JJNY : ราคาผัก พุ่งรับปีใหม่| ‘เพื่อไทย’โว คนสาทรชอบนโยบายค่าแรง| ‘ชลน่าน-ประเสริฐ’ถูกใจฉายารัฐบาล|แนวร่วมมธ.ชวนเขียนจม.

ราคาผัก พุ่งรับปีใหม่ คะน้าฮ่องกง กก.ละ220 พริกหยวก-มะเขือเทศด้วย
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7431331

 
ราคาผัก พุ่งปรี๊ด ต้อนรับช่วงเทศกาลปีใหม่ คะน้าฮ่องกง กิโลกรัมละ 220 บาท ด้าน พริกหยวก-มะเขือเทศ-ผักชีฝรั่ง ปรับขึ้นตามด้วยเช่นกัน
 
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 ธ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจ ราคาผักสด ก่อนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะที่ตลาดสดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าราคาผักมีการปรับราคาจำหน่ายขึ้นแทบทุกชนิด โดยเฉพาะผักกวางตุ้ง พริกหยวก คะน้าฮ่องกง ราคาสูงขึ้นเท่าตัว คาดอากาศหนาวผักออกน้อยและคนปลูกน้อยลงตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา
 
นางทองใบ ลือเทพ เจ้าของร้านผักสดแม่ทองใบ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ ผักแพงขึ้นเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะผักกวางตุ้ง พริกหยวก และคะน้าฮ่องกง ราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากสภาพอากาศแปรปรวนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในหลายจังหวัด ที่เป็นแหล่งปลูกผักตั้งแต่น้ำท่วมช่วงกลางปีที่ผ่านมา เกษตรกรหลายรายเลิกปลูกผักทำให้ผลผลิตออกน้อยลง พืชผักต่าง ๆ ก็ทยอยขึ้นราคาอย่างชัดเจนตามกลไกการตลาด
นางทองใบ กล่าวต่อว่า ทางร้านได้แจ้งลูกค้าให้ทราบตลอดถึงการปรับขึ้นราคาซึ่งลูกค้าก็เข้าใจ โดยวันนี้ราคาคะน้าฮ่องกง จากกิโลกรัมละ 120 บาท ขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 220 บาท, ผักกวางตุ้ง จาก กิโลกรัมละ 100 บาท ขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 200 บาท,
 
พริกหยวกจาก 120 บาท 1 ถุงต่อ 10 กิโลกรัม ขึ้นเป็น 380 บาท, ผักบุ้งจีนจาก กิโลกรัมละ 30 บาท เป็น กิโลกรัมละ 50 บาท, มะเขือเทศ กิโลกรัมละ 20-30 บาท ต่อ 1 ถุง 10 กิโลกรัม เป็น 40-60 บาท และผักชีฝรั่งจาก กิโลกรัม 40-50 บาท เป็น กิโลกรัมละ 60-70 บาท
 
นางทองใบ กล่าวอีกว่า คาดว่าราคาผักมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ และหลังจากนั้นก็จะมีการปรับราคาลดลงตามกลไกการตลาด ที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี



‘เพื่อไทย’ โว คนสาทรชอบนโยบายค่าแรง 600 บาท ขอเสียงปชช.เลือกให้แลนด์สไลด์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3743596

‘เพื่อไทย’ โว คนสาทรชอบนโยบายค่าแรง 600 บาท ขอเสียงปชช.เลือกให้แลนด์สไลด์

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม น.ส.จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางรัก สาทร ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.)  กล่าวว่า วันนี้ตนได้ลงพื้นที่เขตสาทร พร้อมนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรค พท. ด้านเศรษฐกิจ เพื่อพบประชาชนรับทราบความเห็น และสอบถามความเดือดร้อน โดยประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อนอย่างมากจากที่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูง และยังมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นอีก ค่าน้ำมัน และก๊าซหุงต้มที่สูงมาก และค่าครองชีพที่แพงมาก ราคาสินค้าที่ขึ้นอย่างมาก อยากให้มีการแก้ไขโดยด่วน
  
นอกจากนี้ ปัจจุบันราคาน้ำมันตลาดโลกได้ลดลงมาเท่ากับราคาก่อนที่จะมีสงครามรัสเซียยูเครนแล้ว แต่ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศไทยยังสูงมาก ดังนั้นจึงอยากให้ลดราคา จากการตรวจสอบพบว่ามีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันถึงลิตรละ 4.40 บาท ซึ่งน่าจะเก็บลดลงมาได้ เพื่อทำให้ราคาน้ำมันดีเซลลดลงเพื่อช่วยลดภาระของประชาชน และลดเงินเฟ้อลงได้ ปัญหาราคาพลังงานที่สูงขึ้นเป็นเรื่องที่ชาวสาทรกังวลและเป็นห่วงอย่างมาก
 
ทั้งนี้ พรรค พท.ยืนยันว่าหากได้รับความไว้ใจจากประชาชนให้เข้าบริหารประเทศ จะลดราคาไฟฟ้า น้ำมัน และก๊าซหุงต้นโดยทันที เพราะมีแผนงานเตรียมไว้แล้ว โดยพิจารณาจากโครงสร้างราคาของพลังงาน ที่ทำได้จริงและเคยทำมาแล้ว จากการพูดคุยกับชาวสาทร พบว่าคนส่วนใหญ่ถูกใจค่าแรงวันละ 600 บาทมาก ผู้ประกอบการเองก็ยังรับได้ เพราะเชื่อว่าแรงงานจะอยู่ลำบาก ถ้าแรงงานไม่ได้รายได้เช่นนั้น คำถามคือประเทศไทยจะหาธุรกิจที่ทำรายได้ที่จะจ้างงานขนาดนั้นได้อย่างไร ซึ่งเป็นการบ้านสำหรับรัฐบาลใหม่ที่จะทำให้สำเร็จ และพรรค พท.มีแผนงานพร้อมแล้ว
   
