โพลชี้ คนรุ่นใหม่ 53.2% เห็นควร ‘เลิกห้ามขายเหล้าเบียร์วันพระ’ ชี้ไทยมีหลากหลายศาสนา-ดื่มวันไหนก็เหมือนกัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3721728
โพลชี้ คน Gen Z เห็นควรยกเลิกข้อห้ามขายเหล้าเบียร์ในวันพระ ร้อยละ 53.2
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองศาสตราจารย์ ดร.
ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต เปิดเผยข้อมูลจากแบบสอบถามจากคน Gen Z (ช่วงอายุ 18-25 ปี ทั้งประเทศมี 6.86 ล้านคน) ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯและทุกภาคของประเทศ จำนวน 412 คนเกี่ยวกับทัศนคติทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง
ต่อคำถามว่า “
ท่านคิดว่า วันพระสำคัญของศาสนาพุทธ ควรยังต้องมี หรือควรยกเลิก ข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ของประชาชนทั้งประเทศ”
สรุปผลการวิจัยดังนี้
1. คน Gen Z ส่วนใหญ่เห็นว่าควรยกเลิกข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ ร้อยละ 53.2 (219 คน) รองลงมาเห็นว่า ควรยังต้องมีข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ ร้อยละ 30.6 (126 คน) ไม่แสดงความเห็น ร้อยละ 16.2 (67 คน)
2. จากการเก็บข้อมูลเชิงลึก คน Gen Z ที่เห็นว่าควรยกเลิกข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ ให้เหตุผลว่า ทำให้แม่ค้าร้านอาหารขาดรายได้, การขายเหล้าเบียร์ไม่ใช่เรื่องที่ผิด, การขายเหล้าเบียร์เป็นเรื่องทางเศรษฐกิจ, การขายเหล้าเบียร์เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน, การขายเหล้าเบียร์ไม่เกี่ยวพันกับศาสนา, การดื่มเหล้าเบียร์เป็นสิทธิส่วนบุคคลของเรา, จะดื่มวันไหนก็เหมือนกัน, คนซื้อไว้ก่อนแล้ว, ควรเน้นให้คนตระหนักถึงผล มากกว่ามาบังคับ, กฎหมายไม่ดี ทำให้คนต้องทำผิดกฎหมาย, ถ้าอยากเน้นเรื่องศีลธรรมก็ชวนคนไปเข้าวัดดีกว่า, ถ้าจะรักษาศีล ก็ทำไป เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล, ประเทศไทยเป็นรัฐฆราวาส ไม่ใช่รัฐศาสนา, สำหรับคำอธิบายที่ให้ซ้ำกันมากที่สุดคือ ประเทศไทยยังมีคนศาสนาอื่นๆ และมีคนที่ไม่ได้มีศาสนา
ส่วนคน Gen Z ที่เห็นว่าควรยังต้องมีข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ ให้เหตุผลว่า ขัดกับหลักพุทธศาสนา, การดื่มเหล้าเบียร์ทำให้ผู้คนขาดสติกัน, หยุดกินเหล้าเบียร์ทุกวันพระอาจจะทำให้สุขภาพแข็งแรงไปได้นานๆ, หยุดกินเหล้าหนึ่งวัน อาจจะดูไม่มีประโยชน์อะไรมาก แต่มันดูถึงว่า เราให้ความสำคัญกับพุทธศาสนาของเรา, ไม่เหมาะสมที่จะขายเหล้าเบียร์วันพระ, การเมาทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันได้, คงเป็นแนวคิดอยากให้คนไทยดื่มน้อยลง, เอาเวลาดื่มเหล้าเบียร์ไปออกกำลังกายดีกว่า
3. ประวัติศาสตร์ข้อห้ามเวลาขายเหล้าเบียร์ เกิดจากรัฐประหารปี 2514 ของจอมพล
ถนอม กิตติขจร ที่ข้าราชการกระทรวงต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดต่างอำเภอ กินอาหารกินเหล้าติดลมกันยาวไม่กลับไปทำงาน จึงมีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2515 กำหนดเวลาซื้อขายเหล้าเบียร์ได้เวลา 11.00-14.00 และ 17.00-24.00 น. แต่จะนำการบังคับเวลาซื้อขายนี้มาใช้อย่างจริงจังเมื่อสิบกว่าปีมานี้เมื่อมีร้านสะดวกซื้อแพร่ไปทั่วประเทศ และสอดรับกับการบังคับห้ามซื้อขายเหล้าเบียร์วันพระที่มีเพิ่มขึ้น
