เพื่อไทยอัด "ประยุทธ์" ทำลายฝัน คนจน-คนรุ่นใหม่
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_440192/
เพื่อไทยอัด “ประยุทธ์” ทำลายฝัน คนจน-คนรุ่นใหม่ หมดโอกาสเป็นเจ้าของที่ดินบ้านเกิด คนไร้บ้านพุ่ง อ้างกระตุ้นเศรษฐกิจ ถูกโจมดีว่าขายชาติ
นางสาว
จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางรัก และโฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มติครม. ล่าสุดที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติ เข้ามาซื้อที่ดินในประเทศไทยได้ในจำนวนไม่เกิน 1 ไร่ หากลงทุนตั้งแต่ 40 ล้านบาทขึ้นไป และต้องคงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปีในธุรกิจ สร้างความไม่พอใจ ให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะกฎหมายนี้จะส่งผลกระทบต่อชีวิต ความเป็นอยู่ ประชาชนในหลายมิติ โดยปัจจุบันในหลายพื้นที่มีชาวต่างชาติ ซื้อที่ดินในไทยแล้ว แต่ใช้คนไทยเป็นนอมินีใส่ชื่อแทนไว้ หากร่างกฎหมายนี้นำมาบังคับใช้ ราคาอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้มีรายได้น้อย และคนรุ่นใหม่ที่พยายามสร้างเนื้อสร้างตัว ไม่สามารถมีบ้านและที่ดินเป็นของตนเองได้
ซึ่งอนาคตคนไทยต้องเช่าที่บนแผ่นดินเกิดตัวเองจากชาวต่างชาติ ทุกวันนี้ ประชาชนก็ลำบากมากอยู่แล้ว กว่า 80% ยังไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง และจำนวนคนไร้บ้าน จะเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งในปัจจุบันคนไร้บ้านมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ในพื้นที่กลางเมืองหลวง อย่างเขตบางรัก พบเห็นคนนอนตามฟุตบาท มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก พ่อค้า แม่ค้าร้องเรียนกระทบภาพลักษณ์ประเทศไทย เวลานักท่องเที่ยวสัญจรทางเท้า รัฐบาลควรสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนสนใจมาลงทุนในไทย เร่งการจัดการเลือกตั้ง
โดยเร็ว อย่างโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้เลือกผู้นำเข้ามากอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ หากเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จะแก้กฎกระทรวง ว่าด้วยการอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินในประเทศไทย ลูกหลานไทยเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแผ่นดินเกิดที่รอเวลาถูกยึดครองโดยชาวต่างชาติ
ทั้งนี้รัฐบาลที่ดีจะมีนโยบายที่จะต้องสร้างรายได้ให้ประชาชนให้เพิ่มขึ้น ประชาชนจะได้มีเงินมาซื้อที่ดินเป็นของตัวเอง และทำให้ประชาชนเป็นเจ้าของที่ดินง่ายขึ้น มากกว่าจะคิดขายที่ดินให้กับต่างชาติในขณะที่คนส่วนมากยังไม่มีที่ดินของตัวเอง
ส.ส.เต้ จ่อร้อง ศาลปค. ระงับมติครม. ให้ต่างชาติซื้อที่ดิน ซัด ‘ตู่’ หมดปัญญาหาเงิน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7342911
เต้ มงคลกิตติ์ เตรียมนำผู้เสียหาย ร้องศาลปกครอง ขอยับยั้งมติครม. อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดิน อัด บิ๊กตู่ สิ้นไร้ไม้ตอก หมดปัญญาหาเงิน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 พ.ย.2565 ที่รัฐสภา นาย
มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงกรณีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินได้ว่า เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) ตนได้ยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบว่า มติดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 หรือไม่ เพื่อส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ มติดังกล่าวให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนหรือซื้อพันธบัตรในประเทศไทยได้ไม่น้อยกว่า 3 ปี เพราะรัฐบาลต้องการกู้เงินจากนักลงทุนต่างชาติ แลกเปลี่ยนกับการซื้อที่ดินในไทย ยกตัวอย่างเช่น กรุงเทพฯ มีที่ดิน 9.8 แสนไร่ สมมติเป็นพื้นที่ของราชการ 8 หมื่นไร่ จะเหลือที่ดินอีก 9 แสนไร่ หากมีชาวต่างชาติมาซื้อ 9 แสนคน คนละ 1 ไร่ ที่ดินจะเป็นของชาวต่างชาติทั้งหมด ส่วนคนกรุงเทพฯพื้นเพเดิม จะกลายเป็นแค่ผู้อาศัย
นาย
มงคลกิตติ์ กล่าวว่า มาตรา 1 ของรัฐธรรมนูญปี 60 ระบุว่าประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ แต่เรามีผู้นำที่สิ้นไร้ไม้ตอกและจนมุม ตนคิดว่าพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯคนปัจจุบัน ถ้าสิ้นสิ้นไรไม้ตอกขนาดนี้ ก็อยากให้ทำถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และส.ว. 250 คนที่ท่านแต่งตั้งมากับมือ ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 โดยเพิ่ม (2) ว่า ในกรณีผู้นำประเทศสิ้นไร้ไม้ตอก จนหมดปัญญาหาเงินมาดูแลประเทศให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้ จำเป็นต้องนำแผ่นดินของบรรพบุรุษไปแบ่งขายได้ เพื่อแลกกับเงินลงทุนของต่างประเทศ ก็สามารถขายที่ดินให้ชาวต่างชาติได้
นอกจากนี้ในวันที่ 4 พ.ย. ตนจะรวบรวมผู้เสียหายเบื้องต้นจำนวน 20 คน ไปยื่นต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ระงับยับยั้งมติครม. ให้คุ้มครองชั่วคราวมติครม.ดังกล่าว จนกว่ากว่าจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด จากนั้นตนจะทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อขออนุญาตรณรงค์ล่ารายชื่อประชาชนที่คัดค้านการขายที่ดินให้ต่างชาติ
‘ชวน’ ประชุมวิป 3 ฝ่าย ยันสภาไม่สะดุด เว้นแต่จะยุบ ส่วนญัตติ ม.152 ยื่น 14 พ.ย.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3649427
ประชุมวิป 3 ฝ่าย ‘ชวน’ ชี้การทำงานสภาไม่สะดุด เว้นแต่ยุบสภาก่อน เผยญัตติ ม.152 ยื่น 14 พ.ย.นี้ ส่วนแก้ รธน.ฉบับ ‘ธนาธร’ เข้าปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือนหน้า
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นาย
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประชุมร่วมกับวิป 3 ฝ่าย ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. อาทิ นาย
สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นาย
ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นาย
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นาย
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล และ นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว. โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 30 นาที
นายชวนกล่าวถึงผลการประชุมว่า วันนี้เป็นการนัดประชุมครั้งแรกของวิป 3 ฝ่าย เพื่อหารือสำหรับวาระการประชุมของสมัยประชุมนี้ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน-28 กุมภาพันธ์ ซึ่งในช่วง 120 วันต่อจากนี้ มีวันหยุดที่ตรงกับวันประชุมเพียงแค่วันที่ 16-18 พฤศจิกายน เนื่องจากเป็นการประชุมเอเปค จากนั้นก็ประชุมตลอด เว้นแต่ยุบสภาเสียก่อน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น เรื่องที่ค้างอยู่เป็นญัตติจำนวนมาก จึงได้หารือกับที่ประชุมว่ากรณีที่หน่วยงานมาชี้แจงเรื่องเพื่อทราบ ซึ่งเขามารอหลายครั้งก็ควรจะเกรงใจเขาบ้าง จึงขอความร่วมมือกันและตกลงกันว่าการประชุมในสัปดาห์นี้จะขอเสนอญัตติ 2 เรื่อง และจะใช้เวลาพิจารณาทั้งวัน สำหรับการประชุมสัปดาห์ถัดไปจะเป็นการพิจารณาเรื่องเพื่อทราบ และได้ขอให้ประชุมเลิกค่ำหน่อยเพื่อจะได้ไม่ต้องมาประชุมวันศุกร์บ่อยเกินไป นี่คือแนวการทำงานที่สภาสามารถทำได้ภายใน 120 วัน
