เรากับแฟนคบกันมาได้เกือบ 6 ปีแล้ว
เพิ่งจะมามีปัญหากันช่วงปลายปีที่ผ่านมา ต้องบอกก่อนเลยว่า ก่อนหน้านี้ เราก็เดี๋ยวอาศัยอยู่คอนโดเดียวกันบ้าง หรือ แยกกันอยู่บ้างเนื่องจากต้องทำงานไกลกัน แต่ก็ยังรักกันปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ ช่วงนี้เราอยู่คนละที่ เราอยู่ กทม เค้าอยู่สมุทรปราการ เวลาทำงานและเวลาเลิกงานเราไม่เคยจะตรงกันเลย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ก็พอได้ เค้าเลิก 5 โมง เราเลิก 1 ทุ่ม แต่ตั้งแต่ที่เราเริ่มมีปัญหากัน คือเค้าเลิกงาน 4 โมงเย็น เราเลิกงาน 5 ทุ่มครึ่ง เรามักจะได้ยินเค้าพูดบ่อยๆว่าเนี่ยเวลาคุยกับแฟนน้อยลงทุกวันเลย ทำให้เค้าเหงาบ้างบางครั้ง ซึ่งสาเหตุที่เราต้องเลิกดึกขนาดนั้น เพราะเป็นช่วงที่เราต้อง
โฟกัสกับงานนั้นเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อที่จะได้เลื่อนเงินเดือนที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด เราก็บอกแฟนว่า อดทนหน่อยนะ 3 เดือนเท่านั้นเอง
เพื่ออนาคตของเราที่ดีไง และถ้ามีเวลาไหนก็แล้วแต่ ที่เราว่าง ไม่ว่าจะเบรค หรือ ว่างจับโทรศัพท์ ก็จะทักหาตลอด เราโทรคุยกันก่อนนอนทุกคืน
แต่เค้าก็เริ่มบอกเราว่า รอดึกทุกวันไม่ได้นะ เพราะเค้าก็ต้องทำงานเช้า เข้างาน 8 โมง วันไหนท่เค้าไม่ไหว เราก็บอกให้เค้านอนก่อนเลย
ไม่อยากให้เค้าต้องลำบากใจ แต่พอทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ชัดขึ้น เช่น พอเค้าเริ่มมีเพื่อน เค้าก็ไปเที่ยวเอย ไปกินเหล้าเอย
ในช่วงเวลาที่เรายังไม่เลิกงาน เค้าก็จะมีชีวิตในส่วนที่เป็นส่วนตัวของเค้าเลย พักหลังทักไปจะไม่ค่อยตอบเราเท่าไหร่ และพอถึงเวลา ครบ 3 เดือน
เราก็ทำได้ ได้เลื่อนตำแหน่ง และเงินเดือน และได้กลับมาเลิกงานเร็วขึ้น เป็น 2 ทุ่ม แต่ทว่า มันกลายเป็นว่าเค้าชินที่จะมีขีวิตเป็นของตัวเองไปซะแล้ว
เค้าบอกให้เราเข้าใจ ว่าตอนที่เค้ารอเรามันรู้สึกยังไง ตอนนี้ เราก็ต้องรอเค้าบ้าง ให้เค้าค่อยๆปรับเวลาใหม่ โอเค เรื่องนั้นเราเข้าใจ เข้าใจเค้าดีเลยแหละ
แต่เมื่อไหร่หล่ะ ตอนนี้ 1 เดือนเต็มๆแล้ว ยังรู้สึกว่า เรายังปรับกันไม่ได้ ถ้าเราทักไป อาจจะต้องรอเค้าตอบประมาณ 1 ชม.หรือไม่ก็ ปกติโทรคุยกันตอนเลิกงานดึก ก็กลายเป็นว่า ต่อให้เลิกงานเร็ว ก็ได้โทรหากันดึกอยู่ดี กลายเป็นว่า เราพยายามเข้าหาเค้า เพื่อปรับในเรื่องของเวลาที่ไม่ค่อยได้คุยกัน
แต่นั่นแหละ เหมือนจะสายไป ก่อนที่เราจะทะเลาะกันหนักถึงขั้นเคยเลิกกันไปแล้ว เราไปเที่ยวทะเลกันมาก่อน ซึ่งมันเป็นอะไรที่พิเศษมาก พออยู่ใกล้กัน
เค้าดูแลเราอย่างดี เหมือนคู่รักใหม่ ที่เพิ่งจะคบกันด้วยซ้ำ 3 วัน 2 คืน หวานไม่ไหว จนตอนเรากลับมา ก็เริ่มมีปัญหาตรงที่ว่า เรา เป็นคนออกค่าเที่ยวไปก่อนทั้งหมด แต่เราตกลงกันไว้แล้วว่า หาร 2 ทั้งค่าห้อง และค่ากินอะไรต่างๆ ก็จดลิสไว้ได้เลย เค้าบอกว่า เดี๋ยวอีกไม่กี่วัน เงินเดือนออก โบนัสออกแล้วจะคืนให้