4. ประวัติศาสตร์การห้ามขายจ่ายแจกเหล้าเบียร์วันพระ เกิดจากการรัฐประหาร 2549 โดยรัฐบาลสืบเนื่องรัฐประหารได้ออก พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 13 กุมภาพันธ์ 2551 โดยพลเอก
สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี (รัฐบาลเลือกตั้งชุดใหม่ได้มีการแต่งตั้งให้นาย
สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 29 มกราคม 2551 และได้ประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ววันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551 แต่ยังไม่ได้เข้าบริหารประเทศ)
ต่อมา รัฐบาลนาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2552 ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 3 กรกฎาคม 2552 ระบุ “
ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬบูชา และวันเข้าพรรษา” มีประกาศอีกฉบับในวันต่อมา วันที่ 4 กรกฎาคม เพิ่มคำว่า “
ยกเว้นการขายในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม” รัฐประหาร 2557 ทำให้มีการขยายวันห้ามการขายจ่ายแจกเหล้าเบียร์โดยเพิ่มวันออกพรรษาอีก 1 วัน และให้ยกเว้นการขายได้เฉพาะร้านปลอดอากรภายในสนามบินนานาชาติ (ประกาศ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ในรัฐบาลพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
สรุป ประวัติศาสตร์การห้ามซื้อขายจ่ายแจกเหล้าเบียร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น เกิดจากการรัฐประหารปี 2514 รัฐประหารปี 2549 และรัฐประหารปี 2557 แต่ยังคงขายเหล้าเบียร์แอลกอฮอล์ได้ในโรงแรมทั้งประเทศและร้านปลอดภาษีในสนามบินนานาชาติ
5. ควรมีการศึกษาทัศนคติประชาชนทั้งประเทศถึงข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ในวันพระว่าเห็นด้วยที่ยังต้องมีหรือควรต้องยกเลิก และศึกษาทัศนคติของผู้ค้าร้านอาหารประเภทต่างๆ และผลกระทบที่มีต่อการทำธุรกิจร้านอาหารในรอบกว่าทศวรรษที่ผ่านมา
ข้อมูลพื้นฐาน
งานวิจัยทัศนคติของคน Gen Z ต่อ 5 ประเด็นคำถามเกี่ยวกับสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 4-11 พฤศจิกายน 2565 โดยเก็บจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ภาคกลางที่ปทุมธานี นครปฐม ชลบุรี อยุธยา ภาคเหนือที่พิษณุโลก เชียงใหม่ พะเยา เชียงราย ลำปาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สกลนคร ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ ชัยภูมิ เลย อุดรธานี ภาคใต้ที่นครศรีธรรมราช สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นราธิวาส ปัตตานี รวม 24 จังหวัด รวม 31 สถาบันอุดมศึกษา รวม 412 คน
เพศของผู้ตอบแบบสอบถาม : หญิง 249 คน (60.4%) ชาย 122 คน (29.6%) เพศหลากหลาย 41 คน (10.0%)
โรงเรียนที่ท่านจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากเขตภูมิภาคใด : กรุงเทพฯ 91 คน (22.1%) ภาคกลาง 128 คน (31.1%) ภาคเหนือ 35 คน (8.5%) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 คน (26.9%) ภาคใต้ 47 คน (11.4%)
