‘จิราพร สินธุไพร’ โพสต์ไม่ใช่คนโดนใบแดง ยันอยู่เพื่อไทย ไม่เคยลงอบจ.ร้อยเอ็ด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3917303
 
‘จิราพร สินธุไพร’ โพสต์ไม่ใช่คนโดนใบแดง ยันอยู่เพื่อไทย ไม่เคยลงอบจ.ร้อยเอ็ด 
 
หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำสั่งวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของ นางจุรีพร สินธุไพร ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น  พ.ศ.2562 มาตรา 108 วรรคสอง และให้ดำเนินคดีอาญาแก่ นางจุรีพร สินธุไพร ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 65(1) ประกอบมาตรา 126 จากกรณีการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ร้อยเอ็ด ครั้งที่ผ่านมา โดยเสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดฯ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตน
 
ทั้งนี้ นางจุรีพร สินธุไพร ขณะสังกัดพรรคพลังประชารัฐ เคยตกเป็นข่าวกับนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ อีสาน กรณีโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนมาลงสมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.ร้อยเอ็ด สุดท้ายพ่ายให้กับนายเศกสิทธิ์ ไวยนิยมพงศ์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ต่อมา นางจุรีพร สินธุไพร ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 8 ในนามพรรคไทยสร้างไทย แข่งกับหลานสาวแท้ๆ เบียร์ ชญาภา สินธุไพร สังกัดพรรคเพื่อไทย เบอร์ 4 น้องสาวของน้ำ จิราพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 พรรคเพื่อไทย
 
ล่าสุด ( 7 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก จิราพร สินธุไพร – Jiraporn Sindhuprai ของน.ส.จิราพร สินธุไพร หรือน้ำ ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่า

“คนที่ถูก กกต.ฟันใบแดง ‘ไม่ใช่น้ำ’ น้ำชื่อ ‘จิ-รา-พร สินธุไพร’ อยู่ ‘เพื่อไทย’ ไม่เคยย้ายพรรค และไม่เคยลง นายก อบจ. ค่ะ”
 
https://www.facebook.com/j.sindhuprai/posts/pfbid0oS9EQbLe6tNHssR7CoNr34px6Gk2PhXtHgoVaTMnBW8q9yoEuNi2owEsGAvdxQycl
 

---

ชูวิทย์ เดินหน้าค้านกัญชา หลังศาลเพ่ง มีคำสั่งเลิกคุ้มครอง กรณีพรรคภูมิใจไทย
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7602446

ชูวิทย์ เดินหน้าค้านกัญชา หลังศาลเพ่ง มีคำสั่งสั่งเลิกคุ้มครอง กรณีพรรคภูมิใจไทย
 
เมื่อเวลา 19.15 น.วันนี้ 7 เมษายน 66 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จัดกิจกรรมรณรงค์ และสื่อให้เห็นถึงโทษของการใช้กัญชา ภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่ง เพิกถอน คำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณีพรรคภูมิใจไทยได้ยื่นคำร้องขอให้ คุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีไม่ให้นายชูวิทย์ กล่าวถึง นโยบายกัญชาเสรี ของพรรคภูมิใจไทย

ชูวิทย์ เดินหน้าค้านกัญชา หลังศาลเพ่ง มีคำสั่งสั่งเลิกคุ้มครอง กรณีพรรคภูมิใจไทย
 
เมื่อเวลา 19.15 น.วันนี้ 7 เมษายน 66 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จัดกิจกรรมรณรงค์ และสื่อให้เห็นถึงโทษของการใช้กัญชา ภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่ง เพิกถอน คำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณีพรรคภูมิใจไทยได้ยื่นคำร้องขอให้ คุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีไม่ให้นายชูวิทย์ กล่าวถึง นโยบายกัญชาเสรี ของพรรคภูมิใจไทย

ระหว่างการปราศรัย มีหญิงรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากคนในครอบครัวที่เสพติดกัญชา ได้นำป้ายข้อความมามอบให้นายชูวิทย์ ซึ่งนายชูวิทย์ ระบุว่า หญิงคนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกัญชาเสรี ยังมีอีกจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบและยังมีผู้ที่มาร้องเรียน กับตน ทั้งช่องทางออนไลน์ และ ตามจุดปราศรัย
 
นายชูวิทย์ยืนยันว่า การออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์ต่อต้านนโยบายกัญชา ไม่มีบุคคลใดเป็นเบื้องหลัง เป็นการทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และต่อสู้ในเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

แม้ระยะเวลาที่ผ่านมาจะมีบุคคลหยิบยกเอาประเด็นอื่นของตนมาพูดถึงเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น เช่น กรณีสวนชูวิทย์ และการรับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทุกเรื่องตนก็สามารถพิสูจน์ตัวเองมาได้ทั้งหมด
 
ทั้งนี้การที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงใกล้เลือกตั้ง ก็เห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่จะให้ ประชาชนที่จะทำให้ประชาชน ตัดสินใจได้ว่า ควรเลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้แทนราษฎรอีกหรือไม่

---

 
ตลาดบ้านหรู ซึมทุนสีเทา นายหน้าเหมา ‘คอนโดหรู’ บิ๊กล็อต ขายลูกค้าไต้หวัน ฮ่องกง จีน
https://www.matichon.co.th/economy/news_3917019
 
ตลาดบ้านหรู ซึมทุนสีเทา เอเยนต์ต่างชาติเหมา ‘คอนโดหรู’ บิ๊กล็อต ขายลูกค้าไต้หวัน ฮ่องกง จีน
 
เมื่อวันที่ 7 เมษายน นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสแรกของปี 2566 หลังจีนเปิดประเทศ ทำให้บรรยากาศคึกคักมากขึ้น
  
ล่าสุดโครงการคอนโดมิเนีย ไฮด์ สุขุมวิท 11 อยู่ระหว่างการเจรจาขายห้องล็อตสุดท้ายที่เหลือของโครงการให้กับเอเยนต์ไทยที่มีบริษัทตั้งอยู่ไนจากประเทศฮ่องกง โดยได้เหมาซื้อ จำนวน 70-80 ห้อง ราคาเฉลี่ย 7-10 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่า 600 ล้านบาท เพื่อไปทำการตลาดขายให้กับนักลงทุนชาวไต้หวัน ฮ่องกง และจีน
 
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า แนวโน้มกำลังซื้อต่างชาติจะกลับมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยมากขึ้นในช่วงไตรมาส 2 นี้ ซึ่งในไตรมาสแรกที่ผ่านมากำลังซื้อต่างชาติยังไม่กลับมามากนัก

โดยเฉพาะบ้านลักชัวรี่ ราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากลูกค้าต่างชาติยังมีความกังวลเรื่องกลุ่มทุนจีนสีเทา ทำให้ต่างชาติไม่ว่าจะทำธุริกิจสีขาวหรือสีเทาต้องถูกตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งตลาดเริ่มชะลอตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2565 จนถึงปัจจุบัน
 
“คงต้องรอในครึ่งปีหลัง คาดว่าต่างชาติน่าจะหายตกใจแล้ว แต่กำลังซื้อคนไทยยังมีต่อเนื่องสำหรับตลาดบ้านแพง ส่วนคอนโดมิเนียมถือว่าขายดีขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งลูกค้าต่างชาติยังมีความต้องการซื้อ ส่วนใหญ่เป็นจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง และซื้อในทำเลกลางเมืองและมีรถไฟฟ้าพาดผ่าน” นายวงศกรณ์กล่าว