ม็อบชาวนา ขู่ชูป้าย ‘ภาษาฝรั่ง’ ฟ้องผู้นำเอเปค ขีดเส้น 16 พ.ย. ธกส.ต้องเอามติปมแก้หนี้เข้าที่ประชุม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3668656
ม็อบชาวนารอมติบอร์ดธกส. ปักธง 16 พ.ย. แกนนำยันไม่กลับ ถ้าไม่ประชุม จ่อยกป้ายภาษาอังกฤษประจานรัฐบาล 2 ข้างทางกลางช่วงประชุมเอเปค
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สืบเนื่องจากการชุมนุมปักหลักโดยเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทยกว่า 40 จังหวัด ที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยาวไปถึงหน้ากระทรวงคมนาคมและหน้า สน.นางเลิ้ง เพื่อเรียกร้องเเก้ปัญหาหนี้สินทางการเกษตร กองทุนฟื้นฟูลูกหนี้ธนาคารรัฐ 4 แห่ง ที่ขอให้ผ่านเข้า ครม.เมื่อ 22 มีนาคม 2565 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยวันนี้มีการประชุมพิจารณาโครงสร้างหนี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เมื่อเวลา 13.30 น.
ต่อมาเมื่อเวลาราว 15.00 น. นาย
ชรินทร์ ดวงดารา ที่ปรึกษาและแกนนำเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย (คนท.) ให้สัมภาษณ์ ‘มติชน’ ภายหลังการประชุมพิจารณาโครงสร้างหนี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้ว่า บอร์ดการประชุมมีธงมาคือไม่เก็บในส่วนของดอกเบี้ยใหม่ ที่เหลือจากเงินต้นครึ่งหนึ่งตามที่เครือข่ายฯ เสนอทุกอย่างแล้ว
“
ตอนแรก ธกส.จะคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำหรือ MRR -3% ตอนนี้ก็คือไม่มี ซึ่งผมดูแล้วเป็นสัญญาที่ดูโอเค เหลือแค่การเซ็นเอกสาร และอีก 3 ธนาคาร คือธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ก็ยึดตามนี้ทั้งหมด” นาย
ชรินทร์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าด้านชาวบ้านรู้สึกอย่างไรบ้าง นาย
ชรินทร์ กล่าวว่า ชาวบ้านที่มาพร้อมกัน 100 คน ก็รู่สึกพอใจ บางส่วนยังไม่รู้เพราะอยู่หน้ากระทรวงเกษตรฯ และจะกลับไปประกาศที่หน้ากระทรวงเกษตรฯภายหลัง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป จะกลับเลยหรือไม่ นาย
ชรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่กลับ ต้องเอามตินี้เข้าที่ประชุมบอร์ดธกส.ก่อนถึงมีผลโดยสมบูรณ์ ซึ่งเครือข่ายก็กดดันให้บอร์ดธกส.รีบประชุมภายสัปดาห์หน้าก่อนเอเปค โดยตั้งธงให้ไม่เกิน 16 พฤศจิกายน
“
ถ้าหลัง 16 พฤศจิกายน คุณยังไม่ประชุมกัน เราจะยกป้ายเป็นภาษาฝรั่ง ประจานรัฐบาล ถ้าบอร์ดธกส.มีมติเห็นชอบตามวันนี้ เราก็จะย้ายไปกระทรวงการคลัง” นาย
ชรินทร์
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การประชุมวันนี้เป็นข้อตกลงในขั้นไหน นาย
ชรินทร์ กล่าวว่า อยู่ในคณะทำงาน ซึ่งครบ มีทั้งตัวแทนกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง ตัวแทนกองทุนฯตัวแทนฝ่ายเจ้าหนี้ทรัพย์สินธนาคาร ซึ่งถ้าจะมีผลสมบูรณ์ บอร์ดของธกส.จะต้องเห็นชอบตามวันนี้ ก็จบ
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าถ้าหากมติของบอร์ดธกส.เลื่อนหรืออื่นๆ จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป นาย
ชรินทร์ กล่าวว่า อย่างต่ำสุดคือชูป้ายภาษาอังกฤษ 2 ข้างถนน ประจานรัฐบาล และขยายแนว โดยปักหลักที่เดิม
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการยกระดับในการประท้วงยังคงแนวทางสันติใช่หรือไม่ นาย