อายุของผู้ตอบแบบสอบถาม อายุ 18 ปี 102 คน (24.8%) อายุ 19 ปี 129 คน (31.3%) อายุ 20 ปี 67 คน (16.3%) อายุ 21 ปี 50 คน (12.1%) อายุ 22 ปี 28 คน (6.8%) อายุ 23 ปี 15 คน (3.6%) อายุ 24 ปี 11 คน (2.7%) อายุ 25 ปี 10 คน (2.4%)
‘สุทิน’ ไม่สนพวกทิ้งพท. มั่นใจคนเลือกพรรค ไม่ใช่คนพวกนี้ ย้ำกัญชา ต้องเพื่อการแพทย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3721534
“สุทิน” เชื่อ สัปดาห์นี้สภาไม่ล่ม เหตุ รบ.ขอเลื่อนถกร่าง กม.กัญชาฯ ก่อน ย้ำ ถ้าเป็นกัญชาเพื่อการแพทย์ ฝ่ายค้านพร้อมหนุน ลั่น คนเลือกจิตวิญญาณมากกว่า หลัง ส.ส.เพื่อไทยย้ายซบพรรคอื่น
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ในการประชุมสภาสัปดาห์นี้จะเข้มข้นเป็นพิเศษ องค์ประชุมน่าจะสมบูรณ์กว่าทุกสัปดาห์ เพราะฝ่ายรัฐบาลขอเลื่อนเอาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง ขึ้นมาพิจารณา ขณะที่ฝ่ายค้านขอเลื่อนร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมฯ ขึ้นมาพิจารณาเช่นกัน ดังนั้น รัฐบาลควรต้องดำเนินการให้องค์ประชุมครบ
ทั้งนี้ สำหรับท่าทีของฝ่ายค้านต่อร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ นั้น เท่าที่ดู ตอนนี้ทุกคนยังมีจุดยืนของตัวเอง โดยหากร่างที่เสนอมายังไม่มีการแก้ไข ฝ่ายค้านก็คงโหวตไม่รับร่าง ซึ่งทราบว่าฝ่ายรัฐบาลบางพรรคก็รับไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้าในระหว่างการพิจารณามีการแก้ไขปรับปรุง จนแน่ใจว่าเป็นกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น ฝ่ายค้านก็พร้อมจะให้ผ่าน เราไม่ค้านหัวชนฝา
นาย
สุทินกล่าวกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมเปิดตัว 43 ส.ส.จาก 9 พรรคที่จะย้ายมาอยู่กับพรรค ภท. จะกระทบกับการแลนด์สไลด์ของพรรค พท.หรือไม่ว่า เชื่อว่าไม่กระทบ ในส่วนของ ส.ส.เพื่อไทยที่ย้ายไป 10 คนนั้น ก็เป็นกลุ่มคนที่รู้กันอยู่แล้วว่าจะย้ายไปไม่ใช่ข้อมูลใหม่ เผยตัวตนมานาน สังคมรับทราบดี ซึ่งเราได้จัดสรรคนลงสมัครแทนจนครบทุกเขตแล้ว ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลบวกกับเรา เพราะประชาชนจะไม่เอาคนพวกนี้ เพราะใจไม่อยู่กับพรรค พท.แล้ว ตนเชื่อว่าประชาชนจะยังเลือกจิตวิญญาณของพรรค อุดมการณ์ รวมทั้งนโยบายของพรรคมากกว่าที่จะมองเรื่องตัวบุคคล
ก้าวไกล ไล่ส่งพวกงูเห่า ย้ายซบภูมิใจไทย ลั่นหักหลังประชาชน ไม่มีทางจากกันด้วยดี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3721819
“โรม” ไล่ส่งอสรพิษหักหลังประชาชน ซบ ภท. เผยชื่อผู้สมัครก้าวไกล ลงเเทนเขตงูเห่า หยัน วันนี้มี “ประยุทธ์”เพียงคนเดียวไม่พร้อมเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีมีชื่อส.ส.ก.ก.หลายคน เตรียมลาออกไปเปิดตัว กับพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ในวันที่ 16 ธันวาคมว่า เราได้เตรียมตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เพื่อลงเลือกตั้งเเทน คนที่จะย้ายไปภท.ไว้เเล้ว อาทิ 1.นาย
ชิดตะวัน ชินอนุวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย ก.ก.เขต 1 ลงสมัครเเทน นาย
เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย 2.นาย
