อุ๊งอิ๊ง หนุน กม.สุราก้าวหน้า หากไม่ผ่านวันนี้ สมัยหน้ารัฐบาล พท.ต้องผ่าน ‘ทักษิณ’ ทวีตตอบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3651346
‘อิ๊ง’ ทวีต พท.หนุน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าผ่านแน่ ลั่นหากไม่ผ่านวันนี้ สมัยหน้ารัฐบาล พท.ต้องผ่าน ‘ทักษิณ’ ตอบ การผูกขาดไม่ทำเกิด ศก.สร้างสรรค์
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน น.ส.
แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวถึงกรณีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สรรพสามิต (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) เรายืนยันที่จะสนับสนุน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ให้ผ่านสภาในวันนี้ให้ได้ แม้ว่าเมื่อวานนี้ (1 พฤศจิกายน) คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะแก้กฎกระทรวงเรื่องใบอนุญาตการผลิตสุรา ให้สุราชุมชนขายได้ แต่การแก้กฎกระทรวงของ ครม.มีรายละเอียดซ่อนไว้และไม่ได้ปลดล็อกจริง ยังทำธุรกิจสุราไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ การแก้กฎกระทรวงนั้น แก้เมื่อไรก็ได้และแก้คืนเมื่อไรก็ได้เช่นกัน หากถอดบทเรียนสมัยไทยรักไทยที่เคยทำนโยบายสุราเสรี เมื่อถูกรัฐประหารสุราเสรีก็หายไป
น.ส.
แพทองธาร ระบุต่อว่า วันนี้จึงจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องผลักให้เป็นกฎหมายสุราก้าวหน้าผ่านสภาให้ได้ เพื่อรับรองว่ากฎหมายนี้จะอยู่กับประชาชน ใครจะแก้คืนก็ต้องกลับมาแก้ในสภาเท่านั้น เราเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย เรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมสุราที่ดีทั้งวิธีการทำและวัตถุดิบที่ดี เรามีพืชผลมากมายที่พร้อมผลิตสุรา สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างซอฟต์เพาเวอร์ต่อโลกและนำเงินกลับเข้ามาให้พี่น้องได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าอย่างไร พรรค พท.จะผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ หากวันนี้ไม่ผ่าน สุราเสรีไม่เกิดขึ้น แต่สมัยหน้ารัฐบาล พท.ต้องผ่าน
โดยหลังจากที่ น.ส.
แพทองธารทวีตเสร็จ นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มาทวีตตอบข้อความว่า
การผูกขาดใดๆ จะทำให้ปิดโอกาสแก่คนในสังคมโดยเฉพาะคนชั้นกลางที่จะเติบโตได้และไม่ให้โอกาสกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy
“ปชป.” เดินหน้าชน จวก กมธ.ลักไก่ ไม่แก้กม.กัญชาตามข้อเสนอพรรค-แพทย์ ชี้ใช้เสียงมากดัน ลงมติคว่ำแน่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3651263
เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำโดยนาย
สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง, นพ.
บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง, นาย
ประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช, นาย
พิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และน.ส.
พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว ว่า เป็นที่น่าเสียใจที่กมธ.ไม่ได้แก้ไขตามที่มีข้อเสนอแม้แต่ข้อเดียว โดยพรรค ปชป. เสนอ 13 ข้อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอ 5 ข้อ และจากแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติดที่เสนอให้ทบทวนเป็นรายมาตรา อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่มีการถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไป ทราบว่าทางกมธ.ได้เรียกประชุม 2-3 ครั้งเท่านั้น และมีสมาชิกพยายามทักท้วงให้หยิบข้อเสนอต่างๆ ขึ้นมาพิจารณา แต่ก็มีกมธ.ไม่สนใจรับฟังข้อเสนอหรือแม้แต่จะหยิบยกข้อกังวลที่สังคมเป็นห่วงขึ้นมาพิจารณา
นาย
สาทิตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อเสนอของพรรคปชป.นั้น ยกตัวอย่างเช่น ให้ทบทวนว่ากัญชาเป็นยาเสพติดหรือไม่ แก้ไขคำนิยามคำว่าใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในครัวเรือน รวมถึงไม่ควรกำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำหน้าที่ประสาน ส่งเสริมสนับสนุน พัฒนาสายพันธุ์ในการปลูกกัญชา เพราะขัดกับหน้าที่และอาจเกิดประโยชย์ทับซ้อน อย่างไรก็ตาม กฎหมายยังขาดมาตรการควบคุมการซื้อขายอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสูบกัญชา เป็นต้น
“เมื่อกรรมาธิการไม่แก้ไขเลย ก็จะเกิดการอภิปรายมากมาย หากยืนยันโดยเสียงข้างมากก็ดี ด้วยกมธ.ก็ดี คิดว่าก็จะเกิดความโกลาหล เพราะกฎหมายจะออกมาโดยขาดความรอบคอบโดยสิ้นเชิง และจำเป็นที่ประชาธิปัตย์จะต้องพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประชาชน โดยการลงมติไม่รับกฎหมายดังกล่าว” นาย
สาทิตย์ กล่าว
นาย
สาทิตย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ต่างประเทศเรียกประเทศไทยว่าเป็นเมืองหลวงกัญชาของโลก นอกเหนือจากยุโรปไปแล้ว เขาเข้าใจว่าเราเป็นกัญชาเสรี ซึ่งตรงกันข้ามกับที่นาย
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าไว้ว่าขณะนี้เป็นการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ สถานการณ์กัญชาเป็นสิ่งที่สังคมไทยไม่พึงประสงค์ ขอให้นำกัญชากลับมาอยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท5 ส่วนกรณีที่มีคนในพรรคภูมิใจไทยออกมาระบุว่าไม่สามารถนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดได้แล้ว เนื่องจากในประมวลกฎหมายยาเสพติดได้ถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้วนั้น ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เพราะประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 29 กำหนดเพียงว่าการปลดล็อคกัญชาให้เป็นไปตามคำประกาศของกระทรวงสาธารณสุข
“
ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้นายอนุทินทบทวนนำกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติด เพื่อไม่ให้ไทยเป็นสังคมอุดมยาเสพติด ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นเรื่องสังคมล้วนๆ และพรรคประชาธิปัตย์ก็อ่านกฎหมายครบถ้วน ไม่ได้เป็นลักษณะไม่อ่านกฎหมายแล้วออกมาค้าน เพราะต้องการได้เสียงอย่างแน่นอน” นาย
สาทิตย์ กล่าว
ด้านนาย
พิสิฐ กล่าวว่า การปลดล็อคกัญชาจะทำให้ลูกหลานของพวกเราติดกัญชาโดยไม่รู้ตัว พ่อแม่ผู้ปกครองจะเป็นห่วงว่าลูกหลานจะไปเมากัญชาที่ไหน จากนี้ไปประเทศไทยจะถูกตราหน้าว่าเป็นแดนกัญชา ส่งออกสินค้าชนิดจะโดนตรวจอย่างละเอียดเพราะกลัวว่าเราจะซุกซ่อนกัญชา ทำให้เดือดร้อนกันไปทั่ว คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศก็จะโดนตรวจโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ดังนั้น ไม่ควรทำให้เกิดกัญชาเสรีเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ส.อ.ท. โอดธุรกิจจมน้ำ วอนรัฐลดหย่อนภาษี -พักชำระหนี้ 6 เดือน ขอซอฟต์โลนดอก1%
https://www.matichon.co.th/economy/news_3651185
ส.อ.ท. โอดธุรกิจจมน้ำ วอนรัฐลดหย่อนภาษี -พักชำระหนี้ 6 เดือน ขอซอฟต์โลนดอก1%
วันที่ 2 พ.ย. นาย
มนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 22 ในเดือนตุลาคม 2565 ภายใต้หัวข้อ “
มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ” พบว่า จากผลกระทบของปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ มีความกังวลต่อสถานการณ์น้ำและผลกระทบจากอุทกภัยในปี 2565 ในระดับปานกลาง และมองว่า การที่ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานในการจัดการน้ำเชิงพื้นที่ไม่เพียงพอ เช่น อ่างเก็บน้ำ ฟลัดเวย์ ประตูระบายน้ำ เป็นต้น ประกอบกับการบริหารจัดการน้ำและการระบายน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาอุทกภัยและน้ำท่วมซ้ำซากในหลายพื้นที่จนส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและทำให้ภาคธุรกิจได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม
ผู้บริหาร ส.อ.ท. จึงเสนอขอให้ภาครัฐมีการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยขอให้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ เช่น ฟลัดเวย์ โครงการแก้มลิง อ่างเก็บน้ำ เขื่อน เป็นต้น รวมทั้งมีการบูรณาการปรับปรุงผังเมือง ผังน้ำทั่วประเทศ และแก้ปัญหาสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยในอนาคตและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
ในส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี 2565 ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ อยากให้ภาครัฐออกมาตรการให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์และเครื่องจักรไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 100% รวมทั้งออกมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการจากอุทกภัย โดยอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1% และมีการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทั้งนี้ในปี 2566 ผู้บริหาร ส.อ.ท. มีความกังวลต่อความเสี่ยงในการเกิดปัญหาอุทกภัยมากกว่าปัญหาน้ำแล้ง ซึ่งทั้ง 2 ปัญหา เป็นการบ้านที่สำคัญของรัฐบาลที่จะต้องเร่งเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ทั้งอุทกภัยและน้ำแล้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 176 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 22 จำนวน 5 คำถาม ดังนี้
1. ความกังวลต่อสถานการณ์น้ำ และอุทกภัยในปี 2565 (Single choice)
อันดับที่ 1 : ปานกลาง 53.4%
อันดับที่ 2 : มาก 28.4%
อันดับที่ 3 : น้อย 18.2%
2. ปัญหาอุทกภัยและน้ำท่วมซ้ำซากในประเทศไทยเกิดจากสาเหตุใด (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : โครงสร้างพื้นฐานในการจัดการน้ำเชิงพื้นที่ไม่เพียงพอ 73.9%
เช่น อ่างเก็บน้ำ ฟลัดเวย์ ประตูระบายน้ำ เป็นต้น
อันดับที่ 2 : การบริหารจัดการน้ำ และการระบายน้ำยังไม่มีประสิทธิภาพ 72.7%
อันดับที่ 3 : ขาดการขุดลอกคูคลอง ขยะอุดตันท่อระบายน้ำ และสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ 59.7%
อันดับที่ 4 : การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน 53.4%
ทำให้เกิดภัยธรรมชาติมีความถี่และมีความรุนแรงมากขึ้น
3. ภาครัฐควรบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพในระยะยาวอย่างไร (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ 81.3%
เช่น ฟลัดเวย์ โครงการแก้มลิง อ่างเก็บน้ำ เขื่อน เป็นต้น
อันดับที่ 2 : บูรณาการปรับปรุงผังเมือง ผังน้ำทั่วประเทศ 76.1%
และแก้ปัญหาสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำอย่างเป็นระบบ
อันดับที่ 3 : ฟื้นฟูป่าต้นน้ำและส่งเสริมการปลูกป่า เพื่อเป็นแหล่งในการดูดซับและชะลอน้ำ 51.7%
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าใช้เอง
อันดับที่ 4 : จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำและขับเคลื่อนแผนงาน/แผนปฏิบัติการในระดับลุ่มน้ำ 42.6%
ผ่านกลไกของคณะกรรมการลุ่มน้ำ
4. มาตรการที่มีความจำเป็นในการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์และเครื่องจักร 67.6%
ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 100%
อันดับที่ 2 : มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1% และการพักชำระหนี้ 65.9%
ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน
อันดับที่ 3 : รัฐตั้งกองทุนรับประกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ เพื่อให้ครอบคลุมกับ 48.3%
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจ
อันดับที่ 4 : สำนักงานประกันสังคมช่วยชดเชยค่าจ้างแรงงาน 50% ให้แก่ธุรกิจ 43.8%
ที่ได้รับผลกระทบ
5. ความกังวลต่อสถานการณ์อุทกภัยและภาวะน้ำแล้งในปี 2566 (Single choice)
อันดับที่ 1 : มีความกังวลต่อความเสี่ยงในการเกิดปัญหาอุทกภัย 47.7%
อันดับที่ 2 : มีความกังวลต่อความเสี่ยงในการเกิดปัญหาน้ำแล้ง 39.2%
อันดับที่ 3 : ไม่กังวล 13.1%
JJNY : อุ๊งอิ๊ง หนุน กม.สุราก้าวหน้า| “ปชป.”เดินหน้าชน จวกกมธ.ลักไก่| ส.อ.ท.โอดธุรกิจจมน้ำ |โสมใต้แจ้งเตือนภัยทางอากาศ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3651346
‘อิ๊ง’ ทวีต พท.หนุน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าผ่านแน่ ลั่นหากไม่ผ่านวันนี้ สมัยหน้ารัฐบาล พท.ต้องผ่าน ‘ทักษิณ’ ตอบ การผูกขาดไม่ทำเกิด ศก.สร้างสรรค์
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวถึงกรณีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สรรพสามิต (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) เรายืนยันที่จะสนับสนุน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ให้ผ่านสภาในวันนี้ให้ได้ แม้ว่าเมื่อวานนี้ (1 พฤศจิกายน) คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะแก้กฎกระทรวงเรื่องใบอนุญาตการผลิตสุรา ให้สุราชุมชนขายได้ แต่การแก้กฎกระทรวงของ ครม.มีรายละเอียดซ่อนไว้และไม่ได้ปลดล็อกจริง ยังทำธุรกิจสุราไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ การแก้กฎกระทรวงนั้น แก้เมื่อไรก็ได้และแก้คืนเมื่อไรก็ได้เช่นกัน หากถอดบทเรียนสมัยไทยรักไทยที่เคยทำนโยบายสุราเสรี เมื่อถูกรัฐประหารสุราเสรีก็หายไป
น.ส.แพทองธาร ระบุต่อว่า วันนี้จึงจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องผลักให้เป็นกฎหมายสุราก้าวหน้าผ่านสภาให้ได้ เพื่อรับรองว่ากฎหมายนี้จะอยู่กับประชาชน ใครจะแก้คืนก็ต้องกลับมาแก้ในสภาเท่านั้น เราเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย เรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมสุราที่ดีทั้งวิธีการทำและวัตถุดิบที่ดี เรามีพืชผลมากมายที่พร้อมผลิตสุรา สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างซอฟต์เพาเวอร์ต่อโลกและนำเงินกลับเข้ามาให้พี่น้องได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าอย่างไร พรรค พท.จะผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ หากวันนี้ไม่ผ่าน สุราเสรีไม่เกิดขึ้น แต่สมัยหน้ารัฐบาล พท.ต้องผ่าน
โดยหลังจากที่ น.ส.แพทองธารทวีตเสร็จ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มาทวีตตอบข้อความว่า
การผูกขาดใดๆ จะทำให้ปิดโอกาสแก่คนในสังคมโดยเฉพาะคนชั้นกลางที่จะเติบโตได้และไม่ให้โอกาสกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy
“ปชป.” เดินหน้าชน จวก กมธ.ลักไก่ ไม่แก้กม.กัญชาตามข้อเสนอพรรค-แพทย์ ชี้ใช้เสียงมากดัน ลงมติคว่ำแน่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3651263
เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำโดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง, นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง, นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และน.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว ว่า เป็นที่น่าเสียใจที่กมธ.ไม่ได้แก้ไขตามที่มีข้อเสนอแม้แต่ข้อเดียว โดยพรรค ปชป. เสนอ 13 ข้อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอ 5 ข้อ และจากแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติดที่เสนอให้ทบทวนเป็นรายมาตรา อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่มีการถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไป ทราบว่าทางกมธ.ได้เรียกประชุม 2-3 ครั้งเท่านั้น และมีสมาชิกพยายามทักท้วงให้หยิบข้อเสนอต่างๆ ขึ้นมาพิจารณา แต่ก็มีกมธ.ไม่สนใจรับฟังข้อเสนอหรือแม้แต่จะหยิบยกข้อกังวลที่สังคมเป็นห่วงขึ้นมาพิจารณา