ชรินทร์ กล่าวว่า ใช่ เพราะว่าเรื่องจะจบอยู่แล้ว ถ้ารุนแรงไปก็จะยิ่งไปกันใหญ่ ตนเชื่อว่าบอร์ดจะต้องประชุมอยู่แล้ว เพราะเรื่องเล็กน้อยมาก เป็นเรื่องที่ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรกับเขา
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีเจ้าหน้าที่ติดต่อให้ย้ายจุดการชุมนุมหรือไม่ นาย
ชรินทร์ กล่าวว่า ไม่ ยังไม่มี ตนเชื่อว่าน่าจะจบ เพราะว่าถ้าเขาจะเล่นแง่กับเรา ป่านนี้เขาคงต้องมีมาตรการอะไรบ้าง คุยกับพวกเราให้ย้าย วันนี้ยังไม่มี ซึ่งฝ่ายกองทุนก็เชื่อว่าฝ่ายธกส.จะประชุมก่อน 16 พฤศจิกายนนี้ อย่างเร็วน่าจะมีการประชุมในวันอังคารหรือวันพุธที่ 15-16 พฤศจิกายน และวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน ตนจะประสานให้เร่งประชุมบอร์ด
‘หมอชลน่าน’ เผย ‘หมอระวี’ ชงกม.นิรโทษกรรม เว้นโทษทุจริต-คดีอาญารุนแรง-ม.112
https://www.matichon.co.th/politics/news_3668154
‘หมอชลน่าน’ เผย ‘หมอระวี’ ชงกม.นิรโทษกรรม เว้นโทษทุจริต-คดีอาญารุนแรง-ม.112 ต้องดูรายละเอียดก่อน
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นพ.
ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม โดยกำหนดเงื่อนไข ไม่รวมไปถึงคดีทุจริต คดีอาญาร้ายแรง และความผิดเกี่ยวกับกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า มันเป็นหน้าที่และอำนาจที่เขาจะเสนอได้ ผ่านการเข้าชื่อเพียง 20 คนเพื่อเสนอกฎหมาย ส่วนสภาจะพิจารณาอย่างไรก็ต้องดูว่าเสียงข้างมากคิดกันอย่างไร ขณะที่เสียงข้างน้อยก็ต้องดูในรายละเอียดว่ามีประเด็นอะไร ครอบคลุมในเรื่องใด และเนื้อหาสาระเป็นอย่างไร
“
ในอดีตพรรค พท. ก็เคยเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมที่เขากล่าวหาว่าเป็นนิรโทษกรรมสุดซอย ทั้งนี้ คดีทุจริตไม่สามารถนิรโทษกรรมได้อยู่แล้ว ซึ่งเขามุ่งเน้นนิรโทษกรรมทางการเมือง แต่ต้องไปนิยามให้ชัดว่า คดีทางการเมืองคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น คดีความมั่นคง ส่วนคดีอาญาหรือคดีทุจริต เนื้อหามันอาจไม่ครอบคลุม” นพ.
ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามว่า การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม จะเป็นประโยชน์ในการพานาย
ทักษิณ และน.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศได้หรือไม่ นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะว่าคดีที่เขาฟ้องนาย
ทักษิณ และน.ส.
ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ฟ้องด้วยคดีทางการเมือง แต่เป็นการกล่าวหาว่าทุจริต
‘โรม’ มอง ‘นพ.ระวี’ ชงนิรโทษ แต่พวกตัวเอง ยันถ้าเว้นคดี 112 ไม่ใช่การแก้ปัญหา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3668368
‘โรม’ ถามนิรโทษกรรมเพื่ออะไร ถ้าเว้น ‘คดี112’ ชี้จะไม่แก้ปัญหาการเมือง
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นพ.
ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยกำหนดเงื่อนไขไม่รวมไปถึงคดีทุจริต คดีอาญาร้ายแรง และความผิดเกี่ยวกับกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าสำหรับเรื่องการนิรโทษกรรมต้องคุยให้ชัดว่าจะใช้อะไรเป็นหลักเกณฑ์ ในมุมมองของพรรค ก.ก.กรณีใดที่เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจทางการเมือง และไม่ได้เป็นความรุนแรงต่อชีวิตและร่างกายต้องเข้าเกณฑ์ด้วย ซึ่งมาตรา 112 ไม่ใช่การแสดงออกทางการเมืองที่เป็นความรุนแรงต่อชีวิตหรือร่างกาย ถ้าเว้นจะนิรโทษกรรมเพื่ออะไร หาก นพ.
