‘พายุ’ ผ่าตัดซ่อมท่อน้ำตา 3 ชม. ปวดแผลมาก แพทย์เฝ้าระวังภาวะตาซ้ายถูกโจมตี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3690297
พายุ ดาวดิน (ภาพจาก 'ตอง โรงต้ม')
สืบเนื่องกรณี “
พายุ ดาวดิน” นักกิจกรรมได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางขณะสลายชุมนุมม็อบราษฎรหยุดเอเปค เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนทำให้ดวงตาขวาเสี่ยงสูญเสียการมองเห็น โดยแพทย์แจ้งว่าการมองเห็นของดวงตาขวาเท่ากับ 0 นอกจากนี้ ยังหวั่นกระทบม่านตาซ้ายในอนาคต
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน กลุ่ม ดาวดิน สามัญชน เปิดเผยอาการล่าสุด เมื่อเวลา 22.31 น. ของวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ‘พายุ’ มีไข้ต่ำๆ อยู่ตลอดเวลา (37.4-37.9) ยังคงนอนหลับตาเป็นหลัก แต่ร่าเริงมากขึ้น พูดคุย ถามเรื่องข้างนอกมากขึ้น
รายละเอียด ดังนี้
12.00 น. จักษุแพทย์มาตรวจ ตายังคงบวมอยู่มาก ยังไม่สามารถลืมตาเองได้ แต่ข้อดีคือยังไม่พบภาวะติดเชื้อ ซึ่งถือว่ายาฆ่าเชื้อที่ให้เอาอยู่ อย่างไรก็ตาม คือยังต้องระวังต่อเพราะยังบวมและมีไข้ตลอด ส่วนการมองเห็นแสงยังเป็น 0% ในส่วนของตาข้างขวา แพทย์คิดว่าคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ สิ่งที่แพทย์จะเฝ้าระวังคือ ภาวะที่ตาซ้ายจะถูกโจมตีในอนาคต หลังจากนี้ต้องนัดมาตรวจอย่างสม่ำเสมอ
12.45 น. เข้าห้องผ่าตัดรอบ 2 จากภาวะท่อน้ำตาฉีกขาด ทำให้น้ำตาไหลตลอดเวลา หมอประเมินก่อนผ่าว่าอาจจะไม่สามารถทำให้กลับมาดีแบบเดิม 100% แต่อย่างน้อยจะกลับมาไม่ต่ำกว่า 50%
15.20 น. ออกห้องผ่าตัดซึ่งใช้เวลาไปเกือบ 3 ชั่วโมง ปวดแผลมากจนต้องขอยาทาน ส่วนผลการผ่าตัดต้องรอประเมินวันพรุ่งนี้อีกครั้ง
โดยภาพรวมของสภาพจิตใจ ดีขึ้นกว่า 3 วันแรก ร่าเริงมากขึ้น ยอมลุกเดิน ยอมรับประทานอาหารมากขึ้น พูดคุยและมีเสียงหัวเราะให้ได้ยินมากขึ้น แต่ยังคงปวดแผลถ้าต้องลืมตาและพูดคุย
นักกิจกรรมขอนแก่นยื่นตรวจสอบตำรวจ กรณีสลายการชุมนุมราษฎรหยุด APEC 2022
https://prachatai.com/journal/2022/11/101563
กลุ่มนักกิจกรรมขอนแก่น ยื่นหนังสือต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ขอตรวจสอบองค์กรตำรวจ จากกรณีการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ คฝ. ต่อกลุ่มประชาชนมือเปล่า สลายการชุมนุมราษฎรหยุด APEC 2022
https://www.facebook.com/daodincommoners/posts/573377501261598
23 พ.ย. 2565
เพจดาวดิน สามัญชน Daodin Commoners รายงานว่า กลุ่มนักกิจกรรมจังหวัดขอนแก่น ยื่นหนังสือต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ขอตรวจสอบองค์กรตำรวจ จากกรณีการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) ต่อกลุ่มประชาชนมือเปล่าที่รวมกันในนาม #ราษฎรหยุดAPEC เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2565
