JJNY : ‘เพื่อไทย’ บุกเมืองนนท์│‘โรม’ แขวะ รบ.มี 3 อาชีพ│กมธ.การทหาร ทวงเอกสาร│ธ.ประกันผวาต่างชาติ หวั่นซ้ำรอยเจอจ่ายจบ

‘เพื่อไทย’ บุกเมืองนนท์ มั่นใจรักษาเก้าอี้ได้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ชื่นใจ คนควักบัตรสมาชิกสมัยทักษิณโชว์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3777113
 
 
‘เพื่อไทย’ บุกนนทบุรี ถามปัญหาราคาสินค้าช่วงตรุษจีน ปชช.แห่ถ่ายรูป พร้อมอวยอยากให้เป็น รบ.เข้ามาแก้ปัญหา มั่นใจรักษาเก้าอี้เดิมนนท์ได้ ‘อิ๊ง’ ชื่นใจ ปชช.โชว์บัตรสมาชิกสมัยพ่อเป็นนายกฯ ยันท้องโตไม่มีปัญหา
 
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 18 มกราคม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมด้วย ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี พรรค พท. รวมทั้ง นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนททบุรี ลงพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดต่างๆ

โดยคณะได้เดินทางไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือที่กรมชลประทาน จากนั้นเดินตลาดกรมชลประทาน ตลาดประชานิเวศน์ และตลาดประชานิเวศน์ 3 (ซอยสามัคคี ท่าทราย) เพื่อสอบถามปัญหาราคาสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยพ่อค้าแม่ค้าต่างสะท้อนปัญหาราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น และอยากให้พรรค พท.ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้
 
ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดต่างขอถ่ายรูปกับ น.ส.แพทองธารเป็นจำนวนมาก
เวลา 09.00 น. ที่ตลาดประชานิเวศน์ 3 จ.นนทบุรี น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ว่า วันนี้ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี บางคนก็ทนไม่ไหว มีบางคนบอกว่าอยากจะเลือกตั้งแล้ว สำหรับพรรคเราก็ถือว่าเป็นกำลังใจที่ทำให้เราอยากเดินสายหาเสียงต่อ เพื่อบอกว่าเราพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น
 
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า สำหรับนโยบายของเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ตอนเดินมีคนบอกว่านโยบายดีๆ ใครๆ ก็พูดได้ แต่ทำได้เขาพูดเลยว่าเลือกมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยแล้ว พร้อมโชว์บัตรสมาชิกที่มีลายเซ็นของคุณพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็รู้สึกชื่นใจที่ประชาชนไว้วางใจเรามาเกือบ 20 ปีแล้ว และแน่นอนว่าเราจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง 
 
เมื่อถามว่า จะสามารถรักษาเก้าอี้เดิมไว้ได้หรือไม่ เพราะมี ส.ส.ของพรรคบางคนย้ายพรรค และมีจำนวนเขตที่เพิ่มขึ้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า จ.นนทบุรี  มี 8 เขต เราคัดเลือกตัวผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว และมั่นใจมากว่า ประชาชนจะสนับสนุนผู้สมัครของเราที่อยู่กับพื้นที่มาตลอดทั้ง 8 เขต ส่วนพื้นที่ที่มีคนย้ายออก เราก็มีคนใหม่เข้ามาแทนและเรามีความมั่นใจกว่าเดิม
 
เมื่อถามว่า ต่อจากนี้ต้องลงพื้นที่บ่อยขึ้น ขณะที่ท้องใหญ่ขึ้นจะมีปัญหาหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่มีปัญหา สุขภาพดีอยู่ แต่อาจจะเข้าห้องน้ำบ่อย ไปหาหมอตลอด แล้วก็มีหัวหน้าพรรคเป็นหมอ
 
นพ.ชลน่านกล่าวแซวว่า ยิ่งเต้นแรง คะแนนยิ่งมา



‘โรม’ แขวะ รบ.มี 3 อาชีพ หลักคือ ‘หาเสียง’ รอง ‘ดูดส.ส.’ เสริม ‘บริหารประเทศ’ เผยซักฟอกรอบนี้ใส่หมดแม็ก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3777186
 
