วิเคราะห์จุดเปลี่ยนการเมืองไทย ‘ประยุทธ์’ ขาลงสมัครเข้ารวมไทยสร้างชาติ!
https://www.dailynews.co.th/news/1874358/
อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ฟันธง 'บิ๊กตู่' ขาลง อ่านเกมพลาด ใช้กติกาบัตร 2 ใบ ประเมินพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ ส.ส. 7-14 คน ด้าน 'เพื่อไทย' มีโอกาสแลนด์สไลด์ ชี้สถานการณ์ไม่เอื้อรัฐประหาร กระแส ปชต.เต็มใบกำลังกลับมา "ผมว่าจบแล้ว คสช."
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผศ.ดร.
ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์จุดเปลี่ยนการเมืองไทยภายหลัง พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ประเมินว่า พล.อ.
ประยุทธ์ กำลังอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจาก 2 ป. แยกกัน ส่งผลให้เกิดสงครามแย่ง ส.ส. ตัดคะแนนกันเองในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญพรรคที่เสนอชื่อนายกฯต้องมี ส.ส. 25 คนขึ้นไป หาก 2 ป. ผ่านด่านแรกต้องไปแย่งเสียง 250 ส.ว. และหากได้เสียง ส.ส. ในสภาไม่ถึง 50% จะไม่สามารถผ่านกฎหมายบริหารประเทศได้ ดังนั้นการที่ พล.อ.
ประยุทธ์ ตัดสินใจเปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ เพราะต้องการสร้างความมั่นใจและดึง ส.ส. เข้าพรรคให้มากที่สุด
ผศ.ดร.
ปริญญา ประเมิน สาเหตุที่ 2 ป. ยอมเข้ามาเล่นในกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เปรียบในสนามเลือกตั้งทุกครั้ง เนื่องจาก 2 ป. ประเมินสถานการณ์พลาด ไม่คิดตัวเองจะเจอช่วงขาลง พร้อมเทียบเคียงจากตัวเลขผู้ไปใช้สิทธิการเลือกตั้งเมื่อปี 62 จำนวน 35 ล้านคน หากใช้สูตรหาร 100 ค่าเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ หนึ่งคนคือ 3.5 แสนคะแนน แต่หากใช้สูตรหาร 500 ค่าเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ หนึ่งคนคือ 7 หมื่นคะแนน
ดังนั้น หากเทียบเคียงผลสำรวจ “
นิด้าโพล” เรื่องคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 4/2565 พบ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้คะแนน 7% หากใช้ระบบเดิมหาร 500 ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 35 คน แต่ในระบบใหม่หาร 100 ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แค่ 7 คน หรือหากเอาคะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้ 14% มาคำนวณเมื่อใช้ระบบหาร 100 เท่ากับได้ ส.ส. แค่ 14 คน และเมื่อเปรียบเทียบกับพรรคเพื่อไทย ที่ได้ 41% หากใช้ระบบหาร 100 จะได้ ส.ส. 41 คน และหากเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ส.ส.เขต 210 เขต เท่ากับเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้ ส.ส.เกินครึ่ง โอกาสเดียวที่ 2 ป. จะชนะ คือไม่แตกกัน
“
พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในช่วงขาลงและเมื่อ 2 ป. แตกกัน ส่งผลให้อำนาจ อิทธิพลต่างๆ คลายลงมา ตอนนี้เดินมาถึงจุดเปลี่ยนการเมือง 9 ปี ตั้งแต่ยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร จากที่เคยสามัคคี ต้องแย่ง ส.ส. แย่งคะแนนเสียงประชาชน แย่งเสียง ส.ว. และจะได้คะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎรไม่ถึงครึ่ง ถ้าองค์ประกอบ ปัจจัยต่างๆ เป็นแบบที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ ผมว่าจบแล้ว คสช. จบแล้ว” ผศ.ดร.
ปริญญา กล่าว
สำหรับประเด็นการรัฐประหารหลังเลือกตั้ง ผศ.ดร.
