JJNY : 5in1 สุทินเชื่อตู่ ยื้อยาว│‘ก้าวไกล’อ้อนคนร้อยเอ็ด│'ชัชชาติ'น้อมรับคำติ│อนุสรณ์ชี้ควรเก็บ capital│จีนเผชิญวิกฤติ

สุทิน เชื่อ บิ๊กตู่ ยื้อยาวยุบสภา โว "เพื่อไทย" กวาดส.ส.ทะลุ 250 แน่
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7398750

ประธานวิปฝ่ายค้าน เชื่อ บิ๊กตู่ ยื้อยาวยุบสภา มี.ค.66 โว เพื่อไทย กวาดส.ส.ปาร์ตี้ริสต์ รวม ส.ส.เขต ทะลุ 250 แน่ ชี้ได้ที่ 1 แต่ไม่ตั้งรัฐบาลหากฝืนใจกองเชียร์
 
วันที่ 4 ธ.ค. 2565 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงเงื่อนเวลาการยุบสภาว่า รัฐบาลชุดนี้จะครบวาระ 4 ปี วันที่ 23 มี.ค. 2566 เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะอยู่เกือบครบวาระ จะยุบสภาก่อนครบวาระ ประมาณ 5-10 วัน หรือประมาณวันที่ 15มี.ค.2566 เป็นเวลาที่เหมาะสม เพราะถือว่ายังทันเวลาการย้ายพรรค ที่ต้องเป็นสมาชิกพรรคใหม่ 30วัน ก่อนการเลือกตั้ง
 
ส่วนที่คาดการณ์วันที่ 24 ธ.ค.นี้ จะมีส.ส.ลาออกจากตำแหน่งจำนวนมากเพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ยุบ สภานั้น นายสุทิน กล่าวว่า คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวคงเริ่มมีส.ส.ทยอยลาออกบ้าง แต่คงไม่มากนัก ช่วงที่ส.ส.ลาออกล็อตใหญ่น่าจะอยู่ในเดือนก.พ.2566 อาจมีส.ส.ลาออกถึง 30-50 คน เพื่อย้ายพรรคไปอยู่สังกัดใหม่ คาดว่าแม้ส.ส.จะลาออกจำนวนมาก แต่น่าจะมีส.ส.เกินครึ่งหนึ่งของสภาฯหรือ 250 คน ยังพอถูๆไถๆทำงานต่อไปได้
 
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนกติกาเลือกตั้ง บัตร 2 ใบ หาร 100 จะทำให้พรรคเพื่อไทยมีจำนวนส.ส.ทิ้งห่างพรรคอันดับ 2 จำนวนมากนั้น หากดูจากกติกาบัตร 2 ใบ และผลสำรวจโพลต่างๆ แม้จะออกมาเป็นบวกกับพรรคเพื่อไทย แต่ยังไม่กล้าพูดว่าจะทิ้งขาดลอย ขอให้ติดตามสถานการณ์อีกสักระยะ ถ้าคู่แข่งยังติดปัญหาขัดแย้ง จัดกระบวนทัพไม่ได้ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะห่างพอสมควร แต่ถ้าคู่แข่งกลับมาตั้งลำได้ก็ต้องไม่ประมาท
  
ในส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อ มั่นใจว่าเพื่อไทนจะได้ 50 คน จากเดิมเคยทำคะแนนสูงสุด 18 ล้านเสียง แต่การเลือกตั้งปี 2562 ได้มา 8 ล้านเสียง จากการส่งส.ส.250 เขต แต่การเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งครบ 400 เขต บวกกับกระแสความนิยมพรรคขณะนี้ น่าจะได้ถึง18 ล้านเสียง เอามาหาร 100 คิดส.ส.บัญชีรายชื่อ น่าจะอยู่ที่ 45-50 เสียง บวกกับส.ส.เขตที่น่าจะได้ 220-230 คน รวมกันแล้วพรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.ทะลุ 250 เสียง เกินครึ่งของสภาแน่ เห็นโอกาสประตูแลนด์สไลด์เปิดกว้าง “
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะแยกตัวออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)โอกาสที่เพื่อไทยจะจับมือกับ พปชร.โดยไม่มีพล.อ.ประยุทธ์มาเกี่ยวข้อง หลังเลือกตั้ง จะมีโอกาสเปิดกว้างขึ้นหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า วันนี้ยังไม่จำเป็นต้องไปจับมือใครไว้ก่อน
 
