พิษเศรษฐกิจ กระทบยอดขายชุดสังฆทาน ช่วงมาฆบูชา ผู้ค้าเผยเงียบเหงา คนนิยมราคาย่อมเยา
https://www.matichon.co.th/region/news_4438793
บรรยากาศขายชุดสังฆทาน-ชุดไทยธรรมจ.ตรังค่อนข้างเงียบเหงา เหตุเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนประหยัดมากขึ้น โดยทางร้านเน้นจัดชุดสังฆทานเองในราคาที่ลูกค้านิยมเพียงหลักร้อย ได้สินค้าที่มีคุณภาพ-ราคาถูก
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ตรัง ถึงบรรยากาศก่อนวันวันมาฆบูชาในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นวันหยุด ที่พุทธศาสนิกชนจะเดินทางเข้าวัดธรรมบุญเป็นจำนวนมาก โดยบรรยากาศการจำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม ในเทศกาลวันมาฆบูชาประจำปี 2567 นี้ ที่จ.ตรัง พบว่า บรรยากาศค่อนข้างจะเงียบเหงา ทั้งร้านขนาดใหญ่และร้านขนาดเล็ก ต่างบอกว่าบรรยากาศไม่คึกคักเท่าที่ควร ลูกค้าที่มาซื้อจะเน้นสินค้าราคาประหยัดแต่มีคุณภาพ
โดยที่ร้านชัยรุ่งเรืองพาณิชย์ ถนนกันตัง เขตเทศบาลนครตรัง นาง
ธนาพร เรืองวิทยาวงศ์ เจ้าของร้าน กล่าวว่า 1-2 วันนี้ ก่อนวันมาฆบูชา ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าจากต่างตำบล และต่างอำเภอที่มาหาซื้อชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเพื่อนำไปจำหน่ายต่อที่ร้าน เพราะทางร้านจะเน้นขายทั้งส่งและปลีก พร้อมจัดโปรโมชั่น ซื้อ 20 ชุด ฟรี 1 ชุด ทั้งนี้ส่วนใหญ่ลูกค้านิยมชุดสังฆทานราคาย่อมเยาชุดละ 100 กว่าบาท ทางร้านจึงซื้อสินค้าจัดบรรจุเป็นชุดขายเองในราคาชุดละ 199 บาท ซึ่งจะได้ของมีคุณภาพตรงความต้องการของลูกค้า
นาง
ธนาพร กล่าวอีกว่า สำหรับของที่นำมาใส่ในชุดสังฆทาน มีทั้งของใช้ ประเภท ขันน้ำ จาน ผ้าอาบน้ำฝน น้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ น้ำยาล้างจาน ฟองน้ำและมียาสามัญประจำบ้าน และยังนิยมเอาเครื่องนำทางสมัยก่อน ซึ่งประกอบด้วย ยาสามัญประจำบ้าน กระดาษชำระ ข้าวสาร น้ำตาล เกลือ และน้ำ มาจัดชุดขาย โดยลูกค้านิยมนำไปใช้เป็นเครื่องสังฆทานได้ถวายทั่วไป เพราะข้าวสาร น้ำตาล เกลือ ปกติที่วัดก็ต้องใช้อยู่แล้ว ทำให้ขายได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถใช้ได้จริงและราคาย่อมเยา นอกจากนั้นก็จะมีชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมที่สั่งจากบริษัทในราคาชุดละ 200 กว่าบาท และ 300 กว่าบาท แต่ลูกค้านิยมชุด 100 กว่าบาทมากกว่า เพราะประหยัดกว่าและมั่นใจในคุณภาพ ขณะที่หน่วยงานราชการต่างๆจะออเดอร์ให้ทางร้านจัดทำเป็นถาดขนาดใหญ่ขึ้น ระบุสิ่งของมาให้ทางร้านจัดให้
ด้านนาย