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อเสนอของพรรคปชป.นั้น ยกตัวอย่างเช่น ให้ทบทวนว่ากัญชาเป็นยาเสพติดหรือไม่ แก้ไขคำนิยามคำว่าใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในครัวเรือน รวมถึงไม่ควรกำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำหน้าที่ประสาน ส่งเสริมสนับสนุน พัฒนาสายพันธุ์ในการปลูกกัญชา เพราะขัดกับหน้าที่และอาจเกิดประโยชย์ทับซ้อน อย่างไรก็ตาม กฎหมายยังขาดมาตรการควบคุมการซื้อขายอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสูบกัญชา เป็นต้น
“เมื่อกรรมาธิการไม่แก้ไขเลย ก็จะเกิดการอภิปรายมากมาย หากยืนยันโดยเสียงข้างมากก็ดี ด้วยกมธ.ก็ดี คิดว่าก็จะเกิดความโกลาหล เพราะกฎหมายจะออกมาโดยขาดความรอบคอบโดยสิ้นเชิง และจำเป็นที่ประชาธิปัตย์จะต้องพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประชาชน โดยการลงมติไม่รับกฎหมายดังกล่าว” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ต่างประเทศเรียกประเทศไทยว่าเป็นเมืองหลวงกัญชาของโลก นอกเหนือจากยุโรปไปแล้ว เขาเข้าใจว่าเราเป็นกัญชาเสรี ซึ่งตรงกันข้ามกับที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าไว้ว่าขณะนี้เป็นการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ สถานการณ์กัญชาเป็นสิ่งที่สังคมไทยไม่พึงประสงค์ ขอให้นำกัญชากลับมาอยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท5 ส่วนกรณีที่มีคนในพรรคภูมิใจไทยออกมาระบุว่าไม่สามารถนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดได้แล้ว เนื่องจากในประมวลกฎหมายยาเสพติดได้ถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้วนั้น ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เพราะประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 29 กำหนดเพียงว่าการปลดล็อคกัญชาให้เป็นไปตามคำประกาศของกระทรวงสาธารณสุข
“ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้นายอนุทินทบทวนนำกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติด เพื่อไม่ให้ไทยเป็นสังคมอุดมยาเสพติด ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นเรื่องสังคมล้วนๆ และพรรคประชาธิปัตย์ก็อ่านกฎหมายครบถ้วน ไม่ได้เป็นลักษณะไม่อ่านกฎหมายแล้วออกมาค้าน เพราะต้องการได้เสียงอย่างแน่นอน” นายสาทิตย์ กล่าว
ด้านนายพิสิฐ กล่าวว่า การปลดล็อคกัญชาจะทำให้ลูกหลานของพวกเราติดกัญชาโดยไม่รู้ตัว พ่อแม่ผู้ปกครองจะเป็นห่วงว่าลูกหลานจะไปเมากัญชาที่ไหน จากนี้ไปประเทศไทยจะถูกตราหน้าว่าเป็นแดนกัญชา ส่งออกสินค้าชนิดจะโดนตรวจอย่างละเอียดเพราะกลัวว่าเราจะซุกซ่อนกัญชา ทำให้เดือดร้อนกันไปทั่ว คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศก็จะโดนตรวจโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ดังนั้น ไม่ควรทำให้เกิดกัญชาเสรีเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ส.อ.ท. โอดธุรกิจจมน้ำ วอนรัฐลดหย่อนภาษี -พักชำระหนี้ 6 เดือน ขอซอฟต์โลนดอก1%
https://www.matichon.co.th/economy/news_3651185
ส.อ.ท. โอดธุรกิจจมน้ำ วอนรัฐลดหย่อนภาษี -พักชำระหนี้ 6 เดือน ขอซอฟต์โลนดอก1%
วันที่ 2 พ.ย. นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 22 ในเดือนตุลาคม 2565 ภายใต้หัวข้อ “มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ” พบว่า จากผลกระทบของปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ มีความกังวลต่อสถานการณ์น้ำและผลกระทบจากอุทกภัยในปี 2565 ในระดับปานกลาง และมองว่า การที่ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานในการจัดการน้ำเชิงพื้นที่ไม่เพียงพอ เช่น อ่างเก็บน้ำ ฟลัดเวย์ ประตูระบายน้ำ เป็นต้น ประกอบกับการบริหารจัดการน้ำและการระบายน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาอุทกภัยและน้ำท่วมซ้ำซากในหลายพื้นที่จนส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและทำให้ภาคธุรกิจได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม
ผู้บริหาร ส.อ.ท. จึงเสนอขอให้ภาครัฐมีการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยขอให้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ เช่น ฟลัดเวย์ โครงการแก้มลิง อ่างเก็บน้ำ เขื่อน เป็นต้น รวมทั้งมีการบูรณาการปรับปรุงผังเมือง ผังน้ำทั่วประเทศ และแก้ปัญหาสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยในอนาคตและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
ในส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี 2565 ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ อยากให้ภาครัฐออกมาตรการให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์และเครื่องจักรไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 100% รวมทั้งออกมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการจากอุทกภัย โดยอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1% และมีการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทั้งนี้ในปี 2566 ผู้บริหาร ส.อ.ท. มีความกังวลต่อความเสี่ยงในการเกิดปัญหาอุทกภัยมากกว่าปัญหาน้ำแล้ง ซึ่งทั้ง 2 ปัญหา เป็นการบ้านที่สำคัญของรัฐบาลที่จะต้องเร่งเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ทั้งอุทกภัยและน้ำแล้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 176 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 22 จำนวน 5 คำถาม ดังนี้
1. ความกังวลต่อสถานการณ์น้ำ และอุทกภัยในปี 2565 (Single choice)
อันดับที่ 1 : ปานกลาง 53.4%
อันดับที่ 2 : มาก 28.4%
อันดับที่ 3 : น้อย 18.2%
2. ปัญหาอุทกภัยและน้ำท่วมซ้ำซากในประเทศไทยเกิดจากสาเหตุใด (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : โครงสร้างพื้นฐานในการจัดการน้ำเชิงพื้นที่ไม่เพียงพอ 73.9%
เช่น อ่างเก็บน้ำ ฟลัดเวย์ ประตูระบายน้ำ เป็นต้น
อันดับที่ 2 : การบริหารจัดการน้ำ และการระบายน้ำยังไม่มีประสิทธิภาพ 72.7%
อันดับที่ 3 : ขาดการขุดลอกคูคลอง ขยะอุดตันท่อระบายน้ำ และสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ 59.7%
อันดับที่ 4 : การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน 53.4%
ทำให้เกิดภัยธรรมชาติมีความถี่และมีความรุนแรงมากขึ้น
3. ภาครัฐควรบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพในระยะยาวอย่างไร (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ 81.3%
เช่น ฟลัดเวย์ โครงการแก้มลิง อ่างเก็บน้ำ เขื่อน เป็นต้น
อันดับที่ 2 : บูรณาการปรับปรุงผังเมือง ผังน้ำทั่วประเทศ 76.1%
และแก้ปัญหาสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำอย่างเป็นระบบ
อันดับที่ 3 : ฟื้นฟูป่าต้นน้ำและส่งเสริมการปลูกป่า เพื่อเป็นแหล่งในการดูดซับและชะลอน้ำ 51.7%
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าใช้เอง
อันดับที่ 4 : จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำและขับเคลื่อนแผนงาน/แผนปฏิบัติการในระดับลุ่มน้ำ 42.6%
ผ่านกลไกของคณะกรรมการลุ่มน้ำ
4. มาตรการที่มีความจำเป็นในการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์และเครื่องจักร 67.6%
ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 100%
อันดับที่ 2 : มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1% และการพักชำระหนี้ 65.9%
ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน
อันดับที่ 3 : รัฐตั้งกองทุนรับประกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ เพื่อให้ครอบคลุมกับ 48.3%
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจ
อันดับที่ 4 : สำนักงานประกันสังคมช่วยชดเชยค่าจ้างแรงงาน 50% ให้แก่ธุรกิจ 43.8%
ที่ได้รับผลกระทบ
5. ความกังวลต่อสถานการณ์อุทกภัยและภาวะน้ำแล้งในปี 2566 (Single choice)
อันดับที่ 1 : มีความกังวลต่อความเสี่ยงในการเกิดปัญหาอุทกภัย 47.7%
อันดับที่ 2 : มีความกังวลต่อความเสี่ยงในการเกิดปัญหาน้ำแล้ง 39.2%
อันดับที่ 3 : ไม่กังวล 13.1%