JJNY :  คาดต้องลดเงิน 'อั่งเปา'│ดร.ปริญญา เรียกร้องเคารพเสียงปชช.│“เพื่อไทย”ฝากคำขวัญถึงพ่อแม่│สันติ-วิรัช ค้าน ส.ว.

แม่ค้าส้มตำร้อง มะนาว-มะละกอ-พริก ขยับราคา 'ขนมเข่ง-ของไหว้ตรุษจีน' แพงขึ้น คาดต้องลดเงิน 'อั่งเปา'
https://ch3plus.com/news/economy/morning/329496
 
 
วานนี้ (12 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคามะนาวและพริกชนิดต่างๆ ที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พบว่า มะนาว พริกบ้านเหลือง และพริกจินดา มีการปรับราคาขึ้น
 
นางประภา จินดา หนึ่งในแม่ค้าขายผัก ในตลาดสดทรัพย์สินพลาซ่าสงขลา กล่าวว่า พริกบ้านเหลือง จาก กก.ละ 250 บาท วันนี้ขึ้นเป็น กก.ละ  300 บาท ซึ่งเป็นพริกที่ชาวบ้านเขาปลูกเองในจังหวัดสงขลา ส่วนสาเหตุที่ปรับราคาขึ้น เนื่องจากของมีน้อย ได้ผลผลิตน้อย อีกทั้งฝนตก ส่วนพริกจินดา กก.ละ 120 บาท ทั้งพริกจินดาเขียวและจินดาแดงราคาเท่ากัน

อีกอย่างหนึ่งก็คือ มะนาว ช่วงนี้มะนาวแพงขึ้น มะนาวจัมโบ้ลูกใหญ่ กก.ละ 100 บาท จากกก.ละ 70 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท ขึ้นมาหลายวันแล้ว เพราะของมันน้อย ซึ่งเป็นมะนาวแป้นขนาดจัมโบ้ทั้งหมด ตกราคาลูกละ 9 บาท 1 กก. มี 11 ลูก และลูกใหญ่ด้วย

สำหรับพริกบ้านเหลืองจะนิยมนำไปทำเครื่องแกง ซึ่งแต่ละร้านจะทำไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะใช้พริกบ้านเหลืองชนิดนี้ทำเครื่องแกง ซึ่งบางร้าน ก็ใช้พริกกะเหรี่ยง อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละร้าน เพราะมันมีความเผ็ดเหมือนกัน แต่สำหรับพริกบ้านเหลืองมันจะมีความหอมที่โดดเด่น
 
โดยเฉพาะร้านใหญ่ๆ จะใช้พริกชนิดนี้ แม้ราคาแพงก็ไม่ว่า แต่ขอให้มีของ เนื่องจากพริกชนิดนี้นำมาทำเครื่องแกงแล้ว มีความอร่อยไม่เหมือนพริกชนิดอื่น โดยร้านอาหารใหญ่ๆ จะสั่งพริกชนิดนี้ครั้งละหลายกิโล เพื่อเก็บสำรองเอาไว้ เนื่องจากพริกบ้านเหลืองมีจำนวนน้อย และขาดตลาดบ่อย
 
-----------
 
นางอุทัยวรรณ สีธรรา แม่ค้าส้มตำร้านจ๊อด ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ ราคามะนาวมีการขยับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปกติมะนาวจะแพงช่วงหน้าแล้ง ประมาณเดือนเมษายน แต่ปีนี้แค่เดือนมกราคม ราคาก็ปรับขึ้นแล้ว ซึ่งร้านของตนจะซื้อมะนาวครั้งละครึ่งกระสอบ ตอนนี้ราคามะนาวที่ซื้อมาครึ่งกระสอบอยู่ที่ 700 บาท เต็มกระสอบก็จะอยู่ที่ 1,400 บาท

ซึ่งนอกจากราคามะนาวที่แพงขึ้นแล้ว วัตถุดิบหลักอีกอย่างของส้มตำก็คือ มะละกอ ก็มีการปรับราคาขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนช่วงปีใหม่ เคยซื้อมะละกอเกรดเอ เป็นมะละกอพันธุ์ดำเนิน ถุงละ 350 บาท เมื่อวานนี้ซื้อมาราคาถุงละ 300 บาท ราคาจะปรับขึ้น ๆ ลง แล้วแต่วัน ซึ่งราคานี้ถือว่าเป็นราคาที่ยังสูงอยู่ จากเดิมที่เคยซื้อมาถุงละ 240-260 บาทเท่านั้น ทำให้ทางร้านต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน แต่ยังคงขายให้ลูกค้าในราคาเท่าเดิม และไม่ลดปริมาณ เพราะสงสารลูกค้า อยากให้ลูกค้ากินอิ่ม

สำหรับส้มตำแต่ละครก ก็จะใช้มะนาวครึ่งลูกถึงหนึ่งลูก แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง หากชอบเปรี้ยว ลูกค้าก็จะแจ้งก็จำเป็นต้องเพิ่มมะนาวไปให้ โดยทางร้านจะไม่ใช้น้ำมะนาวผสม หรือใช้มะขามเปียก เพราะรสชาติมันไม่ใช่ มันไม่อร่อย สู้ใช้มะนาวสดไม่ได้

หากถามว่าจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยยังไง สิ่งที่อยากจะขอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คือ อยากให้ของถูกลงกว่านี้ เศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูง ของแพงทุกอย่าง พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นตามไปด้วย
------------
 
มติชนได้สำรวจ ราคาขนมเข่ง ใน จ.ยะลา โดยพบว่าได้ปรับตัวสูงขึ้น เป็น 150/กก. เนื่องจากวัตถุดิบขึ้นราคา 
ใบตอง กระสอบละ 300 บาท เป็น 400 บาท
แก๊สขนาด 15 กก. ราคา 480 บาท
 
