ผักแพงมาก! 'ต้นหอม' ต้องแย่งกันซื้อเหมือนแจกฟรี
https://ch3plus.com/news/economy/morning/316870
เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักทั่วประเทศ ทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับเพาะปลูกผัก รวมไปถึงผักที่ไม่ชอบฝน ก็เน่าเสียหายไปด้วย จึงทำให้ผักออกสู่ตลาดน้อย ดังนั้นราคาผักช่วงน้ำท่วมนี้จึงมีราคาแพงมากเกือบทุกชนิด และบางชนิดขาดตลาดไม่มีของ
วานนี้ (23 ต.ค.) ที่โซนขายส่งผักตลาดศูนย์การค้า จ.กำแพงเพชร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จากการสำรวจดูพบว่าราคาผักแพงตามที่เป็นข่าว สอบถาม น.ส.
ขวัญจิตร ขวัญใจเลิศ แม่ค้าขายส่งผักรายใหญ่ของตลาดเปิดเผยว่า ช่วงนี้ของมีน้อยแต่ขายดี เนื่องจากช่วงเดือนนี้มีบุญทอดกฐินตามวัดทั่วไป จึงมีการทำบุญตั้งโรงทานทำอาหารเลี้ยงกัน ดังนั้นระยะนี้การซื้อขายจึงคึกคัก
สำหรับราคาผักที่แพงขึ้น อย่างเช่น
-ผักกาดขาว / ผักกระหล่ำปลีขายส่งถุงละ 10 กิโลกรัม ราคาตกถุงละ 130 บาท
-พริกขี้หนูเขียวถุงละ 10 กิโล 550 บาท ซึ่งเดิมขายส่งอยู่ที่ถุงละ 350 บาท
-ต้นหอมขายส่งกิโลกรัมละ 200 บาท แต่ด้วยของที่มีจำนวนจำกัด ดังนั้นจึงต้องเฉลี่ยให้รายละ 2-5 กิโลกรัม
-ขึ้นฉ่ายราคาลดลงแล้ว เหลือส่งกิโลกรัมละ 70 บาท
-คะน้าขายส่งถุงละ 5 กิโลกรัม ตกถุงละ 200 บาท จากราคาเดิม 250 บาท
-ถั่วฝักยาวก็เริ่มลง ถุงละ 5 กิโลกรัม ขายส่ง 150 เดิมราคาถุงละ 280 บาท
-แตงกวาขายส่งถุงละ 10 กิโลกรัม 260 บาท ลงมาจากเดิมที่ถุงละ 280 บาท
-ผักบุ้งจีน ขายส่งกิโลกรัมละ 80 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 30 บาท และตอนนี้แทบจะหาของมาขายไม่ได้
-มะเขือเจ้าพระยาต่อถุง 10 กิโลกรัม ขายส่งถุงละ 300 บาท
-ผักแมงลักราคาขายขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 120 บาท
-ใบโหระพาขึ้นไปจนถึงกิโลกรัมละ 100 บาท
-ใบกะเพรา กิโลกรัมละ 60-70 บาท
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นราคาขายส่ง ซึ่งจะมีแม่ค้ารับไปขายปลีกอีกทอดหนึ่ง ราคาก็จะต้องแพงขึ้นไปกว่านี้อีกมาก
ส่วนบรรยากาศการซื้อขายก็คึกคัก เนื่องจากของมีน้อยจึงต้องแย่งกัน โดยเฉพาะต้นหอมที่มีจำนวนจำกัดแต่แม่ค้าขายปลีกต่างอยากได้ จึงต้องแย่งกันซื้อชุลมุนเหมือนแจกฟรี แต่แม่ค้าขายส่งซึ่งได้มาเพียงเจ้าเดียวต้องแบ่งเฉลี่ยให้มากบ้างน้อยบ้าง
ขณะที่นาย
อุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ยอมรับว่า จากการตรวจสอบราคาผักหลายชนิดทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค พบว่า ราคาเริ่มทรงตัวแต่ยังมีผักบางส่วนที่ราคายังปรับตัวสูงขึ้น อาทิ ผักคะน้า ผักบุ้งจีน ถั่วฝักยาว ต้นหอม ผักชี ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย ขอนแก่น ตรัง สตูล สงขลา และภูเก็ต
