‘ธนาธร’ จี้ สภาฯโหวตผ่าน กม.สุราก้าวหน้า ทลาย 'ทุน' ผูกขาด เชื่อชี้ชะตาอนาคตเสียง ลต.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3649374
‘ธนาธร’ จี้ สภาฯ โหวตผ่าน กม.สุราก้าวหน้า ทลายทุนผูกขาด
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สรรพสามิตหรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่จะพิจารณาวาระสุดท้ายในสภาฯ วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ว่า ข้อจำกัดของกฎหมายเกี่ยวกับสุรา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาเศรษฐกิจไทย ที่อยู่ในระบบผูกขาด จนไม่นำมาซึ่งนวัตกรรม สินค้า และบริการ ที่จะทำให้ไทยแข่งขันกับต่างประเทศได้
ความพยายามแก้ไขกฎหมายสุราก้าวหน้า เป็นความพยายามมาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ต้องการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่คนตัวเล็กตัวน้อย ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร การสร้างนวัตกรรมในประเทศ ตลาดสุราในประเทศ
ในส่วนของธุรกิจเบียร์ มีผู้เล่นรายใหญ่รายเดียวมาตั้งแต่ พ.ศ. 2476 เช่นเดียวกับ เหล้าขาว มีผู้เล่นรายใหญ่รายเดียวตั้งแต่ 2528 ตลาดสุราไทยมีขนาดถึง 4 แสนล้านบาท ขอเพียงเกิดการนำเอาส่วนแบ่งทางการตลาด ที่ผูกขาดอยู่โดยกลุ่มทุนใหญ่ มาแบ่งให้ผู้ประกอบการรายย่อย ได้เพียง 25% จะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในหมู่เกษตรกร และผู้ประกอบการสุรารายย่อยเพิ่มขึ้นได้ถึง 1 แสนล้านบาท
นาย
ธนาธรกล่าวว่า ส.ส. จะอภิปรายอะไรไม่มีความหมาย สิ่งสำคัญกว่าคือจะโหวตอย่างไร ที่ผ่านมาเราเห็น ส.ส. หลายคนเวลาอภิปรายพูดอย่างหนึ่ง แต่ถึงเวลากลับโหวตอีกแบบหนึ่ง ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชน ได้ร่วมกันติดตามการลงคะแนนของผู้แทนทุกคนอย่างใกล้ชิด ไม่ว่ากฎหมายสุราก้าวหน้าจะผ่านหรือไม่
สิ่งที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้ทำสำเร็จไปแล้วคือการประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการผูกขาดทางเศรษฐกิจ เชื่อมั่นว่าในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอด 4 ปี ทั้งเรื่องของ ทรู-ดีแทค แม็คโคร-โลตัส การประมูลสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีในสนามบิน กรณีกลุ่มทุนโทรคมนาคม หากเป็นรัฐบาลพรรค ก.ก. จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
นี่คือจุดยืนที่ทั้งพรรค ก.ก. และคณะก้าวหน้า มีมาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งผลของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (2 พฤศจิกายน) น่าจะสามารถชี้ชะตาของพรรคการเมืองต่างๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ด้วย
ป.ป.ช. ส่งอัยการสูงสุด ฟ้อง ‘เอ๋-ชนม์สวัสดิ์’ อดีตนายก อบจ. ทุจริตเงินอุดหนุนวัด
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7342643
เลขาธิการป.ป.ช. คอนเฟิร์ม มติฟัน ‘เอ๋-ชนม์สวัสดิ์’ เมื่อครั้งนั่งนายกอบจ.สมุทรปราการ ทุจริตเงินอุดหนุนวัดกว่า 100 ล้าน จ่อส่งอัยการสูงสุด ฟ้องศาล
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2565 นาย
นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงข่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นาย
ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารจังหวัด (นายก อบจ.) สมุทรปราการ กับพวก กรณีทุจริตการจัดสรรเงินอุดหนุนแก่วัดในจ.สมุทรปราการ โดยมิชอบ ช่วงปี 2554-2556 จำนวนกว่า 20 โครงการ ในการบูรณะบำรุงวัด และเตาเผาศพ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาทว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้พิจารณาและมีมติดังกล่าวตามที่มีข่าวไปแล้วจริง
ขั้นตอนจากนี้คือ ต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงนามรับรองรายงานในสำนวนก่อนส่งไปยังอัยการสูงสุด พิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียดในคดีนั้น ตนไม่ทราบ จึงบอกรายละเอียดไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เห็นสำนวน
ชวน กรีดยับ แฉคนตั้งพรรคใหม่ล่าเหยื่อในปชป. เย้ยออกไปไม่รู้จะได้เป็นรมต.ไหม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3649430
‘ชวน’ กรีดยับ แฉคนไปตั้งพรรคใหม่ล่าเหยื่อในปชป. เย้ย คนที่ออกจากพรรคไปได้เป็นรัฐมนตรีทั้งนั้น ไม่รู้ไปพรรคอื่นจะได้เป็นหรือไม่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นาย
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นาย
ไตรรงค์ สุวรรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และส.ส.หลายสมัยลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า
เรื่องนี้นาย
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค ปชป. เคยพูดไปแล้วว่ามีคนไปตั้งพรรคใหม่แล้วก็ล่าเหยื่อ “ขอโทษครับ” ล่าเพื่อนๆ ในพรรค มีคนมาบอกผมว่ามีคนที่ออกไป แล้วมาชวนให้ออกจากพรรค บางคนก็ออก บางคนก็ไม่ออก ก็ต้องรอดูต่อไป เพราะยังมีเวลาอยู่ว่าจะออกไปและเข้ามากี่คน
เมื่อถามว่า การที่สมาชิกพรรค ปชป. ออกจากพรรคหลายคน มีความกังวลหรือไม่ว่าอาจจะกระทบกับพรรคได้ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ใครออกแต่ละคนก็มีศักยภาพทั้งนั้น ใครที่มาลาตน ตนก็เตือนเขาว่าอย่าลาออกเลย เพราะใครออกจากพรรคไปเท่าที่ดูมักจะมีปัญหาภายหลังทั้งนั้น ฉะนั้น ช่วงวิกฤตที่พรรคมีปัญหาไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนั้น ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันพรรคก็ไม่โดดเด่นมากนั้น ซึ่งจะเป็นการวัดคนเหมือนกัน เป็นช่วงหนึ่งและเป็นธรรมชาติของการวัดความหนักแน่น มั่นคงของคนเหมือนกัน แต่เราก็ไม่สามารถที่จะไปห้ามเขาได้
“ทุกคนที่มาบอกกล่าวผม ผมก็จะบอกกับทุกคนว่าไม่อยากให้ออกเพราะพรรคถือว่าทุกคนมีคุณภาพ ที่ออกไปส่วนใหญ่ได้เป็นรัฐมนตรีของพรรค เมื่อไปอยู่พรรคอื่นผมไม่แน่ใจว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งคนเหล่านี้พรรคถือว่ามีศักยภาพ พอออกไปพรรคก็สูญเสียคนที่มีศักยภาพไป แต่เรื่องความหนักแน่นของแต่ละคนก็แตกต่างไป แล้วแต่ละคนจะร่วมเป็นร่วมตายกับพรรคในยามรุ่งเรือง ในยามตกต่ำอย่างไร ก็ตามกันไป ผมก็เสียดายทุกคนที่ออกไป” นาย
ชวน กล่าว
เมื่อถามว่า หากมีสมาชิกพรรคออกไปอีก มองว่าจะส่งผลกระทบกับพรรคปชป.อย่างไร นาย
ชวน กล่าวว่า แน่นอนว่าต้องกระทบ ใครจะบอกว่าไม่กระทบนั้นไม่จริง แต่การหาคนมาร่วมกับพรรคการเมืองก็ไม่ใช่ของง่าย การที่ได้คนที่มีความมั่นคง บางทีไปทาบทามคนก็จะมีการถามว่าให้เท่าไร
ดังนั้น การที่จะได้คนที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินในยุคสมัยนี้เป็นเรื่องที่ยากขึ้น เพราะสมัยก่อนเรื่องนี้ไม่มี แต่สมัยนี้กลายเป็นเงื่อนไขหนึ่ง พูดง่ายๆ คือมีค่าตัวกัน ตนจึงต้องย้ำเรื่องบ้านเมืองสุจริตอยู่บ่อยๆ เพราะไม่อยากให้ปัญหาเรื่องเงินมาเป็นประเด็นที่ครอบงำการเมืองทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องค่าตัวอยู่ที่เท่าไร ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น