ซึ่งเราก็โอเคอยู่แล้ว ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่รู้สึกว่าเค้าไม่ค่อยสบายใจเมื่อรู้ว่า ค่าใช้จ่ายมันก็เยอะพอสมควร เราก็บอกเค้าว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรา ออก 70:30 ก็ได้ เค้าบอกว่าไม่เป็นไร เค้าช่วยแน่ๆ เราก็โอๆ ไม่มีปัญหา จนกระทั่ง วันหยุดเสาร์-อาทิตย์(เราได้หยุดวันอาทิตย์แค่วันเดียว แฟนเราหยุด เสาร์-อาทิตย์ เสาร์เว้นเสาร์ ) เค้ามาหาเรา เพราะเราบอกเค้าว่าจะให้พาไปซื้อของขวัญให้พี่สาว เค้าก็มา เราก็เลย ชวนเค้าไปดูหนังด้วยซะเลย เค้าก็ไม่ขัดอะไร อยากดูเค้าก็ดูด้วย แต่ก่อนดู เราก็ไปกินบุฟเฟต์กันก่อนจากนั้นก็ดูหนัง ซื้อของให้พี่เสร็จก็เตรียมกลับตอนนั้นก็เริ่มเย็นมากแล้ว ก็หาอะไรกินกัน และตอนนั้นเราอยากกินกุ้ง ซึ่ง เรากับเค้าก็ชอบกินกุ้งกันทั้งคู่ เราก็เลยแวะซื้อกุ้งเผา เค้าก็บอก รวยจังเลยนะ อยากกินก็กิน เราก็เริ่มเห็นสีหน้าเค้าไม่ค่อยดี ก็เลยบอกไปว่า เอาหน้า ถือว่าฉลอง ที่ได้ขึ้นเงินเดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตั้งแต่ กินบุฟเฟต์ ดูหนัง กุ้งเผาอะไรต่างๆ เราเป็นคนออกเองหมดเลย เพราะรู้ว่าเค้าน่าจะไม่พอช่วยแน่นอน ซึ่งเราก็คิดน้อยไป วันนั้นจากลับ(ลืมบอกไปว่า ตอนแฟนมาหาเรา เค้าต้องเอารถขึ้นโป๊ะ และขับเข้ากรุงเทพเพื่อมาหาเรา เดินทางประมาณ ครึ่งชั่วโมงได้ ขับรถมอเตอร์ไซค์ เข้ากรุงเทพเพื่อมาหาเรา แต่ก็สลับกัน เราก็ไปหาเค้าด้วย ส่วนใหญ่จะนั่งแท็กซี่ หรือไม่ก็นั่งเรือข้ามฟากไป)แฟนเราขับรถมาส่งคอนโดซึ่งตอนนั้นเราก็กินกุ้ง กินข้าวที่ซื้อมา และก็เตรียมกลับ ตอนนั้นก็น่าจะ 3 ทุ่มได้ หลังกลับไป แค่วันเดียว เราก็เริ่มทะเลาะกัน เราติดต่อเค้าไม่ได้ โทรไปไม่รับ ไม่ตอบ กว่าจะได้คุยกันอีกที ก็ดึกมากแล้ว ตอนนั้นรู้สึกแย่มากๆ ว่าเราทำอะไรผิด แต่พอเค้ารับสาย เปิดกล้องก็เห็นเค้าร้องไห้อยู่ เรื่องที่ว่า เค้าหนักใจ ที่ต้องเห็นเราจ่ายอะไรแบบนี้ เค้ารู้สึกไม่ดี รู้สึกว่าเราเปย์เค้าเกินไป เค้าก็บอกว่า เงินที่เค้าต้องคืนให้ หักไปกับค่ามัดจำคอนโดได้ไหม (ก่อนหน้านี้ เราอยู่ที่เดียวกัน หารค่ามัดจำคอนโดกัน)เราก็บอกเค้าว่า มาคุยกันดีๆก่อน วันหยุดจะไปหาได้เครียความเข้าใจกันด้วย ขอเจอหน้าก่อน แล้วค่อยคุยกัน แต่เค้าก็ยืนกรานตรงที่ว่า ขอเครียเรื่องเงินตอนนี้ก่อน ว่าได้หรือไม่ได้ เพราะเค้าก็เครียดเรื่องเงินตอนนี้ ที่อาจจะไม่พอใช้ จนเราก็ยอม เพราะจริงๆ เราไม่ติดอยู่แล้ว ก็ให้เค้าหักไป ถามเค้าว่า สบายใจขึ้นหรือยัง ขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดี คิดน้อยไปเอง ขอให้กลับมาคุยกันปกติได้ไหม เพราะตอนนี้ เราเริ่มติดต่อกันได้ยากมากๆ ถามไปก็ได้คำตอบแบบสั้นๆ ไม่มีฟิวแบบคนรักกันเลย เค้าบอกเราว่า ถ้างั้นเลิกเปย์เค้าได้ไหม ห้ามเลี้ยง ไม่กินของแพง กินของถูกๆ ง่ายๆ บอกเลยว่า เรารับได้อยู่แล้ว แค่ว่าวันนั้นเราเราใช้เงินเยอะไปหน่อยเพราะได้ขึ้นเงินเดือน เราตอบไปว่า ได้อยู่แล้ว คุยกันไป เค้าก็ร้องไห้ไม่หยุด เราก็ขอโทษเค้า จะให้กินอะไรก็ได้ มาม่า ข้าวแกง แค่ว่าช่วงนี้เรากินคีโต ทำให้เราไม่สามารถกินแป้งได้ เน้นกินเนื้อสัตว์ เวลาที่เราอยู่กับแฟน เค้าก็จะตามใจเรา อยากกินเนื้อก็กิน เค้ากินได้หมดอยู่แล้ว แต่นั่นแหละ อาหารจำพวกเนื้อ มันก็ค่อนข้างแพงกว่าขาวปกติทั่วไป แต่ถ้าให้เลิกกินคีโต แล้วกลับมากินอาหารปกติ ก็พร้อมที่จะทำให้ได้ บอกเลยว่าเราไม่เคยติดหรู แค่เรื่องที่ว่าการลดน้ำหนัก มันเห็นผลกับตัวเราได้ดีไม่กี่วิธี ก็เลยเลือกทางนี้ กลับมาตอนที่เราเครียใจกันตอนนั้นเรารู้สึกว่าตอนนั้นเราน่าจะทะเลาะกันหนักที่สุดตั้งแต่คบกันมา เราไม่เคยเห็นเค้าร้องไห้ขนาดนั้นมาก่อน จนเราต้องพูดให้เค้าเข้าใจว่า ปกติ นิสัยเราเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ชอบซื้อของขวัญให้แฟน ชอบที่เป็นผู้ให้ ถึงแม้ว่าจะได้รับกลับหรือไม่ก็ตาม ทั้งกับแฟนคนนี้ หรือ คนที่เคยคบกันมาก็ตาม ให้เพราะอยากให้ อยากให้มีความสุข รู้สึกแค่นั้นจริงๆ แล้วเค้าก็เลิกร้อง แล้วก็เริ่มเครียใจกัน จากนั้น ก็มีปัญหาอีก ตรงที่เค้าติดต่อไม่ได้ ในช่วงที่เราคุยกันปกติ จนมันดึกมากแล้ว เราโทรไปไม่รับสายเลย แต่เค้ามาบอกเราทีหลังว่า เค้าหลับ เพราะนอนดึก กลับจากงานก็หลับเลย ได้คุยกันอีกทีก็เกือบเที่ยงคืนตลอด จนผ่านไปซักพักเราเริ่มไม่โอเค อยากให้เค้าปรับเวลา ให้ปรับเวลานอน ได้คุยกันน้อยไม่เป็นไร แต่ขออย่างเดียวได้ไหม ตอนทักไป ถ้าว่าง ไม่ว่าจะเบรค หรือมีเวลาจับโทรศัพท์ ช่วยอ่าน และตอบกลับข้อความเราหน่อยได้ไหม เพราะมันรู้สึกไม่ดี รู้สึกว่า แทบจะไม่ได้คุยกันเลย ระยะห่างมันเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม แต่ท่าทีเค้าดูเปลี่ยนไป จนวันหยุด เราไปหาเค้า เราเครียใจกัน ถามไปเลยว่ายังรักกันอยู่ไหม เค้าก็บอกว่า ความรู้สึกตอนนี้มันน้อยลง ตอนนั้นเราก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว เราก็บอกเค้าว่า มันมีสิทธิ์ที่เราจะแก้ไข แล้วก็ไปต่อกันได้ไหม ยังมีโอกาสไหม ถ้าตอบว่าไม่มี เราจะกลับตอนนี้เลย เค้าบอกว่า แล้วเราจะทนได้หรอ กับความรู้สึกที่มันน้อยลง ไม่เสียใจทีหลังหรอ ตอนนั้นเราได้ยินก็จะเรียกรถกลับแล้ว แต่เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวก่อน อยู่ที่นี่แหละนะ เราก็โอเค พูดไปก็ร้องไป แล้วก็อธิบายความในใจ เรื่องที่เค้าเปลี่ยนไป เราพยายามเต็มที่ที่สุดแล้ว ให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่เหมือนเค้าปิดกั้นเรา เหมือนเราพยายามอยู่ฝ่ายเดียว ตอนนั้น เราก็ถามเค้าว่า ควรไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่เหมือนเค้าจะไม่ค่อยจะยอมพูดอะไร เลิกที่จะเงียบ แล้วให้เราพูด ให้เราคิดไปเอง จนเราเริ่มรู้สึกไปเอง ว่าเค้าไม่แคร์เราแล้ว ไม่รักเราแล้วจริงๆ เราก็บอกไปว่า เข้าใจแล้วแหละ เพราะถ้ายังรักกันอยู่ เห็นแฟนร้องไห้ขนาดนี้ ก็ต้องรู้สึกสงสาร หรือไม่ก็ต้องปรอบใจกันบ้างแล้ว แต่นี่ไม่เลย เงียบ อยู่เฉยๆ คอยรับฟังอย่างเดียว ว่าเราจะพูดอะไร จนเค้าดึงเราไปกอด เราก็บอกเค้าไปว่า ถ้าไม่รักกันแล้ว ทำแบบนี้มันไม่ดีรู้ไหม มันทำให้เราตัดใจยาก ถ้าจะไม่รักกันจริงๆ ก็อย่าทำแบบนี้เลย ทีนี้เค้าก็ปล่อยเราทันที เค้าก็บอกว่า เอางี้ไหมล่ะ ให้เวลาเค้าซัก 3 เดือน ถ้ามันยังรู้สึกอยู่ ค่อยว่ากันอีกที เราก็ตอบเค้าไปว่า ทำไม่ได้หรอก แค่รู้สึกถึงเวลา 3 เดือน ที่ต้องห่างกัน และเรายังรักเค้าอยู่แบบนี้ และถ้าในช่วงเลานั้น เค้ามีใครขึ้นมา เราจะรู้สึกยังไง ตอนนั้น เราก็คิดแล้วแหละว่าคงต้องเลิกกันแน่ๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเริ่มใจแข็ง เริ่มหนักแน่นขึ้น และเราก็เป็นคนพูดยุติความสัมพันธ์เอง
