‘สลัม4ภาค’ รับไม่ได้ ทำร้ายปชช.มือเปล่า ร้อง ‘ผู้นำเอเปคร่วมรับผิด’ กดดันรบ.ไทย-ให้ ‘บิ๊กตู่ลาออก’
https://www.matichon.co.th/politics/news_3683720
‘เครือข่ายสลัม 4 ภาค’ รับไม่ได้ ป่าเถื่อน ทำร้ายประชาชนมือเปล่า แถลง 3 ข้อ จี้ ‘บิ๊กตู่ลาออก’ ร้องสมาชิกเอเปค ต้องร่วมรับผิดชอบ ‘กดดัน รบ.ไทย’
สืบเนื่องกรณี วานนี้ (18 พ.ย.) กลุ่ม ‘
ราษฎรหยุด เอเปค 2022’ เดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดที่หัวมุมถนนดินสอ มีการยิงกระสุนยาง และเกิดการปะทะระหว่าง 2 ฝ่าย รวมถึงควบคุมตัวผู้ชุมนุมอย่างน้อย 25 ราย ไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง จากนั้นเวลาราว 12.35 น. เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา รวมถึงกระสุนยาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย รวมถึงสื่อมวลชน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘พายุ ดาวดิน’ ผู้ชุมนุมชายจากกลุ่มดาวดิน ถูกยิงด้วยกระสุนยางเข้าตาด้านขวาโดยคืนวานนี้ แพทย์ที่ทำการผ่าตัดดวงตาแจ้งว่า ลูกตาทั้งลูกแตก มีโอกาสกลับมาใช้งานได้ปกติต่ำกว่า 1% อยู่ระหว่างเฝ้าระวังการติดเชื้อ 2-3 วัน ซึ่งหากมีอาการติดเชื้ออาจต้องพิจารณาการควักลูกตาออกเพื่อไม่ให้เชื้อลามไปที่สมองนั้น
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน เครือข่ายสลัม 4 ภาค เผยแพร่แถลงประณามรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับประชาชน ความว่า
แถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลไทย กรณีการชุมนุมตามหลักประชาธิปไตยสากล ของกลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022
จากการชุมนุมเรียกร้องของประชาชน กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 ที่ร่วมกับหลายภาคส่วน ชุมนุมคัดค้านการประชุม และการลงนามของรัฐบาลในข้อตกลง APEC 2022 ซึ่งเนื้อหาโดยรวมเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ กับกลุ่มทุนผูกขาด เอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนต่างชาติ โดยฉวยโอกาสจากเวทีระดับนานาชาติ เพื่อผลักดันนโยบายที่เรียกว่าตัวแบบการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ซึ่งคือฉากบังหน้าที่ดูดี แต่เปิดโอกาสด้านเศรษฐกิจเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน ซ่อนความหายนะที่จะเกิดกับประชาชน ทั้งชาวนา แรงงาน และประชาชนทั่วไปอย่างมหาศาล
แต่ในระหว่างการชุมนุมของวันที่ 18 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 12.30 น. ซึ่งมีผู้ชุมนุมกำลังจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ใช้สิทธิแสดงออกตามระบอบบประชาธิปไตย ปราศจากอาวุธ แต่กลับถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (คฝ.) โดยฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุม สร้างเงื่อนไขความรุนแรงให้เกิดการกระทบกระทั่ง และการปะทะกันครั้งนี้เจ้าหน้าที่ คฝ.ได้ใช้อาวุธปืนยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม โดยเป็นการยิงแนวระดับเป้าที่ดวงตา รวมทั้งมีการกระทืบด้วยความรุนแรง เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ชุมนุมถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส นักข่าวที่อยู่ระหว่างการทำหน้าที่รายงานข่าวถูกทำร้าย มีประชาชนจำนวนหนึ่งหมดสติ และได้รับบาดเจ็บ แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุมของรัฐบาลไทย ไม่เป็นไปตามหลักการสากล และเป็นการกระทำที่พร้อมจะใช้ความรุนแรงอย่างเต็มที่ต่อการชุมนุมของประชาชน