กลุ่มนักกิจกรรมจังหวัดขอนแก่น ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ สภ.เมืองขอนแก่นและตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อให้มีการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ประชาชนกลุ่ม ราษฎรหยุดAPEC ได้รวมตัวกันโดยสงบบริเวณถนนลานคนเมืองและจะมีการเดินเท้าไปบริเวณศูนย์ศิริกิต์ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องถึงผู้นำเศรษฐกิจที่มาร่วมประชุม APEC ในวันดังกล่าว แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งกำลังขวางกั้นที่บริเวณถนนดินสอและมีการใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่รวมตัวกัน เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ
พายุ ดาวดิน ถูกกระสุนยางยิงเข้าที่ตาขวาเป็นเหตุให้ลูกตาขวาแตกละเอียด และโอกาสที่จะกลับมามองเห็นต่ำกว่า 1%
ทางกลุ่มนักกิจกรรมจังหวัดขอนแก่นจึงเดินทางไปยื่นหนังสือ เพื่อสอบถามถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ คฝ. ถูกส่งไปจากขอนแก่นด้วย
เวลา 11:00 น.ระหว่างเข้ายื่นหนังสือที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายธุรการไม่อยากรับหนังสือ โดยให้เหตุผลว่า หนังสือนั้นได้เจาะจงตามระเบียบแล้วรับไม่ได้ โดยแจ้งว่า
“เหตุการณ์เกิดขึ้นที่กรุงเทพ จะให้ที่ขอนแก่นรับเรื่องได้อย่างไร” เจ้าหน้าที่พยายามบ่ายเบี่ยงไม่อยากรับเอกสาร โดยบอกจะชี้แจงในส่วนของ สภ.เมืองขอนแก่น และในส่วนของตำรวจภูธรภาค 4 ให้เดินทางไปยื่นหนังสือด้วยตัวเอง พร้อมทั้งมีการขอบัตรประจำตัวประชาชนของคนที่ไปยื่นหนังสือด้วย นอกจากนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง ได้ถามนักกิจกรรมว่า
“ถ้าพี่ถามอะไรบ้างน้องจะโกรธไหม ถ้าวันนั้นพวกน้องไม่ไปร่วมม็อบ จะเป็นอะไรไหม?
จากนั้นทางกลุ่มนักกิจกรรมจังหวัดขอนแก่น จึงได้เดินทางไปยังตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อยื่นหนังสือแต่ผู้กำกับ สภ.เมืองขอนแก่นและเจ้าหน้าที่ กอรมน.กว่า 20 คน ได้เข้าล้อมกลุ่มนักกิจกรรมขอนแก่น ที่ไปยื่นหนังสือพร้อมบอกว่า เดี๋ยวพี่รับเรื่องไว้เอง และเอาหนังสือที่จะยื่นให้กับตำรวจภาค 4 ไปเก็บไว้เอง
โดยในหนังสือที่ยื่นต่อสภ.เมืองขอนแก่นและตำรวจภูธรภาค 4. ข้อเรียกร้องให้ตำรวจชี้แจงเรื่องดังต่อไปนี้
1. ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบหลักสูตรของชี้แจงว่าได้เรียนหลักสูตรที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหรือไม่ก่อนที่จะผ่านการเป็นตำรวจ
2. ตำรวจภูธรภาค 4 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ไปดูแลการชุมนุมได้ผ่านการอบรมเกี่ยวกับหลักสูตรการสลายการชุมนุมตามหลักสากล และตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะหรือไม่ อย่างไร
3. เจ้าหน้าที่มีแนวปฏิบัติ หรือหลักเกณฑ์ในการประเมินอย่างไร ก่อนตัดสินยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม
4. อำนาจในการสั่งยิงกระสุนยางอยู่ที่ผู้บังคับบัญชา หรือคนที่ถือปืน หากเป็นการสั่งการก่อนการยิง มีวิธีการสั่งการอย่างไร
5. ขอให้เปิดเผยรายชื่อคนที่มีอำนาจถือปืนในที่ชุมนุมในวันดังกล่าวที่อยู่ในบริเวณถนนดินสอ
ที่มาภาพปก: The Isaan Record
“เพื่อไทย” โวยถูกปล้นมติเพิ่มม. 9/1 ร่างกม.เข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ “จุลพันธ์” ชี้ รบ.เดินต่อลำบาก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3690248