ปริญญา ชี้ว่า 9 ปีที่ผ่านมา กระแสเปลี่ยนข้าง หลังจากนี้ กระแสประชาธิปไตยเต็มใบจะกลับคืนมา การปฏิวัติสำเร็จต้องมี 2 เงื่อนไข คือ 1.ทหารเป็นปึกแผ่น และ 2.การเมืองที่มาจากการเลือกตั้งต้องตกต่ำมากๆ แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับข้าง เชื่อว่าการรัฐประหารทำไม่ได้ และถึงทำก็ไม่สำเร็จ.
ขอบคุณรูปจากเฟซบุ๊ก “Prinya Thaewanarumitkul”
‘อุ๊งอิ๊ง’ ยัน “เพื่อไทย” พร้อมเลือกตั้ง ลั่น ปชช.ต้องกลับมามีเกียรติ ศักดิ์ศรี อนาคตที่สดใส
https://www.matichon.co.th/politics/news_3763036
‘อุ๊งอิ๊ง’ ยัน “เพื่อไทย” พร้อมเลือกตั้ง ลั่น ปชช.ต้องกลับมามีเกียรติ ศักดิ์ศรี อนาคตที่สดใส วางแผนอนาคตตัวเองได้อย่างมั่นคง
เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่โถงอาคารสำนักงาน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ พรรคเพื่อไทย (พท.) ก็พร้อมทั้งในเรื่องของนโยบายและตัวบุคคล เราทำงานกันมาอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่ออยากให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การที่ประชาชนเป็นหนี้มาอย่างยาวนาน ก็อยากให้นโยบายของเราแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกช่วงอายุ มีอนาคตที่สดใส อนาคตที่มองเห็น อนาคตที่สามารถคาดการณ์และแพลนได้ว่าเราอยากจะมีชีวิตของเราอย่างไร ประชาชนต้องกลับมามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี สามารถลืมตาอ้าปาก และสามารถวางแผนอนาคตของตนเองได้อย่างมั่นคง
ธนาธร ท้าประยุทธ์ เปิดตัวแล้ว ต้องกล้าขึ้นเวทีดีเบต อย่าหนีแบบเมื่อปี’62
https://www.matichon.co.th/politics/news_3763455
‘ธนาธร’ เชื่อ ‘ก้าวไกล’ ได้ ส.ส.เขตมากกว่าเดิม ท้า ‘ประยุทธ์’ ขึ้นเวทีดีเบตโชว์วิสัยทัศน์แข่ง ‘พิธา’
เมื่อวันที่ 9 มกราคม นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โดยระบุว่า ตนติดตามการทำงานของพรรค ก.ก.มาตลอด ทั้งการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร และกิจกรรมเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งเติบโตขึ้นกว่าในยุคของอดีตพรรคอนาคตใหม่อย่างเห็นได้ชัด และยังเป็นปากเสียงให้กับประชาชนด้วยการมีอุดมการณ์แน่วแน่มั่นคงไม่ทอดทิ้งประชาชน
นาย
ธนาธรกล่าวต่อว่า ในตอนนี้ถ้าดูจากโพลหลายสำนัก จะเห็นว่าพรรค ก.ก.มีคะแนนนิยมเป็นคะแนนพื้นฐานที่เกิดจากการทำงานของพรรคในระดับชาติอยู่แล้ว แต่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พรรคได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในแต่ละพื้นที่ คือการทำงานอย่างหนักและต่อเนื่องของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต จึงอยากเห็นว่าที่ผู้สมัครทำงานอย่างแข็งขันในช่วง 120 วันที่เหลืออยู่ ก่อนถึงวันเลือกตั้ง ตนเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรค ก.ก.จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้นกว่าสมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่ และได้ ส.ส.เขตมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
นาย
ธนาธรกล่าวว่า สำหรับกรณีที่ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเปิดตัวในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นั้นถือเป็นเรื่องดี และเชื่อมั่นว่า ประชาชนจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก ว่าจะเลือกพรรคการเมืองพรรคใดในการเลือกตั้งที่จะมาถึง
“
ส่วนตัวขอให้ พล.อ.ประยุทธ์อย่าหนีเวทีดีเบตเหมือนรอบปี 2562 อยากให้กล้าขึ้นประชันวิสัยทัศน์กับแคนดิเดตนายกฯจากพรรคอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ประชันวิสัยทัศน์กันในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอนาคตของประเทศจะเดินไปทางไหนหากได้นายกฯคนใหม่” นายธนาธรกล่าว
‘พิธา’ ฝากระเบิด 3 ลูกให้ ‘บิ๊กตู่’ ตอบบนเวที รทสช. ย้ำจุดยืนดีล รบ. รายละเอียดประนีประนอมได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3763094
‘พิธา’ ย้ำจุดยืนดีลตั้งรัฐบาล แต่พร้อมประนีประนอมในรายละเอียด ยันฝ่ายค้านปัจจุบันตอบโจทย์ประเทศ ฝากระเบิด 3 ลูกให้ ‘บิ๊กตู่’ ตอบบนเวที ‘รทสช.’
เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่โถงอาคารสำนักงาน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรค ก.ก.ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีหัวคะแนน และการซื้อเสียง เพื่อให้เราเข้าไปเป็นรัฐบาลและบริหารงานอย่างไม่เกรงใจใคร การควบรวมของทุนใหญ่ ส่วย การคอร์รัปชั่น ทุนจีนสีเทา และเรือหลวงสุโขทัยล่ม จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลของพรรค ก.ก.
เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.จะปรับจุดยืนเพื่อจับขั้วตั้งรัฐบาลกับพรรคอื่นหรือไม่ นาย
พิธากล่าวว่า เราต้องหนักแน่นในจุดยืน เพราะนี่คือเหตุผลของการมาเป็นนักการเมืองและ ส.ส. แต่รายละเอียดและจำนวนรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่สามารถประนีประนอมได้ จึงชัดเจนว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบันคือกลุ่มบุคคลที่จะเป็นคำตอบสำหรับความท้าทายของประเทศไทยในปัจจุบัน
นาย
พิธากล่าวว่า นอกจากนี้ เราจะไม่เอาพรรคทหารจำแลง ทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่วนที่เหลืออยู่ที่การทำงานและการตัดสินใจของประชาชนผ่านผลการเลือกตั้ง เราทำโดยการใช้เป้าหมายเป็นตัวตั้ง เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม เราต้องการเข้าไปเป็นรัฐบาลและสร้างความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ เรามีทั้งอุดมการณ์และประสิทธิภาพ ถ้ามาร่วมเป็นรัฐบาลแล้วให้เลิกทลายทุนผูกขาด และไม่แตะต้องอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ ถือว่ายอมรับไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่เราหาเสียงไว้กับประชาชน
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ภายในพรรค ก.ก. นาย
พิธากล่าวว่า พรรค ก.ก.เหมือนกับพรรคการเมืองอื่นที่แต่ละคนมีวิธีที่แตกต่างหลากหลาย แต่เราโอบรับความหลากหลาย เพราะหากมีทัศนคติที่ดีออกมาก็จะนำมาผลักดันเป็นจุดแข็ง ในระยะยาวจะช่วยหล่อหลอมให้พรรค ก.ก.เป็นพรรคของคนทุกคน และมีความเป็นสถาบัน
“
การมีปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา และพรรคก้าวไกลกินปัญหาเป็นอาหารเช้า แต่เราจะวางฉากทัศน์แก้ปัญหาต่างๆ ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องมีผู้นำ เราต้องเป็นคนที่ฟังแต่ยังไม่เชื่อ” หัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุ
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเปิดตัวร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในวันที่ 9 มกราคมนี้ นาย
พิธากล่าวว่า การเปิดตัวของ พล.อ.
ประยุทธ์เป็นโอกาสที่ดี เพราะตนมีระเบิด 3 ลูกจะมอบให้ โดยระเบิดลูกแรก คือส่วยอุทยานฯ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระเบิดลูกที่สอง คือสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยล่ม และระเบิดลูกที่สาม คือทุนจีนสีเทา ซึ่งทั้ง 3 เรื่องเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบจากนายกฯ การเปิดตัวในวันนี้จึงอยากให้ พล.อ.
