จิตเดิมแท้ผ่องใส สว่างไสวเป็นประภัสสร แต่ยังไม่บริสุทธิ์ยังมีอวิชชา ความไม่รู้ ความหลงแทรกอยู่ในวัฏสงสาร
เมื่อเจริญสมรรถกรรมฐาน จนหยุดการครอบงำของอวิชชาไว้ชั่วคราว จะเห็นจิตเดิมแท้ชัดเจน ผ่องใส สว่างไสวเป็นประภัสสร ท่ามกลางความว่างของสุญตา
แล้วเจริญวิปัสสนากรรมฐานทำลายอวิชชา ความหลงและวัฏสงสารให้พังทลายสิ้น จิตเดิมแท้จะดับสลายกลายเป็น “จิตพุทธ” ที่มีปัญญาไม่ถูกอวิชชาครอบงำอีกต่อไป ดังพุทธพจน์กล่าวไว้
“ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต” จิตพุทธ คือ พระพุทธเจ้า นั่นเอง
จิตเดิมแท้ผ่องใส สว่างไสวเป็นประภัสสร แต่ยังไม่บริสุทธิ์ยังมีอวิชชา
เมื่อเจริญสมรรถกรรมฐาน จนหยุดการครอบงำของอวิชชาไว้ชั่วคราว จะเห็นจิตเดิมแท้ชัดเจน ผ่องใส สว่างไสวเป็นประภัสสร ท่ามกลางความว่างของสุญตา
แล้วเจริญวิปัสสนากรรมฐานทำลายอวิชชา ความหลงและวัฏสงสารให้พังทลายสิ้น จิตเดิมแท้จะดับสลายกลายเป็น “จิตพุทธ” ที่มีปัญญาไม่ถูกอวิชชาครอบงำอีกต่อไป ดังพุทธพจน์กล่าวไว้
“ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต” จิตพุทธ คือ พระพุทธเจ้า นั่นเอง