มีปัญหาไม่กล้าบอกใครขอระบายหน่อยค่ะ

เรามีปัญหาไม่กล้าบอกแม่ ส่วนพ่อเราปรึกษาอะไรไม่ได้เลย เขาติดเล่น ส่วนพี่ก็ไม่จริงจังอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ุ เราเหลือแค่แม่ที่เคยรับฟังเราแต่ท่านไม่ค่อยจะสนใจ ปัญหาก็ช่วยบ้างไม่ช่วยบ้าง แต่ตอนนี้ปัญหาของเราคือเรื่องงาน งานเราเดินเยอะหรือหลักๆ คือเดินขายของแล้วแดดก็ร้อนมาก แต่เราก็พอทนๆ ไปได้ค่ะ แต่เราก็ท้อบ่อยๆ ไม่ถึงกับจะออกจากงาน แค่อยากพักแบบไม่ต้องคิดพักนานสักวันสองวัน อยู่บ้านคนเดียวหาไรทำ พ่อไปทำงานแล้วเหลือแม่ ท่านทำงานวันเว้นวัน เวลาเราหยดพัก ท่านชอบอยู่บ้านด้วยค่ะ ไม่อยากให้เราอยู่คนเดียว เราก็เข้าใจว่าท่านห่วง แต่เราอยากอยู่คนเดียวสักวัน ถ้าบอกไปคงโดนหาว่าจะแอบทำอะไรคนเดียวล่ะสิ ซึ่งไม่ต้องบอกก็คงรู้นะคะ(เรื่องใต้สะดือ) เราเคยโดนล้อแนวๆ นี้แล้วรู้สึกไม่โอเคมากๆ ในเมื่ออยู่บ้านคนเดียวไม่ได้ ก็กลับไปทำงานค่ะ

แล้วเวลาทำงานเนี่ย มันปวดเท้ามากจนล้า ที่ทำงานก็ไกลอีก ต้องนั่งรถไปครึ่งชม.กว่าๆ จากนั้นก็ต้องเดินยาวไปทำงานเลยค่ะ ถึงที่ทำงานปุ๊บ ก็เดินอีกก กลับบ้านมาแม่ถามได้เงินเท่าไหร่ ไม่ถามเลยว่าเราทำงานเป็นบ้าง เหนื่อยไหม ไม่มี เพิ่มเติมงานเราเป็นงานพาร์ทไทม์ แตกต่างออกไปคือขายของ ขาย100% ส่วนแบ่งได้20% เข้าเรื่อง ทำงานที่เราไม่ถนัดก็ต้องมีท้อ ในความรู้สึกท้อยังมีน้อยใจ เราทำงานสู้ใครไม่ได้เลย มีเด็กใหม่มาเขาให้ดูแล เด็กก็เก่งนะ แต่ส่วนที่เขาให้เราขายคือแบบขายไม่ออ ส่วนที่เด็ก เด็กขายก็ขายดีมาก มันก็เกิดเป็นความน้อยใจโง่ๆขึ้นมาค่ะ อีกความน้อยใจที่ตราตรึงใจ เรามีเพื่อนที่มาทำงานด้วยกัน เพื่อนเราไม่ค่อยกล้าขายของเลย เป็นเขินอายนั่นแหละ เราเชียร์เพื่อนชายของตลอดนะ พอนานเข้าก็ต้องมีแยกกันไป พอได้กลับมาขายด้วยกันอีก เราก็คิดว่าเพื่อนคงขายของเก่งแล้วล่ะ สรุปคือยังอายแต่ก็เก่งขึ้น มาคราวนี้เราตั้งใจทำงานพยายามไม่ท้อ อดทนๆ เพื่อเราก็เขินบ้างอ่ยบ้าง แต่ก็ทำงานได้ จนตอนที่เพื่อนเรายืนเฉยก็ขายได้แล้วเราเดินเหนื่อยมาก มันทำท้อใจแบบ คือไม่ได้มีครั้งแรกที่เห็นเวลายืนแล้วขายได้อ่ะ อิจฉาเพื่อนตัวเองแล้วรู้สึกเลยว่า เราอิจฉาเพื่อนตัวเองเนี่ยนะ รู้สึกแย่มากเลยค่ะ ทำงานพวกนี้ไม่รุ่งเลย เลยไปเดินเล่นที่ห้างแก้เครียด แล้วเราก็เจ็บเท้ามาตั้งนานแล้ว เคยบอกแม่ แม่บอกว่าเดี๋ยวก็หาย ก็เลยปล่อยให้เจ็บไปเลย กลับบ้านมาเท้าพองค่ะ เจ็บร้องไห้จะไปบอกแม่ ถือเป็นปัญหาไหม ทำงานไม่ไหวเจ็บเท้า ไม่กล้าบอกท่าน ท่านดูหนังอยู่ เราจำขึ้นใจเลย ตอนนั้นมีปัญหาชีวิตไปปรึกษาท่าน ซึ่งท่านก็ดูแต่หนังประจำจะไปปรึกษาตอนไหนได้ เผลอๆ ปรึกษาแล้วพี่เข้ามาคุยด้วยจะกลายเป็นว่าเราถูกลืม แล้วทั้งสองก็ไปเม้าท์กันแทนค่ะ ไม่กล้าเลยสุดท้ายจบลงที่เรานั่งเขียนกระทู้แทนค่ะ อยากระบายมาก เพื่อนก็ไม่ได้ เพื่อนมีน้อยมาก คุยไปคุยมาเพื่อคนก็ติดตลกใส่ทำเราใจเสีย ปรึกษาเขาต่อไม่ลงเลย.
 

สรุปปัญหา 
ทำงานแล้วท้อ เหนื่อย เจ็บตัวไม่ทำงานไม่ไหว ปรึกษาหรือบอกใครไม่ได้

กระทู้เราเขียนเยอะมาก เป็นการระบายความรู้สึกที่คิดว่าจะมีใครมานั่งอ่านตัวหนังสือ2,000กว่าตัวไหมนะ จะตอบปัญหาเราไหม แหะๆ เราขอบคุณ ล่วงหน้าคนที่สละเวลามาให้นะคะ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่