ระวีจะนำเสนอเรื่องการนิรโทษกรรม ตนคิดว่า จุดนี้ต้องให้ชัดตั้งแต่คอนเซ็ปต์ทั้งหมด ไม่ใช่มองแค่อาจจะในกลุ่มก้อนของตัวเองเท่านั้น ถ้ายกเว้นการนิรโทษกรรมต้องยกเว้นเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจในการตัดสินใจเท่านั้น
นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ นพ.ระวีที่ให้เว้นมาตรา 112 เพราะวันนี้มีคนจำนวน 1,000 กว่าคน ที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 มีคดีจำนวนมากที่ศาลยังไม่ตัดสิน และคดีไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 112 ด้วยซ้ำ แต่เป็นการฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อกลั่นแกล้งทางการเมืองที่ใครก็สามารถฟ้องร้องได้ เราจึงไม่สามารถยกเว้นมาตรา 112 ได้หากจะแก้ปัญหาทางการเมืองในภาพรวม เรื่องการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องที่พรรค ก.ก.นำเสนอมาตลอด และเมื่อถึงเวลาเหมาะสมจะนำเสนอรายละเอียดให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป
บิ๊กอาร์เอส ย้ำเคยบอกแล้ว อย่าเอา ‘บอลโลก’ เข้ามัสต์แฮฟ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3668558
บิ๊กอาร์เอส ย้ำเคยบอกแล้ว อย่าเอา ‘บอลโลก’ เข้ามัสต์แฮฟ
กรณีการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน-18 ธันวาคมนี้ หลังจากที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติอนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ภายในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท จากจำนวนเต็ม 1,600 ล้านบาทที่ กกท. เสนอขอรับการสนับสนุนเข้าไปทำให้ต้องหาเงินส่วนที่เหลือ และล่าสุดนาย
ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ออกมาย้ำว่าในอนาคตควรถอด ‘บอลโลกพ้น ‘มัสต์ แฮฟและมัสต์ แครี่’
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาง
พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ RS GROUP ได้ทวีตข้อความในทวิตเตอร์กรณีลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า
“ในอนาคตเวลา regulator จะออกกฎ ต้องคิดให้รอบคอบ ไม่ใช่กะจะได้หน้าแล้วไม่ดูว่ามันจะสร้างปัญหาอะไรในอนาคตให้กับประชาชนและประเทศชาติ วันนั้นเราก็บอกแล้วว่าอย่าเอาบอลโลกเข้า must have #บอลโลก2022”
“42 ล้านน่ะค่าสิทธิอย่างเดียว ไม่รวมค่าผลิตและส่งสัญญาณ ถ้าไปดูสำนวนที่เราฟ้อง กสทช ในปี 2014 เราก็อธิบายชัดว่า ทางฟีฟ่าเขาคิดมาให้แล้วว่าที่กำหนดให้ดูฟรี 22 คู่ รวมเปิด ปิด รองชนะเลิศ เราจะมาหาเรื่องบังคับให้ดูฟรี 64 คู่เพื่ออะไร #บอลโลก2022”
“ขอให้เรื่องบอลโลกเป็นกรณีศึกษาการทำงานของภาครัฐเถอะนะ ถ้าเงินก้อนนี้ผ่านออกมาจาก กสทช ได้ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อกับประเทศไทย แต่การที่จะเป็นประเทศเดียวที่ไม่ได้ดูมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกก็คงไม่น่าจะได้คุยเรื่องอื่นใน APEC จะทนกันไหวมั๊ยล่ะ นักการเมือง #บอลโลก2022”
“ก่อนหน้านี้ Laostar โทรมาหา ถามว่าซื้อสิทธิบอลโลกมั๊ย อยากขอให้เจรจาเผื่อลาวให้ด้วย บอกเขาไปว่าไม่น่ามีใครซื้อ เพราะมันอยู่ใน must have มาถึงวันนี้เราอาจจะต้องไปเกาะสัญญาณเค้าดู โห ประเทศไทย เรามาไกลมาก น่าสงสารจริงๆ #บอลโลก2022
