.
10
_______________________________________
เพียงขวัญขับรถออกจากตัวอำเภอมาไม่ไกลนัก ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็มาถึงบ้านของวนารี หล่อนสบายใจขึ้นมากที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับอิชยะ อย่างน้อยเขาก็ติดต่อเธอไม่ได้ เพราะปิดกั้นการติดต่อไปแล้ว
ตอนนี้ยังไม่เห็นวี่แววของข้อความ หรือเบอร์ที่ไม่คุ้นติดต่อมาเลย ไม่รู้ว่าเขาทราบที่อยู่ของหล่อนได้อย่างไร ไม่แปลกหากเขาจะทราบจังหวัดและสาขาที่หล่อนขอย้ายมา ทว่าสำหรับที่พักเขาทราบได้อย่างไร เรื่องนี้หล่อนจะต้องรู้ให้ได้แน่นอน
เพียงขวัญค่อย ๆ นำรถเข้ามาจอดยังหน้าบ้านของวนารี เจ้าหล่อนเดินมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม วนารีอาศัยอยู่กับยายและตาเพียงสามคน พ่อเสียไปตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ส่วนแม่แต่งงานใหม่แยกไปอยู่อีกบ้าน
วนารีไม่ขอตามไปอยู่ด้วย ขออยู่กับยายและตา ไม่ต่างจากเธอนัก ที่อยู่กับพ่อมาทั้งชีวิต ส่วนแม่ไปมีครอบครัวของตนเองเช่นกัน จะต่างกันนิดหน่อยก็ตรงที่พ่อของเธอไม่ยอมมีใครใหม่ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เธอกับวนารีเข้ากันได้ เพราะชีวิตคล้ายกัน นอกจากนิสัยใจคอ
เพียงขวัญก้าวเท้าลงจากรถ เกรงใจเหลือเกินที่มารบกวนแบบนี้ เธอไม่มีที่พึ่งนี่ ครั้นจะไปหาประภาวรินทร์ก็ยิ่งเกรงใจเข้าไปใหญ่ ไหนจะคุณนทีผู้จัดการแผนก อีกทั้งการันต์ด้วย ไม่อยากให้เขาทราบหรือไม่สบายใจไปกับเธอ
"รบกวนพลอยมั้ยเนี่ย ขวัญเกรงใจแม่กับยายกับตาจัง"
"แม่กับยายเตรียมกับข้าวไว้รอขวัญเยอะมากแหนะ พลอยบอกว่าขวัญจะมาเที่ยวบ้านและค้างด้วย" เจ้าของบ้านกล่าวด้วยใบหน้าระรื่น
"นี่ ๆ ไม่ต้องคิดมากและไม่ต้องเกรงใจเลย ยายกับตาของพลอยเอ็นดูขวัญจะตาย พอยายรู้ว่าขวัญจะมานะ รีบเดินไปบ้านแม่ บอกให้มาทำกับข้าวไทย ๆ รอขวัญเลย" วนารีกล่าวด้วยรอยยิ้มนึกถึงเมื่อตอนเย็น
หลังจากคุยโทรศัพท์กับเพียงขวัญเสร็จ หล่อนบอกยายว่าเพียงขวัญจะมาบ้านและค้างด้วย ยายของหล่อนก็รีบกุลีกุจอเตรียมที่นอนหมอนมุ้งไว้รอ แถมยังเดินไปสั่งแม่ให้มาหุงหาอาหารเตรียมไว้รออีก เห็นว่าเพียงขวัญเป็นคนกรุงเทพ เกรงว่าจะทานอาหารพื้นบ้านไม่ได้
ทั้งสองเดินเข้าบ้านพร้อมกัน เห็นยายกับตานั่งอยู่ ถัดไปเป็นเด็กชายอายุราว ๆ สิบขวบ และชายวัยกลางคนนั่งอยู่ ดูคร่าว ๆ น่าจะอายุพอ ๆ กับพ่อของเธอ เพียงขวัญพิจารณา