JJNY : ‘ธนาธร’จี้สภาฯโหวตผ่าน กม.สุราก้าวหน้า|ป.ป.ช.ฟ้อง ‘เอ๋-ชนม์สวัสดิ์’|ชวน แฉคนตั้งพรรคใหม่ล่าเหยื่อ|เงินบาทอ่อนค่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_3649374
‘ธนาธร’ จี้ สภาฯ โหวตผ่าน กม.สุราก้าวหน้า ทลายทุนผูกขาด
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สรรพสามิตหรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่จะพิจารณาวาระสุดท้ายในสภาฯ วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ว่า ข้อจำกัดของกฎหมายเกี่ยวกับสุรา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาเศรษฐกิจไทย ที่อยู่ในระบบผูกขาด จนไม่นำมาซึ่งนวัตกรรม สินค้า และบริการ ที่จะทำให้ไทยแข่งขันกับต่างประเทศได้
ความพยายามแก้ไขกฎหมายสุราก้าวหน้า เป็นความพยายามมาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ต้องการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่คนตัวเล็กตัวน้อย ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร การสร้างนวัตกรรมในประเทศ ตลาดสุราในประเทศ
ในส่วนของธุรกิจเบียร์ มีผู้เล่นรายใหญ่รายเดียวมาตั้งแต่ พ.ศ. 2476 เช่นเดียวกับ เหล้าขาว มีผู้เล่นรายใหญ่รายเดียวตั้งแต่ 2528 ตลาดสุราไทยมีขนาดถึง 4 แสนล้านบาท ขอเพียงเกิดการนำเอาส่วนแบ่งทางการตลาด ที่ผูกขาดอยู่โดยกลุ่มทุนใหญ่ มาแบ่งให้ผู้ประกอบการรายย่อย ได้เพียง 25% จะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในหมู่เกษตรกร และผู้ประกอบการสุรารายย่อยเพิ่มขึ้นได้ถึง 1 แสนล้านบาท
นายธนาธรกล่าวว่า ส.ส. จะอภิปรายอะไรไม่มีความหมาย สิ่งสำคัญกว่าคือจะโหวตอย่างไร ที่ผ่านมาเราเห็น ส.ส. หลายคนเวลาอภิปรายพูดอย่างหนึ่ง แต่ถึงเวลากลับโหวตอีกแบบหนึ่ง ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชน ได้ร่วมกันติดตามการลงคะแนนของผู้แทนทุกคนอย่างใกล้ชิด ไม่ว่ากฎหมายสุราก้าวหน้าจะผ่านหรือไม่
สิ่งที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้ทำสำเร็จไปแล้วคือการประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการผูกขาดทางเศรษฐกิจ เชื่อมั่นว่าในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอด 4 ปี ทั้งเรื่องของ ทรู-ดีแทค แม็คโคร-โลตัส การประมูลสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีในสนามบิน กรณีกลุ่มทุนโทรคมนาคม หากเป็นรัฐบาลพรรค ก.ก. จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
นี่คือจุดยืนที่ทั้งพรรค ก.ก. และคณะก้าวหน้า มีมาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งผลของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (2 พฤศจิกายน) น่าจะสามารถชี้ชะตาของพรรคการเมืองต่างๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ด้วย
ป.ป.ช. ส่งอัยการสูงสุด ฟ้อง ‘เอ๋-ชนม์สวัสดิ์’ อดีตนายก อบจ. ทุจริตเงินอุดหนุนวัด
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7342643
เลขาธิการป.ป.ช. คอนเฟิร์ม มติฟัน ‘เอ๋-ชนม์สวัสดิ์’ เมื่อครั้งนั่งนายกอบจ.สมุทรปราการ ทุจริตเงินอุดหนุนวัดกว่า 100 ล้าน จ่อส่งอัยการสูงสุด ฟ้องศาล
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2565 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงข่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารจังหวัด (นายก อบจ.) สมุทรปราการ กับพวก กรณีทุจริตการจัดสรรเงินอุดหนุนแก่วัดในจ.สมุทรปราการ โดยมิชอบ ช่วงปี 2554-2556 จำนวนกว่า 20 โครงการ ในการบูรณะบำรุงวัด และเตาเผาศพ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาทว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้พิจารณาและมีมติดังกล่าวตามที่มีข่าวไปแล้วจริง