น.ส.จุฑาพร กล่าวว่า อีกนโยบายหนึ่งที่เป็นที่นิยมของชาวสาทรคือ 30 บาทรักษาทุกโรค เพราะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งนี้การพัฒนาปรับปรุงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค จะทำให้เกิดความพึงพอใจมากขึ้น ทั้งการลดเวลาการรอพบแพทย์ ระบบ Telemedicine และการให้บริการฉีดป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี จะทำให้การบริกการดีขึ้น
 
สำหรับเรื่องที่บ่นกันมากในสาทรคือปัญหาการเก็บภาษีของรัฐบาลทั้งภาษีที่ดินและทรัพย์สิน ภาษีการขายหุ้น ภาษีความหวานและภาษีความเค็ม ซึ่งโดยหลักการแล้วในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รัฐบาลควรจะลดภาษีมากกว่าที่จะเก็บภาษีเพิ่ม และรัฐบาลควรรอจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแล้วถึงจะเก็บภาษี ซึ่งตอนนั้นประชาชนน่าจะยินดีและพร้อมที่จะจ่ายภาษีเพิ่มมากกว่า
 
โดยรวมแล้ว ประชาชนชาวสาทรรู้สึกว่าตลอด 8 ปีเศรษฐกิจไทยย่ำแย่ ประชาชนลำบากกันอย่างมาก อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง อยากให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เพราะทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยซึ่งสืบทอดมาจาก พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนได้เป็นรัฐบาลเศรษฐกิจจะดีมาก ประชาชนมีกินมีใช้ ไม่ลำบาก มีเงินหมุนเวียนดี มีนโยบายที่โดนใจประชาชน และอยากให้พรรคเพื่อไทยกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง ดังนั้น จึงอยากขอให้ประชาชนได้เลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะแบบแลนสไลด์ เพื่อพรรคเพื่อไทยจะได้จัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน คนจะได้พ้นจากความลำบาก และมองเห็นอนาคตที่สดใส ไม่ใช่มืดมนเหมือนในปัจจุบัน” น.ส.จุฑาพร กล่าว


 
‘ชลน่าน-ประเสริฐ’ ถูกใจฉายารัฐบาล’65 ขยี้ ‘หน้ากากคนดี’ 8 ปี ปชต.ย่อยยับ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3743909
 
‘ชลน่าน-ประเสริฐ’ ถูกใจสื่อมอบฉายา ‘แปดเปื้อน-หน้ากากคนดี’ ให้ ‘บิ๊กตู่-รัฐบาล’ ลั่นอย่าปล่อยให้คนดีมีแต่หน้ากาก
 
เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 26 ธันวาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรค พท. ให้สัมภาษณ์กรณีการเปิดฉายารัฐบาลว่าคือ “หน้ากากคนดี” และฉายา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือ “แปดเปื้อน” ว่าขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชน คำนี้โดนใจมาก เป็นฉายาที่เหมาะสม เรื่องหน้ากากคนดี หมายถึง สิ่งที่เห็นเสมือนเป็นคนดี แต่ที่เจอมา 8 ปี วิถีประชาธิปไตยถูกทำลายอย่างย่อยยับ เรื่องของเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ วิถีเชิงสังคม ถูกปิดกั้นโอกาส

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ใช้โอกาส 8 ปี เป็นลักษณะแปดเปื้อนทุกอย่างในการสืบทอดอำนาจ คงไว้ซึ่งอำนาจ ขอบคุณที่ช่วยกันสะท้อนภาพบอกว่าอย่าให้คนดีในสังคมที่มีแต่หน้ากาก อย่าทำให้ภาคการเมืองแปดเปื้อน โดยแสวงหาประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
 
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า ฉายาที่สื่อมวลชนมอบให้รัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าโดนใจ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ตั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เข้ามาเป็นเลขาฯนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ก็มีท่าทีเป็นมิตรกับสื่อมากขึ้น พยายามทำตัวแบบนักการเมือง โดยมีข้อความหนึ่งที่ได้บอกกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าขอให้ระมัดระวังในการใช้งบกลาง หมายความว่าที่ผ่านมามีการใช้อย่างสุรุ่ยสุร่ายใช่หรือไม่ หน้ากากคนดี อาจไม่ได้ดีจริง แต่ใส่หน้ากากเอาไว้เพื่อซ่อนอะไรไว้เยอะแยะ
 
นายประเสริฐกล่าวว่า ส่วนฉายาแปดเปื้อนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง แม้หน้าฉากจะทำเป็นไม่รู้อะไร แต่ที่จริงรู้ทุกอย่าง สื่อมวลชนให้ฉายาถือว่าเหมาะสม รวมทั้งการปฏิรูป 8 ปี มีอะไรหรือไม่ ซึ่งประชาชนยังไม่ได้รับคำตอบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่