"สวัสดีค่ะคุณยายคุณตา เอ่อ…." หล่อนปรายตามองเพื่อนสาวเจ้าของบ้าน ตากับยายหล่อนรู้จักและคุ้นเคยดี เนื่องด้วยเคยมาแล้วรอบหนึ่ง แต่เด็กและผู้ชายคนนี้ หล่อนพึ่งจะเคยเจอ
"นี่น้ากาดสามีแม่ และนี่พอร์ชน้องชายพลอยเอง น้องแม่เดียวกันน่ะ" วนารีแนะนำ เพียงขวัญยกมือไว้อย่างนอบน้อม คนถูกไหว้ก็รับไหว้อย่างใจดีเช่นกัน "แม่อยู่ในครัว ไปหาแม่มั้ย" วนารีชวน
"อือ ปะ เผื่อแม่มีไรให้ช่วย" เพียงขวัญเห็นด้วย ทั้งสองคนเดินเข้าไปในครัว เห็นคนในครัวกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารสำหรับมื้อเย็นต้อนรับเธอ มีกับข้าวสองอย่างที่ทำเสร็จแล้ว "สวัสดีค่ะคุณแม่" เพียงขวัญเอ่ยทักทายพร้อมยกมือไหว้
"ไหว้พระเถอะลูก สองคนไปรอทานข้าวไป ตรงนี้แม่จัดการเอง จะเสร็จแล้ว" ผู้เป็นมารดาของวนารีกล่าว
"งั้นพลอยกับขวัญยกกับข้าวพวกนี้ไปรอนะคะ"
"ได้จ้ะ เดี๋ยวแม่ผัดกระเพราเสร็จแม่ยกตามไป นี่ก็จวนจะเสร็จแล้วล่ะ" สิ้นคำพูดของมารดา ทั้งสองก็ช่วยกันยกสำรับกับข้าวไปเสิร์ฟทุกคน โดยนั่งทานกับพื้น
เพียงขวัญไม่ขัด ไม่เรื่องมาก ทานแบบไหนก็ได้ กับข้าวมื้อนี้ก็มีผัดกระเพรา ผัดผักบุ้ง และแกงไก่บ้าน เธอทานได้อยู่แล้ว อยู่กับพ่อสองคน พ่อของเธอก็ทำกับข้าวธรรมดา ๆ พวกนี้ให้ทานประจำ
เพียงขวัญมัวแต่เพลิดเพลินกับอาหารมื้อเย็นที่บ้านของวนารี และพูดคุยกับทุกคนในครอบครัวของเจ้าหล่อน สบายใจที่หลบหน้ากับอิชยะได้ โดยลืมนึกถึงการันต์ไปเลย ลืมว่ามีนัดกับเขา ป่านนี้เขาคงรอแย่ นี่ก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว พอนึกขึ้นได้เพียงขวัญจึงขอตัวออกมาข้างนอก นั่งเช็กโทรศัพท์ที่ม้านั่งหน้าบ้าน ทว่าพอเธอเปิดไลน์ กลับเห็นข้อความที่เขาส่งมาก่อนแล้ว
ก่อนเปิดอ่านแอบรู้สึกผิดนิด ๆ ที่ปล่อยให้เขารอเก้อ โดยที่เธอแอบมาอยู่ที่นี่ แต่พอเปิดอ่านก็ทำให้เธอโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเขาส่งข้อความมาบอกว่า
‘กลับวันนี้ไม่ได้ มีเคสคนไข้ ต้องพาส่งโรงพยาบาลในตัวจังหวัด’ พร้อมส่งหลักฐานเป็นรูปภาพมาให้เธอดูด้วย ทำให้เธอยิ้มออกมาได้ จากเมื่อครู่คิดไปก่อนต่าง ๆ นานา
‘ไม่เป็นไรค่ะพี่รันต์ วันหลังก็ได้ หรือวันไหนก็ได้ที่พี่รันต์สะดวกค่ะ’ หล่อนฝากข้อความกลับไป แต่ปลายทางเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว คล้ายกับว่ารอเธออยู่ยังไงยังงั้น พร้อมมีข้อความตอบมาด้วย
