"ชลน่าน" อุบ 3 แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย มั่นใจแลนด์สไลด์แน่ พาประเทศพ้นวิกฤต
https://www.matichon.co.th/politics/news_3607154
ชลน่าน มั่นใจ พท.แลนด์สไลด์ชัวร์ อุบ แคนดิเดตนายกฯ ลั่น ใกล้ถึงเวลาเหมาะสม เสนอ 3 ชื่อแน่นอน
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของพรรคในการเปิดแถลงยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ และความมั่นใจต่อเป้าหมายจำนวน ส.ส. 250 ที่นั่งว่า เป็นเป้าหมายและมียุทธศาตร์รองรับชัดเจน มั่นใจว่ากลไกวิธีการที่เราจะเข้าสู่เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ตรงนั้น เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นผลลัพธ์ที่เราคาดหวังไว้ น่าจะสัมฤทธิ์ตามที่เราตั้งไว้ ประกอบกับพี่น้องประชาชนต้องการออกจากวิกฤตและความทุกข์ยากลำบาก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามีความมั่นใจ
เมื่อถามว่า จากที่หลายฝ่ายจับตามองแคนดิเดตนายกฯของพรรค พท. มีการวางคุณสมบัติของแคนดิเดตไว้อย่างไร นพ.
ชลน่านกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดตัว แต่ตอนนี้ใกล้ได้เวลาที่เหมาะสมแล้ว เรื่องแคนดิเดตนายกฯและคณะผู้บริหารพรรค พท.จะเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ เรื่องที่ 2 ก็จะเป็นในส่วนของนโยบาย เรื่องที่ 3 ก็จะเป็นตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่กระจายอยู่ในพื้นที่และมีความเข้าอกเข้าใจ รับฟังปัญหา และอยู่กับพี่น้องประชาชน อันนี้เป็น 3 ยุทธศาสตร์หลักของการเข้าสู่แลนด์สไลด์ของเรา ในเรื่องของแคนดิเดตนายกฯก็รอจังหวะเวลา เราเสนอ 3 ชื่อแน่นอน เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถที่จะนำพา ขับเคลื่อน พาประเทศออกจากวิกฤต สร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนได้ และสร้างความหวังกับอนาคตให้กับลูกหลานได้ เป็นจุดที่เราเชื่อมั่นในตัวแคนดิเดตของเราว่าจะสามารถทำเช่นนั้นได้
เมื่อถามย้ำว่า มีการวางตัวแคนดิเดตนายกฯไว้แล้วใช่หรือไม่ นพ.
ชลน่านกล่าวว่า เรามีตัวเลือกอยู่มากพอสมควร อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าในแต่ละลำดับนั้นจะวางไว้อย่างไร
‘ณัฐชา’ ชี้ ‘ผู้กอง-สามมิตร’ ย้ายขั้ว สะท้อน ‘ประยุทธ์’ ไม่เหลือใครนอกจากอำนาจที่ปล้นมา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3607211
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กระแสข่าว ร.อ.
ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ย้ายไปพรรคเพื่อไทย (พท.) และข่าวกลุ่มสามมิตร จะย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เหลือทรัพย์สมบัติเพียงอย่างเดียว คือตำแหน่งใน ครม. ที่ยังดึงรั้งเอาไว้ด้วยผลประโยชน์ แต่ขณะเดียวกัน สิ่งสุดท้ายที่เหลือของ พล.อ.
ประยุทธ์ก็ใกล้จะหมดเวลาเต็มทน ผู้ที่เห็นอนาคต ไปไกลมากกว่าตำแหน่งทางการเมืองอันหอมหวาน บางคนเขาไม่สนใจ แต่มองมาที่พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ที่ประชาชนมองว่าเป็นความหวัง แต่ทางด้าน พล.อ.
ประยุทธ์ก็ยังที่จะใช้ตำแหน่งรัฐมนตรี ใส่พานรอให้ใครก็ได้ ที่ต้องการสวามิภักดิ์ตัวเอง มารับตำแหน่งไป นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.
ประยุทธ์ไม่เหลือใครแล้ว นอกจากอำนาจที่ปล้นประชาชนมา และกำลังใช้ในห้วงโค้งสุดท้ายก่อนจะหมดอายุ
เมื่อถามว่า หากกลุ่มสามมิตร ย้ายออกจากพรรค พปชร. และ ร.อ.