เราไม่เชิงว่าบอกเลิกเค้า แต่ ทุกคำพูดมันหมายความแบบนั้นไปแล้ว เราอยู่ห้องเค้า นั่งร้องไห้ แต่ด้วยเค้ามีงานที่ต้องทำ เค้าก็ทำงานไป เราก็ร้องไห้ไป
จนถึงตอนเย็น เย็นนั้นเราก็บอกเค้าว่า ขออยู่ถึง 1 ทุ่มนะ คิดซะว่า เพื่อนมาขอค้างด้วย เค้าบอกว่า ได้ด้วยหรอ เราก็บอกเค้าว่าไม่ได้หรอ ด้วยความที่เรา ยังตัดใจจากเค้าไม่ได้ วันนั้น เราก็ซื้อเบียร์มากินเค้าก็ซื้อมากินด้วย จนเราเริ่มเมา ปกติแล้วเราจะดื่มไม่ค่อยได้ เพราะจะมีอาการตัวแดง แบะเมาเร็วมาก เค้าก็เป็นห่วง และก็บอกว่าพอได้แล้วมั้ง อันตราย เราก็บอกว่าไหว แล้วเราก็ดื่มไปหมดกระป๋องใหญ่ จนเริ่มหน้าร้อนผ่าว หัวเริ่มหนัก มือชา ความรู้สึกทุกอย่างที่อธิบายไม่ได้ ไหลออกมาเป็นน้ำตา ทำให้เศร้ากว่าเดิมอีก สุดท้าย เราก็นอนร้องไห้บนเตียงตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่แน่ใจ เราคิดทบทวนไปเรื่อยๆ จนในที่สุด เราก็พูดออกไปว่า "นี่ เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมได้ไหม ทำใจไม่ได้จริงๆ ทันเจ็บ มันทรมานมากๆ ภาพทุกอย่างที่รักกันมันผุดขึ้นมาในหัวไม่หยุดเลย โทรศัพท์เรามีแต่รูปเค้า มีแต่วีดีโอเค้า จนเค้าเข้ามาหา มากอด แล้วก็บอกว่า จริงๆเค้าไม่ได้รีบอะไรขนาดนี้เลย เป็นเราเอง ที่เริ่มก่อน สุดท้าย เราก็กลับมาคุยกัน แต่เค้าก็บอกซ้ำอีกว่า แล้วจะรับได้ไหม ถ้าความรู้สึกมันน้อยลง ถึงเราจะไม่ชอบที่ได้ยินแบบนั้น แต่นั่นแหละ เรารักเค้า ถ้ามันน้อยลง ก็แค่ทำให้มันมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง จนเราเริ่มกลับมาคุยกันประมาณ 1 อาทิตย์ ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้น แต่ล่าสุด เค้าหายไปอีกแล้ว โทรไปไม่รับ วันที่นัดกันให้มาหา ก็มาไม่ได้ ทั้งที่สัญญากันแล้ว เราก็พยายามที่เข้าใจเข้า แต่มันเริ่มกลับสู่โหมดเดิม ทักไปไม่ตอบ อ่านแล้วไม่ตอบด้วยซ้ำ จนเมื่อวานนี้ เค้าก็บอกกับเราว่า เราหยุดแค่นี้กันไหมล่ะ ถ้ามันจะขนาดนี้ เราได้ยินก็ร้องไห้ออกมาเลย เพราะว่าเราพยามยามที่สุดแล้ว สุดท้าย เราก็ลากัน ขอบคุณทุกอย่าง เราร้องไห้ทั้งคืน ลบชื่อเล่นใน Facebook ออก ให้เป็นชื่อตั้งต้น เปลี่ยนสีแชท เอาสถานะออก จนมาถึงตอนลบรูปบน IG เราเลื่อนดู รูป 70% มีแต่รูปคู่กับเค้า หรือไม่ก็รูปเค้าเดี่ยวๆบ้างแหละ มันทำใจยากมาก ลบไม่ได้เลยซักรูป และในคืนนั้น เราก็พิมพ์ข้อความไป ว่า วันนี้เราใจร้อนเกินไป พรุ่งนี้เราคุยกันใหม่ได้ไหม อยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม แม้ต้องพยายามใหม่ก็ตาม จนวันนี้ เค้ายอมคุยกับเรา แต่ก็บอกว่า ตอนนี้ เรายังกลับไปคบกันเหมือนเดิมไม่ได้ แล้วก็ไม่รู่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่เค้ายังไม่มีใครแน่นอน เค้าเคยบอกว่าเราเป็นคนดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครดีเท่าเราแน่นอน เราบอกเค้าว่า พอพูดแบบนี้ ดูไม่มีเยื่อใยดี เค้าก็บอกว่า ถ้าไม่มีเยื่อใย จะโทรมาหาก่อนแบบนี้หรอ ใจเราชื้นขึ้นแบบ 100% เลย อยากให้ทุกอย่าง กลับไปเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้ระหว่างที่นอนค้างสาย เราพิมพ์กระทู้นี้ ตั้งแต่ เที่ยงคืน ถึงตี 3 ขอโทษที่ต้องมาระบายในนี้ เรารักเค้าจริงจัง อยากให้ทุกอย่างดีขึ้น ใครมีวิธีช่วยแนะนำเราหน่อยนะ 🥹🥹