‘คุณขวัญพึ่งว่างเหรอครับ พี่ส่งข้อความหาตั้งนาน’ เขาส่งกลับไปอย่างกับเด็กขี้งอน ด้วยใจหวิว ๆ จะว่าน้อยใจก็ไม่ใช่ เขากลัวเหลือเกินกับเวลาที่ไม่ตรงกันแบบนี้ ความจริงเขาแอบคิดมากตั้งแต่ผิดนัดกับสาวเจ้าแล้ว เดตแรกก็พังไม่เป็นท่า นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เขากับอารยาไม่เข้าใจกัน สุดท้ายก็ต่างคนต่างไป กับเพียงขวัญเขาไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น มันพึ่งจะเริ่มต้นเอง
‘ขวัญมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ นี่ดีใจซะอีกที่พี่รันต์ไม่ว่างเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นขวัญคงรู้สึกผิดแย่ที่ผิดนัด’ หล่อนตอบทั้งโล่งใจที่สุด
‘มีปัญหาอะไรครับ หรือว่า... กับแฟน’ เขาตอบไปทั้งใจตุ่มต่อม แต่อีกใจก็เผื่อเจ็บไว้แล้ว นั่นแหละเขาก็ยังกังวลอยู่ดี ไม่อยากให้เธอมีเจ้าของเลย
‘ไม่ใช่ค่ะ พอดีขวัญมาบ้านพลอย และค้างที่บ้านพลอยด้วย’ ไม่พูดเพียงเท่านั้น ส่งรูปให้เขาดูเพื่อความสบายใจเช่นกัน
ทำไมเธอถึงต้องทำเช่นนี้ด้วยก็ไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าเพื่อความสบายใจของการันต์ เธอกำลังจะพิมพ์ต่อไปว่าเธอไม่มีใคร แต่พอคิดไปคิดมา หากพิมพ์ไปอย่างนั้น การันต์อาจจะคิดว่าเธอกำลังทอดสะพานให้ก็ได้จึงลบออก ปล่อยให้เขาคิดว่าเธออาจจะไม่โสดอยู่อย่างนั้นล่ะ
การันต์พอทราบดังนั้นก็ยิ้มออกมาได้ เขาคุยกับเธอต่ออีกสักพักจึงขอตัว ไม่อยากรบกวนเวลาของเธอที่อยู่บ้านเพื่อน ต่างคนต่างแยกย้ายจบการสนทนากัน
เพียงขวัญเดินเข้ามาในบ้านหาทุกคน ตกดึกแม่และพ่อเลี้ยงของวนารีจึงขอตัวกลับบ้านของตนเอง เหลือเพียงน้องชายที่ขอนอนที่นี่ด้วยคน เพราะเห็นเพียงขวัญมาบ้าน จึงอยากอยู่เล่นด้วยตามประสา
“ขวัญอาบน้ำเข้านอนกัน ดึกแล้ว” วนารีชวน
“ที่นอนหมอนมุ้งยายเตรียมไว้ให้แล้วนะ พากันไปอาบน้ำนอนเถอะ ดึกมากแล้ว ยายก็จะเข้านอนเหมือนกัน ส่วนไอ้พอร์ชก็มานอนกับยายกับตา” ยายของวนารีจัดแจง
เด็กชายหน้ามุ่ย ปฏิเสธที่จะนอนกับผู้เป็นยายและตา เขาอยากนอนกับพวกเธอด้วย พวกเธอสองคนก็ไม่ปฏิเสธ ยอมให้นอนด้วยแต่โดยดี เมื่อหลานชายปฏิเสธยายก็ไม่เซ้าซี้ จากนั้นจึงขอตัวเข้านอน ปล่อยให้พวกเธอจัดการกันเอง
“พลอยขวัญไม่ได้เอาชุดมา ขวัญยังไม่ได้เข้าห้องด้วยซ้ำ เหตุการณ์มันฉุกละหุกน่ะ ขอยืมชุดพลอยได้มั้ย” เพียงขวัญเอ่ยด้วยใบหน้าเจื่อน ๆ พูดสารภาพกับวนารี
“ได้... แต่ขวัญต้องสัญญานะว่าจะเล่าให้พลอยฟังโดยไม่โกหก ว่าทำไมขวัญถึงขอมานอนบ้านพลอยวันนี้ เราเป็นเพื่อนกันนะ มีอะไรคุยกับพลอยได้เสมอ” เพียงขวัญพยักหน้าตกลง เล่าให้วนารีฟังก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีพยานเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ว่าหล่อนไม่ได้ต้องการอิชยะอีกแล้ว