พลากร วงศ์ประเสริฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงรายก.ก. เขต 6 ลงแทน นาย
พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย และ 3.นาย
สหัสวัต คุ้มคง ว่าที่ส.ส.ชลบุรี เขต 5 ก.ก. ลงแทน นาย
ขวัญเลิศ พาณิชมาศ ส.ส.ชลบุรี นอกจากนี้ ยังมีรายอื่น อาทิ นาย
เกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. ที่มีข่าวอาจจะย้ายไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่ จ.พิษณุโลก เขต1 กับ ภท. นั้นในเขตนี้ พรรคส่งนาย
ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ก.ก.ลงชิงชัย แน่นอน
เมื่อถามว่า ส.ส.ที่ย้ายไปภท. ถือว่าจากกันด้วยดีหรือไม่ เพราะก.ก.ก็ไม่ได้มีมติขับออกจากพรรค นาย
รังสิมันต์ ตอบว่า มันไม่มีทางคำว่าจากกันด้วยดีต้องยอมรับความจริง การเป็นงูเห่า ประชาชนทุกคนรวมถึงพวกเราเองก็มองว่าเป็นการทรยศต่อประชาชน ถ้าไปด้วยกันไม่ได้ ไม่อยากอยู่ ก็ควรลาออกตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่พอมาลาออกกันใกล้ๆ และไม่ใช่ไปโหวตไว้วางใจรัฐมนตรีซีกรัฐบาล คือสิ่งที่ขัดความต้องซึ่งเราเหมือนร่างทรงของประชาชน ต้องทำตามเจตจำนงคนที่เลือกเรามา ถ้าเกิดแบบนั้นก็คือคนทรยศต่อประชาชน อีกทั้ง ในมุมที่ภท.ทำแบบนี้จริงๆไม่ใช่เรื่องใหม่ ทุกคนก็เห็น เรามีส.ส.ก่อนหน้านี้บางส่วนย้ายไปภท. ถึงขนาดจะขู่ว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับคนยที่เคยให้โอกาสเป็นการประจารตัวเองถ้าวันนี้มีเลือกตั้ง ประชาชนเขามองออกว่า พรรคการเมืองที่เปิดเป็นฟาร์งูเห่าเอาคนที่ทรยศกับพรรคอื่น มาอยู่พรรคตัวเอง ไม่คิดว่า ประชาชนจะเห็นดีเห็นงามกับรูปแบบวิธีการนี้ พูดได้ว่า ระวังประชาชนเขาจะมองว่า พรรคของคุณเป็นพรรคที่สะสมคนทรยศ ไม่ดีต่อทั้งพรรคการเมือง และคนที่จะไปอยู่ในนั้น
เมื่อถามว่า งูเห่าที่ย้ายไปจะสอบผ่านหรือสอบตก การมีกระสุนยิงอัดเยอะๆ ช่วยให้งูเห่ากลับมาผงาดในการเลือกตั้งที่จะมาถึงหรือไม่ นาย
รังสิมันต์ ตอบว่า พรรคอนาคตใหม่ครั้งก่อนใช้งบเลือกตั้งน้อยมาก แต่ได้รับเลือกตั้งอันดับ 3 พิสูจน์เเล้วกระสุนไม่ใช่ทุกอย่าง ผลงานการทำหน้าที่ไม่ได้อยู่แค่เอาของไปแจก หรือลงพื้นที่ แต่การทำหน้าที่ในสภาฯ การผลักดันนโยบาย ก็มีส่วนสำคัญ ตนไม่ใช่หมอดู แต่คิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือประชาชน ไม่อยากเห็นใครทรยศต่อเขา เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า เขาจะทรยศต่อประชาชนหรือไม่ ตนไม่ได้เจาะจงไปที่ใครนะ แต่หมายความว่า คนที่มันเคยทรยศต่อพรรคการเมืองที่ให้โอกาสมาก่อน แล้วถามว่า จะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนๆนั้นจะไม่ทำอีก
นาย
รังสิมันต์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองเรื่องสภาฯ ล่ม ว่า สภาฯล่ม มาก่อนหน้านี้เเล้ว มันจะนำไปสู่การยุบสภาฯเร็วขึ้นหรือไม่ จะแก้อย่างไร เดินต่ออย่าวไร นึกไม่ออก อำนาจการยุบสภาฯอยู่ที่พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ปัญหาคือวันนี้คือ พล.อ.
ประยุทธ์พร้อมเมื่อไหร่ ประเทศไทยวันนี้ประชาชนพร้อมเลือกตั้งแล้ว แต่คนเดียวที่ไม่พร้อมเลือกตั้ง ที่ไม่อยากให้การตัดสินใจต่ออนาคตประเทศครั้งหน้าที่เป็นของประชาชนเกิดขึ้น นั่นคือพล.อ.