เนื่องจากพื้นที่แหล่งผลิตประสบปัญหาฝนตกชุกและน้ำท่วมขัง ผลผลิตได้รับความเสียหาย ทำให้ปริมาณผักที่ออกสู่ตลาดมีน้อย ประสบปัญหาด้านคุณภาพ และราคาค่อนข้างผันผวน รวมทั้งมีอุปสรรคในการขนส่งผักไปสู่ผู้บริโภคในภาวะน้ำท่วมขัง
โดยได้มอบให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์ และหาแนวทางการบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ให้มีผักเพียงพอต่อการบริโภคในราคาที่เป็นธรรม โดยในระยะสั้นได้ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่ประสบปัญหาเชื่อมโยงผลผลิตผักจากตลาดกลางทั่วประเทศ และจังหวัดแหล่งผลิตอื่นที่ไม่ประสบภัยน้ำท่วมไปจำหน่าย เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการบริโภค โดยจะเริ่มดำเนินการในพื้นที่จังหวัดตรัง สตูล สงขลา และภูเก็ตก่อน
อย่างไรก็ตาม ทางกรมฯ จะติดตามสถานการณ์ราคาผักอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท และหากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด
เปิดคลิปวินาที ‘เค ร้อยล้าน’ พุ่งตรงล็อกคอ ‘ธนาธร’ กลางงานหนังสือแห่งชาติ
https://www.dailynews.co.th/news/1609041/
เปิดคลิปวิานาที "เค ร้อยล้าน" พุ่งตรงล็อกคอ "ธนาธร" อย่างแรงกลางงานหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนต้องช่วยกับจับอย่างชุลมุน.
จากกรณีนาย
คเณศพิศณุเทพ จักรภมหาเดชา หรือ “
เค ร้อยล้าน” สร้างวุ่นวานภายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 จัดขึ้นศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา โดย
เค ร้อยล้าน ได้โยนกระเป๋าพร้อมตะโกน “
มีระเบิด” ใส่นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าขณะที่กำลังแจกลายเซ็น จนสร้างความโกลาหลวุ่นวายแตกตื่นให้กับประชาชนที่อยู่ภายในงานดังกล่าว ก่อนที่ตำรวจสน.ลุมพินี จะนำตัวไปสอบปากคำ ตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ล่าสุดมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ โดยพบว่าขณะเกิดเหตุ นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าขณะที่กำลังแจกลายเซ็นให้กับแฟนคลับ อยู่ที่บริเวณบูธ “
มูลนิธิคณะก้าวหน้า E11” จู่ๆ นายคเณศพิศณุเทพ จักรภมหาเดชา หรือ “
เค ร้อยล้าน” ก็ได้พุ่งเข้าหานาย
ธนาธร จากด้านข้าง ก่อนจะเข้าล็อกคออย่างแรง จนทำให้หายนาย
ธนาธร ถึงกับหน้าหงายและต้องใช้มือปัดป้องเนื่องจากหายใจไม่ออก สร้างความตกใจและหวาดกลัวให้กับผู้ที่เดินเดินซื้อหนังสือและพบเห็น จากนั้นเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยที่อยู่บริเวณบูธดังกล่าว พร้อมประชาชน ได้ช่วยกันเข้าไปจับ เค ร้อยล้าน อย่างชุลมุนวุ่นวาย ก่อนที่คลิปจะถูกตัดไป.