ที่เขามาหาวันนี้ หล่อนก็ไม่ได้เรียกให้เขามา ไม่ได้ต้องการจะคืนดีด้วย จากนั้นวนารีก็นำผ้าเช็ดตัวและชุดของเธอมาให้เพียงขวัญใส่ เป็นชุดนอนตัวหลวม ๆ แม้เพียงขวัญจะตัวสูงกว่าเธอ ก็ใส่ได้อย่างพอดิบพอดี
ทั้งสองอาบน้ำแต่งตัวเสร็จต่างก็เข้านอน ส่วนน้องชายของวนารีนั้นนอนหลับสนิทไปก่อนแล้ว เป็นเวลาดีที่พวกเธอสองคนจะได้คุยกัน ถึงปัญหาของเพียงขวัญ
“ไหนขวัญเล่ามาซิว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ถึงได้ขอมานอนค้างที่บ้านพลอย” วนารีเปิดประเด็นขึ้น
“แฟนเก่าขวัญมาตามตื้อ” เพียงขวัญตอบ
“แฟนเก่าเหรอ” วนารีย้ำ พลันนึกไปถึงผู้ชายคนเมื่อตอนเช้าที่เธอพบเจอและคุยด้วย
ผู้ชายคนนั้นบอกว่าเป็นแฟนกับเพียงขวัญ คบกันมานานหลายปี แต่เพียงขวัญงอนเขาจึงขอย้ายมาที่นี่ เขาจึงมาตามง้อขอคืนดีด้วย จากที่เขาเคยง้อที่กรุงเทพแล้วไม่เป็นผล เขาจึงตามมาง้อที่นี่อีก
อิชยะนำรูปของเขากับเพียงขวัญให้ดูเป็นหลักฐาน ว่าพูดเรื่องจริง ไม่ได้มาหลอกถามเธอแต่อย่างใด ว่าเขากับเพียงขวัญเป็นคนรักกันจริง และขอให้เธอบอกที่อยู่ของเพียงขวัญแก่เขาด้วย
เธอเชื่อคำพูดของผู้ชายคนนั้น เพราะดูจากหลักฐานรูปถ่ายพวกนั้น จึงบอกที่อยู่ของเพียงขวัญแก่เขาไปด้วยไม่ได้คิดอะไร แต่ทำไมตอนนี้เพียงขวัญถึงพูดว่า ‘แฟนเก่า’ เพียงขวัญต้องหมายถึงผู้ชายคนนั้นไม่ผิดแน่ เธอครุ่นคิด
“อือ ช่าย...” เพียงขวัญพยักหน้า ถึงจะเจ็บปวดอยู่บ้างแต่มันก็จวนจะหายดีแล้ว “ขวัญเลิกกับเขานานแล้วล่ะ เขานอกใจขวัญ คบชู้กับเพื่อนขวัญ” วนารีได้ฟังก็อ้าปากค้าง พร้อมถามย้ำว่าเพื่อนที่สนิทกันเลยหรือ หล่อนพยักหน้า
“เชาชื่ออิฐน่ะ อิชยะ เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก โกหกขวัญ หลอกขวัญเรื่องผู้หญิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกรอบขวัญก็ให้อภัยเขานะ แต่รอบนี้ขวัญให้อภัยเขาไม่ได้จริง ๆ เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนกับขวัญ และขวัญยังจับได้คาหนังคาเขาว่าพวกเขาสองคนนอนด้วยกัน”
วนารีอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ฟัง ไม่รู้จะเชื่อใครดี ถ้าหากให้หล่อนเลือกเชื่อ หล่อนจะเลือกเชื่อเพียงขวัญ เข้าข้างเพียงขวัญไว้ก่อน เพียงขวัญเล่าให้เพื่อนสาวฟัง ภาพเหตุการณ์เมื่อวันวานมันก็หวนกลับมาให้เจ็บจี๊ดอีกรอบ ทุกอย่างมันยังชัดเจนเสมอ แม้เวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม
เล่ห์ดวงใจ (10)
10
_______________________________________
เพียงขวัญขับรถออกจากตัวอำเภอมาไม่ไกลนัก ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็มาถึงบ้านของวนารี หล่อนสบายใจขึ้นมากที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับอิชยะ อย่างน้อยเขาก็ติดต่อเธอไม่ได้ เพราะปิดกั้นการติดต่อไปแล้ว
ตอนนี้ยังไม่เห็นวี่แววของข้อความ หรือเบอร์ที่ไม่คุ้นติดต่อมาเลย ไม่รู้ว่าเขาทราบที่อยู่ของหล่อนได้อย่างไร ไม่แปลกหากเขาจะทราบจังหวัดและสาขาที่หล่อนขอย้ายมา ทว่าสำหรับที่พักเขาทราบได้อย่างไร เรื่องนี้หล่อนจะต้องรู้ให้ได้แน่นอน
เพียงขวัญค่อย ๆ นำรถเข้ามาจอดยังหน้าบ้านของวนารี เจ้าหล่อนเดินมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม วนารีอาศัยอยู่กับยายและตาเพียงสามคน พ่อเสียไปตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ส่วนแม่แต่งงานใหม่แยกไปอยู่อีกบ้าน
วนารีไม่ขอตามไปอยู่ด้วย ขออยู่กับยายและตา ไม่ต่างจากเธอนัก ที่อยู่กับพ่อมาทั้งชีวิต ส่วนแม่ไปมีครอบครัวของตนเองเช่นกัน จะต่างกันนิดหน่อยก็ตรงที่พ่อของเธอไม่ยอมมีใครใหม่ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เธอกับวนารีเข้ากันได้ เพราะชีวิตคล้ายกัน นอกจากนิสัยใจคอ
เพียงขวัญก้าวเท้าลงจากรถ เกรงใจเหลือเกินที่มารบกวนแบบนี้ เธอไม่มีที่พึ่งนี่ ครั้นจะไปหาประภาวรินทร์ก็ยิ่งเกรงใจเข้าไปใหญ่ ไหนจะคุณนทีผู้จัดการแผนก อีกทั้งการันต์ด้วย ไม่อยากให้เขาทราบหรือไม่สบายใจไปกับเธอ
"รบกวนพลอยมั้ยเนี่ย ขวัญเกรงใจแม่กับยายกับตาจัง"
"แม่กับยายเตรียมกับข้าวไว้รอขวัญเยอะมากแหนะ พลอยบอกว่าขวัญจะมาเที่ยวบ้านและค้างด้วย" เจ้าของบ้านกล่าวด้วยใบหน้าระรื่น
"นี่ ๆ ไม่ต้องคิดมากและไม่ต้องเกรงใจเลย ยายกับตาของพลอยเอ็นดูขวัญจะตาย พอยายรู้ว่าขวัญจะมานะ รีบเดินไปบ้านแม่ บอกให้มาทำกับข้าวไทย ๆ รอขวัญเลย" วนารีกล่าวด้วยรอยยิ้มนึกถึงเมื่อตอนเย็น
หลังจากคุยโทรศัพท์กับเพียงขวัญเสร็จ หล่อนบอกยายว่าเพียงขวัญจะมาบ้านและค้างด้วย ยายของหล่อนก็รีบกุลีกุจอเตรียมที่นอนหมอนมุ้งไว้รอ แถมยังเดินไปสั่งแม่ให้มาหุงหาอาหารเตรียมไว้รออีก เห็นว่าเพียงขวัญเป็นคนกรุงเทพ เกรงว่าจะทานอาหารพื้นบ้านไม่ได้
ทั้งสองเดินเข้าบ้านพร้อมกัน เห็นยายกับตานั่งอยู่ ถัดไปเป็นเด็กชายอายุราว ๆ สิบขวบ และชายวัยกลางคนนั่งอยู่ ดูคร่าว ๆ น่าจะอายุพอ ๆ กับพ่อของเธอ เพียงขวัญพิจารณา