ขั้นตอนจากนี้คือ ต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงนามรับรองรายงานในสำนวนก่อนส่งไปยังอัยการสูงสุด พิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียดในคดีนั้น ตนไม่ทราบ จึงบอกรายละเอียดไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เห็นสำนวน
ชวน กรีดยับ แฉคนตั้งพรรคใหม่ล่าเหยื่อในปชป. เย้ยออกไปไม่รู้จะได้เป็นรมต.ไหม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3649430
‘ชวน’ กรีดยับ แฉคนไปตั้งพรรคใหม่ล่าเหยื่อในปชป. เย้ย คนที่ออกจากพรรคไปได้เป็นรัฐมนตรีทั้งนั้น ไม่รู้ไปพรรคอื่นจะได้เป็นหรือไม่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายไตรรงค์ สุวรรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และส.ส.หลายสมัยลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า
เรื่องนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค ปชป. เคยพูดไปแล้วว่ามีคนไปตั้งพรรคใหม่แล้วก็ล่าเหยื่อ “ขอโทษครับ” ล่าเพื่อนๆ ในพรรค มีคนมาบอกผมว่ามีคนที่ออกไป แล้วมาชวนให้ออกจากพรรค บางคนก็ออก บางคนก็ไม่ออก ก็ต้องรอดูต่อไป เพราะยังมีเวลาอยู่ว่าจะออกไปและเข้ามากี่คน
เมื่อถามว่า การที่สมาชิกพรรค ปชป. ออกจากพรรคหลายคน มีความกังวลหรือไม่ว่าอาจจะกระทบกับพรรคได้ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ใครออกแต่ละคนก็มีศักยภาพทั้งนั้น ใครที่มาลาตน ตนก็เตือนเขาว่าอย่าลาออกเลย เพราะใครออกจากพรรคไปเท่าที่ดูมักจะมีปัญหาภายหลังทั้งนั้น ฉะนั้น ช่วงวิกฤตที่พรรคมีปัญหาไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนั้น ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันพรรคก็ไม่โดดเด่นมากนั้น ซึ่งจะเป็นการวัดคนเหมือนกัน เป็นช่วงหนึ่งและเป็นธรรมชาติของการวัดความหนักแน่น มั่นคงของคนเหมือนกัน แต่เราก็ไม่สามารถที่จะไปห้ามเขาได้
“ทุกคนที่มาบอกกล่าวผม ผมก็จะบอกกับทุกคนว่าไม่อยากให้ออกเพราะพรรคถือว่าทุกคนมีคุณภาพ ที่ออกไปส่วนใหญ่ได้เป็นรัฐมนตรีของพรรค เมื่อไปอยู่พรรคอื่นผมไม่แน่ใจว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งคนเหล่านี้พรรคถือว่ามีศักยภาพ พอออกไปพรรคก็สูญเสียคนที่มีศักยภาพไป แต่เรื่องความหนักแน่นของแต่ละคนก็แตกต่างไป แล้วแต่ละคนจะร่วมเป็นร่วมตายกับพรรคในยามรุ่งเรือง ในยามตกต่ำอย่างไร ก็ตามกันไป ผมก็เสียดายทุกคนที่ออกไป” นายชวน กล่าว
เมื่อถามว่า หากมีสมาชิกพรรคออกไปอีก มองว่าจะส่งผลกระทบกับพรรคปชป.อย่างไร นายชวน กล่าวว่า แน่นอนว่าต้องกระทบ ใครจะบอกว่าไม่กระทบนั้นไม่จริง แต่การหาคนมาร่วมกับพรรคการเมืองก็ไม่ใช่ของง่าย การที่ได้คนที่มีความมั่นคง บางทีไปทาบทามคนก็จะมีการถามว่าให้เท่าไร
ดังนั้น การที่จะได้คนที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินในยุคสมัยนี้เป็นเรื่องที่ยากขึ้น เพราะสมัยก่อนเรื่องนี้ไม่มี แต่สมัยนี้กลายเป็นเงื่อนไขหนึ่ง พูดง่ายๆ คือมีค่าตัวกัน ตนจึงต้องย้ำเรื่องบ้านเมืองสุจริตอยู่บ่อยๆ เพราะไม่อยากให้ปัญหาเรื่องเงินมาเป็นประเด็นที่ครอบงำการเมืองทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องค่าตัวอยู่ที่เท่าไร ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น