JJNY : 5in1 ม็อบชาวนาขู่ชูป้าย|เผย‘หมอระวี’ชงนิรโทษ│‘โรม’มอง‘นพ.ระวี’│บิ๊กอาร์เอสย้ำเคยบอกแล้ว|นศ. ปาไข่ใส่คิงชาร์ลส์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3668656
ม็อบชาวนารอมติบอร์ดธกส. ปักธง 16 พ.ย. แกนนำยันไม่กลับ ถ้าไม่ประชุม จ่อยกป้ายภาษาอังกฤษประจานรัฐบาล 2 ข้างทางกลางช่วงประชุมเอเปค
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สืบเนื่องจากการชุมนุมปักหลักโดยเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทยกว่า 40 จังหวัด ที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยาวไปถึงหน้ากระทรวงคมนาคมและหน้า สน.นางเลิ้ง เพื่อเรียกร้องเเก้ปัญหาหนี้สินทางการเกษตร กองทุนฟื้นฟูลูกหนี้ธนาคารรัฐ 4 แห่ง ที่ขอให้ผ่านเข้า ครม.เมื่อ 22 มีนาคม 2565 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยวันนี้มีการประชุมพิจารณาโครงสร้างหนี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เมื่อเวลา 13.30 น.
ต่อมาเมื่อเวลาราว 15.00 น. นายชรินทร์ ดวงดารา ที่ปรึกษาและแกนนำเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย (คนท.) ให้สัมภาษณ์ ‘มติชน’ ภายหลังการประชุมพิจารณาโครงสร้างหนี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้ว่า บอร์ดการประชุมมีธงมาคือไม่เก็บในส่วนของดอกเบี้ยใหม่ ที่เหลือจากเงินต้นครึ่งหนึ่งตามที่เครือข่ายฯ เสนอทุกอย่างแล้ว
“ตอนแรก ธกส.จะคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำหรือ MRR -3% ตอนนี้ก็คือไม่มี ซึ่งผมดูแล้วเป็นสัญญาที่ดูโอเค เหลือแค่การเซ็นเอกสาร และอีก 3 ธนาคาร คือธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ก็ยึดตามนี้ทั้งหมด” นายชรินทร์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าด้านชาวบ้านรู้สึกอย่างไรบ้าง นายชรินทร์ กล่าวว่า ชาวบ้านที่มาพร้อมกัน 100 คน ก็รู่สึกพอใจ บางส่วนยังไม่รู้เพราะอยู่หน้ากระทรวงเกษตรฯ และจะกลับไปประกาศที่หน้ากระทรวงเกษตรฯภายหลัง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป จะกลับเลยหรือไม่ นายชรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่กลับ ต้องเอามตินี้เข้าที่ประชุมบอร์ดธกส.ก่อนถึงมีผลโดยสมบูรณ์ ซึ่งเครือข่ายก็กดดันให้บอร์ดธกส.รีบประชุมภายสัปดาห์หน้าก่อนเอเปค โดยตั้งธงให้ไม่เกิน 16 พฤศจิกายน
“ถ้าหลัง 16 พฤศจิกายน คุณยังไม่ประชุมกัน เราจะยกป้ายเป็นภาษาฝรั่ง ประจานรัฐบาล ถ้าบอร์ดธกส.มีมติเห็นชอบตามวันนี้ เราก็จะย้ายไปกระทรวงการคลัง” นายชรินทร์
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การประชุมวันนี้เป็นข้อตกลงในขั้นไหน นายชรินทร์ กล่าวว่า อยู่ในคณะทำงาน ซึ่งครบ มีทั้งตัวแทนกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง ตัวแทนกองทุนฯตัวแทนฝ่ายเจ้าหนี้ทรัพย์สินธนาคาร ซึ่งถ้าจะมีผลสมบูรณ์ บอร์ดของธกส.จะต้องเห็นชอบตามวันนี้ ก็จบ
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าถ้าหากมติของบอร์ดธกส.เลื่อนหรืออื่นๆ จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป นายชรินทร์ กล่าวว่า อย่างต่ำสุดคือชูป้ายภาษาอังกฤษ 2 ข้างถนน ประจานรัฐบาล และขยายแนว โดยปักหลักที่เดิม