‘โรม’ แขวะ รบ.ชุดนี้ มี 3 อาชีพ หลักคือ ‘หาเสียง’ รอง ‘ดูดส.ส.’ เสริม ‘บริหารประเทศ’ เผยซักฟอกรอบนี้ใส่หมดแม็ก ลั่นไม่ดูดใคร แต่ถ้าใครอยากเห็นประเทศเปลี่ยนแปลงก็มาอยู่กับเรา
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 มกราคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงของพรรค ก.ก. ว่า พรรคยังคงเน้นการพบปะประชาชน แบบไปเดินตลาด ยังไม่ได้เน้นในเรื่องการเปิดเวทีใหญ่ เนื่องจากเราเห็นว่าการเดินพบปะประชาชนเป็นการเริ่มต้นที่ดีกว่า และได้ความใกล้ชิดแต่อาจจะได้พบคนน้อย ส่วนการขึ้นเวทีจะได้พบปะประชาชนจำนวนมากแต่ก็ต้องดูว่าสุดท้ายความใกล้ชิดจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามแคมเปญหาเสียงของพรรค ก.ก. จะเดินสายทั่วประเทศแน่ เราจะใช้เวลาทั้งหมดในการทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คือ ข้อ 1.งานสภาฯ ที่ต้องทำหน้าที่ของเราต่อไป เพราะยังมีกฎหมายหลายฉบับโดยเฉพาะกฎหมายของพรรค ก.ก. ที่มีความจำเป็นจะต้องผลักดัน
 
บางทีผมรู้สึกว่า ถ้าคุณอยากสัญญากับประชาชนว่าหลังจากนี้จะผลักดันเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่วันนี้เรายังอยู่ในสภาฯ ยังมีอำนาจอยู่ ฝ่ายค้านอาจจะไม่เยอะ แต่ก็ทำงานได้ ก็ต้องทำงานให้ดีที่สุดให้ประชาชนเขาเห็นว่า คุณเข้าไป คุณรักษาสัญญา ไม่ตระบัดสัตย์ ซึ่งพรรค ก.ก. ทำหน้าที่นั้นและนโยบายที่เป็นนโยบายเรือธงของพรรคให้สำเร็จ แน่นอนว่าเราไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาด เพราะมีเสียงในสภาฯ ไม่มาก แต่จะพยายามทำให้เต็มที่” นายรังสิมันต์ กล่าว
 
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ข้อ 2.เรื่องการเลือกตั้ง ในพื้นที่ที่เคยชนะเลือกตั้ง จะต้องปกป้องให้ได้ เป็นวาระที่เราต้องทำให้บรรลุผล รวมไปถึงเขตอื่นๆ ที่ต้องไปบุกเบิก ไปเจอประชาชนให้ได้มากที่สุดแล้วนำเสนอนโยบาย และ 3.สิ่งที่ต้องทำต่อคือนโยบาย สิ่งหนึ่งที่ตนเสียใจมากที่สุดคือวันนี้ การเมืองกลายเป็นเรื่องของการคุยกัน
 
ผมขอวิจารณ์รัฐบาลนิดหนึ่งว่า รัฐบาลมี 3 อาชีพ อาชีพหลักตอนนี้คือหาเสียง อาชีพรองคือดูดส.ส. และอาชีพเสริมคือบริหารประเทศ เราไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น เพราะสิ่งที่เราควรจะทำให้เกิดขึ้นตอนนี้คือการคุยกันเรื่องนโยบาย และจะแก้ปัญหาของประเทศอย่างไร ถ้าคุณยังเป็นรัฐบาลอยู่ ก็ควรใช้เวลาสุดท้ายบริหารให้มันดี ซึ่งคือสิ่งที่ควรจะเป็นแต่สิ่งที่เกิดขึ้น ตรงกันข้ามหมดเลย จึงเป็นความน่าเสียดาย อยากเชิญชวนทุกคนมาพูดคุยกันทำให้ประชาชนเห็นว่าใน 4 ปี ข้างหน้า โจทย์ของประเทศคืออะไร แล้วเราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร” นายรังสิมันต์ กล่าว
 
เมื่อถามว่า พรรคก.ก.มีไปดูดส.ส.พรรคอื่นบ้างหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรค ก.ก. จะเอาอะไรไปดูด และเรื่องทรัพยากรอะไรอย่ามาคุยกับเรา แต่หากอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงและเชื่อว่าการทำงานแบบพรรค ก.ก. สร้างความเป็นไปได้ ตนคิดว่าเราคุยกันได้ แต่คนที่จะมีแนวความคิดแบบนี้ส่วนใหญ่เป็นคนหน้าใหญ่ อาจจะไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมากนัก เราพิสูจน์ให้เห็นแล้วตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ที่คนไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง ไม่เคยเป็นส.ส. แล้วมาทำพรรคการเมือง ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับการเมืองไทยได้
 
เมื่อถามถึง การลงพื้นที่ของพรรค ก.ก. มีกระแสตอบรับอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ล่าสุดตนไปที่ต.คูคต จ.ปทุมธานี ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนดีมาก มีการสอบถามเรื่องนโยบายพรรค รวมถึงคดีของตู้ห่าวว่าเป็นอย่างไร ตนก็ได้แต่บอกว่า ให้รอดูวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป น่าจะไม่เกินวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เราคงจะได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยไม่ลงมติ ในเรื่องสำคัญต่างๆ จึงแสดงให้เห็นว่าประชาชนติดตามและรอดู แต่ยืนยันว่าการทำหน้าที่ตรวจสอบของตนรอบนี้ เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย
 
