“ศรีนวล”ส.ส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย เตรียมแจ้งความเอาผิด “ปิยบุตร” หมิ่นประมาท ย้อนใครกันแน่อกตัญญู ไม่มีจิตสำนึก
วันนี้ (7 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.45 น. ที่รัฐสภา น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย ชี้แจงกรณีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมร่วมรัฐสภามีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองท้องถิ่น หรือ “ร่างปลดล็อกท้องถิ่น” ว่า การที่ตนอภิปรายแสดงความไม่เห็นด้วย เนื่องจากเห็นว่า ราชการส่วนภูมิภาคเปรียบเหมือนพี่ โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนท้องถิ่นเปรียบเหมือนน้อง จากการที่ตนทำงานในท้องถิ่นตั้งแต่เป็น อสม. ประธานแม่บ้าน และสมาชิก อบต. และเป็นที่ปรึกษานายก อบจ. ส.จ. กระทั่งเป็น ส.ส. เห็นมาตลอดว่า การทำงานในท้องถิ่นนั้น ทั้ง 2 องค์กร ไม่เคยทะเลาะกัน แต่เหมือนพี่น้องที่ช่วยกันทำงานมาตลอด ส่วนที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวหาใส่ร้ายตนในวันดังกล่าว ถือว่าผิดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 45 เป็นการเสียดสีใส่ร้ายป้ายสี ว่า ตนเป็นคนเนรคุณ อกตัญญู ทั้งนี้ ตนเตรียมที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายปิยบุตร ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยจะแจ้งความที่ จ.เชียงใหม่ ต่อไป
“ตนเข้ามาเป็น ส.ส.ก็ทำงานให้ชุมชนเต็มที่ การมากล่าวหาใส่ร้ายแบบนี้ ถือว่า นายปิยบุตร ทำไม่ถูก ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 62 ที่มีการพิจารณาพระราชกำหนดโอนอัตรากำลังทหารกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม เพื่อดูแลความปลอดภัยสถาบันพระมหากษัตริย์ นายปิยบุตร ลงคะแนนไม่เห็นด้วย แต่ตนเป็นคนจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหกษัตริย์ จึงลงมติงดออกเสียง เพื่อถนอมน้ำใจพรรค หลังจากวันนั้น นายปิยบุตร เริ่มมีอคติ และไม่พอใจตนเป็นต้นมา หากมีโอกาสก็จะพูดจาเสียดสีมาตลอด กระทั่งล่าสุด วันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้กล่าวหาใส่ร้ายตน ซึ่งถือว่าหมิ่นประมาท ตนจึงอยากชี้แจงว่า ถ้าวันนั้นตนลงมติตามนายปิยบุตร เท่ากับตนเนรคุณแผ่นดินที่เกิด จึงอยากฝากประชาชนทุกคนให้พิจารณาว่าใครกันแน่ที่เป็นคนเนรคุณ อกตัญญู ไม่มีจิตสำนึก” น.ส.ศรีนวล กล่าว
น.ส.ศรีนวล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายปิยบุตร บอกว่า จะมีผลกระทบกับตนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งเรื่องนี้หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ตนเข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 63 แม้จะมีอุปสรรคในการทำงาน แต่ตนก็ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนมาตลอด ถ้าการเลือกตั้งครั้งต่อไปใครจะมาสกัดกั้นก็อยู่ที่ประชาชนจะตัดสิน ไม่ว่าผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไร ตนยอมรับการตัดสินใจของประชาชน หิ่งห้อยเมื่อแสงส่องสว่างนำทางมันจะดับลงไป แต่หิ่งห้อยตัวนี้มีแสงในตัวพร้อมเดินต่อไป เพื่อทำงานให้ประชาชนอยู่ดีกินดี
ข่าวดี้ดี 4.0 “ศรีนวล” เตรียมแจ้งความเอาผิด “ปิยบุตร” หมิ่นประมาท ย้อนใครกันแน่อกตัญญู ไม่มีจิตสำนึก
วันนี้ (7 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.45 น. ที่รัฐสภา น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย ชี้แจงกรณีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมร่วมรัฐสภามีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองท้องถิ่น หรือ “ร่างปลดล็อกท้องถิ่น” ว่า การที่ตนอภิปรายแสดงความไม่เห็นด้วย เนื่องจากเห็นว่า ราชการส่วนภูมิภาคเปรียบเหมือนพี่ โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนท้องถิ่นเปรียบเหมือนน้อง จากการที่ตนทำงานในท้องถิ่นตั้งแต่เป็น อสม. ประธานแม่บ้าน และสมาชิก อบต. และเป็นที่ปรึกษานายก อบจ. ส.จ. กระทั่งเป็น ส.ส. เห็นมาตลอดว่า การทำงานในท้องถิ่นนั้น ทั้ง 2 องค์กร ไม่เคยทะเลาะกัน แต่เหมือนพี่น้องที่ช่วยกันทำงานมาตลอด ส่วนที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวหาใส่ร้ายตนในวันดังกล่าว ถือว่าผิดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 45 เป็นการเสียดสีใส่ร้ายป้ายสี ว่า ตนเป็นคนเนรคุณ อกตัญญู ทั้งนี้ ตนเตรียมที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายปิยบุตร ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยจะแจ้งความที่ จ.เชียงใหม่ ต่อไป
“ตนเข้ามาเป็น ส.ส.ก็ทำงานให้ชุมชนเต็มที่ การมากล่าวหาใส่ร้ายแบบนี้ ถือว่า นายปิยบุตร ทำไม่ถูก ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 62 ที่มีการพิจารณาพระราชกำหนดโอนอัตรากำลังทหารกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม เพื่อดูแลความปลอดภัยสถาบันพระมหากษัตริย์ นายปิยบุตร ลงคะแนนไม่เห็นด้วย แต่ตนเป็นคนจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหกษัตริย์ จึงลงมติงดออกเสียง เพื่อถนอมน้ำใจพรรค หลังจากวันนั้น นายปิยบุตร เริ่มมีอคติ และไม่พอใจตนเป็นต้นมา หากมีโอกาสก็จะพูดจาเสียดสีมาตลอด กระทั่งล่าสุด วันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้กล่าวหาใส่ร้ายตน ซึ่งถือว่าหมิ่นประมาท ตนจึงอยากชี้แจงว่า ถ้าวันนั้นตนลงมติตามนายปิยบุตร เท่ากับตนเนรคุณแผ่นดินที่เกิด จึงอยากฝากประชาชนทุกคนให้พิจารณาว่าใครกันแน่ที่เป็นคนเนรคุณ อกตัญญู ไม่มีจิตสำนึก” น.ส.ศรีนวล กล่าว
น.ส.ศรีนวล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายปิยบุตร บอกว่า จะมีผลกระทบกับตนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งเรื่องนี้หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ตนเข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 63 แม้จะมีอุปสรรคในการทำงาน แต่ตนก็ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนมาตลอด ถ้าการเลือกตั้งครั้งต่อไปใครจะมาสกัดกั้นก็อยู่ที่ประชาชนจะตัดสิน ไม่ว่าผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไร ตนยอมรับการตัดสินใจของประชาชน หิ่งห้อยเมื่อแสงส่องสว่างนำทางมันจะดับลงไป แต่หิ่งห้อยตัวนี้มีแสงในตัวพร้อมเดินต่อไป เพื่อทำงานให้ประชาชนอยู่ดีกินดี