สมรัฐ ปิยรัฐ เจ้าของร้านเพ็ญพรรณ ถนนท่ากลาง ภายในเขตเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ปีนี้บรรยากาศจำหน่ายชุดสังฆทานค่อนข้างจะเงียบเหงามากกว่าปีที่ผ่านๆมา ยอดขายไม่ได้กระเตื้องขึ้น มีแต่จะตกลงเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจไม่ดี คนประหยัดกันมาก ส่วนราคาขายก็เท่าเดิมเหมือนทุกปี ไม่เคยปรับราคาขึ้น เน้นขายแต่สินค้าที่จัดชุดเอง เพราะลูกค้าจะถามและเน้นซื้อที่ร้านจัดเองเท่านั้น เพราะได้สินค้าคุณภาพและราคาถูก โดยจำหน่าย 2 ราคาเท่านั้น คือชุดละ 199 บาท และชุดละ 299 บาท แต่ชุด 299 บาทจะขายยาก เพราะคนเน้นซื้อ 199 บาท ถูกกว่า นอกจากนั้นทุกร้านจะมีการปิดป้ายแสดงราคาชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
‘ชัยธวัช’ระบุเร่งชงนิรโทษกรรมคดี 112 ตอนนี้อาจสะดุดไปต่อไม่ได้อีก
https://www.dailynews.co.th/news/3199724
'ชัยธวัช' ระบุเร่งชงนิรโทษกรรมคดี ม.112 ตอนนี้ อาจเป็นอุปสรรคให้ไปต่อไม่ได้เลย ชี้ความขัดแย้งในไทยยังไม่จบ เน้นทำความเข้าใจสังคม ก่อนออกแบบข้อตกลงร่วมกัน
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา นาย
ชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรากฎหมายนิรโทษกรรม โดยระบุว่า วันนี้วาระหลักคือให้พูดถึงเป้าหมายในการนิรโทษกรรม ที่เราวางแผนพิจารณาคืออะไร ทำไปเพื่ออะไร จึงให้คณะกรรมาธิการทุกคน ได้นำเสนอข้อเสนอของตัวเอง ว่าการนิรโทษกรรมครั้งนี้ จะต่างจากการศึกษาเรื่องความปรองดองเกือบทุกชุด ยกเว้นชุดในสมัยรัฐบาลที่แล้ว
นาย
ชัยธวัช กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้การศึกษาข้อเสนอนิรโทษกรรมนั้น สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ไม่เหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงได้เสนอว่า ครั้งนี้จะต้องไม่พิจารณาแค่นิรโทษกรรมอย่างเดียว แต่ให้มองภาพรวมการสร้างความสมานฉันท์ในการเมืองด้วย โดยมีนิรโทษกรรมทางการเมืองเป็นหนึ่งในนั้น และในสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่ยุติ เป้าหมายควรเพื่อที่จะหยุดการขยายความขัดแย้ง เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือความรุนแรงที่มากขึ้นในอนาคต และหาข้อตกลงที่ยอมรับร่วมกันได้
นาย
ชัยธวัช กล่าวต่อว่า การพิจารณาเรื่องความสมานฉันท์ ไม่ได้มีนิรโทษกรรมอย่างเดียว กระบวนการทำให้คู่ขัดแย้งทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ลดความหวาดระแวง สร้างการมีส่วนร่วม อาจเป็นเงื่อนไขที่ต้องทำให้เกิดขึ้นก่อนจะทำนิรโทษกรรมก็ได้ ย้ำว่า ต้องมีทุกเรื่อง และเป็นหลักคิดสำคัญที่ตนเองนำเสนอไว้
ส่วนความเห็นของพรรคการเมืองที่มีจุดยืนในเรื่องมาตรา 112 และการทุจริตแตกต่างกันนั้น นาย