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการยกระดับในการประท้วงยังคงแนวทางสันติใช่หรือไม่ นายชรินทร์ กล่าวว่า ใช่ เพราะว่าเรื่องจะจบอยู่แล้ว ถ้ารุนแรงไปก็จะยิ่งไปกันใหญ่ ตนเชื่อว่าบอร์ดจะต้องประชุมอยู่แล้ว เพราะเรื่องเล็กน้อยมาก เป็นเรื่องที่ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรกับเขา
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีเจ้าหน้าที่ติดต่อให้ย้ายจุดการชุมนุมหรือไม่ นายชรินทร์ กล่าวว่า ไม่ ยังไม่มี ตนเชื่อว่าน่าจะจบ เพราะว่าถ้าเขาจะเล่นแง่กับเรา ป่านนี้เขาคงต้องมีมาตรการอะไรบ้าง คุยกับพวกเราให้ย้าย วันนี้ยังไม่มี ซึ่งฝ่ายกองทุนก็เชื่อว่าฝ่ายธกส.จะประชุมก่อน 16 พฤศจิกายนนี้ อย่างเร็วน่าจะมีการประชุมในวันอังคารหรือวันพุธที่ 15-16 พฤศจิกายน และวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน ตนจะประสานให้เร่งประชุมบอร์ด
‘หมอชลน่าน’ เผย ‘หมอระวี’ ชงกม.นิรโทษกรรม เว้นโทษทุจริต-คดีอาญารุนแรง-ม.112
https://www.matichon.co.th/politics/news_3668154
‘หมอชลน่าน’ เผย ‘หมอระวี’ ชงกม.นิรโทษกรรม เว้นโทษทุจริต-คดีอาญารุนแรง-ม.112 ต้องดูรายละเอียดก่อน
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม โดยกำหนดเงื่อนไข ไม่รวมไปถึงคดีทุจริต คดีอาญาร้ายแรง และความผิดเกี่ยวกับกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า มันเป็นหน้าที่และอำนาจที่เขาจะเสนอได้ ผ่านการเข้าชื่อเพียง 20 คนเพื่อเสนอกฎหมาย ส่วนสภาจะพิจารณาอย่างไรก็ต้องดูว่าเสียงข้างมากคิดกันอย่างไร ขณะที่เสียงข้างน้อยก็ต้องดูในรายละเอียดว่ามีประเด็นอะไร ครอบคลุมในเรื่องใด และเนื้อหาสาระเป็นอย่างไร
“ในอดีตพรรค พท. ก็เคยเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมที่เขากล่าวหาว่าเป็นนิรโทษกรรมสุดซอย ทั้งนี้ คดีทุจริตไม่สามารถนิรโทษกรรมได้อยู่แล้ว ซึ่งเขามุ่งเน้นนิรโทษกรรมทางการเมือง แต่ต้องไปนิยามให้ชัดว่า คดีทางการเมืองคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น คดีความมั่นคง ส่วนคดีอาญาหรือคดีทุจริต เนื้อหามันอาจไม่ครอบคลุม” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามว่า การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม จะเป็นประโยชน์ในการพานายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะว่าคดีที่เขาฟ้องนายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ฟ้องด้วยคดีทางการเมือง แต่เป็นการกล่าวหาว่าทุจริต
‘โรม’ มอง ‘นพ.ระวี’ ชงนิรโทษ แต่พวกตัวเอง ยันถ้าเว้นคดี 112 ไม่ใช่การแก้ปัญหา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3668368
‘โรม’ ถามนิรโทษกรรมเพื่ออะไร ถ้าเว้น ‘คดี112’ ชี้จะไม่แก้ปัญหาการเมือง
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยกำหนดเงื่อนไขไม่รวมไปถึงคดีทุจริต คดีอาญาร้ายแรง และความผิดเกี่ยวกับกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าสำหรับเรื่องการนิรโทษกรรมต้องคุยให้ชัดว่าจะใช้อะไรเป็นหลักเกณฑ์ ในมุมมองของพรรค ก.ก.กรณีใดที่เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจทางการเมือง และไม่ได้เป็นความรุนแรงต่อชีวิตและร่างกายต้องเข้าเกณฑ์ด้วย ซึ่งมาตรา 112 ไม่ใช่การแสดงออกทางการเมืองที่เป็นความรุนแรงต่อชีวิตหรือร่างกาย ถ้าเว้นจะนิรโทษกรรมเพื่ออะไร หาก นพ.ระวีจะนำเสนอเรื่องการนิรโทษกรรม ตนคิดว่า จุดนี้ต้องให้ชัดตั้งแต่คอนเซ็ปต์ทั้งหมด ไม่ใช่มองแค่อาจจะในกลุ่มก้อนของตัวเองเท่านั้น ถ้ายกเว้นการนิรโทษกรรมต้องยกเว้นเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจในการตัดสินใจเท่านั้น