"สวัสดีค่ะคุณยายคุณตา เอ่อ…." หล่อนปรายตามองเพื่อนสาวเจ้าของบ้าน ตากับยายหล่อนรู้จักและคุ้นเคยดี เนื่องด้วยเคยมาแล้วรอบหนึ่ง แต่เด็กและผู้ชายคนนี้ หล่อนพึ่งจะเคยเจอ
"นี่น้ากาดสามีแม่ และนี่พอร์ชน้องชายพลอยเอง น้องแม่เดียวกันน่ะ" วนารีแนะนำ เพียงขวัญยกมือไว้อย่างนอบน้อม คนถูกไหว้ก็รับไหว้อย่างใจดีเช่นกัน "แม่อยู่ในครัว ไปหาแม่มั้ย" วนารีชวน
"อือ ปะ เผื่อแม่มีไรให้ช่วย" เพียงขวัญเห็นด้วย ทั้งสองคนเดินเข้าไปในครัว เห็นคนในครัวกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารสำหรับมื้อเย็นต้อนรับเธอ มีกับข้าวสองอย่างที่ทำเสร็จแล้ว "สวัสดีค่ะคุณแม่" เพียงขวัญเอ่ยทักทายพร้อมยกมือไหว้
"ไหว้พระเถอะลูก สองคนไปรอทานข้าวไป ตรงนี้แม่จัดการเอง จะเสร็จแล้ว" ผู้เป็นมารดาของวนารีกล่าว
"งั้นพลอยกับขวัญยกกับข้าวพวกนี้ไปรอนะคะ"
"ได้จ้ะ เดี๋ยวแม่ผัดกระเพราเสร็จแม่ยกตามไป นี่ก็จวนจะเสร็จแล้วล่ะ" สิ้นคำพูดของมารดา ทั้งสองก็ช่วยกันยกสำรับกับข้าวไปเสิร์ฟทุกคน โดยนั่งทานกับพื้น
เพียงขวัญไม่ขัด ไม่เรื่องมาก ทานแบบไหนก็ได้ กับข้าวมื้อนี้ก็มีผัดกระเพรา ผัดผักบุ้ง และแกงไก่บ้าน เธอทานได้อยู่แล้ว อยู่กับพ่อสองคน พ่อของเธอก็ทำกับข้าวธรรมดา ๆ พวกนี้ให้ทานประจำ
เพียงขวัญมัวแต่เพลิดเพลินกับอาหารมื้อเย็นที่บ้านของวนารี และพูดคุยกับทุกคนในครอบครัวของเจ้าหล่อน สบายใจที่หลบหน้ากับอิชยะได้ โดยลืมนึกถึงการันต์ไปเลย ลืมว่ามีนัดกับเขา ป่านนี้เขาคงรอแย่ นี่ก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว พอนึกขึ้นได้เพียงขวัญจึงขอตัวออกมาข้างนอก นั่งเช็กโทรศัพท์ที่ม้านั่งหน้าบ้าน ทว่าพอเธอเปิดไลน์ กลับเห็นข้อความที่เขาส่งมาก่อนแล้ว
ก่อนเปิดอ่านแอบรู้สึกผิดนิด ๆ ที่ปล่อยให้เขารอเก้อ โดยที่เธอแอบมาอยู่ที่นี่ แต่พอเปิดอ่านก็ทำให้เธอโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเขาส่งข้อความมาบอกว่า ‘กลับวันนี้ไม่ได้ มีเคสคนไข้ ต้องพาส่งโรงพยาบาลในตัวจังหวัด’ พร้อมส่งหลักฐานเป็นรูปภาพมาให้เธอดูด้วย ทำให้เธอยิ้มออกมาได้ จากเมื่อครู่คิดไปก่อนต่าง ๆ นานา
‘ไม่เป็นไรค่ะพี่รันต์ วันหลังก็ได้ หรือวันไหนก็ได้ที่พี่รันต์สะดวกค่ะ’ หล่อนฝากข้อความกลับไป แต่ปลายทางเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว คล้ายกับว่ารอเธออยู่ยังไงยังงั้น พร้อมมีข้อความตอบมาด้วย