ชัยธวัช กล่าวว่า ความเห็นเรื่องทุจริตคงไม่เห็นต่างกัน แต่เรื่องมาตรา 112 อาจเห็นต่างบ้าง จึงเป็นวาระที่ให้นำเสนอเป้าหมายก่อน ว่าเป็นอย่างไร จึงค่อยมาถกกันว่าการออกแบบนี้จะตอบโจทย์หรือไม่ หากรวมมาตรา 112 ไปแล้ว อาจเป็นอุปสรรคว่าทำนิรโทษกรรมไม่ได้เลย แต่ถ้าไม่รวม อาจไม่ตอบโจทย์การหยุดความขัดแย้งในปัจจุบัน และแนวโน้ม กมธ. อาจไม่สรุปแค่ตัวเลือกเดียว อาจทำตัวเลือกหลายแนวทาง เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย เราต้องพิจารณากว้างกว่านั้น ไม่เหมือนในต่างประเทศที่เหตุการณ์จบไปแล้ว แต่ตอนนี้ความขัดแย้งยังดำเนินอยู่ ซึ่งในบางกรณีที่เห็นต่างกัน อาจวางเงื่อนไขก่อน เพื่อทำความเข้าใจ และนำไปสู่การนิรโทษกรรม
เมื่อถามถึงการดำเนินการของพรรคก้าวไกล ในกรณีที่ผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองอดอาหารเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคยังไม่สามารถเกี่ยวข้องได้ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แต่พรรคก็เป็นห่วง ซึ่งหากเราทำนิรโทษกรรมแล้วเว้นบางอย่างไว้ เพื่อให้ได้บางส่วนดีกว่า อาจจะไม่ตอบโจทย์ แต่เข้าใจว่า กว่าจะถึงจุดนั้นก็อาจนำไปสู่ความขัดแย้งอีกในอนาคต.
“พิธา” เตือนสติสภาฯ ฉายภาพความล่าช้า พ.ร.ก.ประมง ชาวประมงถูกกฎหมายอำนาจนิยมกดขี่
https://www.matichon.co.th/clips/news_4438225
นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. ….. เตือนสติสภาฯ สะท้อนให้เห็นถึงความล่าช้าการทำงานทำให้ชาวประมงไทยได้รับความเดือดร้อนจากกฎหมายอำนาจนิยมที่มากดขี่ยาวนานกว่า 10 ปี ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
JJNY : พิษศก.กระทบยอดขายชุดสังฆทาน│‘ชัยธวัช’ระบุเร่งชงนิรโทษ 112 อาจสะดุด│“พิธา”เตือนสติสภาฯ│ไบเดนพบ‘เมีย-ลูก’นาวัลนี
https://www.matichon.co.th/region/news_4438793
บรรยากาศขายชุดสังฆทาน-ชุดไทยธรรมจ.ตรังค่อนข้างเงียบเหงา เหตุเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนประหยัดมากขึ้น โดยทางร้านเน้นจัดชุดสังฆทานเองในราคาที่ลูกค้านิยมเพียงหลักร้อย ได้สินค้าที่มีคุณภาพ-ราคาถูก
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ตรัง ถึงบรรยากาศก่อนวันวันมาฆบูชาในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นวันหยุด ที่พุทธศาสนิกชนจะเดินทางเข้าวัดธรรมบุญเป็นจำนวนมาก โดยบรรยากาศการจำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม ในเทศกาลวันมาฆบูชาประจำปี 2567 นี้ ที่จ.ตรัง พบว่า บรรยากาศค่อนข้างจะเงียบเหงา ทั้งร้านขนาดใหญ่และร้านขนาดเล็ก ต่างบอกว่าบรรยากาศไม่คึกคักเท่าที่ควร ลูกค้าที่มาซื้อจะเน้นสินค้าราคาประหยัดแต่มีคุณภาพ
โดยที่ร้านชัยรุ่งเรืองพาณิชย์ ถนนกันตัง เขตเทศบาลนครตรัง นางธนาพร เรืองวิทยาวงศ์ เจ้าของร้าน กล่าวว่า 1-2 วันนี้ ก่อนวันมาฆบูชา ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าจากต่างตำบล และต่างอำเภอที่มาหาซื้อชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเพื่อนำไปจำหน่ายต่อที่ร้าน เพราะทางร้านจะเน้นขายทั้งส่งและปลีก พร้อมจัดโปรโมชั่น ซื้อ 20 ชุด ฟรี 1 ชุด ทั้งนี้ส่วนใหญ่ลูกค้านิยมชุดสังฆทานราคาย่อมเยาชุดละ 100 กว่าบาท ทางร้านจึงซื้อสินค้าจัดบรรจุเป็นชุดขายเองในราคาชุดละ 199 บาท ซึ่งจะได้ของมีคุณภาพตรงความต้องการของลูกค้า