นาย
ชวนกล่าวต่อว่า ญัตติที่จะมีการเสนอประมาณกลางเดือนนี้คือญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เบื้องต้นจะเป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน ส่วนจะพิจารณาวันไหนนั้น ได้ให้ไปหารือกันว่าแต่ละฝ่ายจะขอเวลาอภิปรายกี่วัน เพราะการอภิปรายครั้งนี้แต่ละฝ่ายมีสิทธิที่จะเสนอข้อเท็จจริงและให้ความเห็นได้ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เชื่อว่าทั้ง 2 ฝ่ายคงจะใช้เวลา จึงต้องหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติว่าแต่ละฝ่ายจะใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อจะได้นัดต่อไปว่าการอภิปรายจะเป็นช่วงใด คาดว่าน่าจะเป็นเดือนหน้า
นาย
ชวนกล่าวอีกว่า ส่วนระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภามี 4 เรื่อง เช่น ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่…) พ.ศ. … และการแก้ไขรัฐธรรมนูญของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ซึ่งจะสามารถพิจารณาได้ปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า
เมื่อถามว่าได้มีการกำชับหรือขอร้องให้สมาชิกให้ความร่วมมือไม่ให้มีการประชุมล่มอีกหรือไม่ นาย
ชวนกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของสมาชิกอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเตือน เนื่องจากรัฐบาลมีเสียงข้างมากก็ต้องนำเสียงมาให้ครบ และหน้าที่การประชุมสภาก็เป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ข้อสังเกตที่อยากให้ทุกคนได้เห็นคือบางทีองค์ประชุมครบ แต่ไม่กดแสดงตน จึงทำให้มีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่กำลังศึกษาว่าในอนาคตควรมีการแก้ไขอย่างไร
JJNY : เพื่อไทยอัด "ประยุทธ์" ทำลายฝัน |เต้จ่อร้องศาลปค.|‘ชวน’ประชุมวิป 3ฝ่าย ยันสภาไม่สะดุด | สรท. คาดปีนี้ส่งออกโต 8%
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_440192/
เพื่อไทยอัด “ประยุทธ์” ทำลายฝัน คนจน-คนรุ่นใหม่ หมดโอกาสเป็นเจ้าของที่ดินบ้านเกิด คนไร้บ้านพุ่ง อ้างกระตุ้นเศรษฐกิจ ถูกโจมดีว่าขายชาติ
นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางรัก และโฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มติครม. ล่าสุดที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติ เข้ามาซื้อที่ดินในประเทศไทยได้ในจำนวนไม่เกิน 1 ไร่ หากลงทุนตั้งแต่ 40 ล้านบาทขึ้นไป และต้องคงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปีในธุรกิจ สร้างความไม่พอใจ ให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะกฎหมายนี้จะส่งผลกระทบต่อชีวิต ความเป็นอยู่ ประชาชนในหลายมิติ โดยปัจจุบันในหลายพื้นที่มีชาวต่างชาติ ซื้อที่ดินในไทยแล้ว แต่ใช้คนไทยเป็นนอมินีใส่ชื่อแทนไว้ หากร่างกฎหมายนี้นำมาบังคับใช้ ราคาอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้มีรายได้น้อย และคนรุ่นใหม่ที่พยายามสร้างเนื้อสร้างตัว ไม่สามารถมีบ้านและที่ดินเป็นของตนเองได้