https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/10/b0b05f41-3a1a-4054-b237-d5cb5d46dbda_0.mp4
ธนาธร ดึงสติคนเห็นต่าง อย่าใช้ความรุนแรง ไม่ฟันธง เค ร้อยล้าน ได้ไอเดียจากเหตุศรีสุวรรณ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3634776
ธนาธร ดึงสติคนเห็นต่าง อย่าใช้ความรุนแรง ไม่ฟันธง เค ร้อยล้าน ได้ไอเดียจากเหตุศรีสุวรรณ
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม จากกรณีที่ นาย
คเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือ
เค ร้อยล้าน เข้าไปในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 โดยสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ตะโกนว่ามีระเบิด ก่อนนำกระเป๋าใบหนึ่งโยนในพื้นที่ ทำให้ผู้คนแตกตื่นและเกิดความโกลาหล บริเวณบูธมูลนิธิคณะก้าวหน้า E11 ในขณะที่ นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จัดกิจกรรมพบปะและแจกลายเซ็น เจ้าหน้าที่ภายในงานจึงเข้ารวบตัว
เมื่อเวลา 19.37 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
ธนาธรได้เดินทางมายังโรงพยาบาลเมดพาร์ค ใกล้เคียงศูนย์สิริกิติ์ โดยนาย
ธนาธรมีรอยแดงที่แก้มข้างซ้ายและคอ นายธนาธรยืนยันว่า ไม่ได้โดนต่อย แต่เกิดจากการล็อกคอ โดยมาเข้าตรวจอาการที่โรงพยาบาลเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป
ในตอนหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามว่า พฤติกรรมของ
เค ร้อยล้าน ที่เกิดขึ้นหลายครั้งแล้วคิดเห็นอย่างไรบ้าง นายธนาธรกล่าวว่า ความจริงแล้วก็เป็นห่วงสังคมไทยเพราะยังมีคนที่มีพฤติกรรมอันตรายมาก ต้องบอกว่าวันนี้ถ้านายเค ร้อยล้าน พกอาวุธหรืออะไรมา น่าจะมีคนบาดเจ็บล้มตายได้ ซึ่งอาจเป็นตนด้วยซ้ำไป มีความกังวลว่าสังคมไทยจะจัดการปัญหานี้ได้ เราเกิดเหตุการณ์หนองบัวลำภูไม่ถึงเดือน ซึ่งเหตุการณ์นั้นนำมาซึ่งความสลดมากมาย ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น
“ถ้าผมสามารถสื่อสารอะไรให้ผู้เห็นต่างทางการเมืองได้ ผมเสนอว่าต่อให้เราเห็นไม่เห็นด้วยทางการเมืองอย่างไร อย่าใช้ความรุนแรงกัน สงบสติอารมณ์ เปิดใจให้กว้าง และใช้เหตุผลคุยกัน ถึงแม้เราจะไม่เห็นด้วยทางการเมืองกัน แต่เรายังอยู่ในสังคมเดียวกัน
“สิ่งที่เราต้องการเห็นคือการจัดการความขัดแย้งทางความคิดความอ่านด้วยวิธีที่สันติสุข ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ไม่ว่ากับใครทั้งนั้น แผลที่หนองบัวลำภูยังสดใหม่อยู่เลย” นาย
ธนาธรกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติที่เป็นพื้นที่สาธารณะและผู้คนต่างตื่นตระหนกอย่างมาก คิดเห็นอย่างไร นาย
ธนาธรกล่าวว่า ต้องบอกว่าเหตุการณ์เกิดกระชั้นชิดมาก อาจเร็วเกินไปที่จะมาสรุปว่ามาตรการความปลอดภัยเป็นอย่างไร ยังตระหนกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้จัดงานได้เข้ามาพูดคุยหรือไม่ นาย
ธนาธรกล่าวว่า ผู้จัดงานดูแลดี หลังจากเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายทางผู้จัดงานก็ส่งเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยมาประกบติดตาม ในขณะเดียวกันก็ส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยรักษาพยาบาลมาดูอาการ และมาขอโทษขอโพย มาให้กำลังใจ ซึ่งทางผู้จัดงานก็พยายามทำตรงนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากที่กรณีการใช้ความรุนแรงกับ นายศรีสุวรรณ จรรยา หรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า เป็นไปได้ ไม่กล้าฟันธง ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับนาย
เค ร้อยล้าน ถ้ามีโอกาสความจริงอยากจะพูดคุย แต่ไม่แน่ใจว่าเหตุจูงใจของนายเค ร้อยล้าน คืออะไร ก็อาจเป็นไปได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น แต่ไม่กล้าฟันธง
“ถ้าใช้ความรุนแรงจะไม่จบไม่สิ้น ความขัดแย้ง ความเห็นต่างทางการเมืองต้องจัดการด้วยกลไกที่สันติสุข ในขณะเดียวกันกลไกยุติธรรมก็ต้องทำงานด้วย ผมคิดว่าในกรณีของคุณศรีสุวรรณ เหตุส่วนหนึ่งคือประชาชนรู้สึกสะใจ คือกระบวนการยุติธรรมไม่ทำงาน” นาย
ธนาธรกล่าว
นาย
ธนาธรกล่าวต่อว่า การฟ้องของนาย
ศรีสุวรรณหลายกรณีที่ไม่ควรแม้จะต้องผ่านชั้นตำรวจก็ผ่านไปได้ เพระฉะนั้นประชาชนอาจเห็นว่ามันไม่เป็นธรรม หรือกรณีที่ฟ้องหลายคนเกิดอุปสรรคในชีวิต ขึ้นโรงขึ้นศาล แล้วท้ายที่สุดยกฟ้องเป็นเรื่องที่เพิ่มภาระให้กับประชาชน เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ซึ่งถ้ากระบวนการยุติธรรม ยุติธรรมจริงๆ เรื่องต่างๆ ที่นายศรีสุวรรณฟ้องไม่ควรเป็นข่าวหน้า 1 ด้วยซ้ำไป นักข่าวไม่ควรให้ค่ากับการฟ้องที่ไม่มีพื้นฐาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ ถ้ามีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นต้องกล้าปัดตกตั้งแต่ชั้นตำรวจ เห็นว่าฟ้องแล้วกระบวนการยุติธรรมนั้นทำงาน การฟ้องแบบนี้ก็จะไม่มี
“ผมเชื่อว่าเราสามารถหาทางออกร่วมกันได้ เราสามารถพาสังคมไปข้างหน้าได้ ถึงแม้จะมีความเห็นต่างกันทางนโยบาย ทางความคิด ซึ่งต้องบอกว่าไม่มีสังคมไหนที่คนเห็นด้วยกันหมดทุกเรื่องทุกคน เป็นไปไม่ได้กับสังคมมนุษย์ ดังนั้น ความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติของสังคม อยากเชิญชวนว่าความเห็นต่างที่เป็นเรื่องปกติของสังคมนั้นมีกลไกหาทางออกที่มีโดยไม่เกิดความรุนแรง และไม่เกิดความสูญเสียอยู่
“ขอให้มั่นใจในกลไกรัฐสภา ขอให้เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดทำหน้าที่โดยยึดหลักการยุติธรรม ถ้าประชาชนไม่เชื่อใจสภา ถ้าประชาชนไม่เชื่อใจกระบวนการยุติธรรมก็ต้องหาทางออกด้วยวิธีรุนแรงแบบนี้ ดังนั้น ขอเชิญชวนทุกคนให้เชื่อมั่นในวิธีการที่เป็นประชาธิปไตย” นาย
ธนาธรกล่าว
JJNY : ผักแพงมาก!│เปิดคลิปวินาที ‘เค ร้อยล้าน’ล็อกคอ ‘ธนาธร’ │ธนาธร ดึงสติคนเห็นต่าง │ปภ.เผยยังท่วม 28 จว.
https://ch3plus.com/news/economy/morning/316870
เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักทั่วประเทศ ทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับเพาะปลูกผัก รวมไปถึงผักที่ไม่ชอบฝน ก็เน่าเสียหายไปด้วย จึงทำให้ผักออกสู่ตลาดน้อย ดังนั้นราคาผักช่วงน้ำท่วมนี้จึงมีราคาแพงมากเกือบทุกชนิด และบางชนิดขาดตลาดไม่มีของ
วานนี้ (23 ต.ค.) ที่โซนขายส่งผักตลาดศูนย์การค้า จ.กำแพงเพชร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จากการสำรวจดูพบว่าราคาผักแพงตามที่เป็นข่าว สอบถาม น.ส.ขวัญจิตร ขวัญใจเลิศ แม่ค้าขายส่งผักรายใหญ่ของตลาดเปิดเผยว่า ช่วงนี้ของมีน้อยแต่ขายดี เนื่องจากช่วงเดือนนี้มีบุญทอดกฐินตามวัดทั่วไป จึงมีการทำบุญตั้งโรงทานทำอาหารเลี้ยงกัน ดังนั้นระยะนี้การซื้อขายจึงคึกคัก