ประยุทธ์ช่วยตอบในช่วงเปิดใจบนเวทีด้วย
JJNY : 5in1 วิเคราะห์จุดเปลี่ยน│‘อุ๊งอิ๊ง’ยัน“พท.”พร้อมลต.│ธนาธรท้าประยุทธ์│‘พิธา’ฝากระเบิดให้‘ตู่’│ชูวิทย์โผล่ รทสช.
https://www.dailynews.co.th/news/1874358/
อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ฟันธง 'บิ๊กตู่' ขาลง อ่านเกมพลาด ใช้กติกาบัตร 2 ใบ ประเมินพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ ส.ส. 7-14 คน ด้าน 'เพื่อไทย' มีโอกาสแลนด์สไลด์ ชี้สถานการณ์ไม่เอื้อรัฐประหาร กระแส ปชต.เต็มใบกำลังกลับมา "ผมว่าจบแล้ว คสช."
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์จุดเปลี่ยนการเมืองไทยภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ประเมินว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจาก 2 ป. แยกกัน ส่งผลให้เกิดสงครามแย่ง ส.ส. ตัดคะแนนกันเองในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญพรรคที่เสนอชื่อนายกฯต้องมี ส.ส. 25 คนขึ้นไป หาก 2 ป. ผ่านด่านแรกต้องไปแย่งเสียง 250 ส.ว. และหากได้เสียง ส.ส. ในสภาไม่ถึง 50% จะไม่สามารถผ่านกฎหมายบริหารประเทศได้ ดังนั้นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจเปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ เพราะต้องการสร้างความมั่นใจและดึง ส.ส. เข้าพรรคให้มากที่สุด
ผศ.ดร.ปริญญา ประเมิน สาเหตุที่ 2 ป. ยอมเข้ามาเล่นในกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เปรียบในสนามเลือกตั้งทุกครั้ง เนื่องจาก 2 ป. ประเมินสถานการณ์พลาด ไม่คิดตัวเองจะเจอช่วงขาลง พร้อมเทียบเคียงจากตัวเลขผู้ไปใช้สิทธิการเลือกตั้งเมื่อปี 62 จำนวน 35 ล้านคน หากใช้สูตรหาร 100 ค่าเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ หนึ่งคนคือ 3.5 แสนคะแนน แต่หากใช้สูตรหาร 500 ค่าเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ หนึ่งคนคือ 7 หมื่นคะแนน
ดังนั้น หากเทียบเคียงผลสำรวจ “นิด้าโพล” เรื่องคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 4/2565 พบ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้คะแนน 7% หากใช้ระบบเดิมหาร 500 ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 35 คน แต่ในระบบใหม่หาร 100 ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แค่ 7 คน หรือหากเอาคะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้ 14% มาคำนวณเมื่อใช้ระบบหาร 100 เท่ากับได้ ส.ส. แค่ 14 คน และเมื่อเปรียบเทียบกับพรรคเพื่อไทย ที่ได้ 41% หากใช้ระบบหาร 100 จะได้ ส.ส. 41 คน และหากเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ส.ส.เขต 210 เขต เท่ากับเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้ ส.ส.เกินครึ่ง โอกาสเดียวที่ 2 ป. จะชนะ คือไม่แตกกัน
“พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในช่วงขาลงและเมื่อ 2 ป. แตกกัน ส่งผลให้อำนาจ อิทธิพลต่างๆ คลายลงมา ตอนนี้เดินมาถึงจุดเปลี่ยนการเมือง 9 ปี ตั้งแต่ยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร จากที่เคยสามัคคี ต้องแย่ง ส.ส. แย่งคะแนนเสียงประชาชน แย่งเสียง ส.ว. และจะได้คะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎรไม่ถึงครึ่ง ถ้าองค์ประกอบ ปัจจัยต่างๆ เป็นแบบที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ ผมว่าจบแล้ว คสช. จบแล้ว” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว
สำหรับประเด็นการรัฐประหารหลังเลือกตั้ง ผศ.ดร.ปริญญา ชี้ว่า 9 ปีที่ผ่านมา กระแสเปลี่ยนข้าง หลังจากนี้ กระแสประชาธิปไตยเต็มใบจะกลับคืนมา การปฏิวัติสำเร็จต้องมี 2 เงื่อนไข คือ 1.ทหารเป็นปึกแผ่น และ 2.การเมืองที่มาจากการเลือกตั้งต้องตกต่ำมากๆ แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับข้าง เชื่อว่าการรัฐประหารทำไม่ได้ และถึงทำก็ไม่สำเร็จ.