เครือข่ายสลัม 4 ภาค เห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้ ประชาชนชุมนุมโดยมีเหตุผล และเป็นการชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ จึงไม่มีเหตุผล และความชอบธรรมใดๆ ที่เจ้าหน้าที่รัฐจะมีสิทธิมาใช้ความรุนแรงกับประชาชน เครือข่ายสลัม 4 ภาค จึงขอประณามการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และไม่สามารถยอมรับได้ และเรียกร้องให้อารยประเทศที่เข้าร่วมการประชุม APEC 2022 ครั้งนี้ ต้องร่วมรับผิดชอบต่อการกระทำของรัฐบาลไทย ที่กระทำต่อประชาชน และให้รัฐบาลไทย ต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้องทันที ดังนี้
1. หยุดการดำเนินคดีกับผู้ร่วมชุมนุมในเหตุการณ์ดังกล่าวในทุกข้อกล่าวหา
2. นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำ ที่ทำร้ายประชาชนมือเปล่าโดยการยุติบทบาทการเป็นนายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน
3. ประเทศสมาชิก APEC ทุกชาติ ต้องร่วมกดดันให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทย รับผิดชอบต่อการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างโหดร้าย และป่าเถื่อน
เชื่อมั่นในพลังประชาชน
19 พฤศจิกายน 2565
‘แนวร่วมมธ.’ วอนผู้นำเอเปค ‘เตือน รบ.ไทย’ หยุดทำร้ายคนเห็นต่าง ชวน คฝ.หลุดพ้นการกดขี่ ‘กลับมายืนข้างปชช.’
https://www.matichon.co.th/politics/news_3683670
‘แนวร่วมมธ.’ วอนผู้นำเอเปค ‘เตือนรัฐบาลไทย’ หยุดทำร้ายผู้เห็นต่าง ม็อบแค่อยากสื่อสาร ไม่ได้หวังทำร้าย ชวน คฝ.หลุดพ้นการกดขี่ ‘กลับมายืนข้างปชช.’
สืบเนื่องกรณี วานนี้ (18 พ.ย.) กลุ่ม ‘
ราษฎรหยุดเอเปค 2022’ เดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดที่หัวมุมถนนดินสอ มีการยิงกระสุนยาง และเกิดการปะทะระหว่าง 2 ฝ่าย รวมถึงควบคุมตัวผู้ชุมนุมอย่างน้อย 25 ราย ไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง จากนั้นเวลาราว 12.35 น. เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา รวมถึงกระสุนยาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘พายุ ดาวดิน’ ผู้ชุมนุมชายจากกลุ่มดาวดิน ถูกยิงด้วยกระสุนยางเข้าตาด้านขวาโดยคืนวานนี้ แพทย์ที่ทำการผ่าตัดดวงตาแจ้งว่า ลูกตาทั้งลูกแตก มีโอกาสกลับมาใช้งานได้ปกติต่ำกว่า 1% อยู่ระหว่างเฝ้าระวังการติดเชื้อ 2-3 วัน ซึ่งหากมีอาการติดเชื้ออาจต้องพิจารณาการควักลูกตาออกเพื่อไม่ให้เชื้อลามไปที่สมอง นั้น
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เผยแพร่แถลงการณ์ ต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมดังกล่าว โดยระบุว่า
เบื้องหลังรอยยิ้มทักทาย และภายใต้คำกล่าวสุนทรพจน์สวยหรูตามแบบอย่างครรลองอารยะประเทศ ด้วยเวลาเพียง 3 วัน ระหว่างการประชุม APEC 2022 ณ ประเทศไทย พวกท่านคงเห็นแล้วว่า อะไรกำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทยขณะนี้ (What happening in Thailand) รัฐบาลเผด็จการในคราบประชาธิปไตยของเรา ได้แสดงการละมิสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงให้ประจักษ์แก่สายตาของพวกท่าน อย่างที่พวกเราประชาชนแทบไม่จำเป็นต้องบรรยายขยายความความเลวร้ายใดๆ ของรัฐบาลเพิ่มเติมแก่พวกท่านอีก ในขณะที่การประชุมของท่านกำลังดำเนินอยู่ ห่างออกไปเพียงไม่กี่กิโลมตร เจ้าหน้าความมั่นคงภายใต้การบังคับบัญขาสูงสุด โดยนายกรัฐมนตรี ได้ไล่ทุบตีและกราดยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมที่ปราศจากเครื่องป้องกันอย่างบ้าคลั่ง มีผู้ใด้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นอาจต้องสูญเสียการมองเห็นไปตลอดชีวิต การใช้กำลังกดปราบปรามที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีเฉพาะในระหว่างการประชุม APEC 2022 เท่านั้น แต่ด้วยข้อกล่าวอ้างอย่างการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย ความรุนแรงที่รัฐเผด็จการกระทำต่อประชาชน เกิดขึ้นจนแทบจะกลายเป็นเหตุการณ์ปกติ แน่นอนว่าในบรรดากรณีทั้งหลาย รวมทั้งในกรณีที่เพิ่งเกิดขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็นการใช้อาวุธและใช้กำลังสลายการชุมนุม ที่ละเมิดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights) และหลักการพื้นฐานว่าด้วยการใช้กำลังและอาวุธโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย (Basic Principles of the Use of Force and Firearms by Law Enforcement Officials) ทั้งยังละเมิดกฎหมายภายในประเทศ อย่าง คู่มือการปฏิบัติงานพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558, พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ รวมถึงรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พวกเราขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีผู้ชุมนุมคนใดต้องการที่จะทำลายการประชุม APEC 2022 หรือก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้นำประเทศ พวกเราเพียงแต่อยากจะส่งสารถึงพวกท่าน ดังที่พวกท่านน่าจะตระหนักดีแล้วว่า สถานการณ์ในประเทศไทยปัจจุบันนี้น่ากังวลเพียงใดต่อประเด็นสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิในการแสดงความคิดเห็น และสิทธิในการชุมนุมสาธารณะ เราขอวิงวอนให้พวกท่านโปรดรับฟังเรา และเตือนต่อรัฐบาลของประเทศไทยให้หยุดคุกคามและทำร้ายผู้เห็นต่างที่ต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย
และเราขอเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งหลาย ขอพวกท่านโปรดมองเข้าไปยังนัยตาของบุคคลที่ยืนอยู่ ณ ปลายกระบอกปืนของท่าน บุคคลผู้มีเลือดเนื้อและความเจ็บปวดเช่นเดียวกับผู้คนที่ท่านรักและห่วงใย พวกเขาเหล่านั้นอาจเป็นใครบางคนที่ท่านเคยรู้จัก อาจเป็นญาติพี่น้องห่างๆ ที่ท่านเคยพบ พวกเขาอาจเป็นอนาคตมิตรสหายที่ดีในวันที่ท่านทนทุกข์ หรืออาจเป็นอดีตเพื่อนร่วมสุขที่ ณ ภูมิลำเนา ทั้งพวกเขาและท่านต่างเป็นมนุษย์ผู้มีความเจ็บปวด ความขุ่นเคือง ความสุข และความเศร้าเช่นเดียวกัน และด้วยภาระหน้าที่ อาชีพ หรือคำสั่งที่ทำให้พวกท่านจำเป็นต้องยืนอยู่หลังแนวโล่ตรงอีกฟากฝั่งของท้องถนน สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ท่านจำเป็นต้องเห็นเพื่อนมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าของพวกท่านเป็นศัตรู
พวกเราเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจว่า ในบรรดาพวกท่านทั้งหมด ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว ที่ตัดสินใจเข้ารับราชการเพื่อก้าวเท้าออกจากบ้านด้วยความมุ่งหวังที่จะทำร้ายบุคคลที่ท่านไม่เคยแม้แต่จะเคยพบหน้าค่าตา คำสั่งของเผด็จการไม่อาจเปลี่ยนให้ท่านกลายเป็นปีศาจ เช่นเดียวกับความขัดแย้งทางการเมือง ที่ไม่เคยหยุดพวกเราให้เชื่อมั่นว่า สักวันท่านจะหวนกลับมายืนอยู่เคียงข้างประชาชน พวกเราประชาชนต่างมุ่งหวังและใฝ่ฝันถึงสังคมที่ดีกว่า สังคมที่พวกท่านจะไม่ต้องอยู่ภายใต้อำนาจกดขี่ของไคร สังคมที่พวกท่านจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ และเพื่ออนาคตของตัวท่าน และพวกเราทุกคน โปรดกลับมายืนอยู่เคียงข้างประชาชน
แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
‘พีมูฟ’ จี้ รบ.รับผิด ‘ยิงเล็งเบ้าตา’ พ้อ ปชช.เหมือนเป็นทาส อย่ากระหายผลประโยชน์ จนกลายเป็นปีศาจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3683542
‘พีมูฟ’ จี้ รบ.รับผิด คฝ.สลายม็อบเลวร้าย ‘ยิงเล็งดวงตา’ เหิมเกริมต่อหน้าต่างชาติ เหมือน ปชช.เป็นเพียงทาส ลั่น กระหายผลประโยชน์ ต้องไม่ทำให้เป็นปีศาจ
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน สืบเนื่องกรณี วานนี้ (18 พ.ย.) กลุ่ม ‘
ราษฎรหยุดเอเปค 2022’ เดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดที่หัวมุมถนนดินสอ มีการยิงกระสุนยาง และเกิดการปะทะระหว่าง 2 ฝ่าย รวมถึงควบคุมตัวผู้ชุมนุมอย่างน้อย 25 ราย ไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง จากนั้นเวลาราว 12.35 น. เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา รวมถึงกระสุนยาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ก่อนปล่อยตัวครบทั้ง 25 ราย ในวันนี้นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ได้ออกแถลงการณ์ ครั้งที่ 1 ประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐ โดยมีเนื้อหาความว่า
JJNY : 6in1 ‘สลัม4ภาค’รับไม่ได้│‘แนวร่วมมธ.’วอน│‘พีมูฟ’จี้รับผิด│‘กป.อพช.ภาคเหนือ’แถลง│ตะโกน‘เอเปคเลือด’│แจ้งเอาผิด‘คฝ.’
https://www.matichon.co.th/politics/news_3683720
‘เครือข่ายสลัม 4 ภาค’ รับไม่ได้ ป่าเถื่อน ทำร้ายประชาชนมือเปล่า แถลง 3 ข้อ จี้ ‘บิ๊กตู่ลาออก’ ร้องสมาชิกเอเปค ต้องร่วมรับผิดชอบ ‘กดดัน รบ.ไทย’
สืบเนื่องกรณี วานนี้ (18 พ.ย.) กลุ่ม ‘ราษฎรหยุด เอเปค 2022’ เดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดที่หัวมุมถนนดินสอ มีการยิงกระสุนยาง และเกิดการปะทะระหว่าง 2 ฝ่าย รวมถึงควบคุมตัวผู้ชุมนุมอย่างน้อย 25 ราย ไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง จากนั้นเวลาราว 12.35 น. เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา รวมถึงกระสุนยาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย รวมถึงสื่อมวลชน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘พายุ ดาวดิน’ ผู้ชุมนุมชายจากกลุ่มดาวดิน ถูกยิงด้วยกระสุนยางเข้าตาด้านขวาโดยคืนวานนี้ แพทย์ที่ทำการผ่าตัดดวงตาแจ้งว่า ลูกตาทั้งลูกแตก มีโอกาสกลับมาใช้งานได้ปกติต่ำกว่า 1% อยู่ระหว่างเฝ้าระวังการติดเชื้อ 2-3 วัน ซึ่งหากมีอาการติดเชื้ออาจต้องพิจารณาการควักลูกตาออกเพื่อไม่ให้เชื้อลามไปที่สมองนั้น
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน เครือข่ายสลัม 4 ภาค เผยแพร่แถลงประณามรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับประชาชน ความว่า
แถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลไทย กรณีการชุมนุมตามหลักประชาธิปไตยสากล ของกลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022
จากการชุมนุมเรียกร้องของประชาชน กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 ที่ร่วมกับหลายภาคส่วน ชุมนุมคัดค้านการประชุม และการลงนามของรัฐบาลในข้อตกลง APEC 2022 ซึ่งเนื้อหาโดยรวมเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ กับกลุ่มทุนผูกขาด เอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนต่างชาติ โดยฉวยโอกาสจากเวทีระดับนานาชาติ เพื่อผลักดันนโยบายที่เรียกว่าตัวแบบการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ซึ่งคือฉากบังหน้าที่ดูดี แต่เปิดโอกาสด้านเศรษฐกิจเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน ซ่อนความหายนะที่จะเกิดกับประชาชน ทั้งชาวนา แรงงาน และประชาชนทั่วไปอย่างมหาศาล
แต่ในระหว่างการชุมนุมของวันที่ 18 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 12.30 น. ซึ่งมีผู้ชุมนุมกำลังจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ใช้สิทธิแสดงออกตามระบอบบประชาธิปไตย ปราศจากอาวุธ แต่กลับถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (คฝ.) โดยฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุม สร้างเงื่อนไขความรุนแรงให้เกิดการกระทบกระทั่ง และการปะทะกันครั้งนี้เจ้าหน้าที่ คฝ.ได้ใช้อาวุธปืนยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม โดยเป็นการยิงแนวระดับเป้าที่ดวงตา รวมทั้งมีการกระทืบด้วยความรุนแรง เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ชุมนุมถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส นักข่าวที่อยู่ระหว่างการทำหน้าที่รายงานข่าวถูกทำร้าย มีประชาชนจำนวนหนึ่งหมดสติ และได้รับบาดเจ็บ แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุมของรัฐบาลไทย ไม่เป็นไปตามหลักการสากล และเป็นการกระทำที่พร้อมจะใช้ความรุนแรงอย่างเต็มที่ต่อการชุมนุมของประชาชน
เครือข่ายสลัม 4 ภาค เห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้ ประชาชนชุมนุมโดยมีเหตุผล และเป็นการชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ จึงไม่มีเหตุผล และความชอบธรรมใดๆ ที่เจ้าหน้าที่รัฐจะมีสิทธิมาใช้ความรุนแรงกับประชาชน เครือข่ายสลัม 4 ภาค จึงขอประณามการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และไม่สามารถยอมรับได้ และเรียกร้องให้อารยประเทศที่เข้าร่วมการประชุม APEC 2022 ครั้งนี้ ต้องร่วมรับผิดชอบต่อการกระทำของรัฐบาลไทย ที่กระทำต่อประชาชน และให้รัฐบาลไทย ต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้องทันที ดังนี้
1. หยุดการดำเนินคดีกับผู้ร่วมชุมนุมในเหตุการณ์ดังกล่าวในทุกข้อกล่าวหา
2. นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำ ที่ทำร้ายประชาชนมือเปล่าโดยการยุติบทบาทการเป็นนายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน
3. ประเทศสมาชิก APEC ทุกชาติ ต้องร่วมกดดันให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทย รับผิดชอบต่อการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างโหดร้าย และป่าเถื่อน
เชื่อมั่นในพลังประชาชน
19 พฤศจิกายน 2565
‘แนวร่วมมธ.’ วอนผู้นำเอเปค ‘เตือน รบ.ไทย’ หยุดทำร้ายคนเห็นต่าง ชวน คฝ.หลุดพ้นการกดขี่ ‘กลับมายืนข้างปชช.’
https://www.matichon.co.th/politics/news_3683670
‘แนวร่วมมธ.’ วอนผู้นำเอเปค ‘เตือนรัฐบาลไทย’ หยุดทำร้ายผู้เห็นต่าง ม็อบแค่อยากสื่อสาร ไม่ได้หวังทำร้าย ชวน คฝ.หลุดพ้นการกดขี่ ‘กลับมายืนข้างปชช.’
สืบเนื่องกรณี วานนี้ (18 พ.ย.) กลุ่ม ‘ราษฎรหยุดเอเปค 2022’ เดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดที่หัวมุมถนนดินสอ มีการยิงกระสุนยาง และเกิดการปะทะระหว่าง 2 ฝ่าย รวมถึงควบคุมตัวผู้ชุมนุมอย่างน้อย 25 ราย ไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง จากนั้นเวลาราว 12.35 น. เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา รวมถึงกระสุนยาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘พายุ ดาวดิน’ ผู้ชุมนุมชายจากกลุ่มดาวดิน ถูกยิงด้วยกระสุนยางเข้าตาด้านขวาโดยคืนวานนี้ แพทย์ที่ทำการผ่าตัดดวงตาแจ้งว่า ลูกตาทั้งลูกแตก มีโอกาสกลับมาใช้งานได้ปกติต่ำกว่า 1% อยู่ระหว่างเฝ้าระวังการติดเชื้อ 2-3 วัน ซึ่งหากมีอาการติดเชื้ออาจต้องพิจารณาการควักลูกตาออกเพื่อไม่ให้เชื้อลามไปที่สมอง นั้น
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เผยแพร่แถลงการณ์ ต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมดังกล่าว โดยระบุว่า
เบื้องหลังรอยยิ้มทักทาย และภายใต้คำกล่าวสุนทรพจน์สวยหรูตามแบบอย่างครรลองอารยะประเทศ ด้วยเวลาเพียง 3 วัน ระหว่างการประชุม APEC 2022 ณ ประเทศไทย พวกท่านคงเห็นแล้วว่า อะไรกำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทยขณะนี้ (What happening in Thailand) รัฐบาลเผด็จการในคราบประชาธิปไตยของเรา ได้แสดงการละมิสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงให้ประจักษ์แก่สายตาของพวกท่าน อย่างที่พวกเราประชาชนแทบไม่จำเป็นต้องบรรยายขยายความความเลวร้ายใดๆ ของรัฐบาลเพิ่มเติมแก่พวกท่านอีก ในขณะที่การประชุมของท่านกำลังดำเนินอยู่ ห่างออกไปเพียงไม่กี่กิโลมตร เจ้าหน้าความมั่นคงภายใต้การบังคับบัญขาสูงสุด โดยนายกรัฐมนตรี ได้ไล่ทุบตีและกราดยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมที่ปราศจากเครื่องป้องกันอย่างบ้าคลั่ง มีผู้ใด้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นอาจต้องสูญเสียการมองเห็นไปตลอดชีวิต การใช้กำลังกดปราบปรามที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีเฉพาะในระหว่างการประชุม APEC 2022 เท่านั้น แต่ด้วยข้อกล่าวอ้างอย่างการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย ความรุนแรงที่รัฐเผด็จการกระทำต่อประชาชน เกิดขึ้นจนแทบจะกลายเป็นเหตุการณ์ปกติ แน่นอนว่าในบรรดากรณีทั้งหลาย รวมทั้งในกรณีที่เพิ่งเกิดขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็นการใช้อาวุธและใช้กำลังสลายการชุมนุม ที่ละเมิดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights) และหลักการพื้นฐานว่าด้วยการใช้กำลังและอาวุธโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย (Basic Principles of the Use of Force and Firearms by Law Enforcement Officials) ทั้งยังละเมิดกฎหมายภายในประเทศ อย่าง คู่มือการปฏิบัติงานพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558, พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ รวมถึงรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พวกเราขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีผู้ชุมนุมคนใดต้องการที่จะทำลายการประชุม APEC 2022 หรือก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้นำประเทศ พวกเราเพียงแต่อยากจะส่งสารถึงพวกท่าน ดังที่พวกท่านน่าจะตระหนักดีแล้วว่า สถานการณ์ในประเทศไทยปัจจุบันนี้น่ากังวลเพียงใดต่อประเด็นสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิในการแสดงความคิดเห็น และสิทธิในการชุมนุมสาธารณะ เราขอวิงวอนให้พวกท่านโปรดรับฟังเรา และเตือนต่อรัฐบาลของประเทศไทยให้หยุดคุกคามและทำร้ายผู้เห็นต่างที่ต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย
และเราขอเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งหลาย ขอพวกท่านโปรดมองเข้าไปยังนัยตาของบุคคลที่ยืนอยู่ ณ ปลายกระบอกปืนของท่าน บุคคลผู้มีเลือดเนื้อและความเจ็บปวดเช่นเดียวกับผู้คนที่ท่านรักและห่วงใย พวกเขาเหล่านั้นอาจเป็นใครบางคนที่ท่านเคยรู้จัก อาจเป็นญาติพี่น้องห่างๆ ที่ท่านเคยพบ พวกเขาอาจเป็นอนาคตมิตรสหายที่ดีในวันที่ท่านทนทุกข์ หรืออาจเป็นอดีตเพื่อนร่วมสุขที่ ณ ภูมิลำเนา ทั้งพวกเขาและท่านต่างเป็นมนุษย์ผู้มีความเจ็บปวด ความขุ่นเคือง ความสุข และความเศร้าเช่นเดียวกัน และด้วยภาระหน้าที่ อาชีพ หรือคำสั่งที่ทำให้พวกท่านจำเป็นต้องยืนอยู่หลังแนวโล่ตรงอีกฟากฝั่งของท้องถนน สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ท่านจำเป็นต้องเห็นเพื่อนมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าของพวกท่านเป็นศัตรู
พวกเราเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจว่า ในบรรดาพวกท่านทั้งหมด ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว ที่ตัดสินใจเข้ารับราชการเพื่อก้าวเท้าออกจากบ้านด้วยความมุ่งหวังที่จะทำร้ายบุคคลที่ท่านไม่เคยแม้แต่จะเคยพบหน้าค่าตา คำสั่งของเผด็จการไม่อาจเปลี่ยนให้ท่านกลายเป็นปีศาจ เช่นเดียวกับความขัดแย้งทางการเมือง ที่ไม่เคยหยุดพวกเราให้เชื่อมั่นว่า สักวันท่านจะหวนกลับมายืนอยู่เคียงข้างประชาชน พวกเราประชาชนต่างมุ่งหวังและใฝ่ฝันถึงสังคมที่ดีกว่า สังคมที่พวกท่านจะไม่ต้องอยู่ภายใต้อำนาจกดขี่ของไคร สังคมที่พวกท่านจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ และเพื่ออนาคตของตัวท่าน และพวกเราทุกคน โปรดกลับมายืนอยู่เคียงข้างประชาชน
แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
‘พีมูฟ’ จี้ รบ.รับผิด ‘ยิงเล็งเบ้าตา’ พ้อ ปชช.เหมือนเป็นทาส อย่ากระหายผลประโยชน์ จนกลายเป็นปีศาจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3683542
‘พีมูฟ’ จี้ รบ.รับผิด คฝ.สลายม็อบเลวร้าย ‘ยิงเล็งดวงตา’ เหิมเกริมต่อหน้าต่างชาติ เหมือน ปชช.เป็นเพียงทาส ลั่น กระหายผลประโยชน์ ต้องไม่ทำให้เป็นปีศาจ
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน สืบเนื่องกรณี วานนี้ (18 พ.ย.) กลุ่ม ‘ราษฎรหยุดเอเปค 2022’ เดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดที่หัวมุมถนนดินสอ มีการยิงกระสุนยาง และเกิดการปะทะระหว่าง 2 ฝ่าย รวมถึงควบคุมตัวผู้ชุมนุมอย่างน้อย 25 ราย ไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง จากนั้นเวลาราว 12.35 น. เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา รวมถึงกระสุนยาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ก่อนปล่อยตัวครบทั้ง 25 ราย ในวันนี้นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ได้ออกแถลงการณ์ ครั้งที่ 1 ประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐ โดยมีเนื้อหาความว่า