ประยุทธ์
JJNY : 5in1 โพลชี้‘เลิกห้ามขายเหล้าเบียร์วันพระ’│สุทินไม่สนพวกทิ้งพท.│ก.ก.ไล่งูเห่า│หมอธีระคาด‘พีค’│จีนรับมือคลื่นโควิด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3721728
โพลชี้ คน Gen Z เห็นควรยกเลิกข้อห้ามขายเหล้าเบียร์ในวันพระ ร้อยละ 53.2
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองศาสตราจารย์ ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต เปิดเผยข้อมูลจากแบบสอบถามจากคน Gen Z (ช่วงอายุ 18-25 ปี ทั้งประเทศมี 6.86 ล้านคน) ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯและทุกภาคของประเทศ จำนวน 412 คนเกี่ยวกับทัศนคติทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง
ต่อคำถามว่า “ท่านคิดว่า วันพระสำคัญของศาสนาพุทธ ควรยังต้องมี หรือควรยกเลิก ข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ของประชาชนทั้งประเทศ”
สรุปผลการวิจัยดังนี้
1. คน Gen Z ส่วนใหญ่เห็นว่าควรยกเลิกข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ ร้อยละ 53.2 (219 คน) รองลงมาเห็นว่า ควรยังต้องมีข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ ร้อยละ 30.6 (126 คน) ไม่แสดงความเห็น ร้อยละ 16.2 (67 คน)
2. จากการเก็บข้อมูลเชิงลึก คน Gen Z ที่เห็นว่าควรยกเลิกข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ ให้เหตุผลว่า ทำให้แม่ค้าร้านอาหารขาดรายได้, การขายเหล้าเบียร์ไม่ใช่เรื่องที่ผิด, การขายเหล้าเบียร์เป็นเรื่องทางเศรษฐกิจ, การขายเหล้าเบียร์เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน, การขายเหล้าเบียร์ไม่เกี่ยวพันกับศาสนา, การดื่มเหล้าเบียร์เป็นสิทธิส่วนบุคคลของเรา, จะดื่มวันไหนก็เหมือนกัน, คนซื้อไว้ก่อนแล้ว, ควรเน้นให้คนตระหนักถึงผล มากกว่ามาบังคับ, กฎหมายไม่ดี ทำให้คนต้องทำผิดกฎหมาย, ถ้าอยากเน้นเรื่องศีลธรรมก็ชวนคนไปเข้าวัดดีกว่า, ถ้าจะรักษาศีล ก็ทำไป เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล, ประเทศไทยเป็นรัฐฆราวาส ไม่ใช่รัฐศาสนา, สำหรับคำอธิบายที่ให้ซ้ำกันมากที่สุดคือ ประเทศไทยยังมีคนศาสนาอื่นๆ และมีคนที่ไม่ได้มีศาสนา
ส่วนคน Gen Z ที่เห็นว่าควรยังต้องมีข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ ให้เหตุผลว่า ขัดกับหลักพุทธศาสนา, การดื่มเหล้าเบียร์ทำให้ผู้คนขาดสติกัน, หยุดกินเหล้าเบียร์ทุกวันพระอาจจะทำให้สุขภาพแข็งแรงไปได้นานๆ, หยุดกินเหล้าหนึ่งวัน อาจจะดูไม่มีประโยชน์อะไรมาก แต่มันดูถึงว่า เราให้ความสำคัญกับพุทธศาสนาของเรา, ไม่เหมาะสมที่จะขายเหล้าเบียร์วันพระ, การเมาทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันได้, คงเป็นแนวคิดอยากให้คนไทยดื่มน้อยลง, เอาเวลาดื่มเหล้าเบียร์ไปออกกำลังกายดีกว่า
3. ประวัติศาสตร์ข้อห้ามเวลาขายเหล้าเบียร์ เกิดจากรัฐประหารปี 2514 ของจอมพลถนอม กิตติขจร ที่ข้าราชการกระทรวงต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดต่างอำเภอ กินอาหารกินเหล้าติดลมกันยาวไม่กลับไปทำงาน จึงมีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2515 กำหนดเวลาซื้อขายเหล้าเบียร์ได้เวลา 11.00-14.00 และ 17.00-24.00 น. แต่จะนำการบังคับเวลาซื้อขายนี้มาใช้อย่างจริงจังเมื่อสิบกว่าปีมานี้เมื่อมีร้านสะดวกซื้อแพร่ไปทั่วประเทศ และสอดรับกับการบังคับห้ามซื้อขายเหล้าเบียร์วันพระที่มีเพิ่มขึ้น