นางธนาพร กล่าวอีกว่า สำหรับของที่นำมาใส่ในชุดสังฆทาน มีทั้งของใช้ ประเภท ขันน้ำ จาน ผ้าอาบน้ำฝน น้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ น้ำยาล้างจาน ฟองน้ำและมียาสามัญประจำบ้าน และยังนิยมเอาเครื่องนำทางสมัยก่อน ซึ่งประกอบด้วย ยาสามัญประจำบ้าน กระดาษชำระ ข้าวสาร น้ำตาล เกลือ และน้ำ มาจัดชุดขาย โดยลูกค้านิยมนำไปใช้เป็นเครื่องสังฆทานได้ถวายทั่วไป เพราะข้าวสาร น้ำตาล เกลือ ปกติที่วัดก็ต้องใช้อยู่แล้ว ทำให้ขายได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถใช้ได้จริงและราคาย่อมเยา นอกจากนั้นก็จะมีชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมที่สั่งจากบริษัทในราคาชุดละ 200 กว่าบาท และ 300 กว่าบาท แต่ลูกค้านิยมชุด 100 กว่าบาทมากกว่า เพราะประหยัดกว่าและมั่นใจในคุณภาพ ขณะที่หน่วยงานราชการต่างๆจะออเดอร์ให้ทางร้านจัดทำเป็นถาดขนาดใหญ่ขึ้น ระบุสิ่งของมาให้ทางร้านจัดให้
ด้านนายสมรัฐ ปิยรัฐ เจ้าของร้านเพ็ญพรรณ ถนนท่ากลาง ภายในเขตเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ปีนี้บรรยากาศจำหน่ายชุดสังฆทานค่อนข้างจะเงียบเหงามากกว่าปีที่ผ่านๆมา ยอดขายไม่ได้กระเตื้องขึ้น มีแต่จะตกลงเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจไม่ดี คนประหยัดกันมาก ส่วนราคาขายก็เท่าเดิมเหมือนทุกปี ไม่เคยปรับราคาขึ้น เน้นขายแต่สินค้าที่จัดชุดเอง เพราะลูกค้าจะถามและเน้นซื้อที่ร้านจัดเองเท่านั้น เพราะได้สินค้าคุณภาพและราคาถูก โดยจำหน่าย 2 ราคาเท่านั้น คือชุดละ 199 บาท และชุดละ 299 บาท แต่ชุด 299 บาทจะขายยาก เพราะคนเน้นซื้อ 199 บาท ถูกกว่า นอกจากนั้นทุกร้านจะมีการปิดป้ายแสดงราคาชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
‘ชัยธวัช’ระบุเร่งชงนิรโทษกรรมคดี 112 ตอนนี้อาจสะดุดไปต่อไม่ได้อีก
https://www.dailynews.co.th/news/3199724
'ชัยธวัช' ระบุเร่งชงนิรโทษกรรมคดี ม.112 ตอนนี้ อาจเป็นอุปสรรคให้ไปต่อไม่ได้เลย ชี้ความขัดแย้งในไทยยังไม่จบ เน้นทำความเข้าใจสังคม ก่อนออกแบบข้อตกลงร่วมกัน
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรากฎหมายนิรโทษกรรม โดยระบุว่า วันนี้วาระหลักคือให้พูดถึงเป้าหมายในการนิรโทษกรรม ที่เราวางแผนพิจารณาคืออะไร ทำไปเพื่ออะไร จึงให้คณะกรรมาธิการทุกคน ได้นำเสนอข้อเสนอของตัวเอง ว่าการนิรโทษกรรมครั้งนี้ จะต่างจากการศึกษาเรื่องความปรองดองเกือบทุกชุด ยกเว้นชุดในสมัยรัฐบาลที่แล้ว