“เพื่อไทย” โวย ถูกปล้นมติเพิ่ม ม. 9/1 ร่างกม.เข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ “จุลพันธ์” เชื่อ รบ.เดินต่อลำบาก จี้ “บิ๊กตู่” ยุบสภา คืนอำนาจประชาชน
เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกิดปัญหาองค์ประชุมล่ม ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่…) พ.ศ. … ว่า การประชุมสภาฯวันนี้ถือเป็นวันแรกหลังจากหยุดช่วงการประชุมเอเปค แต่ก็เกิดเหตุการณ์องค์ประชุมไม่ครบเป็นเหตุให้สภาล่ม ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เสถียรภาพทางการเมืองของฝั่งรัฐบาลมีไม่มาก ไม่สามารถคงสภาวะการประชุมไว้ได้ สาเหตุหนึ่งมีการพูดถึงการเชิญสมาชิกบางกลุ่มไปเช็คชื่อกันที่บ้านป่ารอยต่อในวันที่มีการประชุมสภา นี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสภา
เรากำลังพิจารณาคือร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น ซึ่งฝ่ายค้าน และพรรค พท. ไม่เห็นชอบกับสิ่งที่กรรมาธิการ (กมธ.) แก้ไขมา เพราะเปลี่ยนไปจากหลักการเดิม คือ เมื่อประชาชนเข้าชื่อแล้วสมาชิกจะหลุดออกจากตำแหน่งทันที โดยที่ไม่มีกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งเราเป็นห่วงว่าช่วงเข้าสู่การเลือกตั้ง การจะถอดถอนหรือไม่ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ โดยเมื่อการประชุมมาถึงมาตรา 9/1 ซึ่งมีการสงวนคำแปรญัตติของสมาชิกฝ่ายค้านท่านหนึ่ง ที่ให้ระบุว่า ภายหลังการเข้าชื่อถอนถอน ให้มีการลงมติของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ว่าจะให้มีการถอดถอนหรือไม่ ซึ่งผลการลงมติเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมสภา คือ ให้มีการเพิ่มมาตรา 9/1 ถือเป็นชัยชนะของฝ่ายค้านในการลงมติ แต่กลับมีการท้วงติงของสมาชิกบางท่านว่ามีการเข้าใจผิด และอยากให้มีการลงมติใหม่ ซึ่งกระบวนการทางสภาในข้อบังคับการประชุมไม่สามารถทำได้ เราจึงท้วงติงว่าวิธีการดังกล่าวขัดต่อข้อบังคับการประชุม แต่ประธานในที่ประชุมยังคงตั้งคำถามว่าจะลงมติอีกครั้งหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสุดท้ายผลการลงมติคือให้มีการลงมติใหม่ได้ ฝ่ายค้านจึงไม่ขอเป็นองค์ประชุมให้กระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็นการลิดรอน และปล้นมติคืนกลับไป ซึ่งสุดท้ายรัฐบาลก็ไม่สามารถรักษาองค์ประชุมไว้ได้
“
จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แม้ว่าจะมีข่าวว่ารัฐบาลชื่นมื่นดี แต่ดูภาวะในสภาเช่นนี้ เชื่อว่า สภาเดินต่อลำบาก จึงเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีเวลาเหลือไม่มาก ช่วงฮันนีมูนของท่านหมดแล้ว ถ้าท่านยุบสภาได้ก็ควรยุบ คืนอำนาจให้ประชาชน” นาย
จุลพันธ์ กล่าว
เข้าทางลุง! 'สมชัย' ชี้ชัด 4 ข้ออานิสงส์ ศาล รธน.ไฟเขียว กม.พรรคการเมือง
https://siamrath.co.th/n/401794
วันที่ 23 พ.ย.65 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นโยบายพรรคเสรีรวมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สมชัย ศรีสุทธิยากร ระบุว่า...
ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป. พรรคการเมือง ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นการผ่อนคลายให้กับพรรคการเมืองในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง
1. ค่าสมัครสมาชิกพรรค จาก 200 เหลือ 20 บาทต่อปี จากตลอดชีพ 2,000 บาท เหลือ 200 บาท
2. ตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด แค่จังหวัดละ 1 คน โดยมีสมาชิก จังหวัดละ 100 คน ก็พอ
3. การทำการเลือกตั้งขั้นต้น หรือ Primary vote จังหวัดหนึ่งมีกี่เขต ทำที่เขตใดเขตหนึ่ง ก็พอ โดยมีสมาชิกมาประชุม ไม่น้อยกว่า 50 คน
4. ผลการทำ primary เมื่อส่งกรรมการบริหารพรรค จะตัดสินใจอย่างไร เหมือนหรือไม่เหมือน primary ก็ได้ ถือเป็นที่สุด
เข้าทางลุง เป็นอย่างยิ่ง
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0Jko9QYNHYpjrfYt1bJui9KkSgTSGV8DiZ2LzyrNa45FpEchkf3hCEhfPx4Gqa3E3l
JJNY : 5in1 ‘พายุ’ผ่าตัดซ่อมท่อน้ำตา│นักกิจกรรมขอนแก่นยื่นสอบตร.│“พท.”โวยถูกปล้นมติ│'สมชัย'ชี้ชัด4ข้อ│“ฟีฟ่า”ขู่“จอดำ”
https://www.matichon.co.th/politics/news_3690297
พายุ ดาวดิน (ภาพจาก 'ตอง โรงต้ม')
สืบเนื่องกรณี “พายุ ดาวดิน” นักกิจกรรมได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางขณะสลายชุมนุมม็อบราษฎรหยุดเอเปค เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนทำให้ดวงตาขวาเสี่ยงสูญเสียการมองเห็น โดยแพทย์แจ้งว่าการมองเห็นของดวงตาขวาเท่ากับ 0 นอกจากนี้ ยังหวั่นกระทบม่านตาซ้ายในอนาคต
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน กลุ่ม ดาวดิน สามัญชน เปิดเผยอาการล่าสุด เมื่อเวลา 22.31 น. ของวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ‘พายุ’ มีไข้ต่ำๆ อยู่ตลอดเวลา (37.4-37.9) ยังคงนอนหลับตาเป็นหลัก แต่ร่าเริงมากขึ้น พูดคุย ถามเรื่องข้างนอกมากขึ้น
รายละเอียด ดังนี้
12.00 น. จักษุแพทย์มาตรวจ ตายังคงบวมอยู่มาก ยังไม่สามารถลืมตาเองได้ แต่ข้อดีคือยังไม่พบภาวะติดเชื้อ ซึ่งถือว่ายาฆ่าเชื้อที่ให้เอาอยู่ อย่างไรก็ตาม คือยังต้องระวังต่อเพราะยังบวมและมีไข้ตลอด ส่วนการมองเห็นแสงยังเป็น 0% ในส่วนของตาข้างขวา แพทย์คิดว่าคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ สิ่งที่แพทย์จะเฝ้าระวังคือ ภาวะที่ตาซ้ายจะถูกโจมตีในอนาคต หลังจากนี้ต้องนัดมาตรวจอย่างสม่ำเสมอ
12.45 น. เข้าห้องผ่าตัดรอบ 2 จากภาวะท่อน้ำตาฉีกขาด ทำให้น้ำตาไหลตลอดเวลา หมอประเมินก่อนผ่าว่าอาจจะไม่สามารถทำให้กลับมาดีแบบเดิม 100% แต่อย่างน้อยจะกลับมาไม่ต่ำกว่า 50%
15.20 น. ออกห้องผ่าตัดซึ่งใช้เวลาไปเกือบ 3 ชั่วโมง ปวดแผลมากจนต้องขอยาทาน ส่วนผลการผ่าตัดต้องรอประเมินวันพรุ่งนี้อีกครั้ง
โดยภาพรวมของสภาพจิตใจ ดีขึ้นกว่า 3 วันแรก ร่าเริงมากขึ้น ยอมลุกเดิน ยอมรับประทานอาหารมากขึ้น พูดคุยและมีเสียงหัวเราะให้ได้ยินมากขึ้น แต่ยังคงปวดแผลถ้าต้องลืมตาและพูดคุย
นักกิจกรรมขอนแก่นยื่นตรวจสอบตำรวจ กรณีสลายการชุมนุมราษฎรหยุด APEC 2022
https://prachatai.com/journal/2022/11/101563
กลุ่มนักกิจกรรมขอนแก่น ยื่นหนังสือต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ขอตรวจสอบองค์กรตำรวจ จากกรณีการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ คฝ. ต่อกลุ่มประชาชนมือเปล่า สลายการชุมนุมราษฎรหยุด APEC 2022
https://www.facebook.com/daodincommoners/posts/573377501261598
23 พ.ย. 2565 เพจดาวดิน สามัญชน Daodin Commoners รายงานว่า กลุ่มนักกิจกรรมจังหวัดขอนแก่น ยื่นหนังสือต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ขอตรวจสอบองค์กรตำรวจ จากกรณีการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) ต่อกลุ่มประชาชนมือเปล่าที่รวมกันในนาม #ราษฎรหยุดAPEC เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2565
กลุ่มนักกิจกรรมจังหวัดขอนแก่น ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ สภ.เมืองขอนแก่นและตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อให้มีการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ประชาชนกลุ่ม ราษฎรหยุดAPEC ได้รวมตัวกันโดยสงบบริเวณถนนลานคนเมืองและจะมีการเดินเท้าไปบริเวณศูนย์ศิริกิต์ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องถึงผู้นำเศรษฐกิจที่มาร่วมประชุม APEC ในวันดังกล่าว แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งกำลังขวางกั้นที่บริเวณถนนดินสอและมีการใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่รวมตัวกัน เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พายุ ดาวดิน ถูกกระสุนยางยิงเข้าที่ตาขวาเป็นเหตุให้ลูกตาขวาแตกละเอียด และโอกาสที่จะกลับมามองเห็นต่ำกว่า 1%
ทางกลุ่มนักกิจกรรมจังหวัดขอนแก่นจึงเดินทางไปยื่นหนังสือ เพื่อสอบถามถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ คฝ. ถูกส่งไปจากขอนแก่นด้วย
เวลา 11:00 น.ระหว่างเข้ายื่นหนังสือที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายธุรการไม่อยากรับหนังสือ โดยให้เหตุผลว่า หนังสือนั้นได้เจาะจงตามระเบียบแล้วรับไม่ได้ โดยแจ้งว่า “เหตุการณ์เกิดขึ้นที่กรุงเทพ จะให้ที่ขอนแก่นรับเรื่องได้อย่างไร” เจ้าหน้าที่พยายามบ่ายเบี่ยงไม่อยากรับเอกสาร โดยบอกจะชี้แจงในส่วนของ สภ.เมืองขอนแก่น และในส่วนของตำรวจภูธรภาค 4 ให้เดินทางไปยื่นหนังสือด้วยตัวเอง พร้อมทั้งมีการขอบัตรประจำตัวประชาชนของคนที่ไปยื่นหนังสือด้วย นอกจากนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง ได้ถามนักกิจกรรมว่า
“ถ้าพี่ถามอะไรบ้างน้องจะโกรธไหม ถ้าวันนั้นพวกน้องไม่ไปร่วมม็อบ จะเป็นอะไรไหม?
จากนั้นทางกลุ่มนักกิจกรรมจังหวัดขอนแก่น จึงได้เดินทางไปยังตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อยื่นหนังสือแต่ผู้กำกับ สภ.เมืองขอนแก่นและเจ้าหน้าที่ กอรมน.กว่า 20 คน ได้เข้าล้อมกลุ่มนักกิจกรรมขอนแก่น ที่ไปยื่นหนังสือพร้อมบอกว่า เดี๋ยวพี่รับเรื่องไว้เอง และเอาหนังสือที่จะยื่นให้กับตำรวจภาค 4 ไปเก็บไว้เอง
โดยในหนังสือที่ยื่นต่อสภ.เมืองขอนแก่นและตำรวจภูธรภาค 4. ข้อเรียกร้องให้ตำรวจชี้แจงเรื่องดังต่อไปนี้
1. ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบหลักสูตรของชี้แจงว่าได้เรียนหลักสูตรที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหรือไม่ก่อนที่จะผ่านการเป็นตำรวจ
2. ตำรวจภูธรภาค 4 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ไปดูแลการชุมนุมได้ผ่านการอบรมเกี่ยวกับหลักสูตรการสลายการชุมนุมตามหลักสากล และตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะหรือไม่ อย่างไร
3. เจ้าหน้าที่มีแนวปฏิบัติ หรือหลักเกณฑ์ในการประเมินอย่างไร ก่อนตัดสินยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม
4. อำนาจในการสั่งยิงกระสุนยางอยู่ที่ผู้บังคับบัญชา หรือคนที่ถือปืน หากเป็นการสั่งการก่อนการยิง มีวิธีการสั่งการอย่างไร
5. ขอให้เปิดเผยรายชื่อคนที่มีอำนาจถือปืนในที่ชุมนุมในวันดังกล่าวที่อยู่ในบริเวณถนนดินสอ
ที่มาภาพปก: The Isaan Record
“เพื่อไทย” โวยถูกปล้นมติเพิ่มม. 9/1 ร่างกม.เข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ “จุลพันธ์” ชี้ รบ.เดินต่อลำบาก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3690248
“เพื่อไทย” โวย ถูกปล้นมติเพิ่ม ม. 9/1 ร่างกม.เข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ “จุลพันธ์” เชื่อ รบ.เดินต่อลำบาก จี้ “บิ๊กตู่” ยุบสภา คืนอำนาจประชาชน
เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกิดปัญหาองค์ประชุมล่ม ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่…) พ.ศ. … ว่า การประชุมสภาฯวันนี้ถือเป็นวันแรกหลังจากหยุดช่วงการประชุมเอเปค แต่ก็เกิดเหตุการณ์องค์ประชุมไม่ครบเป็นเหตุให้สภาล่ม ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เสถียรภาพทางการเมืองของฝั่งรัฐบาลมีไม่มาก ไม่สามารถคงสภาวะการประชุมไว้ได้ สาเหตุหนึ่งมีการพูดถึงการเชิญสมาชิกบางกลุ่มไปเช็คชื่อกันที่บ้านป่ารอยต่อในวันที่มีการประชุมสภา นี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสภา
เรากำลังพิจารณาคือร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น ซึ่งฝ่ายค้าน และพรรค พท. ไม่เห็นชอบกับสิ่งที่กรรมาธิการ (กมธ.) แก้ไขมา เพราะเปลี่ยนไปจากหลักการเดิม คือ เมื่อประชาชนเข้าชื่อแล้วสมาชิกจะหลุดออกจากตำแหน่งทันที โดยที่ไม่มีกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งเราเป็นห่วงว่าช่วงเข้าสู่การเลือกตั้ง การจะถอดถอนหรือไม่ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ โดยเมื่อการประชุมมาถึงมาตรา 9/1 ซึ่งมีการสงวนคำแปรญัตติของสมาชิกฝ่ายค้านท่านหนึ่ง ที่ให้ระบุว่า ภายหลังการเข้าชื่อถอนถอน ให้มีการลงมติของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ว่าจะให้มีการถอดถอนหรือไม่ ซึ่งผลการลงมติเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมสภา คือ ให้มีการเพิ่มมาตรา 9/1 ถือเป็นชัยชนะของฝ่ายค้านในการลงมติ แต่กลับมีการท้วงติงของสมาชิกบางท่านว่ามีการเข้าใจผิด และอยากให้มีการลงมติใหม่ ซึ่งกระบวนการทางสภาในข้อบังคับการประชุมไม่สามารถทำได้ เราจึงท้วงติงว่าวิธีการดังกล่าวขัดต่อข้อบังคับการประชุม แต่ประธานในที่ประชุมยังคงตั้งคำถามว่าจะลงมติอีกครั้งหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสุดท้ายผลการลงมติคือให้มีการลงมติใหม่ได้ ฝ่ายค้านจึงไม่ขอเป็นองค์ประชุมให้กระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็นการลิดรอน และปล้นมติคืนกลับไป ซึ่งสุดท้ายรัฐบาลก็ไม่สามารถรักษาองค์ประชุมไว้ได้
“จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แม้ว่าจะมีข่าวว่ารัฐบาลชื่นมื่นดี แต่ดูภาวะในสภาเช่นนี้ เชื่อว่า สภาเดินต่อลำบาก จึงเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีเวลาเหลือไม่มาก ช่วงฮันนีมูนของท่านหมดแล้ว ถ้าท่านยุบสภาได้ก็ควรยุบ คืนอำนาจให้ประชาชน” นายจุลพันธ์ กล่าว
เข้าทางลุง! 'สมชัย' ชี้ชัด 4 ข้ออานิสงส์ ศาล รธน.ไฟเขียว กม.พรรคการเมือง
https://siamrath.co.th/n/401794
วันที่ 23 พ.ย.65 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นโยบายพรรคเสรีรวมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สมชัย ศรีสุทธิยากร ระบุว่า...
ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป. พรรคการเมือง ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นการผ่อนคลายให้กับพรรคการเมืองในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง
1. ค่าสมัครสมาชิกพรรค จาก 200 เหลือ 20 บาทต่อปี จากตลอดชีพ 2,000 บาท เหลือ 200 บาท
2. ตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด แค่จังหวัดละ 1 คน โดยมีสมาชิก จังหวัดละ 100 คน ก็พอ
3. การทำการเลือกตั้งขั้นต้น หรือ Primary vote จังหวัดหนึ่งมีกี่เขต ทำที่เขตใดเขตหนึ่ง ก็พอ โดยมีสมาชิกมาประชุม ไม่น้อยกว่า 50 คน
4. ผลการทำ primary เมื่อส่งกรรมการบริหารพรรค จะตัดสินใจอย่างไร เหมือนหรือไม่เหมือน primary ก็ได้ ถือเป็นที่สุด
เข้าทางลุง เป็นอย่างยิ่ง
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0Jko9QYNHYpjrfYt1bJui9KkSgTSGV8DiZ2LzyrNa45FpEchkf3hCEhfPx4Gqa3E3l