4. ประวัติศาสตร์การห้ามขายจ่ายแจกเหล้าเบียร์วันพระ เกิดจากการรัฐประหาร 2549 โดยรัฐบาลสืบเนื่องรัฐประหารได้ออก พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 13 กุมภาพันธ์ 2551 โดยพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี (รัฐบาลเลือกตั้งชุดใหม่ได้มีการแต่งตั้งให้นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 29 มกราคม 2551 และได้ประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ววันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551 แต่ยังไม่ได้เข้าบริหารประเทศ)
ต่อมา รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2552 ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 3 กรกฎาคม 2552 ระบุ “ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬบูชา และวันเข้าพรรษา” มีประกาศอีกฉบับในวันต่อมา วันที่ 4 กรกฎาคม เพิ่มคำว่า “ยกเว้นการขายในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม” รัฐประหาร 2557 ทำให้มีการขยายวันห้ามการขายจ่ายแจกเหล้าเบียร์โดยเพิ่มวันออกพรรษาอีก 1 วัน และให้ยกเว้นการขายได้เฉพาะร้านปลอดอากรภายในสนามบินนานาชาติ (ประกาศ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)
สรุป ประวัติศาสตร์การห้ามซื้อขายจ่ายแจกเหล้าเบียร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น เกิดจากการรัฐประหารปี 2514 รัฐประหารปี 2549 และรัฐประหารปี 2557 แต่ยังคงขายเหล้าเบียร์แอลกอฮอล์ได้ในโรงแรมทั้งประเทศและร้านปลอดภาษีในสนามบินนานาชาติ
5. ควรมีการศึกษาทัศนคติประชาชนทั้งประเทศถึงข้อห้ามการขายเหล้าเบียร์ในวันพระว่าเห็นด้วยที่ยังต้องมีหรือควรต้องยกเลิก และศึกษาทัศนคติของผู้ค้าร้านอาหารประเภทต่างๆ และผลกระทบที่มีต่อการทำธุรกิจร้านอาหารในรอบกว่าทศวรรษที่ผ่านมา
ข้อมูลพื้นฐาน
งานวิจัยทัศนคติของคน Gen Z ต่อ 5 ประเด็นคำถามเกี่ยวกับสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 4-11 พฤศจิกายน 2565 โดยเก็บจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ภาคกลางที่ปทุมธานี นครปฐม ชลบุรี อยุธยา ภาคเหนือที่พิษณุโลก เชียงใหม่ พะเยา เชียงราย ลำปาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สกลนคร ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ ชัยภูมิ เลย อุดรธานี ภาคใต้ที่นครศรีธรรมราช สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นราธิวาส ปัตตานี รวม 24 จังหวัด รวม 31 สถาบันอุดมศึกษา รวม 412 คน
เพศของผู้ตอบแบบสอบถาม : หญิง 249 คน (60.4%) ชาย 122 คน (29.6%) เพศหลากหลาย 41 คน (10.0%)
โรงเรียนที่ท่านจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากเขตภูมิภาคใด : กรุงเทพฯ 91 คน (22.1%) ภาคกลาง 128 คน (31.1%) ภาคเหนือ 35 คน (8.5%) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 คน (26.9%) ภาคใต้ 47 คน (11.4%)