------------
 
วันที่ 12 มกราคม 2566 รายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เม็ดเงินใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนของคนกรุงเทพฯ ในปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณ 12,330 ล้านบาท หรือขยายตัวราว 5.0% เมื่อเทียบกับตรุษจีนปีก่อน

ซึ่งเป็นการกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในรอบ 3 ปี โดยเป็นผลจากราคาสินค้าที่น่าจะปรับสูงขึ้นราว 3.5% เมื่อเทียบกับปี 2565 ทำให้คนระมัดระวังกับการใช้จ่าย โดยสำรองเงินซื้อเครื่องเซ่นไหว้เพิ่มขึ้น แต่ปรับลดการแจกอั่งเปาลง ขณะที่จำนวนคนกรุงเทพฯ ที่เข้าร่วมกิจกรรมช่วงตรุษจีนอาจเพิ่มขึ้นราว 1.5% จากปีก่อน

รายงานระบุว่า ช่วงตรุษจีนปี 2566 ทิศทางราคาเครื่องเซ่นไหว้ส่วนใหญ่ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับตรุษจีนปีก่อน จากปัจจัยต้นทุนการผลิตที่ยังสูง โดยเฉพาะผัก-ผลไม้บางรายการที่นิยมในช่วงตรุษจีนยังมีราคาปรับเพิ่มสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% เช่น กล้วยหอมทอง ส้มเขียวหวาน ผักกาดขาว ขึ้นฉ่าย เป็นต้น ขณะที่กลุ่มเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ ราคาน่าจะปรับขึ้นราว 10% ส่วนเนื้อหมู แม้จะมีราคาย่อลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดในสุกร

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/bI5enQKiXjo

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 

 
สัมภาษณ์พิเศษ : ดร.ปริญญา เรียกร้องประยุทธ์ เคารพเสียงประชาชน เลิกคิดเป็นนายกฯ โดย 250 ส.ว.
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_3769216

ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Politics การเลือกตั้ง ไม่ FAIR PLAY พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเคารพเสียงประชาชน เลิกเป็นนายกรัฐมนตรี โดย 250 ส.ว. เชื่อ ลุงป้อม-ลุงตู่ ไม่แย่งคะแนน ส.ว. จะมีคนถอยเพื่อส่งอีกคนเป็นนายกฯ แนะอยากให้ กกต. โปร่งใส ประชาชนต้องเรียกร้องมีส่วนร่วม ชมคลิปด้านล่าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 
“เพื่อไทย” ฝากคำขวัญถึงพ่อแม่เนื่องในวันเด็ก “สร้างประชาธิปไตยในบ้าน สอนทักษะการใช้ชีวิตฯ”
https://www.matichon.co.th/politics/news_3769802

“เพื่อไทย” ฝากคำขวัญถึงพ่อแม่ “สร้างประชาธิปไตยในบ้าน สอนทักษะการใช้ชีวิต ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ไม่ปิดกั้นเทคโนโลยี” เนื่องในวันเด็ก 66

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรค และประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พรรค พท. กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ 2566 พรรค พท.ให้ความสำคัญและมีนโยบายเพื่อส่งเสริมศักยภาพและสร้างคน ด้วยความเชื่อว่าเสรีภาพและโอกาส ซึ่งเป็นแก่นหัวใจที่แท้จริงของประชาธิปไตย จะเป็นที่มาของการปลดปล่อยศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ที่จะนำสู่การสร้างรายได้อย่างไม่สิ้นสุด และการสร้างคนจะต้องเริ่มต้นที่ครอบครัว
  
น.ส.ณหทัย กล่าวต่อว่า ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กล่าวได้เต็มปากว่า พรรค พท.พร้อมทุ่มเท เพื่อส่งเสริมและสร้างคนให้ประเทศไทยแข่งขันได้อย่างมีศักดิ์ศรีในเวทีโลก เรามีเป้าเพื่อสร้างคนทำงานทักษะสูง สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง รายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี มีค่าแรงไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรีมีค่าตอบแทน 25,000 บาทต่อเดือน ภายในปี 2570 และ พท.มีแผนฟื้นเศรษฐกิจทั้งระบบด้วยการเฟ้นหา สร้างโอกาสศักยภาพที่ซ่อนเร้นในทุกครัวเรือน ออกมาฝึกฝนเจียรนัย สร้างแนวทางชัดเจนเพื่อหารายได้ผ่านโครงการ 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ นอกจากนี้ พรรค พท.ส่งเสริมเสรีภาพและโอกาสที่ทุกคนจะได้เลือกเรียนรู้และเข้าถึงเทคโนโลยีได้ตามความถนัด ตามความสนใจ ได้ทุกที่ทุกเวลา นโยบายอย่างเป็นรูปธรรม คือศูนย์การเรียนรู้แบบ TCDC และ TK Park ที่พรรค พท.ได้ทำสำเร็จมาแล้ว และเราจะทำให้เกิดขึ้นอีก แต่ครั้งนี้จะขยายไปทุกจังหวัดพร้อมกับแพลตฟอร์ม Learn to Earn เรียนแล้วมีรายได้ เรียนรู้ง่ายตลอดชีวิต

การสร้างคนต้องเริ่มที่ครอบครัว และพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่อยู่คู่ประเทศไทยมากว่า 20 ปี อยากฝากคำขวัญถึงพ่อแม่ผู้ปกครองซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างคนคุณภาพไว้ในโอกาสนี้ด้วยว่า สร้างประชาธิปไตยในบ้าน สอนทักษะการใช้ชีวิต ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ไม่ปิดกั้นเทคโนโลยี” น.ส.ณหทัย กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่