รักกับแฟนมาเกือบ 6 ปี เค้าบอกว่า ความรู้สึกมันน้อยลง ควรทำยังไงดีคะ
เพิ่งจะมามีปัญหากันช่วงปลายปีที่ผ่านมา ต้องบอกก่อนเลยว่า ก่อนหน้านี้ เราก็เดี๋ยวอาศัยอยู่คอนโดเดียวกันบ้าง หรือ แยกกันอยู่บ้างเนื่องจากต้องทำงานไกลกัน แต่ก็ยังรักกันปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ ช่วงนี้เราอยู่คนละที่ เราอยู่ กทม เค้าอยู่สมุทรปราการ เวลาทำงานและเวลาเลิกงานเราไม่เคยจะตรงกันเลย
โฟกัสกับงานนั้นเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อที่จะได้เลื่อนเงินเดือนที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด เราก็บอกแฟนว่า อดทนหน่อยนะ 3 เดือนเท่านั้นเอง
แต่เค้าก็เริ่มบอกเราว่า รอดึกทุกวันไม่ได้นะ เพราะเค้าก็ต้องทำงานเช้า เข้างาน 8 โมง วันไหนท่เค้าไม่ไหว เราก็บอกให้เค้านอนก่อนเลย
ไม่อยากให้เค้าต้องลำบากใจ แต่พอทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ชัดขึ้น เช่น พอเค้าเริ่มมีเพื่อน เค้าก็ไปเที่ยวเอย ไปกินเหล้าเอย
ในช่วงเวลาที่เรายังไม่เลิกงาน เค้าก็จะมีชีวิตในส่วนที่เป็นส่วนตัวของเค้าเลย พักหลังทักไปจะไม่ค่อยตอบเราเท่าไหร่ และพอถึงเวลา ครบ 3 เดือน
เราก็ทำได้ ได้เลื่อนตำแหน่ง และเงินเดือน และได้กลับมาเลิกงานเร็วขึ้น เป็น 2 ทุ่ม แต่ทว่า มันกลายเป็นว่าเค้าชินที่จะมีขีวิตเป็นของตัวเองไปซะแล้ว
เค้าบอกให้เราเข้าใจ ว่าตอนที่เค้ารอเรามันรู้สึกยังไง ตอนนี้ เราก็ต้องรอเค้าบ้าง ให้เค้าค่อยๆปรับเวลาใหม่ โอเค เรื่องนั้นเราเข้าใจ เข้าใจเค้าดีเลยแหละ
แต่เมื่อไหร่หล่ะ ตอนนี้ 1 เดือนเต็มๆแล้ว ยังรู้สึกว่า เรายังปรับกันไม่ได้ ถ้าเราทักไป อาจจะต้องรอเค้าตอบประมาณ 1 ชม.หรือไม่ก็ ปกติโทรคุยกันตอนเลิกงานดึก ก็กลายเป็นว่า ต่อให้เลิกงานเร็ว ก็ได้โทรหากันดึกอยู่ดี กลายเป็นว่า เราพยายามเข้าหาเค้า เพื่อปรับในเรื่องของเวลาที่ไม่ค่อยได้คุยกัน
แต่นั่นแหละ เหมือนจะสายไป ก่อนที่เราจะทะเลาะกันหนักถึงขั้นเคยเลิกกันไปแล้ว เราไปเที่ยวทะเลกันมาก่อน ซึ่งมันเป็นอะไรที่พิเศษมาก พออยู่ใกล้กัน
เค้าดูแลเราอย่างดี เหมือนคู่รักใหม่ ที่เพิ่งจะคบกันด้วยซ้ำ 3 วัน 2 คืน หวานไม่ไหว จนตอนเรากลับมา ก็เริ่มมีปัญหาตรงที่ว่า เรา เป็นคนออกค่าเที่ยวไปก่อนทั้งหมด แต่เราตกลงกันไว้แล้วว่า หาร 2 ทั้งค่าห้อง และค่ากินอะไรต่างๆ ก็จดลิสไว้ได้เลย เค้าบอกว่า เดี๋ยวอีกไม่กี่วัน เงินเดือนออก โบนัสออกแล้วจะคืนให้
ซึ่งเราก็โอเคอยู่แล้ว ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่รู้สึกว่าเค้าไม่ค่อยสบายใจเมื่อรู้ว่า ค่าใช้จ่ายมันก็เยอะพอสมควร เราก็บอกเค้าว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรา ออก 70:30 ก็ได้ เค้าบอกว่าไม่เป็นไร เค้าช่วยแน่ๆ เราก็โอๆ ไม่มีปัญหา จนกระทั่ง วันหยุดเสาร์-อาทิตย์(เราได้หยุดวันอาทิตย์แค่วันเดียว แฟนเราหยุด เสาร์-อาทิตย์ เสาร์เว้นเสาร์ ) เค้ามาหาเรา