได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องรายงาน เว้นแต่ข้อมูลที่ต้องรายงานในปีแรก ให้ผู้มีหน้าที่รายงานนำส่งข้อมูลที่ต้องรายงานภายในเดือนมิถุนายนของปีถัดจากวันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ
1.3 กำหนดให้การส่งข้อมูลของผู้มีหน้าที่รายงานจะถือว่าสมบูรณ์เมื่อระบบ IDES [International Data Exchange Service (IDES) ซึ่งเป็นช่องทางที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลตามข้อ 3 อนุวรรค 6 ก) ของความตกลงฯ] แจ้งเตือนว่าข้อมูลได้ถูกส่งไปยังเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของสหรัฐแล้ว
1.4 กำหนดให้เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจได้รับแจ้งความไม่ถูกต้องของข้อมูลจากระบบ IDES ที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้มีหน้าที่รายงาน ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจแจ้งให้ผู้มีหน้าที่รายงานทราบ และผู้มีหน้าที่รายงานต้องแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องและนำส่งข้อมูลที่ต้องรายงานให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนของปีเดียวกัน
1.5 กำหนดให้ผู้มีหน้าที่รายงานต้องจัดเก็บรักษาข้อมูลและเอกสารหลักฐานในการตรวจสอบข้อมูลของลูกค้าและการรายงานข้อมูล เป็นเวลาอย่างน้อย 6 ปี นับแต่ปีที่ได้รับข้อมูล
2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับการขอหนังสือรับรองสถานะว่าเป็นหรือ ไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน พ.ศ. .... เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระบวนการในการพิจารณาคำขอ การยื่นขอหนังสือรับรองสถานะของการเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน กรอบระยะเวลาในการยื่นคำขอ ช่องทางการดำเนินการ ตลอดจนขั้นตอนการพิจารณารับรองสถานะของผู้มีหน้าที่รายงาน สรุปได้ดังนี้
2.1 กำหนดให้ผู้ยื่นคำร้องขอหนังสือรับรองสถานะว่าเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงานตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. 2560 (พระราชบัญญัติ FATCA) จะต้องเป็นผู้มีหน้าที่รายงานตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติ FATCA
2.2 กำหนดระยะเวลายื่นคำขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ สำหรับรอบปีปฏิทินที่สิ้นสุดก่อนวันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ ให้ยื่นคำร้องขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ ภายใน 2 เดือน นับแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ สำหรับในปีถัดไปสามารถขอให้ยื่นคำร้องขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ ภายในวันที่ 31 มกราคมของทุกปี
2.3 กำหนดให้ผู้ขอหนังสือรับรองสถานะฯ ยื่นคำขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ และเอกสารประกอบพิจารณาตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศไทย (รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรี) ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ทั้งนี้ ผู้ขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ ต้องให้ความยินยอมแก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศไทยในการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการพิจารณาสถานะของผู้ยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศสหรัฐอเมริกา
2.4 กำหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อพิจารณาหนังสือรับรองสถานะที่รัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลังแต่งตั้ง และมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาคำขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ และให้ความเห็นและคำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศไทยในการพิจารณาออกหนังสือรับรองสถานะฯ โดยให้อธิบดีกรมสรรพากรเป็นประธาน และผู้แทนจากกรมสรรพากรและสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นกรรมการและเลขานุการร่วม
2. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยฉพาะ ในท้องที่ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้แก่ นางมี รักเสมอวงศ์ พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยฉพาะ ในท้องที่ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้แก่ นางมี รักเสมอวงศ์ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ร่างพระราชบัญญัติฯ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญเป็นการโอนที่ราชพัสดุที่เป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะตามหลักฐาน น.ส. 3 ก. เลขที่ 959 ในท้องที่ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เนื้อที่ประมาณ 14 ไร่ 1 งาน 90 ตารางวา (ที่ตั้งโรงเรียนบ้านป่าเป้าเดิม) ให้แก่นางมี รักเสมอวงศ์ ซึ่งได้ครอบครองทำประโยชน์อยู่ในปัจจุบัน เพื่อแลกเปลี่ยนกับที่ดินของนางมี รักเสมอวงศ์ หลักฐาน น.ส. 3 ก. เลขที่ 884 เนื้อที่ 16 ไร่ 0 งาน 00 ตารางวา (โดยปัจจุบันใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้งของโรงเรียนบ้านป่าเป้าเพื่อให้เป็นที่ราชพัสดุ)
2. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ด้วยแล้ว โดยได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ นางมี รักเสมอวงศ์ (ผู้แลกเปลี่ยน) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านป่าเป้า อดีตข้าราชการครูและบุคลากร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลและชาวบ้านบริเวณพื้นที่โดยรอบซึ่งเห็นชอบด้วย และได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ www.treasury.go.th และ ระบบกลางทางกฎหมาย www.law.go.th รวมทั้งได้จัดทำรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ (Checklist) และการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายดังกล่าวแล้ว พร้อมกับนำสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายดังกล่าวเผยแพร่ผ่านทาง www.treasury.go.th และ www.law.go.th ด้วยแล้ว
3. เรื่อง ระเบียบคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์การรายงานผลการดำเนินการ ตามมาตรฐานทางจริยธรรม ประมวลจริยธรรม ข้อกำหนดจริยธรรมและกระบวนการรักษาจริยธรรม พ.ศ. 2565
อ่าน.