นายชัยธวัช กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้การศึกษาข้อเสนอนิรโทษกรรมนั้น สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ไม่เหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงได้เสนอว่า ครั้งนี้จะต้องไม่พิจารณาแค่นิรโทษกรรมอย่างเดียว แต่ให้มองภาพรวมการสร้างความสมานฉันท์ในการเมืองด้วย โดยมีนิรโทษกรรมทางการเมืองเป็นหนึ่งในนั้น และในสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่ยุติ เป้าหมายควรเพื่อที่จะหยุดการขยายความขัดแย้ง เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือความรุนแรงที่มากขึ้นในอนาคต และหาข้อตกลงที่ยอมรับร่วมกันได้
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า การพิจารณาเรื่องความสมานฉันท์ ไม่ได้มีนิรโทษกรรมอย่างเดียว กระบวนการทำให้คู่ขัดแย้งทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ลดความหวาดระแวง สร้างการมีส่วนร่วม อาจเป็นเงื่อนไขที่ต้องทำให้เกิดขึ้นก่อนจะทำนิรโทษกรรมก็ได้ ย้ำว่า ต้องมีทุกเรื่อง และเป็นหลักคิดสำคัญที่ตนเองนำเสนอไว้
ส่วนความเห็นของพรรคการเมืองที่มีจุดยืนในเรื่องมาตรา 112 และการทุจริตแตกต่างกันนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ความเห็นเรื่องทุจริตคงไม่เห็นต่างกัน แต่เรื่องมาตรา 112 อาจเห็นต่างบ้าง จึงเป็นวาระที่ให้นำเสนอเป้าหมายก่อน ว่าเป็นอย่างไร จึงค่อยมาถกกันว่าการออกแบบนี้จะตอบโจทย์หรือไม่ หากรวมมาตรา 112 ไปแล้ว อาจเป็นอุปสรรคว่าทำนิรโทษกรรมไม่ได้เลย แต่ถ้าไม่รวม อาจไม่ตอบโจทย์การหยุดความขัดแย้งในปัจจุบัน และแนวโน้ม กมธ. อาจไม่สรุปแค่ตัวเลือกเดียว อาจทำตัวเลือกหลายแนวทาง เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย เราต้องพิจารณากว้างกว่านั้น ไม่เหมือนในต่างประเทศที่เหตุการณ์จบไปแล้ว แต่ตอนนี้ความขัดแย้งยังดำเนินอยู่ ซึ่งในบางกรณีที่เห็นต่างกัน อาจวางเงื่อนไขก่อน เพื่อทำความเข้าใจ และนำไปสู่การนิรโทษกรรม
เมื่อถามถึงการดำเนินการของพรรคก้าวไกล ในกรณีที่ผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองอดอาหารเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคยังไม่สามารถเกี่ยวข้องได้ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แต่พรรคก็เป็นห่วง ซึ่งหากเราทำนิรโทษกรรมแล้วเว้นบางอย่างไว้ เพื่อให้ได้บางส่วนดีกว่า อาจจะไม่ตอบโจทย์ แต่เข้าใจว่า กว่าจะถึงจุดนั้นก็อาจนำไปสู่ความขัดแย้งอีกในอนาคต.
“พิธา” เตือนสติสภาฯ ฉายภาพความล่าช้า พ.ร.ก.ประมง ชาวประมงถูกกฎหมายอำนาจนิยมกดขี่
https://www.matichon.co.th/clips/news_4438225
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. ….. เตือนสติสภาฯ สะท้อนให้เห็นถึงความล่าช้าการทำงานทำให้ชาวประมงไทยได้รับความเดือดร้อนจากกฎหมายอำนาจนิยมที่มากดขี่ยาวนานกว่า 10 ปี ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้