เพราะเราบอกเค้าว่าจะให้พาไปซื้อของขวัญให้พี่สาว เค้าก็มา เราก็เลย ชวนเค้าไปดูหนังด้วยซะเลย เค้าก็ไม่ขัดอะไร อยากดูเค้าก็ดูด้วย แต่ก่อนดู เราก็ไปกินบุฟเฟต์กันก่อนจากนั้นก็ดูหนัง ซื้อของให้พี่เสร็จก็เตรียมกลับตอนนั้นก็เริ่มเย็นมากแล้ว ก็หาอะไรกินกัน และตอนนั้นเราอยากกินกุ้ง ซึ่ง เรากับเค้าก็ชอบกินกุ้งกันทั้งคู่ เราก็เลยแวะซื้อกุ้งเผา เค้าก็บอก รวยจังเลยนะ อยากกินก็กิน เราก็เริ่มเห็นสีหน้าเค้าไม่ค่อยดี ก็เลยบอกไปว่า เอาหน้า ถือว่าฉลอง ที่ได้ขึ้นเงินเดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตั้งแต่ กินบุฟเฟต์ ดูหนัง กุ้งเผาอะไรต่างๆ เราเป็นคนออกเองหมดเลย เพราะรู้ว่าเค้าน่าจะไม่พอช่วยแน่นอน ซึ่งเราก็คิดน้อยไป วันนั้นจากลับ(ลืมบอกไปว่า ตอนแฟนมาหาเรา เค้าต้องเอารถขึ้นโป๊ะ และขับเข้ากรุงเทพเพื่อมาหาเรา เดินทางประมาณ ครึ่งชั่วโมงได้ ขับรถมอเตอร์ไซค์ เข้ากรุงเทพเพื่อมาหาเรา แต่ก็สลับกัน เราก็ไปหาเค้าด้วย ส่วนใหญ่จะนั่งแท็กซี่ หรือไม่ก็นั่งเรือข้ามฟากไป)แฟนเราขับรถมาส่งคอนโดซึ่งตอนนั้นเราก็กินกุ้ง กินข้าวที่ซื้อมา และก็เตรียมกลับ ตอนนั้นก็น่าจะ 3 ทุ่มได้ หลังกลับไป แค่วันเดียว เราก็เริ่มทะเลาะกัน เราติดต่อเค้าไม่ได้ โทรไปไม่รับ ไม่ตอบ กว่าจะได้คุยกันอีกที ก็ดึกมากแล้ว ตอนนั้นรู้สึกแย่มากๆ ว่าเราทำอะไรผิด แต่พอเค้ารับสาย เปิดกล้องก็เห็นเค้าร้องไห้อยู่ เรื่องที่ว่า เค้าหนักใจ ที่ต้องเห็นเราจ่ายอะไรแบบนี้ เค้ารู้สึกไม่ดี รู้สึกว่าเราเปย์เค้าเกินไป เค้าก็บอกว่า เงินที่เค้าต้องคืนให้ หักไปกับค่ามัดจำคอนโดได้ไหม (ก่อนหน้านี้ เราอยู่ที่เดียวกัน หารค่ามัดจำคอนโดกัน)เราก็บอกเค้าว่า มาคุยกันดีๆก่อน วันหยุดจะไปหาได้เครียความเข้าใจกันด้วย ขอเจอหน้าก่อน แล้วค่อยคุยกัน แต่เค้าก็ยืนกรานตรงที่ว่า ขอเครียเรื่องเงินตอนนี้ก่อน ว่าได้หรือไม่ได้ เพราะเค้าก็เครียดเรื่องเงินตอนนี้ ที่อาจจะไม่พอใช้ จนเราก็ยอม เพราะจริงๆ เราไม่ติดอยู่แล้ว ก็ให้เค้าหักไป ถามเค้าว่า สบายใจขึ้นหรือยัง ขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดี คิดน้อยไปเอง ขอให้กลับมาคุยกันปกติได้ไหม เพราะตอนนี้ เราเริ่มติดต่อกันได้ยากมากๆ ถามไปก็ได้คำตอบแบบสั้นๆ ไม่มีฟิวแบบคนรักกันเลย เค้าบอกเราว่า ถ้างั้นเลิกเปย์เค้าได้ไหม ห้ามเลี้ยง ไม่กินของแพง กินของถูกๆ ง่ายๆ บอกเลยว่า เรารับได้อยู่แล้ว แค่ว่าวันนั้นเราเราใช้เงินเยอะไปหน่อยเพราะได้ขึ้นเงินเดือน เราตอบไปว่า ได้อยู่แล้ว คุยกันไป เค้าก็ร้องไห้ไม่หยุด เราก็ขอโทษเค้า จะให้กินอะไรก็ได้ มาม่า ข้าวแกง แค่ว่าช่วงนี้เรากินคีโต ทำให้เราไม่สามารถกินแป้งได้ เน้นกินเนื้อสัตว์ เวลาที่เราอยู่กับแฟน เค้าก็จะตามใจเรา อยากกินเนื้อก็กิน เค้ากินได้หมดอยู่แล้ว แต่นั่นแหละ อาหารจำพวกเนื้อ มันก็ค่อนข้างแพงกว่าขาวปกติทั่วไป แต่ถ้าให้เลิกกินคีโต แล้วกลับมากินอาหารปกติ ก็พร้อมที่จะทำให้ได้ บอกเลยว่าเราไม่เคยติดหรู แค่เรื่องที่ว่าการลดน้ำหนัก มันเห็นผลกับตัวเราได้ดีไม่กี่วิธี ก็เลยเลือกทางนี้ กลับมาตอนที่เราเครียใจกันตอนนั้นเรารู้สึกว่าตอนนั้นเราน่าจะทะเลาะกันหนักที่สุดตั้งแต่คบกันมา