หลังการเลือกตั้งค่อยมองการจับขั้วตั้งรัฐบาล และต้องดูตัวเลขที่นั่งส.ส.ประกอบด้วย แกนนำพรรคจะมาคุยกันเรื่องจัดตั้งรัฐบาล ถ้าพรรคเพื่อไทยได้คะแนนมากจริงๆ ก็เล็งตั้งรัฐบาลกับฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันก่อนเป็นอันดับแรก แต่ถ้าคะแนนไม่ได้มากอย่างที่หวัง จะต้องมีพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมตั้งรัฐบาลด้วยหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์ตอนนั้น แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องฟังเสียงประชาชนอยากให้อยู่กับใคร ไม่อยากให้อยู่กับใคร
 
เมื่อถามอีกว่า ถ้าเสียงประชาชนไม่อยากให้จับมือกับพปชร. แต่ตอนนั้นเสียงเพื่อไทยไม่พอ ต้องจับมือพปชร.จัดตั้งรัฐบาล จะทำอย่างไร นายสุทินกล่าวว่า ต้องฟังเสียงประชาชนว่า เราจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ถ้าประชาชนบอกไม่จำเป็นก็ต้องฟังเสียงประชาชนว่า ไม่ต้องเป็นรัฐบาล แต่ถ้าประชาชนบอกว่าจำเป็นต้องเป็นรัฐบาล ก็ต้องดูว่ารับเงื่อนไขอะไรได้บ้าง พรรคการเมืองจะไปตัดสินใจอะไร นอกเหนือจากกองเชียร์ตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่มีกองเชียร์มาก เติบโตมาได้ด้วยกองเชียร์ก็ต้องฟังเอฟซี
 
นายสุทิน ยังตอบคำถาม ถ้ากองเชียร์บอกไม่ต้องเป็นรัฐบาล แม้พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.มาเป็นที่ 1 ก็อาจไม่เป็นรัฐบาลหรือไม่ ว่า ใช่ ถ้าเป็นที่ 1 แต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วไปฝืนจุดยืน ไม่ฟังเสียงสมาชิกพรรคฯ พรรคเพื่อไทยคงไม่ทำ
 

 
‘ก้าวไกล’ อ้อนคนร้อยเอ็ด เลือกพรรค-ดัน ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ชู 3 นโยบายยกระดับเกษตรกร
https://www.matichon.co.th/politics/news_3709150

‘ก้าวไกล’ ลงพื้นที่อ้อนขอคะแนนคนร้อยเอ็ด เชื่อมั่นในคุณภาพผู้สมัครทุกคน ขอประชาชนช่วยเลือกให้แลนด์สไลด์ เชื่อนโยบายจะแก้ปัญหาโดยรวมทุกอย่างของประเทศได้ดีกว่ารัฐบาลปัจจุบัน ขอเสียงเลือก ส.ส.ก้าวไกลยกเขต ทุกจังหวัด หนุน ‘พิธา’ เป็นนายกฯ
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม ที่ จ.ร้อยเอ็ด นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคณะ เดินทางไปเปิดสำนักงานพรรค ก.ก. ที่ตลาดเอราวัณ และสาขาพรรคก้าวไกล อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด โดยมีสมาชิกพรรค ก.ก.ร้อยเอ็ด พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด 6 เขต จากทั้งหมด 8 เขตร่วมกิจกรรม ขณะที่อีก 2 เขตอยู่ระหว่างการพิจารณาบุคคลที่เหมาะสม
 
นายพิธากล่าวว่า พรรคก้าวไกลศึกษาปัญหาของภาคอีสานซึ่งมีปัญหามากมายที่ต้องนำไปสู่การแก้ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเกษตรเป็นอาชีพหลัก การจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลมาช่วยเหลือเกษตรกร จ.ร้อยเอ็ด 1,100 ล้านบาท แต่งบไม่ถึงมือ หรือไม่ตรงทิศทางการแก้ปัญหาให้เกษตรกรแม้แต่บาทเดียว ที่ชัดเจน 3 ประเด็นหลักๆ คือ 1.ต้องพัฒนาโครงสร้างการผลิตทางด้านการเกษตรเพื่อทวงคืนแชมป์ข้าวหอมมะลิที่เสียไปให้ประเทศเวียดนามกลับคืนมา
   
นายพิธากล่าวว่า 2.จะเข้ามาแก้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนและเกษตรกรให้มีที่ดินของตนเอง และรับเอกสารสิทธิจากการครอบครองที่ดินมานาน แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ และ 3.เน้นงบประมาณพัฒนาน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก เพื่อแก้ปัญหาด้านการขาดแคลนน้ำ
 