ซึ่งอนาคตคนไทยต้องเช่าที่บนแผ่นดินเกิดตัวเองจากชาวต่างชาติ ทุกวันนี้ ประชาชนก็ลำบากมากอยู่แล้ว กว่า 80% ยังไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง และจำนวนคนไร้บ้าน จะเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งในปัจจุบันคนไร้บ้านมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ในพื้นที่กลางเมืองหลวง อย่างเขตบางรัก พบเห็นคนนอนตามฟุตบาท มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก พ่อค้า แม่ค้าร้องเรียนกระทบภาพลักษณ์ประเทศไทย เวลานักท่องเที่ยวสัญจรทางเท้า รัฐบาลควรสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนสนใจมาลงทุนในไทย เร่งการจัดการเลือกตั้ง
โดยเร็ว อย่างโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้เลือกผู้นำเข้ามากอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ หากเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จะแก้กฎกระทรวง ว่าด้วยการอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินในประเทศไทย ลูกหลานไทยเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแผ่นดินเกิดที่รอเวลาถูกยึดครองโดยชาวต่างชาติ
ทั้งนี้รัฐบาลที่ดีจะมีนโยบายที่จะต้องสร้างรายได้ให้ประชาชนให้เพิ่มขึ้น ประชาชนจะได้มีเงินมาซื้อที่ดินเป็นของตัวเอง และทำให้ประชาชนเป็นเจ้าของที่ดินง่ายขึ้น มากกว่าจะคิดขายที่ดินให้กับต่างชาติในขณะที่คนส่วนมากยังไม่มีที่ดินของตัวเอง
ส.ส.เต้ จ่อร้อง ศาลปค. ระงับมติครม. ให้ต่างชาติซื้อที่ดิน ซัด ‘ตู่’ หมดปัญญาหาเงิน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7342911
เต้ มงคลกิตติ์ เตรียมนำผู้เสียหาย ร้องศาลปกครอง ขอยับยั้งมติครม. อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดิน อัด บิ๊กตู่ สิ้นไร้ไม้ตอก หมดปัญญาหาเงิน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 พ.ย.2565 ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงกรณีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินได้ว่า เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) ตนได้ยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบว่า มติดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 หรือไม่ เพื่อส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ มติดังกล่าวให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนหรือซื้อพันธบัตรในประเทศไทยได้ไม่น้อยกว่า 3 ปี เพราะรัฐบาลต้องการกู้เงินจากนักลงทุนต่างชาติ แลกเปลี่ยนกับการซื้อที่ดินในไทย ยกตัวอย่างเช่น กรุงเทพฯ มีที่ดิน 9.8 แสนไร่ สมมติเป็นพื้นที่ของราชการ 8 หมื่นไร่ จะเหลือที่ดินอีก 9 แสนไร่ หากมีชาวต่างชาติมาซื้อ 9 แสนคน คนละ 1 ไร่ ที่ดินจะเป็นของชาวต่างชาติทั้งหมด ส่วนคนกรุงเทพฯพื้นเพเดิม จะกลายเป็นแค่ผู้อาศัย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า มาตรา 1 ของรัฐธรรมนูญปี 60 ระบุว่าประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ แต่เรามีผู้นำที่สิ้นไร้ไม้ตอกและจนมุม ตนคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯคนปัจจุบัน ถ้าสิ้นสิ้นไรไม้ตอกขนาดนี้ ก็อยากให้ทำถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และส.ว. 250 คนที่ท่านแต่งตั้งมากับมือ ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 โดยเพิ่ม (2) ว่า ในกรณีผู้นำประเทศสิ้นไร้ไม้ตอก จนหมดปัญญาหาเงินมาดูแลประเทศให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้ จำเป็นต้องนำแผ่นดินของบรรพบุรุษไปแบ่งขายได้ เพื่อแลกกับเงินลงทุนของต่างประเทศ ก็สามารถขายที่ดินให้ชาวต่างชาติได้