สำหรับราคาผักที่แพงขึ้น อย่างเช่น
-ผักกาดขาว / ผักกระหล่ำปลีขายส่งถุงละ 10 กิโลกรัม ราคาตกถุงละ 130 บาท
-พริกขี้หนูเขียวถุงละ 10 กิโล 550 บาท ซึ่งเดิมขายส่งอยู่ที่ถุงละ 350 บาท
-ต้นหอมขายส่งกิโลกรัมละ 200 บาท แต่ด้วยของที่มีจำนวนจำกัด ดังนั้นจึงต้องเฉลี่ยให้รายละ 2-5 กิโลกรัม
-ขึ้นฉ่ายราคาลดลงแล้ว เหลือส่งกิโลกรัมละ 70 บาท
-คะน้าขายส่งถุงละ 5 กิโลกรัม ตกถุงละ 200 บาท จากราคาเดิม 250 บาท
-ถั่วฝักยาวก็เริ่มลง ถุงละ 5 กิโลกรัม ขายส่ง 150 เดิมราคาถุงละ 280 บาท
-แตงกวาขายส่งถุงละ 10 กิโลกรัม 260 บาท ลงมาจากเดิมที่ถุงละ 280 บาท
-ผักบุ้งจีน ขายส่งกิโลกรัมละ 80 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 30 บาท และตอนนี้แทบจะหาของมาขายไม่ได้
-มะเขือเจ้าพระยาต่อถุง 10 กิโลกรัม ขายส่งถุงละ 300 บาท
-ผักแมงลักราคาขายขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 120 บาท
-ใบโหระพาขึ้นไปจนถึงกิโลกรัมละ 100 บาท
-ใบกะเพรา กิโลกรัมละ 60-70 บาท
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นราคาขายส่ง ซึ่งจะมีแม่ค้ารับไปขายปลีกอีกทอดหนึ่ง ราคาก็จะต้องแพงขึ้นไปกว่านี้อีกมาก
ส่วนบรรยากาศการซื้อขายก็คึกคัก เนื่องจากของมีน้อยจึงต้องแย่งกัน โดยเฉพาะต้นหอมที่มีจำนวนจำกัดแต่แม่ค้าขายปลีกต่างอยากได้ จึงต้องแย่งกันซื้อชุลมุนเหมือนแจกฟรี แต่แม่ค้าขายส่งซึ่งได้มาเพียงเจ้าเดียวต้องแบ่งเฉลี่ยให้มากบ้างน้อยบ้าง
ขณะที่นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ยอมรับว่า จากการตรวจสอบราคาผักหลายชนิดทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค พบว่า ราคาเริ่มทรงตัวแต่ยังมีผักบางส่วนที่ราคายังปรับตัวสูงขึ้น อาทิ ผักคะน้า ผักบุ้งจีน ถั่วฝักยาว ต้นหอม ผักชี ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย ขอนแก่น ตรัง สตูล สงขลา และภูเก็ต
เนื่องจากพื้นที่แหล่งผลิตประสบปัญหาฝนตกชุกและน้ำท่วมขัง ผลผลิตได้รับความเสียหาย ทำให้ปริมาณผักที่ออกสู่ตลาดมีน้อย ประสบปัญหาด้านคุณภาพ และราคาค่อนข้างผันผวน รวมทั้งมีอุปสรรคในการขนส่งผักไปสู่ผู้บริโภคในภาวะน้ำท่วมขัง
โดยได้มอบให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์ และหาแนวทางการบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ให้มีผักเพียงพอต่อการบริโภคในราคาที่เป็นธรรม โดยในระยะสั้นได้ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่ประสบปัญหาเชื่อมโยงผลผลิตผักจากตลาดกลางทั่วประเทศ และจังหวัดแหล่งผลิตอื่นที่ไม่ประสบภัยน้ำท่วมไปจำหน่าย เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการบริโภค โดยจะเริ่มดำเนินการในพื้นที่จังหวัดตรัง สตูล สงขลา และภูเก็ตก่อน
อย่างไรก็ตาม ทางกรมฯ จะติดตามสถานการณ์ราคาผักอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท และหากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด
เปิดคลิปวินาที ‘เค ร้อยล้าน’ พุ่งตรงล็อกคอ ‘ธนาธร’ กลางงานหนังสือแห่งชาติ
https://www.dailynews.co.th/news/1609041/
เปิดคลิปวิานาที "เค ร้อยล้าน" พุ่งตรงล็อกคอ "ธนาธร" อย่างแรงกลางงานหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนต้องช่วยกับจับอย่างชุลมุน.