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ นพ.ระวีที่ให้เว้นมาตรา 112 เพราะวันนี้มีคนจำนวน 1,000 กว่าคน ที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 มีคดีจำนวนมากที่ศาลยังไม่ตัดสิน และคดีไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 112 ด้วยซ้ำ แต่เป็นการฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อกลั่นแกล้งทางการเมืองที่ใครก็สามารถฟ้องร้องได้ เราจึงไม่สามารถยกเว้นมาตรา 112 ได้หากจะแก้ปัญหาทางการเมืองในภาพรวม เรื่องการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องที่พรรค ก.ก.นำเสนอมาตลอด และเมื่อถึงเวลาเหมาะสมจะนำเสนอรายละเอียดให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป
บิ๊กอาร์เอส ย้ำเคยบอกแล้ว อย่าเอา ‘บอลโลก’ เข้ามัสต์แฮฟ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3668558
บิ๊กอาร์เอส ย้ำเคยบอกแล้ว อย่าเอา ‘บอลโลก’ เข้ามัสต์แฮฟ
กรณีการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน-18 ธันวาคมนี้ หลังจากที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติอนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ภายในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท จากจำนวนเต็ม 1,600 ล้านบาทที่ กกท. เสนอขอรับการสนับสนุนเข้าไปทำให้ต้องหาเงินส่วนที่เหลือ และล่าสุดนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ออกมาย้ำว่าในอนาคตควรถอด ‘บอลโลกพ้น ‘มัสต์ แฮฟและมัสต์ แครี่’
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ RS GROUP ได้ทวีตข้อความในทวิตเตอร์กรณีลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า
“ในอนาคตเวลา regulator จะออกกฎ ต้องคิดให้รอบคอบ ไม่ใช่กะจะได้หน้าแล้วไม่ดูว่ามันจะสร้างปัญหาอะไรในอนาคตให้กับประชาชนและประเทศชาติ วันนั้นเราก็บอกแล้วว่าอย่าเอาบอลโลกเข้า must have #บอลโลก2022”
“42 ล้านน่ะค่าสิทธิอย่างเดียว ไม่รวมค่าผลิตและส่งสัญญาณ ถ้าไปดูสำนวนที่เราฟ้อง กสทช ในปี 2014 เราก็อธิบายชัดว่า ทางฟีฟ่าเขาคิดมาให้แล้วว่าที่กำหนดให้ดูฟรี 22 คู่ รวมเปิด ปิด รองชนะเลิศ เราจะมาหาเรื่องบังคับให้ดูฟรี 64 คู่เพื่ออะไร #บอลโลก2022”
“ขอให้เรื่องบอลโลกเป็นกรณีศึกษาการทำงานของภาครัฐเถอะนะ ถ้าเงินก้อนนี้ผ่านออกมาจาก กสทช ได้ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อกับประเทศไทย แต่การที่จะเป็นประเทศเดียวที่ไม่ได้ดูมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกก็คงไม่น่าจะได้คุยเรื่องอื่นใน APEC จะทนกันไหวมั๊ยล่ะ นักการเมือง #บอลโลก2022”
“ก่อนหน้านี้ Laostar โทรมาหา ถามว่าซื้อสิทธิบอลโลกมั๊ย อยากขอให้เจรจาเผื่อลาวให้ด้วย บอกเขาไปว่าไม่น่ามีใครซื้อ เพราะมันอยู่ใน must have มาถึงวันนี้เราอาจจะต้องไปเกาะสัญญาณเค้าดู โห ประเทศไทย เรามาไกลมาก น่าสงสารจริงๆ #บอลโลก2022