‘คุณขวัญพึ่งว่างเหรอครับ พี่ส่งข้อความหาตั้งนาน’ เขาส่งกลับไปอย่างกับเด็กขี้งอน ด้วยใจหวิว ๆ จะว่าน้อยใจก็ไม่ใช่ เขากลัวเหลือเกินกับเวลาที่ไม่ตรงกันแบบนี้ ความจริงเขาแอบคิดมากตั้งแต่ผิดนัดกับสาวเจ้าแล้ว เดตแรกก็พังไม่เป็นท่า นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เขากับอารยาไม่เข้าใจกัน สุดท้ายก็ต่างคนต่างไป กับเพียงขวัญเขาไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น มันพึ่งจะเริ่มต้นเอง
‘ขวัญมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ นี่ดีใจซะอีกที่พี่รันต์ไม่ว่างเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นขวัญคงรู้สึกผิดแย่ที่ผิดนัด’ หล่อนตอบทั้งโล่งใจที่สุด
‘มีปัญหาอะไรครับ หรือว่า... กับแฟน’ เขาตอบไปทั้งใจตุ่มต่อม แต่อีกใจก็เผื่อเจ็บไว้แล้ว นั่นแหละเขาก็ยังกังวลอยู่ดี ไม่อยากให้เธอมีเจ้าของเลย
‘ไม่ใช่ค่ะ พอดีขวัญมาบ้านพลอย และค้างที่บ้านพลอยด้วย’ ไม่พูดเพียงเท่านั้น ส่งรูปให้เขาดูเพื่อความสบายใจเช่นกัน
ทำไมเธอถึงต้องทำเช่นนี้ด้วยก็ไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าเพื่อความสบายใจของการันต์ เธอกำลังจะพิมพ์ต่อไปว่าเธอไม่มีใคร แต่พอคิดไปคิดมา หากพิมพ์ไปอย่างนั้น การันต์อาจจะคิดว่าเธอกำลังทอดสะพานให้ก็ได้จึงลบออก ปล่อยให้เขาคิดว่าเธออาจจะไม่โสดอยู่อย่างนั้นล่ะ
การันต์พอทราบดังนั้นก็ยิ้มออกมาได้ เขาคุยกับเธอต่ออีกสักพักจึงขอตัว ไม่อยากรบกวนเวลาของเธอที่อยู่บ้านเพื่อน ต่างคนต่างแยกย้ายจบการสนทนากัน
เพียงขวัญเดินเข้ามาในบ้านหาทุกคน ตกดึกแม่และพ่อเลี้ยงของวนารีจึงขอตัวกลับบ้านของตนเอง เหลือเพียงน้องชายที่ขอนอนที่นี่ด้วยคน เพราะเห็นเพียงขวัญมาบ้าน จึงอยากอยู่เล่นด้วยตามประสา
“ขวัญอาบน้ำเข้านอนกัน ดึกแล้ว” วนารีชวน
“ที่นอนหมอนมุ้งยายเตรียมไว้ให้แล้วนะ พากันไปอาบน้ำนอนเถอะ ดึกมากแล้ว ยายก็จะเข้านอนเหมือนกัน ส่วนไอ้พอร์ชก็มานอนกับยายกับตา” ยายของวนารีจัดแจง
เด็กชายหน้ามุ่ย ปฏิเสธที่จะนอนกับผู้เป็นยายและตา เขาอยากนอนกับพวกเธอด้วย พวกเธอสองคนก็ไม่ปฏิเสธ ยอมให้นอนด้วยแต่โดยดี เมื่อหลานชายปฏิเสธยายก็ไม่เซ้าซี้ จากนั้นจึงขอตัวเข้านอน ปล่อยให้พวกเธอจัดการกันเอง
“พลอยขวัญไม่ได้เอาชุดมา ขวัญยังไม่ได้เข้าห้องด้วยซ้ำ เหตุการณ์มันฉุกละหุกน่ะ ขอยืมชุดพลอยได้มั้ย” เพียงขวัญเอ่ยด้วยใบหน้าเจื่อน ๆ พูดสารภาพกับวนารี
“ได้... แต่ขวัญต้องสัญญานะว่าจะเล่าให้พลอยฟังโดยไม่โกหก ว่าทำไมขวัญถึงขอมานอนบ้านพลอยวันนี้ เราเป็นเพื่อนกันนะ มีอะไรคุยกับพลอยได้เสมอ” เพียงขวัญพยักหน้าตกลง เล่าให้วนารีฟังก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีพยานเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ว่าหล่อนไม่ได้ต้องการอิชยะอีกแล้ว