เราไม่เคยเห็นเค้าร้องไห้ขนาดนั้นมาก่อน จนเราต้องพูดให้เค้าเข้าใจว่า ปกติ นิสัยเราเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ชอบซื้อของขวัญให้แฟน ชอบที่เป็นผู้ให้ ถึงแม้ว่าจะได้รับกลับหรือไม่ก็ตาม ทั้งกับแฟนคนนี้ หรือ คนที่เคยคบกันมาก็ตาม ให้เพราะอยากให้ อยากให้มีความสุข รู้สึกแค่นั้นจริงๆ แล้วเค้าก็เลิกร้อง แล้วก็เริ่มเครียใจกัน จากนั้น ก็มีปัญหาอีก ตรงที่เค้าติดต่อไม่ได้ ในช่วงที่เราคุยกันปกติ จนมันดึกมากแล้ว เราโทรไปไม่รับสายเลย แต่เค้ามาบอกเราทีหลังว่า เค้าหลับ เพราะนอนดึก กลับจากงานก็หลับเลย ได้คุยกันอีกทีก็เกือบเที่ยงคืนตลอด จนผ่านไปซักพักเราเริ่มไม่โอเค อยากให้เค้าปรับเวลา ให้ปรับเวลานอน ได้คุยกันน้อยไม่เป็นไร แต่ขออย่างเดียวได้ไหม ตอนทักไป ถ้าว่าง ไม่ว่าจะเบรค หรือมีเวลาจับโทรศัพท์ ช่วยอ่าน และตอบกลับข้อความเราหน่อยได้ไหม เพราะมันรู้สึกไม่ดี รู้สึกว่า แทบจะไม่ได้คุยกันเลย ระยะห่างมันเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม แต่ท่าทีเค้าดูเปลี่ยนไป จนวันหยุด เราไปหาเค้า เราเครียใจกัน ถามไปเลยว่ายังรักกันอยู่ไหม เค้าก็บอกว่า ความรู้สึกตอนนี้มันน้อยลง ตอนนั้นเราก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว เราก็บอกเค้าว่า มันมีสิทธิ์ที่เราจะแก้ไข แล้วก็ไปต่อกันได้ไหม ยังมีโอกาสไหม ถ้าตอบว่าไม่มี เราจะกลับตอนนี้เลย เค้าบอกว่า แล้วเราจะทนได้หรอ กับความรู้สึกที่มันน้อยลง ไม่เสียใจทีหลังหรอ ตอนนั้นเราได้ยินก็จะเรียกรถกลับแล้ว แต่เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวก่อน อยู่ที่นี่แหละนะ เราก็โอเค พูดไปก็ร้องไป แล้วก็อธิบายความในใจ เรื่องที่เค้าเปลี่ยนไป เราพยายามเต็มที่ที่สุดแล้ว ให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่เหมือนเค้าปิดกั้นเรา เหมือนเราพยายามอยู่ฝ่ายเดียว ตอนนั้น เราก็ถามเค้าว่า ควรไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่เหมือนเค้าจะไม่ค่อยจะยอมพูดอะไร เลิกที่จะเงียบ แล้วให้เราพูด ให้เราคิดไปเอง จนเราเริ่มรู้สึกไปเอง ว่าเค้าไม่แคร์เราแล้ว ไม่รักเราแล้วจริงๆ เราก็บอกไปว่า เข้าใจแล้วแหละ เพราะถ้ายังรักกันอยู่ เห็นแฟนร้องไห้ขนาดนี้ ก็ต้องรู้สึกสงสาร หรือไม่ก็ต้องปรอบใจกันบ้างแล้ว แต่นี่ไม่เลย เงียบ อยู่เฉยๆ คอยรับฟังอย่างเดียว ว่าเราจะพูดอะไร จนเค้าดึงเราไปกอด เราก็บอกเค้าไปว่า ถ้าไม่รักกันแล้ว ทำแบบนี้มันไม่ดีรู้ไหม มันทำให้เราตัดใจยาก ถ้าจะไม่รักกันจริงๆ ก็อย่าทำแบบนี้เลย ทีนี้เค้าก็ปล่อยเราทันที เค้าก็บอกว่า เอางี้ไหมล่ะ ให้เวลาเค้าซัก 3 เดือน ถ้ามันยังรู้สึกอยู่ ค่อยว่ากันอีกที เราก็ตอบเค้าไปว่า ทำไม่ได้หรอก แค่รู้สึกถึงเวลา 3 เดือน ที่ต้องห่างกัน และเรายังรักเค้าอยู่แบบนี้ และถ้าในช่วงเลานั้น เค้ามีใครขึ้นมา เราจะรู้สึกยังไง ตอนนั้น เราก็คิดแล้วแหละว่าคงต้องเลิกกันแน่ๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเริ่มใจแข็ง เริ่มหนักแน่นขึ้น และเราก็เป็นคนพูดยุติความสัมพันธ์เอง
เราไม่เชิงว่าบอกเลิกเค้า แต่ ทุกคำพูดมันหมายความแบบนั้นไปแล้ว เราอยู่ห้องเค้า นั่งร้องไห้ แต่ด้วยเค้ามีงานที่ต้องทำ เค้าก็ทำงานไป เราก็ร้องไห้ไป