จากกรณีนายคเณศพิศณุเทพ จักรภมหาเดชา หรือ “เค ร้อยล้าน” สร้างวุ่นวานภายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 จัดขึ้นศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเค ร้อยล้าน ได้โยนกระเป๋าพร้อมตะโกน “มีระเบิด” ใส่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าขณะที่กำลังแจกลายเซ็น จนสร้างความโกลาหลวุ่นวายแตกตื่นให้กับประชาชนที่อยู่ภายในงานดังกล่าว ก่อนที่ตำรวจสน.ลุมพินี จะนำตัวไปสอบปากคำ ตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ล่าสุดมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ โดยพบว่าขณะเกิดเหตุ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าขณะที่กำลังแจกลายเซ็นให้กับแฟนคลับ อยู่ที่บริเวณบูธ “มูลนิธิคณะก้าวหน้า E11” จู่ๆ นายคเณศพิศณุเทพ จักรภมหาเดชา หรือ “เค ร้อยล้าน” ก็ได้พุ่งเข้าหานายธนาธร จากด้านข้าง ก่อนจะเข้าล็อกคออย่างแรง จนทำให้หายนายธนาธร ถึงกับหน้าหงายและต้องใช้มือปัดป้องเนื่องจากหายใจไม่ออก สร้างความตกใจและหวาดกลัวให้กับผู้ที่เดินเดินซื้อหนังสือและพบเห็น จากนั้นเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยที่อยู่บริเวณบูธดังกล่าว พร้อมประชาชน ได้ช่วยกันเข้าไปจับ เค ร้อยล้าน อย่างชุลมุนวุ่นวาย ก่อนที่คลิปจะถูกตัดไป.
https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/10/b0b05f41-3a1a-4054-b237-d5cb5d46dbda_0.mp4
ธนาธร ดึงสติคนเห็นต่าง อย่าใช้ความรุนแรง ไม่ฟันธง เค ร้อยล้าน ได้ไอเดียจากเหตุศรีสุวรรณ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3634776
ธนาธร ดึงสติคนเห็นต่าง อย่าใช้ความรุนแรง ไม่ฟันธง เค ร้อยล้าน ได้ไอเดียจากเหตุศรีสุวรรณ
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม จากกรณีที่ นายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือ เค ร้อยล้าน เข้าไปในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 โดยสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ตะโกนว่ามีระเบิด ก่อนนำกระเป๋าใบหนึ่งโยนในพื้นที่ ทำให้ผู้คนแตกตื่นและเกิดความโกลาหล บริเวณบูธมูลนิธิคณะก้าวหน้า E11 ในขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จัดกิจกรรมพบปะและแจกลายเซ็น เจ้าหน้าที่ภายในงานจึงเข้ารวบตัว
เมื่อเวลา 19.37 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธรได้เดินทางมายังโรงพยาบาลเมดพาร์ค ใกล้เคียงศูนย์สิริกิติ์ โดยนายธนาธรมีรอยแดงที่แก้มข้างซ้ายและคอ นายธนาธรยืนยันว่า ไม่ได้โดนต่อย แต่เกิดจากการล็อกคอ โดยมาเข้าตรวจอาการที่โรงพยาบาลเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป
ในตอนหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามว่า พฤติกรรมของเค ร้อยล้าน ที่เกิดขึ้นหลายครั้งแล้วคิดเห็นอย่างไรบ้าง นายธนาธรกล่าวว่า ความจริงแล้วก็เป็นห่วงสังคมไทยเพราะยังมีคนที่มีพฤติกรรมอันตรายมาก ต้องบอกว่าวันนี้ถ้านายเค ร้อยล้าน พกอาวุธหรืออะไรมา น่าจะมีคนบาดเจ็บล้มตายได้ ซึ่งอาจเป็นตนด้วยซ้ำไป มีความกังวลว่าสังคมไทยจะจัดการปัญหานี้ได้ เราเกิดเหตุการณ์หนองบัวลำภูไม่ถึงเดือน ซึ่งเหตุการณ์นั้นนำมาซึ่งความสลดมากมาย ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น
“ถ้าผมสามารถสื่อสารอะไรให้ผู้เห็นต่างทางการเมืองได้ ผมเสนอว่าต่อให้เราเห็นไม่เห็นด้วยทางการเมืองอย่างไร อย่าใช้ความรุนแรงกัน สงบสติอารมณ์ เปิดใจให้กว้าง และใช้เหตุผลคุยกัน ถึงแม้เราจะไม่เห็นด้วยทางการเมืองกัน แต่เรายังอยู่ในสังคมเดียวกัน