นอกจากนี้ในวันที่ 4 พ.ย. ตนจะรวบรวมผู้เสียหายเบื้องต้นจำนวน 20 คน ไปยื่นต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ระงับยับยั้งมติครม. ให้คุ้มครองชั่วคราวมติครม.ดังกล่าว จนกว่ากว่าจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด จากนั้นตนจะทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อขออนุญาตรณรงค์ล่ารายชื่อประชาชนที่คัดค้านการขายที่ดินให้ต่างชาติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3649427
ประชุมวิป 3 ฝ่าย ‘ชวน’ ชี้การทำงานสภาไม่สะดุด เว้นแต่ยุบสภาก่อน เผยญัตติ ม.152 ยื่น 14 พ.ย.นี้ ส่วนแก้ รธน.ฉบับ ‘ธนาธร’ เข้าปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือนหน้า
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประชุมร่วมกับวิป 3 ฝ่าย ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. อาทิ นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล และ นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว. โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 30 นาที
นายชวนกล่าวถึงผลการประชุมว่า วันนี้เป็นการนัดประชุมครั้งแรกของวิป 3 ฝ่าย เพื่อหารือสำหรับวาระการประชุมของสมัยประชุมนี้ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน-28 กุมภาพันธ์ ซึ่งในช่วง 120 วันต่อจากนี้ มีวันหยุดที่ตรงกับวันประชุมเพียงแค่วันที่ 16-18 พฤศจิกายน เนื่องจากเป็นการประชุมเอเปค จากนั้นก็ประชุมตลอด เว้นแต่ยุบสภาเสียก่อน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น เรื่องที่ค้างอยู่เป็นญัตติจำนวนมาก จึงได้หารือกับที่ประชุมว่ากรณีที่หน่วยงานมาชี้แจงเรื่องเพื่อทราบ ซึ่งเขามารอหลายครั้งก็ควรจะเกรงใจเขาบ้าง จึงขอความร่วมมือกันและตกลงกันว่าการประชุมในสัปดาห์นี้จะขอเสนอญัตติ 2 เรื่อง และจะใช้เวลาพิจารณาทั้งวัน สำหรับการประชุมสัปดาห์ถัดไปจะเป็นการพิจารณาเรื่องเพื่อทราบ และได้ขอให้ประชุมเลิกค่ำหน่อยเพื่อจะได้ไม่ต้องมาประชุมวันศุกร์บ่อยเกินไป นี่คือแนวการทำงานที่สภาสามารถทำได้ภายใน 120 วัน
นายชวนกล่าวต่อว่า ญัตติที่จะมีการเสนอประมาณกลางเดือนนี้คือญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เบื้องต้นจะเป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน ส่วนจะพิจารณาวันไหนนั้น ได้ให้ไปหารือกันว่าแต่ละฝ่ายจะขอเวลาอภิปรายกี่วัน เพราะการอภิปรายครั้งนี้แต่ละฝ่ายมีสิทธิที่จะเสนอข้อเท็จจริงและให้ความเห็นได้ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เชื่อว่าทั้ง 2 ฝ่ายคงจะใช้เวลา จึงต้องหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติว่าแต่ละฝ่ายจะใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อจะได้นัดต่อไปว่าการอภิปรายจะเป็นช่วงใด คาดว่าน่าจะเป็นเดือนหน้า
นายชวนกล่าวอีกว่า ส่วนระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภามี 4 เรื่อง เช่น ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่…) พ.ศ. … และการแก้ไขรัฐธรรมนูญของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ซึ่งจะสามารถพิจารณาได้ปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า
เมื่อถามว่าได้มีการกำชับหรือขอร้องให้สมาชิกให้ความร่วมมือไม่ให้มีการประชุมล่มอีกหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของสมาชิกอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเตือน เนื่องจากรัฐบาลมีเสียงข้างมากก็ต้องนำเสียงมาให้ครบ และหน้าที่การประชุมสภาก็เป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ข้อสังเกตที่อยากให้ทุกคนได้เห็นคือบางทีองค์ประชุมครบ แต่ไม่กดแสดงตน จึงทำให้มีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่กำลังศึกษาว่าในอนาคตควรมีการแก้ไขอย่างไร