ข่าวร้ายมากับข่าวดี นักท่องเที่ยวปีนี้เพิ่มเท่าตัว แต่ค่าใช้จ่ายลดลง
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/188267
ซิตี้แบงก์ คาดปี 2566 นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกินเท่าตัว แต่คาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงเล็กน้อย เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่อคนเริ่มลดลง
ซิตี้แบงก์ยังคงคาดการณ์เช่นเดิมว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะมีการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 4.3% และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2.25% ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566
ธนาคารซิตี้แบงก์ได้คาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยอยู่ที่ราว 25.5 ล้านคน โดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวจีนราว 3.9 ล้านคน หรือร้อยละ 35 ของนักท่องเที่ยวจีนปี 2562
แม้จะปรับลดการคาดการณ์รายได้รวมจากนักท่องเที่ยวลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาระยะสั้นมากขึ้น แต่การที่มีนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น จะส่งผลต่อการจ้างงานเพิ่มขึ้นในหลายภาคส่วน และเสริมสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยยังคงคาดว่าในปี 2566 GDP ของประเทศจะเติบโตอยู่ที่ 4.3% อีกทั้งในปี 2566 เงินบาทจะแข็งค่าจากแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยเรื่องการไหลเข้าของเงินทุนเคลื่อนย้ายเพื่อลงทุนในหลักทรัพย์เช่นกัน
ด้านการบริโภคของภาคเอกชนจะมีการเติบโตที่ดี ด้วยแรงสนับสนุนจากภาวะเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และความมั่นใจที่มากขึ้นของผู้บริโภค โดยมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างโครงการช้อปดีมีคืน หรือแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ จะเป็นแรงช่วยสนับสนุนอีกแรง
อนึ่ง การจ้างงานในหลายภาคส่วนกลับมาใกล้เคียงระดับก่อนโควิด นอกจากนี้การลงทุนของภาคเอกชนโดยเฉพาะในอุตสาหกรรม อาจชะลอลงในช่วงต้นปี 2566 ตามสถานการณ์ของภาคการส่งออก แต่ยังคงได้รับการขับเคลื่อนจากนโยบายสนับสนุนการลงทุนจากรัฐบาล โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มุ่งเป้าไปยังการดึงดูดบริษัทต่างชาติที่มีแผนย้ายฐานการผลิต พร้อมรักษานักลงทุนเดิมภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ อาทิ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีนวัตกรรมและนวัตกรรมสีเขียว ฯลฯ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมธุรกิจ การค้า และโลจิสติกส์ของภูมิภาค
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าจับตาคือสภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งซิตี้แบงก์ได้คาดการณ์ว่ามีแนวโน้มจะผ่อนคลายจาก 6.1% ในปี 2565 มาสู่ที่ระดับ 2.5% ในปี 2566 แม้ยังคงมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากราคาพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตต่อเนื่องในปี 2566 ในขณะที่ราคาอาหารยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคงอยู่ที่ระดับสูงกว่า 3.0%
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันจากเงินเฟ้อไม่ได้มีการกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ที่ทยอยลดลง จึงยังคงประมาณการเดิมว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังสามารถทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้ แต่มีแนวโน้มขึ้นสู่ระดับ 2.25% ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 เพื่อรักษาเงินเฟ้อคาดการณ์ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และปรับระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงกลับไปสู่ระดับใกล้ 0%
ฮ่วย! สมชัย จวกยับ กกต. ไม่พร้อมจัดเลือกตั้ง ลาออกไปเถอะ อย่าเป็นภาระประเทศ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7457011
สมชัย จวกยับ กกต. ไม่พร้อมจัดเลือกตั้ง แบ่งเขตไม่คืบหน้า ยังไม่กำหนดค่าใช้จ่ายหาเสียง ไม่รายงานผลเลือกตั้งผ่านระบบออนไลน์ ลาออกไปเถอะ อย่าเป็นภาระประเทศ
เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2566 นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานคณะยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า
กกต. พร้อมเลือกตั้งแค่ไหน
1. การแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขต ไปถึงไหน จะเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อำเภอ ตำบลไหน เป็นเขตเลือกตั้งไหน ยังไม่ชัดเจน แล้วบอกว่าอยู่ในช่วง 180 วัน ให้ติดป้าย ให้หาเสียงได้แล้ว ฮ่วย
2. การกำหนดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของแต่ละเขต และค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของพรรค เคยแพลมออกมา เป็นการสอบถามความเห็นจากพรรค พอโดนตอกกลับว่า เอื้อพรรคใหญ่ พรรคมีสตางค์ ตอนนี้เอากลับไปทบทวน ถึงวันนี้ยังไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ
3. การให้ประชาชน และองค์กรเอกชนมีส่วนร่วมในการสังเกตการณ์เลือกตั้ง หายไปอยู่ในอีกมัลติเวิร์ส ไปอยู่ในจักรวาลคู่ขนานแล้ว
4. เมื่อวาน เห็นมีมติ ไม่ทำระบบรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการผ่านระบบออนไลน์แล้ว โดยบอกเหตุผลว่า กลัวทำแล้วระบบล่ม ราวกับตรรกะว่า ไม่กล้าขับรถเพราะกลัวรถชน ไม่กล้าทานข้าวเพราะกลัวท้องเสีย เป็น กกต.ที่ทำงานคุ้มเงินเดือนมาก
ทำไม่ได้ ทำไม่เป็น ก็ลาออกเถอะครับ อย่าเป็นภาระต่อประเทศ
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0TM9hJ55ex5MyhBNtHLLzG4FzcUBjw7r1XrNeQB1Km4r1Y2tMjYe6P51phL8LSEgRl
ส.ว. มาแล้ว เตรียมเสนอยกเลิกวาระนายกฯ 8 ปี
https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/329540
ส.ว.เตรียมแก้ รธน.ยกเลิกวาระนายกฯ 8 ปี แพลม "งดออกเสียง" แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย
ส.ว.
กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ กมธ.พัฒนาการเมืองวุฒิสภา ยอมรับว่า คณะกรรมาธิการฯกำลังศึกษาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ เห็นว่าถึงเวลาต้องแก้รัฐธรรมนูญ "ยกใหญ่" ซึ่งรวมถึงประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งของนายกฯด้วย ว่าไม่ควรกำหนดว่าเป็นได้ไม่เกิน 8 ปี ยืนยันไม่ได้ทำเพื่อ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นกติกาเพื่อทุกคนในประเทศ
และเปิดเผยด้วยว่า หากพรรคเพื่อไทยสามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 250 เสียงหลังการเลือกตั้ง ส่วนตัวจะ "งดออกเสียง" ให้แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย
JJNY : ข่าวร้ายมากับข่าวดี│ฮ่วย! สมชัยจวกยับ กกต.│ส.ว.เตรียมเสนอยกเลิกวาระนายกฯ 8 ปี│“ก้าวไกล”เชื่อกทม.ไม่เกิดแลนด์สไลด์
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/188267
ซิตี้แบงก์ คาดปี 2566 นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกินเท่าตัว แต่คาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงเล็กน้อย เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่อคนเริ่มลดลง
ซิตี้แบงก์ยังคงคาดการณ์เช่นเดิมว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะมีการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 4.3% และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2.25% ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566
ธนาคารซิตี้แบงก์ได้คาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยอยู่ที่ราว 25.5 ล้านคน โดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวจีนราว 3.9 ล้านคน หรือร้อยละ 35 ของนักท่องเที่ยวจีนปี 2562
แม้จะปรับลดการคาดการณ์รายได้รวมจากนักท่องเที่ยวลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาระยะสั้นมากขึ้น แต่การที่มีนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น จะส่งผลต่อการจ้างงานเพิ่มขึ้นในหลายภาคส่วน และเสริมสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยยังคงคาดว่าในปี 2566 GDP ของประเทศจะเติบโตอยู่ที่ 4.3% อีกทั้งในปี 2566 เงินบาทจะแข็งค่าจากแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยเรื่องการไหลเข้าของเงินทุนเคลื่อนย้ายเพื่อลงทุนในหลักทรัพย์เช่นกัน
ด้านการบริโภคของภาคเอกชนจะมีการเติบโตที่ดี ด้วยแรงสนับสนุนจากภาวะเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และความมั่นใจที่มากขึ้นของผู้บริโภค โดยมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างโครงการช้อปดีมีคืน หรือแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ จะเป็นแรงช่วยสนับสนุนอีกแรง