https://www.naewna.com/politic/706418
สรุปมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำวันที่ 24 มกราคม 2566
1. เรื่อง ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. 2560 รวม 2 ฉบับ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ผู้มีหน้าที่รายงานรวบรวม และนำส่งข้อมูลที่ต้องรายงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับการขอหนังสือรับรองสถานะว่าเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยให้รับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการการต่อไปได้ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงฯ รวม 2 ฉบับ ที่กระทรวงการคลังเสนอเป็นการออกกฎกระทรวง เพื่อกำหนดให้ผู้มีหน้าที่รายงานตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความความตกลงระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. 2560 ได้แก่ สถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทประกันชีวิต เป็นต้น มีหน้าที่รวบรวมและนำส่งข้อมูล เช่น ข้อมูลบัญชีทางการเงิน ข้อมูลทางภาษี ฯลฯ ต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีเพื่อปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ) และมีหน้าที่ในการจัดเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ปีนับแต่ปีที่ได้รับข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อมูล รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการการขอหนังสือรับรองสถานะว่าเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน โดยให้มี “คณะกรรมการเพื่อพิจารณาหนังสือรับรองสถานะ” ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้ง เป็นผู้พิจารณาการออกหนังสือรับรองสถานะดังกล่าว
ร่างกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศและการดำเนินการตาม FATCA (Agreement between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the United States of America to Improve International Tax Compliance and to Implement FATCA) (ความตกลง FATCA) ที่ได้มีการลงนามเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2559 ซึ่งประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อนำข้อมูลของผู้เสียภาษีมาใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพของการจัดเก็บภาษีอากรของประเทศในระยะยาว ประกอบกับเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรวบรวมและนำส่งข้อมูลให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่รายงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตามความตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษี ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับแล้ว ซึ่งผู้แสดงความคิดเห็นไม่ได้คัดค้านในหลักการของ ร่างกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบด้วยในหลักการ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ผู้มีหน้าที่รายงานรวบรวม และนำส่งข้อมูลที่ต้องรายงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ พ.ศ. .... เป็นการกำหนดหน้าที่ของผู้มีหน้าที่รายงาน [1) สถาบันการเงิน 2) บริษัทหลักทรัพย์ 3) บริษัทประกันชีวิต 4) บริษัทประกันวินาศภัย 5) ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 6) ผู้ดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญาตามกฎหมายว่าด้วยการดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา 7) ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต และ 8) บุคคลที่ประกอบธุรกิจรับฝากหลักทรัพย์ รับฝากเงิน หรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน] ในการรวบรวมข้อมูลที่ต้องรายงานและนำส่งข้อมูลดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ตลอดจนหน้าที่ในการจัดเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ สรุปได้ดังนี้
1.1 กำหนดหน้าที่ของผู้มีหน้าที่รายงานในการรวบรวมข้อมูลที่ต้องรายงานให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีเพื่อปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ) เช่น ข้อมูลบัญชีทางการเงิน ข้อมูลภาษี ฯลฯ
1.2 กำหนดระยะเวลาในการนำส่งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ โดยให้ผู้มีหน้าที่รายงานนำส่งข้อมูลภายในเดือนมิถุนายนของปีถัดไปนับแต่วันสุดท้ายของปีปฏิทินของการได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องรายงาน เว้นแต่ข้อมูลที่ต้องรายงานในปีแรก ให้ผู้มีหน้าที่รายงานนำส่งข้อมูลที่ต้องรายงานภายในเดือนมิถุนายนของปีถัดจากวันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ
1.3 กำหนดให้การส่งข้อมูลของผู้มีหน้าที่รายงานจะถือว่าสมบูรณ์เมื่อระบบ IDES [International Data Exchange Service (IDES) ซึ่งเป็นช่องทางที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลตามข้อ 3 อนุวรรค 6 ก) ของความตกลงฯ] แจ้งเตือนว่าข้อมูลได้ถูกส่งไปยังเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของสหรัฐแล้ว
1.4 กำหนดให้เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจได้รับแจ้งความไม่ถูกต้องของข้อมูลจากระบบ IDES ที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้มีหน้าที่รายงาน ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจแจ้งให้ผู้มีหน้าที่รายงานทราบ และผู้มีหน้าที่รายงานต้องแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องและนำส่งข้อมูลที่ต้องรายงานให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนของปีเดียวกัน
1.5 กำหนดให้ผู้มีหน้าที่รายงานต้องจัดเก็บรักษาข้อมูลและเอกสารหลักฐานในการตรวจสอบข้อมูลของลูกค้าและการรายงานข้อมูล เป็นเวลาอย่างน้อย 6 ปี นับแต่ปีที่ได้รับข้อมูล
2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับการขอหนังสือรับรองสถานะว่าเป็นหรือ ไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน พ.ศ. .... เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระบวนการในการพิจารณาคำขอ การยื่นขอหนังสือรับรองสถานะของการเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงาน กรอบระยะเวลาในการยื่นคำขอ ช่องทางการดำเนินการ ตลอดจนขั้นตอนการพิจารณารับรองสถานะของผู้มีหน้าที่รายงาน สรุปได้ดังนี้
2.1 กำหนดให้ผู้ยื่นคำร้องขอหนังสือรับรองสถานะว่าเป็นหรือไม่เป็นผู้มีหน้าที่รายงานตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อความร่วมมือในการปรับปรุงการปฏิบัติตามการภาษีอากรระหว่างประเทศ พ.ศ. 2560 (พระราชบัญญัติ FATCA) จะต้องเป็นผู้มีหน้าที่รายงานตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติ FATCA
2.2 กำหนดระยะเวลายื่นคำขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ สำหรับรอบปีปฏิทินที่สิ้นสุดก่อนวันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ ให้ยื่นคำร้องขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ ภายใน 2 เดือน นับแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ สำหรับในปีถัดไปสามารถขอให้ยื่นคำร้องขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ ภายในวันที่ 31 มกราคมของทุกปี
2.3 กำหนดให้ผู้ขอหนังสือรับรองสถานะฯ ยื่นคำขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ และเอกสารประกอบพิจารณาตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศไทย (รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรี) ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ทั้งนี้ ผู้ขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ ต้องให้ความยินยอมแก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศไทยในการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการพิจารณาสถานะของผู้ยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศสหรัฐอเมริกา
2.4 กำหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อพิจารณาหนังสือรับรองสถานะที่รัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลังแต่งตั้ง และมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาคำขอให้ออกหนังสือรับรองสถานะฯ และให้ความเห็นและคำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศไทยในการพิจารณาออกหนังสือรับรองสถานะฯ โดยให้อธิบดีกรมสรรพากรเป็นประธาน และผู้แทนจากกรมสรรพากรและสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นกรรมการและเลขานุการร่วม
2. เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยฉพาะ ในท้องที่ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้แก่ นางมี รักเสมอวงศ์ พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยฉพาะ ในท้องที่ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้แก่ นางมี รักเสมอวงศ์ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ร่างพระราชบัญญัติฯ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มีสาระสำคัญเป็นการโอนที่ราชพัสดุที่เป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะตามหลักฐาน น.ส. 3 ก. เลขที่ 959 ในท้องที่ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เนื้อที่ประมาณ 14 ไร่ 1 งาน 90 ตารางวา (ที่ตั้งโรงเรียนบ้านป่าเป้าเดิม) ให้แก่นางมี รักเสมอวงศ์ ซึ่งได้ครอบครองทำประโยชน์อยู่ในปัจจุบัน เพื่อแลกเปลี่ยนกับที่ดินของนางมี รักเสมอวงศ์ หลักฐาน น.ส. 3 ก. เลขที่ 884 เนื้อที่ 16 ไร่ 0 งาน 00 ตารางวา (โดยปัจจุบันใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้งของโรงเรียนบ้านป่าเป้าเพื่อให้เป็นที่ราชพัสดุ)
2. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ด้วยแล้ว โดยได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ นางมี รักเสมอวงศ์ (ผู้แลกเปลี่ยน) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านป่าเป้า อดีตข้าราชการครูและบุคลากร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลและชาวบ้านบริเวณพื้นที่โดยรอบซึ่งเห็นชอบด้วย และได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ www.treasury.go.th และ ระบบกลางทางกฎหมาย www.law.go.th รวมทั้งได้จัดทำรายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ (Checklist) และการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายดังกล่าวแล้ว พร้อมกับนำสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายดังกล่าวเผยแพร่ผ่านทาง www.treasury.go.th และ www.law.go.th ด้วยแล้ว
3. เรื่อง ระเบียบคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์การรายงานผลการดำเนินการ ตามมาตรฐานทางจริยธรรม ประมวลจริยธรรม ข้อกำหนดจริยธรรมและกระบวนการรักษาจริยธรรม พ.ศ. 2565
อ่าน. https://www.naewna.com/politic/706418