อายุของผู้ตอบแบบสอบถาม อายุ 18 ปี 102 คน (24.8%) อายุ 19 ปี 129 คน (31.3%) อายุ 20 ปี 67 คน (16.3%) อายุ 21 ปี 50 คน (12.1%) อายุ 22 ปี 28 คน (6.8%) อายุ 23 ปี 15 คน (3.6%) อายุ 24 ปี 11 คน (2.7%) อายุ 25 ปี 10 คน (2.4%)
‘สุทิน’ ไม่สนพวกทิ้งพท. มั่นใจคนเลือกพรรค ไม่ใช่คนพวกนี้ ย้ำกัญชา ต้องเพื่อการแพทย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3721534
“สุทิน” เชื่อ สัปดาห์นี้สภาไม่ล่ม เหตุ รบ.ขอเลื่อนถกร่าง กม.กัญชาฯ ก่อน ย้ำ ถ้าเป็นกัญชาเพื่อการแพทย์ ฝ่ายค้านพร้อมหนุน ลั่น คนเลือกจิตวิญญาณมากกว่า หลัง ส.ส.เพื่อไทยย้ายซบพรรคอื่น
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ในการประชุมสภาสัปดาห์นี้จะเข้มข้นเป็นพิเศษ องค์ประชุมน่าจะสมบูรณ์กว่าทุกสัปดาห์ เพราะฝ่ายรัฐบาลขอเลื่อนเอาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง ขึ้นมาพิจารณา ขณะที่ฝ่ายค้านขอเลื่อนร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมฯ ขึ้นมาพิจารณาเช่นกัน ดังนั้น รัฐบาลควรต้องดำเนินการให้องค์ประชุมครบ
ทั้งนี้ สำหรับท่าทีของฝ่ายค้านต่อร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ นั้น เท่าที่ดู ตอนนี้ทุกคนยังมีจุดยืนของตัวเอง โดยหากร่างที่เสนอมายังไม่มีการแก้ไข ฝ่ายค้านก็คงโหวตไม่รับร่าง ซึ่งทราบว่าฝ่ายรัฐบาลบางพรรคก็รับไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้าในระหว่างการพิจารณามีการแก้ไขปรับปรุง จนแน่ใจว่าเป็นกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น ฝ่ายค้านก็พร้อมจะให้ผ่าน เราไม่ค้านหัวชนฝา
นายสุทินกล่าวกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมเปิดตัว 43 ส.ส.จาก 9 พรรคที่จะย้ายมาอยู่กับพรรค ภท. จะกระทบกับการแลนด์สไลด์ของพรรค พท.หรือไม่ว่า เชื่อว่าไม่กระทบ ในส่วนของ ส.ส.เพื่อไทยที่ย้ายไป 10 คนนั้น ก็เป็นกลุ่มคนที่รู้กันอยู่แล้วว่าจะย้ายไปไม่ใช่ข้อมูลใหม่ เผยตัวตนมานาน สังคมรับทราบดี ซึ่งเราได้จัดสรรคนลงสมัครแทนจนครบทุกเขตแล้ว ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลบวกกับเรา เพราะประชาชนจะไม่เอาคนพวกนี้ เพราะใจไม่อยู่กับพรรค พท.แล้ว ตนเชื่อว่าประชาชนจะยังเลือกจิตวิญญาณของพรรค อุดมการณ์ รวมทั้งนโยบายของพรรคมากกว่าที่จะมองเรื่องตัวบุคคล
ก้าวไกล ไล่ส่งพวกงูเห่า ย้ายซบภูมิใจไทย ลั่นหักหลังประชาชน ไม่มีทางจากกันด้วยดี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3721819
“โรม” ไล่ส่งอสรพิษหักหลังประชาชน ซบ ภท. เผยชื่อผู้สมัครก้าวไกล ลงเเทนเขตงูเห่า หยัน วันนี้มี “ประยุทธ์”เพียงคนเดียวไม่พร้อมเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีมีชื่อส.ส.ก.ก.หลายคน เตรียมลาออกไปเปิดตัว กับพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ในวันที่ 16 ธันวาคมว่า เราได้เตรียมตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เพื่อลงเลือกตั้งเเทน คนที่จะย้ายไปภท.ไว้เเล้ว อาทิ 1.นายชิดตะวัน ชินอนุวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย ก.ก.เขต 1 ลงสมัครเเทน นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย 2.