ขอบคุณรูปจากเฟซบุ๊ก “Prinya Thaewanarumitkul”
‘อุ๊งอิ๊ง’ ยัน “เพื่อไทย” พร้อมเลือกตั้ง ลั่น ปชช.ต้องกลับมามีเกียรติ ศักดิ์ศรี อนาคตที่สดใส
https://www.matichon.co.th/politics/news_3763036
‘อุ๊งอิ๊ง’ ยัน “เพื่อไทย” พร้อมเลือกตั้ง ลั่น ปชช.ต้องกลับมามีเกียรติ ศักดิ์ศรี อนาคตที่สดใส วางแผนอนาคตตัวเองได้อย่างมั่นคง
เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่โถงอาคารสำนักงาน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ พรรคเพื่อไทย (พท.) ก็พร้อมทั้งในเรื่องของนโยบายและตัวบุคคล เราทำงานกันมาอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่ออยากให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การที่ประชาชนเป็นหนี้มาอย่างยาวนาน ก็อยากให้นโยบายของเราแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกช่วงอายุ มีอนาคตที่สดใส อนาคตที่มองเห็น อนาคตที่สามารถคาดการณ์และแพลนได้ว่าเราอยากจะมีชีวิตของเราอย่างไร ประชาชนต้องกลับมามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี สามารถลืมตาอ้าปาก และสามารถวางแผนอนาคตของตนเองได้อย่างมั่นคง
ธนาธร ท้าประยุทธ์ เปิดตัวแล้ว ต้องกล้าขึ้นเวทีดีเบต อย่าหนีแบบเมื่อปี’62
https://www.matichon.co.th/politics/news_3763455
‘ธนาธร’ เชื่อ ‘ก้าวไกล’ ได้ ส.ส.เขตมากกว่าเดิม ท้า ‘ประยุทธ์’ ขึ้นเวทีดีเบตโชว์วิสัยทัศน์แข่ง ‘พิธา’
เมื่อวันที่ 9 มกราคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โดยระบุว่า ตนติดตามการทำงานของพรรค ก.ก.มาตลอด ทั้งการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร และกิจกรรมเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งเติบโตขึ้นกว่าในยุคของอดีตพรรคอนาคตใหม่อย่างเห็นได้ชัด และยังเป็นปากเสียงให้กับประชาชนด้วยการมีอุดมการณ์แน่วแน่มั่นคงไม่ทอดทิ้งประชาชน
นายธนาธรกล่าวต่อว่า ในตอนนี้ถ้าดูจากโพลหลายสำนัก จะเห็นว่าพรรค ก.ก.มีคะแนนนิยมเป็นคะแนนพื้นฐานที่เกิดจากการทำงานของพรรคในระดับชาติอยู่แล้ว แต่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พรรคได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในแต่ละพื้นที่ คือการทำงานอย่างหนักและต่อเนื่องของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต จึงอยากเห็นว่าที่ผู้สมัครทำงานอย่างแข็งขันในช่วง 120 วันที่เหลืออยู่ ก่อนถึงวันเลือกตั้ง ตนเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรค ก.ก.จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้นกว่าสมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่ และได้ ส.ส.เขตมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
นายธนาธรกล่าวว่า สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเปิดตัวในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นั้นถือเป็นเรื่องดี และเชื่อมั่นว่า ประชาชนจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก ว่าจะเลือกพรรคการเมืองพรรคใดในการเลือกตั้งที่จะมาถึง
“ส่วนตัวขอให้ พล.อ.ประยุทธ์อย่าหนีเวทีดีเบตเหมือนรอบปี 2562 อยากให้กล้าขึ้นประชันวิสัยทัศน์กับแคนดิเดตนายกฯจากพรรคอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ประชันวิสัยทัศน์กันในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอนาคตของประเทศจะเดินไปทางไหนหากได้นายกฯคนใหม่” นายธนาธรกล่าว
‘พิธา’ ฝากระเบิด 3 ลูกให้ ‘บิ๊กตู่’ ตอบบนเวที รทสช. ย้ำจุดยืนดีล รบ. รายละเอียดประนีประนอมได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3763094
‘พิธา’ ย้ำจุดยืนดีลตั้งรัฐบาล แต่พร้อมประนีประนอมในรายละเอียด ยันฝ่ายค้านปัจจุบันตอบโจทย์ประเทศ ฝากระเบิด 3 ลูกให้ ‘บิ๊กตู่’ ตอบบนเวที ‘รทสช.’
เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่โถงอาคารสำนักงาน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรค ก.ก.ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีหัวคะแนน และการซื้อเสียง เพื่อให้เราเข้าไปเป็นรัฐบาลและบริหารงานอย่างไม่เกรงใจใคร การควบรวมของทุนใหญ่ ส่วย การคอร์รัปชั่น ทุนจีนสีเทา และเรือหลวงสุโขทัยล่ม จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลของพรรค ก.ก.
เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.จะปรับจุดยืนเพื่อจับขั้วตั้งรัฐบาลกับพรรคอื่นหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เราต้องหนักแน่นในจุดยืน เพราะนี่คือเหตุผลของการมาเป็นนักการเมืองและ ส.ส. แต่รายละเอียดและจำนวนรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่สามารถประนีประนอมได้ จึงชัดเจนว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบันคือกลุ่มบุคคลที่จะเป็นคำตอบสำหรับความท้าทายของประเทศไทยในปัจจุบัน
นายพิธากล่าวว่า นอกจากนี้ เราจะไม่เอาพรรคทหารจำแลง ทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่วนที่เหลืออยู่ที่การทำงานและการตัดสินใจของประชาชนผ่านผลการเลือกตั้ง เราทำโดยการใช้เป้าหมายเป็นตัวตั้ง เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม เราต้องการเข้าไปเป็นรัฐบาลและสร้างความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ เรามีทั้งอุดมการณ์และประสิทธิภาพ ถ้ามาร่วมเป็นรัฐบาลแล้วให้เลิกทลายทุนผูกขาด และไม่แตะต้องอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ ถือว่ายอมรับไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่เราหาเสียงไว้กับประชาชน
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ภายในพรรค ก.ก. นายพิธากล่าวว่า พรรค ก.ก.เหมือนกับพรรคการเมืองอื่นที่แต่ละคนมีวิธีที่แตกต่างหลากหลาย แต่เราโอบรับความหลากหลาย เพราะหากมีทัศนคติที่ดีออกมาก็จะนำมาผลักดันเป็นจุดแข็ง ในระยะยาวจะช่วยหล่อหลอมให้พรรค ก.ก.เป็นพรรคของคนทุกคน และมีความเป็นสถาบัน
“การมีปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา และพรรคก้าวไกลกินปัญหาเป็นอาหารเช้า แต่เราจะวางฉากทัศน์แก้ปัญหาต่างๆ ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องมีผู้นำ เราต้องเป็นคนที่ฟังแต่ยังไม่เชื่อ” หัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุ
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเปิดตัวร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในวันที่ 9 มกราคมนี้ นายพิธากล่าวว่า การเปิดตัวของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นโอกาสที่ดี เพราะตนมีระเบิด 3 ลูกจะมอบให้ โดยระเบิดลูกแรก คือส่วยอุทยานฯ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระเบิดลูกที่สอง คือสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยล่ม และระเบิดลูกที่สาม คือทุนจีนสีเทา ซึ่งทั้ง 3 เรื่องเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบจากนายกฯ การเปิดตัวในวันนี้จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ช่วยตอบในช่วงเปิดใจบนเวทีด้วย