จนถึงตอนเย็น เย็นนั้นเราก็บอกเค้าว่า ขออยู่ถึง 1 ทุ่มนะ คิดซะว่า เพื่อนมาขอค้างด้วย เค้าบอกว่า ได้ด้วยหรอ เราก็บอกเค้าว่าไม่ได้หรอ ด้วยความที่เรา ยังตัดใจจากเค้าไม่ได้ วันนั้น เราก็ซื้อเบียร์มากินเค้าก็ซื้อมากินด้วย จนเราเริ่มเมา ปกติแล้วเราจะดื่มไม่ค่อยได้ เพราะจะมีอาการตัวแดง แบะเมาเร็วมาก เค้าก็เป็นห่วง และก็บอกว่าพอได้แล้วมั้ง อันตราย เราก็บอกว่าไหว แล้วเราก็ดื่มไปหมดกระป๋องใหญ่ จนเริ่มหน้าร้อนผ่าว หัวเริ่มหนัก มือชา ความรู้สึกทุกอย่างที่อธิบายไม่ได้ ไหลออกมาเป็นน้ำตา ทำให้เศร้ากว่าเดิมอีก สุดท้าย เราก็นอนร้องไห้บนเตียงตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่แน่ใจ เราคิดทบทวนไปเรื่อยๆ จนในที่สุด เราก็พูดออกไปว่า "นี่ เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมได้ไหม ทำใจไม่ได้จริงๆ ทันเจ็บ มันทรมานมากๆ ภาพทุกอย่างที่รักกันมันผุดขึ้นมาในหัวไม่หยุดเลย โทรศัพท์เรามีแต่รูปเค้า มีแต่วีดีโอเค้า จนเค้าเข้ามาหา มากอด แล้วก็บอกว่า จริงๆเค้าไม่ได้รีบอะไรขนาดนี้เลย เป็นเราเอง ที่เริ่มก่อน สุดท้าย เราก็กลับมาคุยกัน แต่เค้าก็บอกซ้ำอีกว่า แล้วจะรับได้ไหม ถ้าความรู้สึกมันน้อยลง ถึงเราจะไม่ชอบที่ได้ยินแบบนั้น แต่นั่นแหละ เรารักเค้า ถ้ามันน้อยลง ก็แค่ทำให้มันมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง จนเราเริ่มกลับมาคุยกันประมาณ 1 อาทิตย์ ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้น แต่ล่าสุด เค้าหายไปอีกแล้ว โทรไปไม่รับ วันที่นัดกันให้มาหา ก็มาไม่ได้ ทั้งที่สัญญากันแล้ว เราก็พยายามที่เข้าใจเข้า แต่มันเริ่มกลับสู่โหมดเดิม ทักไปไม่ตอบ อ่านแล้วไม่ตอบด้วยซ้ำ จนเมื่อวานนี้ เค้าก็บอกกับเราว่า เราหยุดแค่นี้กันไหมล่ะ ถ้ามันจะขนาดนี้ เราได้ยินก็ร้องไห้ออกมาเลย เพราะว่าเราพยามยามที่สุดแล้ว สุดท้าย เราก็ลากัน ขอบคุณทุกอย่าง เราร้องไห้ทั้งคืน ลบชื่อเล่นใน Facebook ออก ให้เป็นชื่อตั้งต้น เปลี่ยนสีแชท เอาสถานะออก จนมาถึงตอนลบรูปบน IG เราเลื่อนดู รูป 70% มีแต่รูปคู่กับเค้า หรือไม่ก็รูปเค้าเดี่ยวๆบ้างแหละ มันทำใจยากมาก ลบไม่ได้เลยซักรูป และในคืนนั้น เราก็พิมพ์ข้อความไป ว่า วันนี้เราใจร้อนเกินไป พรุ่งนี้เราคุยกันใหม่ได้ไหม อยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม แม้ต้องพยายามใหม่ก็ตาม จนวันนี้ เค้ายอมคุยกับเรา แต่ก็บอกว่า ตอนนี้ เรายังกลับไปคบกันเหมือนเดิมไม่ได้ แล้วก็ไม่รู่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่เค้ายังไม่มีใครแน่นอน เค้าเคยบอกว่าเราเป็นคนดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครดีเท่าเราแน่นอน เราบอกเค้าว่า พอพูดแบบนี้ ดูไม่มีเยื่อใยดี เค้าก็บอกว่า ถ้าไม่มีเยื่อใย จะโทรมาหาก่อนแบบนี้หรอ ใจเราชื้นขึ้นแบบ 100% เลย อยากให้ทุกอย่าง กลับไปเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้ระหว่างที่นอนค้างสาย เราพิมพ์กระทู้นี้ ตั้งแต่ เที่ยงคืน ถึงตี 3 ขอโทษที่ต้องมาระบายในนี้ เรารักเค้าจริงจัง อยากให้ทุกอย่างดีขึ้น ใครมีวิธีช่วยแนะนำเราหน่อยนะ 🥹🥹