ที่เขามาหาวันนี้ หล่อนก็ไม่ได้เรียกให้เขามา ไม่ได้ต้องการจะคืนดีด้วย จากนั้นวนารีก็นำผ้าเช็ดตัวและชุดของเธอมาให้เพียงขวัญใส่ เป็นชุดนอนตัวหลวม ๆ แม้เพียงขวัญจะตัวสูงกว่าเธอ ก็ใส่ได้อย่างพอดิบพอดี
ทั้งสองอาบน้ำแต่งตัวเสร็จต่างก็เข้านอน ส่วนน้องชายของวนารีนั้นนอนหลับสนิทไปก่อนแล้ว เป็นเวลาดีที่พวกเธอสองคนจะได้คุยกัน ถึงปัญหาของเพียงขวัญ
“ไหนขวัญเล่ามาซิว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ถึงได้ขอมานอนค้างที่บ้านพลอย” วนารีเปิดประเด็นขึ้น
“แฟนเก่าขวัญมาตามตื้อ” เพียงขวัญตอบ
“แฟนเก่าเหรอ” วนารีย้ำ พลันนึกไปถึงผู้ชายคนเมื่อตอนเช้าที่เธอพบเจอและคุยด้วย
ผู้ชายคนนั้นบอกว่าเป็นแฟนกับเพียงขวัญ คบกันมานานหลายปี แต่เพียงขวัญงอนเขาจึงขอย้ายมาที่นี่ เขาจึงมาตามง้อขอคืนดีด้วย จากที่เขาเคยง้อที่กรุงเทพแล้วไม่เป็นผล เขาจึงตามมาง้อที่นี่อีก
อิชยะนำรูปของเขากับเพียงขวัญให้ดูเป็นหลักฐาน ว่าพูดเรื่องจริง ไม่ได้มาหลอกถามเธอแต่อย่างใด ว่าเขากับเพียงขวัญเป็นคนรักกันจริง และขอให้เธอบอกที่อยู่ของเพียงขวัญแก่เขาด้วย
เธอเชื่อคำพูดของผู้ชายคนนั้น เพราะดูจากหลักฐานรูปถ่ายพวกนั้น จึงบอกที่อยู่ของเพียงขวัญแก่เขาไปด้วยไม่ได้คิดอะไร แต่ทำไมตอนนี้เพียงขวัญถึงพูดว่า ‘แฟนเก่า’ เพียงขวัญต้องหมายถึงผู้ชายคนนั้นไม่ผิดแน่ เธอครุ่นคิด
“อือ ช่าย...” เพียงขวัญพยักหน้า ถึงจะเจ็บปวดอยู่บ้างแต่มันก็จวนจะหายดีแล้ว “ขวัญเลิกกับเขานานแล้วล่ะ เขานอกใจขวัญ คบชู้กับเพื่อนขวัญ” วนารีได้ฟังก็อ้าปากค้าง พร้อมถามย้ำว่าเพื่อนที่สนิทกันเลยหรือ หล่อนพยักหน้า
“เชาชื่ออิฐน่ะ อิชยะ เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก โกหกขวัญ หลอกขวัญเรื่องผู้หญิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกรอบขวัญก็ให้อภัยเขานะ แต่รอบนี้ขวัญให้อภัยเขาไม่ได้จริง ๆ เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนกับขวัญ และขวัญยังจับได้คาหนังคาเขาว่าพวกเขาสองคนนอนด้วยกัน”
วนารีอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ฟัง ไม่รู้จะเชื่อใครดี ถ้าหากให้หล่อนเลือกเชื่อ หล่อนจะเลือกเชื่อเพียงขวัญ เข้าข้างเพียงขวัญไว้ก่อน เพียงขวัญเล่าให้เพื่อนสาวฟัง ภาพเหตุการณ์เมื่อวันวานมันก็หวนกลับมาให้เจ็บจี๊ดอีกรอบ ทุกอย่างมันยังชัดเจนเสมอ แม้เวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม