“คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย” ลุย บางรัก รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2551781

 
“คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย” ลุย พื้นที่เขตบางรัก กทม. ลงรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน ชี้ เดือดร้อนกันมาก เศรษฐกิจย่ำแย่ จ่ายหนี้ไม่ไหว ข้าวของแพง ค่าครองชีพพุ่ง
 
วันที่ 13 พ.ย. 65 นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางรัก สาทร ปทุมวัน และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่เขตบางรัก พร้อมนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ เพื่อรับฟังปัญหาและขอความเห็นของประชาชนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยพบว่าผู้ประกอบการจำนวนมากประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำเป็นเวลานาน การค้าขายฝืดเคือง รายได้ไม่พอรายจ่าย ยิ่งระยะหลังข้าวของแพง ค่าครองชีพพุ่ง ยิ่งทำให้การดำรงชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก ชักหน้าไม่ถึงหลัง และยังมีหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่จะมีผู้บริหารประเทศที่มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง เหมือนในอดีตที่เคยบริหารประเทศจนประสบความสำเร็จ ประชาชนอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจหมุนเวียนดี เข้ามาบริหารแทนผู้บริหารในปัจจุบัน
 
ทั้งนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของคนในพื้นที่บางรัก คือปัญหาหนี้สินที่มีเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และยังไม่สามารถหารายได้มาชำระหนี้ได้ ดังนั้นแนวทางที่จะต้องเพิ่มรายได้ และ ลดรายจ่ายจึงจะเป็นแนวทางหลักในการแก้ไขปัญหาให้กับคนในพื้นที่ นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ได้มีโอกาสพบกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และได้หารือปัญหาของพื้นที่จำนวนมาก อาทิเช่น ปัญหาการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินเพื่อให้ทัศนียภาพดูดี และเป็นแนวทางของเมืองใหญ่ในโลก ปัญหาความซบเซาของย่านธุรกิจที่เคยเฟื่องฟูอย่างถนนพัฒน์พงศ์และถนนธนิยะ ปัญหาหาบเร่แผงลอยบนทางเท้า ปัญหาขยะ โดยมั่นใจว่าหากมีโอกาสได้รับเลือก จะเข้าไปผลักดันเพื่อให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ทำให้ย่านธุรกิจบางรักกลับมาคึกคักเหมือนเมื่อก่อน กระตุ้นเศรษฐกิจไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ซึ่งนางสาวจุฑาพร ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาอย่างต่อเนื่อง เป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะได้ทราบปัญหาของประชาชนในหลายด้าน ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไขปรับปรุง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจปากท้อง ที่เป็นปัญหาหลักของประชาชนในเขตบางรัก และอาจจะทุกเขตทั่วประเทศในขณะนี้ โดยในไม่ช้านี้พรรคจะมี นโยบายเศรษฐกิจชุดใหม่ที่จะออกมาเสนอให้พี่น้องประชาชน ซึ่งเชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด และจะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และชำระหนี้ได้ อีกทั้งมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้.
 

---

 
"พงศ์สินธุ์" น้องชาย "เทพไท" ทิ้งปชป. หลัง "จุรินทร์" เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเมืองคอนไม่มีชื่อ
https://siamrath.co.th/n/398973
 
วันที่ 13 พ.ย.65 นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ อดีตผู้สมัครส.ส.  พรรคประชาธิปัตย์ และน้องชายนายเทพไท เสนพงศ์ ได้ ได้โพสต์ Facebook ระบุว่า 

ขอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อประชาธิปัตย์เปิดตัวผู้สมัครส.ส.เมืองคอนแล้ว นับว่าเป็นความชัดเจนที่พรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช อย่างเป็นทางการ โดยไม่มีชื่อของผมพงศ์สินธุ์  เสนพงศ์
 
ต่อจากนี้ไป ผมขอประกาศตัดสินใจทางการเมืองด้วยตัวของผมเอง 
 
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้ตัดสินใจมีมติไม่ส่งผมลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในนามพรรคแล้ว ทั้งที่ผมเคยเป็นผู้สมัครเก่าของพรรคในการเลือกตั้งซ่อม และมีพี่ชายคือคุณเทพไท เป็นอดีตส.ส.ของพรรค 4 สมัย ได้ทำหน้าที่ปกป้องพรรค พิทักษ์อุดมการณ์พรรค ต่อสู้ให้กับพรรคอย่างเข้มแข็ง ได้ยืนหยัดต่อสู้กับระบอบทักษิณ จนถูกฟ้องมีคดีความ 23 คดี
 
แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่ให้ความสำคัญ ไม่เห็นคุณค่าของนักสู้ของพรรค ตัดสิทธิ์สมาชิกของครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ ลงสมัครเลือกตั้งส.ส.ในเขตเลือกตั้งเดิมเลยแม้แต่คนเดียว แต่กลับให้สิทธิ์กับตระกูลอื่นลงสม้ครรับเลือกตั้งส.ส. ตระกูลละ2คน  ถือได้ว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกับคนที่เคยต่อสู้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อแนวทางการเมืองของพรรคเป็นเช่นนี้ ผมจึงจำเป็นต้องพิจารณาตัวเอง ด้วยการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทันที

ขอยืนยันว่าสมาชิกในครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ ไม่ได้ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคประชาธิปัตย์ต่างหาก ที่ทอดทิ้ง ไม่ให้โอกาสสมาชิกของคนในตระกูลเสนพงศ์
 
เมื่อเป็นเช่นนี้สมาชิกในครอบครัวทั้งหมด จะยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความผูกพันมายาวนาน แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นตระกูลดั้งเดิม หรือสืบทายาทมาจากรุ่นพ่อก็ตาม แต่ครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ ได้เป็นผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ มาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ ที่เป็นหัวคะแนนให้กับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน จนมาถึง สมัยคุณเทพไท เสนพงศ์ ได้ลงสมัครส.ส.เมื่อปี 2548 
 
บัดนี้สมาชิกในครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ ได้ตกลงใจพร้อมกัน ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ โดยผมจะยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกต่อนายทะเบียนพรรค(นายวิรัชร่มเย็น) ในสัปดาห์นี้ พร้อมกับคืนเสื้อแจ็คเก็ต ที่นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ ได้สวมให้ในวันประกาศส่งสมัครเลือกตั้งซ่อมเขต3นขนขนน นครศรีธรรมราชด้วย
 
ลาก่อนพรรคประชาธิปัตย์สวัสดีครับ
# คนกันเอง คนติดดิน
# พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=520421849955611&id=100059634009630
 

---

ปัตตานีอ่วมแล้ว! น้ำเหนือจากยะลาไหลเข้าท่วมหมู่บ้านริมแม่น้ำ
https://www.dailynews.co.th/news/1678173/

ชาวปัตตานีระทมทุกข์ น้ำเหนือจากยะลาไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้านริมแม่น้ำแล้ว ขณะเดียวกันประตูน้ำเขื่อนชลประทานปัตตานี เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เพื่อให้น้ำสามารถไหลได้คล่องตัว ก่อนไหลลงสู่ทะเล

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. สภาพอากาศในพื้นที่ จ.ปัตตานี หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมา หนักมากในบางพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีสูงขึ้น ประกอบกับเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เขื่อนบางลาง จ.ยะลา ได้เปิดประตูเขื่อนเพื่อระบายน้ำ ทำให้มวลน้ำจากจังหวัดยะลา และน้ำป่า ไหลลงมาสมทบในแม่น้ำปัตตานี ทำให้หมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม ที่ติดกับริมแม่น้ำปัตตานีได้รับผลกระทบ น้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชนในหลายพื้นที่ โดยพื้นที่ได้รับผลกระทบ ณ ตอนนี้ ประกอบด้วย อำเภอเมือง มี ต.ปะกาฮารัง ต.บาราเฮาะ และอำเภอหนองจิก มี ต.ลิปะสะโง ต.ดอนรัก ต.ปากาลือสง อ.สายบุรี อ.ยะหริ่ง เช่นเดียวกับประชาชนที่อาศัยติดกับทะเล ได้รับผลกระทบจากมรสมลมแรง ทำให้ต้นไม้ บ้านเรือน ได้รับความเสียหาย
 
โดยขณะนี้หลายพื้นที่ที่น้ำท่วมมีชาวบ้านได้ใช้เรือเป็นยานพาหนะในการสัญจรเข้ามาไปในหมู่บ้าน พร้อมทั้งนำรถจักรยานยนต์ รถยนต์ ของมีค่าต่างๆ และสัตว์เลี้ยง เคลื่อนย้ายไว้ในที่สูงก่อนชั่วคราว และหากไม่มีการปล่อยน้ำจากเขื่อนบางลางเพิ่ม คาดว่าน้ำที่เอ่อล้นหลายตำบลจะลดระดับลงภายในไม่กี่วันนี้
 
ขณะเดียวกันประตูน้ำ เขื่อนชลประทานปัตตานี ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เพื่อให้น้ำสามารถไหลได้คล่องตัว ก่อนไหลลงสู่ทะเล ทั้งนี้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทางจังหวัดปัตตานีได้ประกาศเตือนไปยังประชาชน ให้มีการเตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่แล้ว