แชร์ประสบการณ์ การออมหุ้น DCA 32 เดือน ในช่วงวิกฤติโควิด 19 ผลจะเป็นอย่างไร???



สำหรับการลงทุนหุ้นแนวการออมหุ้นช่วงวิกฤติโควิท 19 ในรอบนี้ 32 เดือนที่ผ่านมา ผลการลงทุนไม่ค่อยดี กลับย่อลงมาพอสมควร  แม้โควิดเริ่มเป็นโรคประจำถิ่น ลดความรุนแรงลง แต่สงครามยูเครนเข้ามาแทรก เข้ามาซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกให้กลับตกต่ำซ้ำเจิม  เงินเฟ้อก็ยัง สูง คนยังว่างงานก็มาก  น้ำมัยก็แพง และดอกเบี้ยมาตรฐานก็เพิ่มขึ้น เงินลงทุนก็ถูกผ่องถ่ายจากตลาดหุ้นไปสู่ตลาดตราสารหนี้มากขึ้น  แต่พื้นฐานของไทยก็ยังดีพอที่จะมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ การค้า การลงทุนเริ่มมากขึ้น การท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมา 
 
ในไตรมาสที่ 3 หุ้นหลายตัวขึ้น หลายตัวปรับตัวลง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ การเงิน เงินกู้ เช่าซื้อ เป็นตัวฉุดในไตรมาสนี้ค่อนข้างมาก  โดยรวมแล้วแม้มีกำไรเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในหุ้นบางกลุ่มอาจจะยังปรับลดลงได้อีก บรรยากาศของตลาดหุ้นไทยยังผันผวน ขึ้นๆลงๆ ยึกยักไม่ไปไหน  ปัจจัยเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยเงินฝาก เงินกู้เพิ่มขึ้น   คงต้องรอให้เศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัวกลับมาอย่างมั่นคง  พอร์ดออมหุ้นที่ผ่านมาแทบจะไม่มีกำไรเลยก็ว่าได้   คงต้องใจเย็นๆ ค่อยๆออม รอให้ธุรกิจต่างๆค่อยๆฟื้นตัว ได้แต่หวังว่าจะสามารถสร้างความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต คงต้องทอดเวลาการออมให้นานขึ้น ดีที่หุ้นที่ออมยังมีพื้นฐานดี สามารถฟื้นกลับมาได้ บางตัวก็ดูว่าคงไม่น่าจะฟื้นเร็ว หรือ ฟื้นฐานเปลี่ยนไป ก็ได้หยุดออมเพิ่ม  เปลี่ยนไปออมทุ้นอื่นที่คิดว่ามีศักยภาพเติบโตได้ดีกว่าแทนครับ
 
 
  ส่วนหุ้นในพอร์ตออมรายเดือนมีหุ้น DCA มี 13 หุ้น ซึ่งก็มีการปรับเงินออมรายเดือนเพิ่ม ลดลงบ้างในแต่ละเดือน เมื่อเห็นว่าแนวโน้มของหุ้นตัวใดมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในอนาค-ต หุ้นตัวไหนแนวโน้มชลอตัวในอนาคต ก็ลดจำนวนเงินออมลงบ้าง หรือหากมีมากพอในพอร์ตแล้ว ก็จะหยุดออมหุ้นตัวนั้นไปบ้าง 


ปัจจุบัน ออมรายเดือน เพียง 6 ตัว  มี AOT,BEM,CPN,CRC,GPSC และGULF ที่คิดว่าจะมีการเติบโตที่ดีกว่าหุ้นตัวอื่น 


 
สำหรับพอร์ตหุ้น DCA ทั้ง 3 พอร์ต (รวม 32 รอบ)ดังนี้

 หุ้นที่ DCA ทุกวันที่ 5



หุ้นที่ DCA ทุกวันที่ 15 


หุ้นที่ DCA ทุกวันที่ 25



  เงินปันผลรวม Q3 2022




นอกจากการออมหุ้นเป็นรายเดือนแล้ว ผมก็มีพอร์ตที่ลงทุนซื้อขายเองด้วย ซึ่งจะมีการซื้อๆขายๆ เล่นรอบบ้างเมื่อราคาหุ้นเด้งขึ้นมามีกำไรก็ขายออกทำกำไรออกไปบ้าง  รอเวลาหุ้นปรับลงมาก็ค่อยๆทยอยซื้อคืนบ้าง  หุ้นบางส่วนก็เก็บหุ้นปันผลไว้บ้างเพื่อรับเงินปันผล  ได้กระจายการลงทุนไปหลายๆกลุ่มทั้งหุ้นเงินปันผล และหุ้นเติบโต  จะได้พอมีรายได้พอใช้จ่ายบ้างในแต่ละปี (ช่วงตลาดหุ้นไม่ดี ราคาหุ้นตกเยอะๆ)
 
สำหรับพอร์ตรวมที่ซื้อขายเอง และ พอร์ตออมหุ้นรายเดือน DCA มีทั้งสิ้นมีประมาณ 22 ตัว โดยให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้น 7- 8 ตัวเป็นหุ้นหลักๆ คิดเป็นประมาณ 75 % ของพอร์ต และหุ้นที่คิดว่าน่าจะมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคตอีก 7-8 ตัว  และหุ้นที่ที่ติดดอยรอขายปรับพอร์ต ช่วงนี้ผมยังชอบหุ้น กลุ่ม JMART มองว่าอนาคตน่าจะเติบโตได้ดี ก็เลยเก็บไว้เยอะหน่อย โดยปรับลดหุ้นปันผลลง โดยลดสัดส่วนหุ้นตัวอื่นๆลง เพราะมองว่า กลุ่ม JMART น่าจะตีแตกได้ มีสตอรีดี น่าจะยังเติบโตได้อีกหลายๆปี (ความเห็นส่วนตัวครับ)  และหุ้นที่น่าจะกลับมาเมื่อการท่องเที่ยวกลับมาคือ AOT BEM BTS

สำหรับพอร์ตรวมทั้งDCA และ ซื้อขายเองมีหุ้นในพอร์ตดังภาพ 



 
ผลการลงทุน 18  ปี (Q3)  ที่ผ่านมาครับ 



แต่พอร์ตหุ้นคงเหลือรวมทุกพอร์ต ยังติดลบ ณ วันที่ 30 กัยายน 2565  ประมาณ -16.6 % หักกลบลบกับผลตอบแทนหุ้นและเงินปันผล 14.64%
ก็ติดลบประมาณ  - 2 %  ก็ไม่กระทบอะไรมาก ถือว่าลงทุนฟรีๆ สนุกๆก็แล้วกันครับ 555
 
 อิทธิพลชองดอกเบี้ยทบต้น หากได้ลงทุนและออมเงินอย่างต่อเนื่อง ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น จะเป็นแรงผลักดันให้พอร์ตยิ่งลงทุนนานปี  จะยิ่งเติบโตได้เป็นแรงบวก ทวีคูณ ดูจากตารางจะเห็นว่าหากเราได้ผลตตอบแทนเฉลี่ยปีละ 10% ต่อปีทุกๆปี เงินต้นจะเพิ่มขึ้นอีก 100% ใน 7.2 ปี 
ถ้าหากได้ผลตอบแทนต่อปี 15% ต่อปี ก็จะเพิ่มขึ้นได้เร็วกว่าเพียง 4.8 ปีเท่านั้น (ดูจากตาราง) จึงควรออมเงิน และลงทุนให้เงินทำงานตั้งแต่หนุ่มๆ ไม่ทันเป็นสว. ก็จะมีอิสระภาพทางกาเงินได้ครับ




 
ถ้าอ่านแล้วชอบ ...อยากให้เพื่อนๆคนอื่นได้อ่านด้วย ...ช่วยกด "  +  " หน้ากระทู้ให้ด้วยนะครับ 
เพื่อไม่ให้กระทู้ไหลลงไปเร็วจนเกินไป ท่านที่มาทีหลังจะได้มองเห็นกระทู้ครับ  
หลายปีที่ผ่านๆมา กระทู้ในสินธร ไหลลงเร็วมาก เพราะมีผู้โพสเข้ามาคุยจำนวนมากครับ
 
ขอบคุณครับ

อมยิ้ม01อมยิ้ม01
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่