อนึ่ง การจ้างงานในหลายภาคส่วนกลับมาใกล้เคียงระดับก่อนโควิด นอกจากนี้การลงทุนของภาคเอกชนโดยเฉพาะในอุตสาหกรรม อาจชะลอลงในช่วงต้นปี 2566 ตามสถานการณ์ของภาคการส่งออก แต่ยังคงได้รับการขับเคลื่อนจากนโยบายสนับสนุนการลงทุนจากรัฐบาล โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มุ่งเป้าไปยังการดึงดูดบริษัทต่างชาติที่มีแผนย้ายฐานการผลิต พร้อมรักษานักลงทุนเดิมภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ อาทิ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีนวัตกรรมและนวัตกรรมสีเขียว ฯลฯ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมธุรกิจ การค้า และโลจิสติกส์ของภูมิภาค
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าจับตาคือสภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งซิตี้แบงก์ได้คาดการณ์ว่ามีแนวโน้มจะผ่อนคลายจาก 6.1% ในปี 2565 มาสู่ที่ระดับ 2.5% ในปี 2566 แม้ยังคงมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากราคาพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตต่อเนื่องในปี 2566 ในขณะที่ราคาอาหารยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคงอยู่ที่ระดับสูงกว่า 3.0%
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันจากเงินเฟ้อไม่ได้มีการกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ที่ทยอยลดลง จึงยังคงประมาณการเดิมว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังสามารถทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้ แต่มีแนวโน้มขึ้นสู่ระดับ 2.25% ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 เพื่อรักษาเงินเฟ้อคาดการณ์ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และปรับระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงกลับไปสู่ระดับใกล้ 0%
ฮ่วย! สมชัย จวกยับ กกต. ไม่พร้อมจัดเลือกตั้ง ลาออกไปเถอะ อย่าเป็นภาระประเทศ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7457011
สมชัย จวกยับ กกต. ไม่พร้อมจัดเลือกตั้ง แบ่งเขตไม่คืบหน้า ยังไม่กำหนดค่าใช้จ่ายหาเสียง ไม่รายงานผลเลือกตั้งผ่านระบบออนไลน์ ลาออกไปเถอะ อย่าเป็นภาระประเทศ
เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2566 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานคณะยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า
กกต. พร้อมเลือกตั้งแค่ไหน
1. การแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขต ไปถึงไหน จะเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อำเภอ ตำบลไหน เป็นเขตเลือกตั้งไหน ยังไม่ชัดเจน แล้วบอกว่าอยู่ในช่วง 180 วัน ให้ติดป้าย ให้หาเสียงได้แล้ว ฮ่วย
2. การกำหนดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของแต่ละเขต และค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของพรรค เคยแพลมออกมา เป็นการสอบถามความเห็นจากพรรค พอโดนตอกกลับว่า เอื้อพรรคใหญ่ พรรคมีสตางค์ ตอนนี้เอากลับไปทบทวน ถึงวันนี้ยังไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ
3. การให้ประชาชน และองค์กรเอกชนมีส่วนร่วมในการสังเกตการณ์เลือกตั้ง หายไปอยู่ในอีกมัลติเวิร์ส ไปอยู่ในจักรวาลคู่ขนานแล้ว
4. เมื่อวาน เห็นมีมติ ไม่ทำระบบรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการผ่านระบบออนไลน์แล้ว โดยบอกเหตุผลว่า กลัวทำแล้วระบบล่ม ราวกับตรรกะว่า ไม่กล้าขับรถเพราะกลัวรถชน ไม่กล้าทานข้าวเพราะกลัวท้องเสีย เป็น กกต.ที่ทำงานคุ้มเงินเดือนมาก
ทำไม่ได้ ทำไม่เป็น ก็ลาออกเถอะครับ อย่าเป็นภาระต่อประเทศ
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0TM9hJ55ex5MyhBNtHLLzG4FzcUBjw7r1XrNeQB1Km4r1Y2tMjYe6P51phL8LSEgRl
ส.ว. มาแล้ว เตรียมเสนอยกเลิกวาระนายกฯ 8 ปี
https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/329540
ส.ว.เตรียมแก้ รธน.ยกเลิกวาระนายกฯ 8 ปี แพลม "งดออกเสียง" แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย
ส.ว.กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ กมธ.พัฒนาการเมืองวุฒิสภา ยอมรับว่า คณะกรรมาธิการฯกำลังศึกษาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ เห็นว่าถึงเวลาต้องแก้รัฐธรรมนูญ "ยกใหญ่" ซึ่งรวมถึงประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งของนายกฯด้วย ว่าไม่ควรกำหนดว่าเป็นได้ไม่เกิน 8 ปี ยืนยันไม่ได้ทำเพื่อ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นกติกาเพื่อทุกคนในประเทศ
และเปิดเผยด้วยว่า หากพรรคเพื่อไทยสามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 250 เสียงหลังการเลือกตั้ง ส่วนตัวจะ "งดออกเสียง" ให้แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย