https://ppantip.com/topic/41507366
อากาศหนาวเดินทางมาถึงอย่างเป็นทางการแล้ว แม้ดูเหมือนว่าจะมาช้ากว่าปกติ แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ตอนเช้าตรู่ บ้านสวนโนนเดื่อของผมได้สัมผัสกับความเย็นระดับ 15-16 องศาเซ็นติเกรด มาได้สองสามวันแล้ว
บรรยากาศยามเช้ามืด ผมตื่นนอน ออกมานั่งที่เก้าอี้ตัวโปรด ระเบียงหน้าบ้าน สัมผัสความหนาวเย็น ในความสลัวของใกล้รุ่ง กลิ่นดอกไม้ป่าหอมระรื่น เสียงเพลงจากหอกระจายเสียงประจำหมู่บ้านเปิดเพลงดังแผ่วๆ เช้านี้เปิดเพลงครูทูล ทองใจ เพลง
"เสียงดุเหว่าแว่ว" หวานไพเราะจับใจ เนื้อเพลงพรรณาด้วยถ้อยคำที่สละสลวย งดงามด้วยการใช้ภาษา ถึงสองหนุ่มสาวที่พากันท่องวิมานแดนสวรรค์ เพลิดเพลินกับการชมเดือนชมดาว จนเสียงดุเหว่าแว่วมาเสมือน เป็นสัญญาณให้จากกัน สอดรับกับเสียงร้องของเจ้านกกาเหว่าตัวจริง ที่ร้องประสาน เจื้อยแจ้ว บนต้นเค็งใหญ่อายุนับร้อยปีที่หลังบ้าน เจ้ากาเหว่าหายไปเมื่อปลายกุมภาพันธ์ตอนสิ้นหน้าหนาวปีนี้ ไม่ทราบไปท่องแดนสวรรค์ที่ไหน ปีนี้กลับมาแล้ว
ชีวิตจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ ผมเตรียมไข่ต้มไว้สองใบ กล้วยน้ำว้าผลผลิตในบ้านสวนเอง หกลูก ไว้ใส่บาตรพระที่เดินบิณฑบาตผ่านถนนหน้าบ้านสวนสององค์ ของใส่บาตรในแต่ละเช้ายักย้ายไปตามมี บางวันก็เป็นเครื่องดื่มแบบชงที่เป็นซอง หรือผลไม้ที่มีในสวน พระต้องฉันพอประทังชีวิต พอมีแรงสวดมนต์ภาวนา ปฏิบัติศาสนกิจ มิใช่ฉันแต่อาหารดีๆ จนร่างกายแข็งแรงเกิดกิเลสและกำหนัด เกียจคร้าน จนเคยตัว ทำให้ละเลยกิจที่ต้องทำตามแนวทางที่พระพุทธองค์ ทรงกำหนดไว้ ผมเชื่อเช่นนั้น
สายหน่อยก็เดินดูต้นไม้ ใบไม้ที่ปลูกเอาไว้ ตัดแต่งกิ่งไม้ อาหารการกินในแต่ละมื้อ ก็ง่ายๆ ด้วยกับข้าวที่หาเตรียมไว้ อยากกินอะไรก็สั่งให้เขา(ร้านในหมู่บ้าน)ทำ แล้วเอามาแพคใส่ตู้เย็น จะกินก็เอาออกมาอุ่น สบายๆไปมื้อหนึ่ง มื้อหนึ่ง เดี๋ยววันหนึ่ง วันหนึ่งก็ผ่านไป
ชีวิตที่อิสระ ทั้งความคิดและจิตใจ ปราศจากสิ่งร้อยรัด เป็นชีวิตที่สงบและนำมาซึ่งความสุข โดยแท้ ในโลกปัจจุบันที่สารพัดเรื่องล่องลอยอยู่ในอากาศ พร้อมที่จะมาสัมผัสสร้างอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง ให้กับเราได้ทุกเวลา ทุกขณะจิต เพียงแค่เปิดอุปกรณ์สื่อสารเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ก็พร้อมที่จะพรั่งพรูเข้ามาสร้างสารพัดอารมณ์ให้เราได้ สำหรับคนแก่อย่างผม การจำกัดการรับรู้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด หากต้องการความสุขและความสงบในการดำเนินชีวิต
มา ณ บัดนี้ เวลาที่ล่วงผ่านหลังเกษียณอายุมาร่วมสิบปี ทำให้ได้เห็นความจริงของชีวิตหลายอย่าง อย่างหนึ่งที่ชัดเจนคือพุทธพจน์ที่ว่า
"สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี" เป็นความจริงโดยแท้ การรับรู้เรื่องราวต่างๆที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองแล้วนำมาเป็นอารมณ์ของตน ทำให้เกิดความรู้สึกต่างๆ อันนำมาซึ่งความทุกข์ทั้งสิ้น
ยิ่งสูงวัย ยิ่งผ่านชีวิตมานาน สำหรับผมสิ่งเดียวที่ควรรักษาไว้ คือ
เกียรติและศักดิ์ศรี ของชีวิตที่ได้สร้างสมไว้ เพราะดูๆแล้ว คนสูงวัยมักจะสูญเสียสิ่งที่ว่าไปได้โดยง่ายจากการกระทำเพียงครั้ง และดูเสมือนว่าโลกและสังคมปัจจุบันมิได้ให้เกียรติยกย่องคนสูงวัยเท่าไรนัก เพราะหากทำอะไรพลั้งพลาดไปบ้าง ก็พร้อมที่จะให้เกียรติเรียกขานว่า
มนุษย์ลุง มนุษย์ป้า อย่างไม่รั้งรอ
ในเวลาที่เหลืออีกไม่นานนัก การที่ได้อยู่กับตนเอง อยู่กับความสงบ ได้ทบทวนเรื่องราวและบทบาทของชีวิตที่ได้ดำเนินมา ผมเห็นความผิดพลาด ข้อบกพร่องของการกระทำของตน อย่างชัดเจน ทั้งๆที่ตอนกระทำนั้นคิดว่าถูกว่าควรเป็นที่สุด
การอยู่กับธรรมชาติ ความสงบ และมีชีวิตที่เป็นของตนเองนั้น น่าจะเป็นชีวิตที่มีความสุขที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ แต่ละบุคคลจะเลือกหาแนวทางชีวิตที่เป็นของตน สร้างสุขให้แก่ตน แต่ละคนย่อมแตกต่าง ไม่มีถูกมีผิด
ทั้งหลายทั้งปวงที่ผมว่าไปแล้วนั้น ก็เป็นเพียง "เรื่องเล่าของคนสูงวัย" คนหนึ่งที่เล่าขานสู่กันในเช้าของฤดูหนาว อันแสนสุขเท่านั้น........
เมื่อลมหนาวมาเยือน..
อากาศหนาวเดินทางมาถึงอย่างเป็นทางการแล้ว แม้ดูเหมือนว่าจะมาช้ากว่าปกติ แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ตอนเช้าตรู่ บ้านสวนโนนเดื่อของผมได้สัมผัสกับความเย็นระดับ 15-16 องศาเซ็นติเกรด มาได้สองสามวันแล้ว
บรรยากาศยามเช้ามืด ผมตื่นนอน ออกมานั่งที่เก้าอี้ตัวโปรด ระเบียงหน้าบ้าน สัมผัสความหนาวเย็น ในความสลัวของใกล้รุ่ง กลิ่นดอกไม้ป่าหอมระรื่น เสียงเพลงจากหอกระจายเสียงประจำหมู่บ้านเปิดเพลงดังแผ่วๆ เช้านี้เปิดเพลงครูทูล ทองใจ เพลง "เสียงดุเหว่าแว่ว" หวานไพเราะจับใจ เนื้อเพลงพรรณาด้วยถ้อยคำที่สละสลวย งดงามด้วยการใช้ภาษา ถึงสองหนุ่มสาวที่พากันท่องวิมานแดนสวรรค์ เพลิดเพลินกับการชมเดือนชมดาว จนเสียงดุเหว่าแว่วมาเสมือน เป็นสัญญาณให้จากกัน สอดรับกับเสียงร้องของเจ้านกกาเหว่าตัวจริง ที่ร้องประสาน เจื้อยแจ้ว บนต้นเค็งใหญ่อายุนับร้อยปีที่หลังบ้าน เจ้ากาเหว่าหายไปเมื่อปลายกุมภาพันธ์ตอนสิ้นหน้าหนาวปีนี้ ไม่ทราบไปท่องแดนสวรรค์ที่ไหน ปีนี้กลับมาแล้ว
ชีวิตจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ ผมเตรียมไข่ต้มไว้สองใบ กล้วยน้ำว้าผลผลิตในบ้านสวนเอง หกลูก ไว้ใส่บาตรพระที่เดินบิณฑบาตผ่านถนนหน้าบ้านสวนสององค์ ของใส่บาตรในแต่ละเช้ายักย้ายไปตามมี บางวันก็เป็นเครื่องดื่มแบบชงที่เป็นซอง หรือผลไม้ที่มีในสวน พระต้องฉันพอประทังชีวิต พอมีแรงสวดมนต์ภาวนา ปฏิบัติศาสนกิจ มิใช่ฉันแต่อาหารดีๆ จนร่างกายแข็งแรงเกิดกิเลสและกำหนัด เกียจคร้าน จนเคยตัว ทำให้ละเลยกิจที่ต้องทำตามแนวทางที่พระพุทธองค์ ทรงกำหนดไว้ ผมเชื่อเช่นนั้น
สายหน่อยก็เดินดูต้นไม้ ใบไม้ที่ปลูกเอาไว้ ตัดแต่งกิ่งไม้ อาหารการกินในแต่ละมื้อ ก็ง่ายๆ ด้วยกับข้าวที่หาเตรียมไว้ อยากกินอะไรก็สั่งให้เขา(ร้านในหมู่บ้าน)ทำ แล้วเอามาแพคใส่ตู้เย็น จะกินก็เอาออกมาอุ่น สบายๆไปมื้อหนึ่ง มื้อหนึ่ง เดี๋ยววันหนึ่ง วันหนึ่งก็ผ่านไป
ชีวิตที่อิสระ ทั้งความคิดและจิตใจ ปราศจากสิ่งร้อยรัด เป็นชีวิตที่สงบและนำมาซึ่งความสุข โดยแท้ ในโลกปัจจุบันที่สารพัดเรื่องล่องลอยอยู่ในอากาศ พร้อมที่จะมาสัมผัสสร้างอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง ให้กับเราได้ทุกเวลา ทุกขณะจิต เพียงแค่เปิดอุปกรณ์สื่อสารเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ก็พร้อมที่จะพรั่งพรูเข้ามาสร้างสารพัดอารมณ์ให้เราได้ สำหรับคนแก่อย่างผม การจำกัดการรับรู้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด หากต้องการความสุขและความสงบในการดำเนินชีวิต
มา ณ บัดนี้ เวลาที่ล่วงผ่านหลังเกษียณอายุมาร่วมสิบปี ทำให้ได้เห็นความจริงของชีวิตหลายอย่าง อย่างหนึ่งที่ชัดเจนคือพุทธพจน์ที่ว่า"สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี" เป็นความจริงโดยแท้ การรับรู้เรื่องราวต่างๆที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองแล้วนำมาเป็นอารมณ์ของตน ทำให้เกิดความรู้สึกต่างๆ อันนำมาซึ่งความทุกข์ทั้งสิ้น
ยิ่งสูงวัย ยิ่งผ่านชีวิตมานาน สำหรับผมสิ่งเดียวที่ควรรักษาไว้ คือ เกียรติและศักดิ์ศรี ของชีวิตที่ได้สร้างสมไว้ เพราะดูๆแล้ว คนสูงวัยมักจะสูญเสียสิ่งที่ว่าไปได้โดยง่ายจากการกระทำเพียงครั้ง และดูเสมือนว่าโลกและสังคมปัจจุบันมิได้ให้เกียรติยกย่องคนสูงวัยเท่าไรนัก เพราะหากทำอะไรพลั้งพลาดไปบ้าง ก็พร้อมที่จะให้เกียรติเรียกขานว่า มนุษย์ลุง มนุษย์ป้า อย่างไม่รั้งรอ
ในเวลาที่เหลืออีกไม่นานนัก การที่ได้อยู่กับตนเอง อยู่กับความสงบ ได้ทบทวนเรื่องราวและบทบาทของชีวิตที่ได้ดำเนินมา ผมเห็นความผิดพลาด ข้อบกพร่องของการกระทำของตน อย่างชัดเจน ทั้งๆที่ตอนกระทำนั้นคิดว่าถูกว่าควรเป็นที่สุด
การอยู่กับธรรมชาติ ความสงบ และมีชีวิตที่เป็นของตนเองนั้น น่าจะเป็นชีวิตที่มีความสุขที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ แต่ละบุคคลจะเลือกหาแนวทางชีวิตที่เป็นของตน สร้างสุขให้แก่ตน แต่ละคนย่อมแตกต่าง ไม่มีถูกมีผิด
ทั้งหลายทั้งปวงที่ผมว่าไปแล้วนั้น ก็เป็นเพียง "เรื่องเล่าของคนสูงวัย" คนหนึ่งที่เล่าขานสู่กันในเช้าของฤดูหนาว อันแสนสุขเท่านั้น........