ผมมีความเชื่ออยู่ตลอดเวลาว่า ชีวิตผมเหมือนแขวนอยู่บนเส้นดาย ดังนั้น ขอให้เป็นเส้นดายที่คมหน่อยก็แล้วกัน ซึ่งไม่ได้หมายถึง คมต่อตัวผมเอง แต่หมายถึงคมต่อตัวคนอื่น ผมพยายามทำหน้าที่ให้มันดีที่สุดเพื่อที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการอภิปรายรอบนี้มีเท่าไหร่ใส่ให้หมด” นายรังสิมันต์ กล่าว


 
1 เดือนเรือหลวงสุโขทัยอับปาง กมธ.การทหาร ทวงเอกสาร กก.สอบสวน-ประวัติซ่อมเรือ จี้ทัพเรือแจงให้ชัด
https://prachatai.com/journal/2023/01/102339

‘พิจารณ์ ก้าวไกล’ กมธ.การทหาร ทวงทัพเรือ ครบ 1 เดือนเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ยังส่งเอกสารให้ กมธ.ทหารไม่ครบ ย้ำขอรายชื่อกรรมการสอบสวน-ประวัติซ่อมเรือ เผย 19 ม.ค. เชิญ ทร. หารือที่สภา หากยังชี้แจงไม่ชัดเจน เจอตามต่ออภิปราย ม.152
 
18 ม.ค.2566 เนื่องด้วยกรณีเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางเป็นเวลาครบ 1 เดือน วานนี้ (17 ม.ค.66) พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการการทหาร แสดงความเห็นว่า ขณะนี้ครบรอบ 1 เดือนของโศกนาฏกรรม หลังจาก กมธ. การทหารประชุมเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2565 และได้ขอเอกสารสำคัญจากกองทัพเรือทั้งหมด 8 รายการ แต่ผ่านมา 25 วัน กองทัพเรือส่งให้เพียง 2 รายการ ยังไม่มีเอกสารเพิ่มเติมมาถึง กมธ. ตามที่ขอไป
 
พิจารณ์กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องการมาก คือ ประวัติการซ่อมเรือหลวงสุโขทัย ตั้งแต่ปี 2540 ถึงปัจจุบัน เพื่อให้ทราบข้อมูลการซ่อมบำรุงตามวงรอบว่าได้ทำตามมาตรฐานหรือไม่ เนื่องจากได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าว รวมถึงข้อสังเกตที่สาธารณะตั้งคำถามเกี่ยวกับสภาพความพร้อมใช้งานของเรือ ไม่ว่าจะเป็น การซ่อมบำรุงครีบกันโคลง (Fin Stabilizer) ที่มีข้อมูลว่าถูกถอดออกไปแล้ว การซ่อมแซมตัวเรือบริเวณใต้ผิวน้ำที่สึกหรอและบางลง เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ รวมถึงการซ่อมเปลี่ยนแบริ่งรองรับเพลาจักร  นอกจากนั้น ยังมีรายชื่อของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งกองทัพเรือยังไม่เปิดเผยชื่อ โดยในวันที่ 19 มกราคมนี้ ทาง กมธ.การทหาร ได้เชิญกองทัพเรือมาหารือที่รัฐสภา เพื่อติดตามความคืบหน้าและทวงถามเอกสาร
 
"ต้องย้ำอีกครั้งว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทั้งทรัพย์สินของรัฐ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสูญเสียชีวิตกำลังพล เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เราจำเป็นต้องถอดบทเรียนและหาสาเหตุที่ชัดเจนว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดจากอะไร" พิจารณ์กล่าว
  
พิจารณ์ยังกล่าวต่อไปว่า พรรคก้าวไกลและตนจะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง แต่หากยังไม่มีความชัดเจน ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เรื่องนี้จะอยู่ในประเด็นการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เพราะยังมีข้อมูลอีกหลายอย่างที่สังคมตั้งคำถามและต้องการคำตอบ โดยการอภิปรายครั้งนี้ จะเป็นการทำงานครั้งสุดท้ายของพรรคก้าวไกลในฐานะฝ่ายค้านในรัฐสภาชุดนี้ พรรคได้เตรียมข้อมูลเพื่ออภิปรายรัฐบาลประยุทธ์ไว้อย่างเต็มที่ แม้เป็นการอภิปรายทั่วไปที่ไม่มีการลงมติ แต่เชื่อว่าจะช่วยสะท้อนการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล และสะท้อนความไม่โปร่งใสของกองทัพได้เป็นอย่างดี ผลพวงจากการอภิปรายครั้งนี้ จะนำไปสู่การพิพากษา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรีชุดนี้ผ่านการเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่