“สิ่งที่เราต้องการเห็นคือการจัดการความขัดแย้งทางความคิดความอ่านด้วยวิธีที่สันติสุข ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ไม่ว่ากับใครทั้งนั้น แผลที่หนองบัวลำภูยังสดใหม่อยู่เลย” นายธนาธรกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติที่เป็นพื้นที่สาธารณะและผู้คนต่างตื่นตระหนกอย่างมาก คิดเห็นอย่างไร นายธนาธรกล่าวว่า ต้องบอกว่าเหตุการณ์เกิดกระชั้นชิดมาก อาจเร็วเกินไปที่จะมาสรุปว่ามาตรการความปลอดภัยเป็นอย่างไร ยังตระหนกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้จัดงานได้เข้ามาพูดคุยหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ผู้จัดงานดูแลดี หลังจากเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายทางผู้จัดงานก็ส่งเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยมาประกบติดตาม ในขณะเดียวกันก็ส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยรักษาพยาบาลมาดูอาการ และมาขอโทษขอโพย มาให้กำลังใจ ซึ่งทางผู้จัดงานก็พยายามทำตรงนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากที่กรณีการใช้ความรุนแรงกับ นายศรีสุวรรณ จรรยา หรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า เป็นไปได้ ไม่กล้าฟันธง ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับนายเค ร้อยล้าน ถ้ามีโอกาสความจริงอยากจะพูดคุย แต่ไม่แน่ใจว่าเหตุจูงใจของนายเค ร้อยล้าน คืออะไร ก็อาจเป็นไปได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น แต่ไม่กล้าฟันธง
“ถ้าใช้ความรุนแรงจะไม่จบไม่สิ้น ความขัดแย้ง ความเห็นต่างทางการเมืองต้องจัดการด้วยกลไกที่สันติสุข ในขณะเดียวกันกลไกยุติธรรมก็ต้องทำงานด้วย ผมคิดว่าในกรณีของคุณศรีสุวรรณ เหตุส่วนหนึ่งคือประชาชนรู้สึกสะใจ คือกระบวนการยุติธรรมไม่ทำงาน” นายธนาธรกล่าว
นายธนาธรกล่าวต่อว่า การฟ้องของนายศรีสุวรรณหลายกรณีที่ไม่ควรแม้จะต้องผ่านชั้นตำรวจก็ผ่านไปได้ เพระฉะนั้นประชาชนอาจเห็นว่ามันไม่เป็นธรรม หรือกรณีที่ฟ้องหลายคนเกิดอุปสรรคในชีวิต ขึ้นโรงขึ้นศาล แล้วท้ายที่สุดยกฟ้องเป็นเรื่องที่เพิ่มภาระให้กับประชาชน เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ซึ่งถ้ากระบวนการยุติธรรม ยุติธรรมจริงๆ เรื่องต่างๆ ที่นายศรีสุวรรณฟ้องไม่ควรเป็นข่าวหน้า 1 ด้วยซ้ำไป นักข่าวไม่ควรให้ค่ากับการฟ้องที่ไม่มีพื้นฐาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ ถ้ามีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นต้องกล้าปัดตกตั้งแต่ชั้นตำรวจ เห็นว่าฟ้องแล้วกระบวนการยุติธรรมนั้นทำงาน การฟ้องแบบนี้ก็จะไม่มี
“ผมเชื่อว่าเราสามารถหาทางออกร่วมกันได้ เราสามารถพาสังคมไปข้างหน้าได้ ถึงแม้จะมีความเห็นต่างกันทางนโยบาย ทางความคิด ซึ่งต้องบอกว่าไม่มีสังคมไหนที่คนเห็นด้วยกันหมดทุกเรื่องทุกคน เป็นไปไม่ได้กับสังคมมนุษย์ ดังนั้น ความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติของสังคม อยากเชิญชวนว่าความเห็นต่างที่เป็นเรื่องปกติของสังคมนั้นมีกลไกหาทางออกที่มีโดยไม่เกิดความรุนแรง และไม่เกิดความสูญเสียอยู่
“ขอให้มั่นใจในกลไกรัฐสภา ขอให้เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดทำหน้าที่โดยยึดหลักการยุติธรรม ถ้าประชาชนไม่เชื่อใจสภา ถ้าประชาชนไม่เชื่อใจกระบวนการยุติธรรมก็ต้องหาทางออกด้วยวิธีรุนแรงแบบนี้ ดังนั้น ขอเชิญชวนทุกคนให้เชื่อมั่นในวิธีการที่เป็นประชาธิปไตย” นายธนาธรกล่าว