นายพลากร วงศ์ประเสริฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงรายก.ก. เขต 6 ลงแทน นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย และ 3.นายสหัสวัต คุ้มคง ว่าที่ส.ส.ชลบุรี เขต 5 ก.ก. ลงแทน นายขวัญเลิศ พาณิชมาศ ส.ส.ชลบุรี นอกจากนี้ ยังมีรายอื่น อาทิ นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. ที่มีข่าวอาจจะย้ายไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่ จ.พิษณุโลก เขต1 กับ ภท. นั้นในเขตนี้ พรรคส่งนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ก.ก.ลงชิงชัย แน่นอน
เมื่อถามว่า ส.ส.ที่ย้ายไปภท. ถือว่าจากกันด้วยดีหรือไม่ เพราะก.ก.ก็ไม่ได้มีมติขับออกจากพรรค นายรังสิมันต์ ตอบว่า มันไม่มีทางคำว่าจากกันด้วยดีต้องยอมรับความจริง การเป็นงูเห่า ประชาชนทุกคนรวมถึงพวกเราเองก็มองว่าเป็นการทรยศต่อประชาชน ถ้าไปด้วยกันไม่ได้ ไม่อยากอยู่ ก็ควรลาออกตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่พอมาลาออกกันใกล้ๆ และไม่ใช่ไปโหวตไว้วางใจรัฐมนตรีซีกรัฐบาล คือสิ่งที่ขัดความต้องซึ่งเราเหมือนร่างทรงของประชาชน ต้องทำตามเจตจำนงคนที่เลือกเรามา ถ้าเกิดแบบนั้นก็คือคนทรยศต่อประชาชน อีกทั้ง ในมุมที่ภท.ทำแบบนี้จริงๆไม่ใช่เรื่องใหม่ ทุกคนก็เห็น เรามีส.ส.ก่อนหน้านี้บางส่วนย้ายไปภท. ถึงขนาดจะขู่ว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับคนยที่เคยให้โอกาสเป็นการประจารตัวเองถ้าวันนี้มีเลือกตั้ง ประชาชนเขามองออกว่า พรรคการเมืองที่เปิดเป็นฟาร์งูเห่าเอาคนที่ทรยศกับพรรคอื่น มาอยู่พรรคตัวเอง ไม่คิดว่า ประชาชนจะเห็นดีเห็นงามกับรูปแบบวิธีการนี้ พูดได้ว่า ระวังประชาชนเขาจะมองว่า พรรคของคุณเป็นพรรคที่สะสมคนทรยศ ไม่ดีต่อทั้งพรรคการเมือง และคนที่จะไปอยู่ในนั้น
เมื่อถามว่า งูเห่าที่ย้ายไปจะสอบผ่านหรือสอบตก การมีกระสุนยิงอัดเยอะๆ ช่วยให้งูเห่ากลับมาผงาดในการเลือกตั้งที่จะมาถึงหรือไม่ นายรังสิมันต์ ตอบว่า พรรคอนาคตใหม่ครั้งก่อนใช้งบเลือกตั้งน้อยมาก แต่ได้รับเลือกตั้งอันดับ 3 พิสูจน์เเล้วกระสุนไม่ใช่ทุกอย่าง ผลงานการทำหน้าที่ไม่ได้อยู่แค่เอาของไปแจก หรือลงพื้นที่ แต่การทำหน้าที่ในสภาฯ การผลักดันนโยบาย ก็มีส่วนสำคัญ ตนไม่ใช่หมอดู แต่คิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือประชาชน ไม่อยากเห็นใครทรยศต่อเขา เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า เขาจะทรยศต่อประชาชนหรือไม่ ตนไม่ได้เจาะจงไปที่ใครนะ แต่หมายความว่า คนที่มันเคยทรยศต่อพรรคการเมืองที่ให้โอกาสมาก่อน แล้วถามว่า จะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนๆนั้นจะไม่ทำอีก
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองเรื่องสภาฯ ล่ม ว่า สภาฯล่ม มาก่อนหน้านี้เเล้ว มันจะนำไปสู่การยุบสภาฯเร็วขึ้นหรือไม่ จะแก้อย่างไร เดินต่ออย่าวไร นึกไม่ออก อำนาจการยุบสภาฯอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ปัญหาคือวันนี้คือ พล.อ.ประยุทธ์พร้อมเมื่อไหร่ ประเทศไทยวันนี้ประชาชนพร้อมเลือกตั้งแล้ว แต่คนเดียวที่ไม่พร้อมเลือกตั้ง ที่ไม่อยากให้การตัดสินใจต่ออนาคตประเทศครั้งหน้าที่เป็นของประชาชนเกิดขึ้น นั่นคือพล.อ.ประยุทธ์