ด้านนายรังสิมันต์กล่าวว่า ขอความร่วมมือสมาชิกพรรค ก.ก. ขอให้ช่วยสนับสนุนพรรคก้าวไกลในช่วงการเมือง ซึ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแตกต่างไม่ตรงกับแนวคิดของพรรคอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พรรคก้าวไกลจึงเสนอตัวเป็นพรรคการเมืองที่ต้องเข้ามาทำให้ประชาชน เข้ามาส่งเสริมพรรค ก.ก.เป็นพรรคทางเลือกใหม่ และเลือกผู้สมัครของพรรคให้มากที่สุด เพื่อให้นายพิธาได้เข้าไปเป็นผู้บริหาร หรือนายกฯ ให้มีศักยภาพเต็มร้อยในการแก้ปัญหาให้ประชาชนทั้งประเทศ
 
คน กทม.ส่วนใหญ่ชื่นชอบตัวหัวหน้าพรรค ให้เครดิตว่าเหมาะสมเป็นนายกฯ แต่การเป็นนายกฯจะต้องได้รับการยอมรับจากเสียงส่วนใหญ่ในทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ภาคอีสานที่มีประชาชนมากที่สุดต้องยอมรับด้วย และมีส่วนช่วยผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายของพรรคก้าวไกลซึ่งต้องอาศัยประชาชนมีส่วนร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวังพึ่งเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนอีสาน ซึ่งเป็นฐานเสียงที่มากที่สุดให้การสนับสนุน จึงลงพื้นที่เพื่อขอรับความร่วมมือร่วมเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมืองให้มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริงให้ได้จำนวนมากพอที่จะตั้งรัฐบาล และให้หัวหน้าพรรคได้เป็นนายกฯ” นายรังสิมันต์กล่าว
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 

 
'ชัชชาติ' น้อมรับคำติ พร้อมเร่งปรับปรุง หลังโพลชี้ ยังสอบตกแก้ปากท้อง
https://ch3plus.com/news/political/kaoden/323311
 
หลังทำงานมาครบ 6 เดือน วันนี้นิด้าโพลมีผลสำรวจความพึงพอใจของคน กทม. ต่อการทำงานของผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พบว่าส่วนใหญ่พอใจ แต่ยังสอบตกเรื่องการแก้ปัญหาปากท้อง
 
สำหรับผลสำรวจความคิดเห็นในการทำงานของผู้ว่าฯชัชชาติในแต่ละเรื่อง พบว่า ชาว กทม. มองว่าผู้ว่าฯชัชชาติ ทำงานได้ระดับ "ดีมาก" สูงสุด ในเรื่องการเพิ่มพื้นที่สีเขียว /สวนสาธารณะ รองลงมา คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวใน กทม. /การสนับสนุนการกีฬา/การแก้ปัญหาความสะอาด ขยะ ฝุ่นละออง น้ำเสีย และ เรื่องน้ำท่วม เป็นต้น
 
และจากที่สอบถามทั้งหมด 17 เรื่อง พบว่ามีเพียงเรื่องเดียวที่ถือว่า ผู้ว่าฯชัชชาติ สอบตก คือ การแก้ปัญหาค่าครองชีพ และ ปากท้อง คือ ชาว กทม.มองว่าทำงานได้ค่อนข้างดีถึงดีมากรวมแล้วร้อยละ 41.47 /ขณะที่ร้อยละ 52.66 มองว่าทำได้ไม่ค่อยดีจนถึงไม่ดีเลย
 
และเมื่อสอบถามถึงความพึงพอใจต่อการทำงานของผู้ว่าฯชัชชาติ ในรอบ 6 เดือนแรก พบว่าส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 42.60 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ เพราะ เป็นคนขยัน ตั้งใจในการทำงาน เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของ กทม. รองลงมา ร้อยละ 38.93 ระบุว่า พอใจมาก เพราะ มีผลงานชัดเจน มีความทุ่มเทให้กับการทำงาน
 
ขณะที่ ร้อยละ 10.54 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ และร้อยละ 7.93 ระบุว่า ไม่พอใจเลย เพราะ ไม่สามารถทำตามนโยบายที่พูดไว้ได้ และยังไม่สามารถแก้ปัญหาเดิมๆ ได้ เช่น ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาการจราจร
 
ด้าน ผู้ว่าฯชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลที่ออกมา ว่า สิ่งแรกที่เปิดดูเลยคือ อันดับสุดท้ายว่า สิ่งที่ต้องปรับปรุงมีอะไรบ้าง เช่น เรื่องหมาแมวจรจัด เรื่องปากท้องประชาชน และปัญหาจราจร ซึ่งขอน้อมรับ และติเข้ามาเยอะๆ เสียงประชาชนคือเสียงที่มีพลัง ตอนนี้กำลังแก้ปัญหา อยู่ร่วมกับหลายหน่วยงาน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่