ธรรมนัส ไปอยู่กับพรรค พท.จริง จะส่งผลต่อการจัดทัพของพรรค พปชร.ในการเลือกตั้งรอบหน้ามากน้อยแค่ไหน นาย
ณัฐชากล่าวว่า กลุ่มต่างๆ ที่พูดถึงเป็นกลุ่มก้อนนักเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเลือกตั้งครั้งใด เขาหวังกระแส กับกระสุน พรรคไหนมีกระแส มากกว่ากระสุน เขาก็จะเลือกไปพรรคนั้น หรือพรรคไหนมีกระสุน มากกว่ากระแสในบางห้วงเวลา เขาก็จะอาจจะไป กระสุนในที่นี้หมายถึงทั้งเงินทอง อำนาจและกฎหมายรอบที่แล้วต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมาพรรคที่สืบทอดอำนาจมาอย่างพรรค พปชร. เต็มเปี่ยมทั้งเงินทอง อำนาจ หรือกฎกติกา ดังนั้น กลุ่มนักเลือกตั้ง ก็จะย้ายองคาพยพของตัวเองไปอยู่แต่หากวันหนึ่งวันใด กระแสสังคมพูดเป็นเสียงเดียวกันเรื่องพรรคที่มีกระแสประชาธิปไตย อาทิ พรรค ก.ก. และพรรค พท. ก็จะเรียกว่า มีกระแสประชาธิปไตยนำกระสุนต่างๆ ดังนั้น นักเลือกตั้งก็จะเฮโลไปในฝั่งที่ว่าตัวเองจะได้เข้าสู่อำนาจ
'อสังหา' โอดเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น อ้อนรัฐลดภาษีที่ดิน ต่อเวลาค่าโอนอีก 1 ปี
https://www.matichon.co.th/economy/news_3606971
‘อสังหา’ โอดเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น อ้อนรัฐลดภาษีที่ดิน ต่อเวลาค่าโอนอีก 1 ปี
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในฐานะผู้ประกอบการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อยากขอให้รัฐบาลกำหนดนโยบายหรือมีมาตรการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ เช่น ขยายมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง เหลือ 0.01% และมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือLTVให้กู้ได้ 100% ซึ่งจะสิ้นสุดปลายปีนี้ออกไปอีก เพื่อให้มีความต่อเนื่องในการกระตุ้นตลาด เนื่องจากภาคธุรกิจอสังหาฯเพิ่งฟื้นตัวและยังไม่แข็งแรงมาก
นายชานนท์กล่าวว่า นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลทบทวนการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2566 ที่จัดเก็บ100% เป็นปีที่ 2 โดยขอให้รัฐบาลจัดเก็บแบบเป็นขั้นบันได ซึ่งมองว่าขณะนี้ยังไม่ใช่จังหวะและเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากยังมีข้อกังวลของภาวะเศรษฐกิจถดถอยและเศรษฐกิจที่เห็นว่าฟื้นตัว แต่ยังมีสุขภาพไม่ค่อยดี โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่งฟื้นจากโควิด ซึ่งการทำธุรกิจและนโยบายต้องดูจังหวะและเวลา เราไม่ได้ต่อต้าน เพราะรัฐคงเห็นอะไรมากกว่า แต่ในฐานะผู้ประกอบการมองว่าธุรกิจยังได้รับผลกระทบอยู่ เช่น การท่องเที่ยวและอสังหาฯ
“ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถือว่าเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง ถ้าภาคธุรกิจอสังหาณมีภาระภาษีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมันก็เหนื่อย ถ้าภาครัฐมองว่าอสังหาฯเป็นส่วนหนึ่งของกลไกที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ขอให้ภาครัฐดูจังหวะและเวลาในการจัดเก็บภาษีที่ดินให้ดี ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ๆยังพอไปรอด แต่มองว่าผู้ประกอบรายเล็กที่เป็นเอสเอ็มอีน่าห่วงเพราะต้นทุนจะสูงขึ้นเรื่อยๆและอาจจะทำให้ธุรกิจไปต่อได้ยาก” นาย
ชานนท์กล่าว
นาย
ชานนท์กล่าวถึงนโยบายของนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) จะปรับอัตราภาษีที่ดินเพิ่มในส่วนของที่ดินประเภทเกษตรกรรม กรณีมีเจ้าของที่ดินในเมืองซึ่งตามโซนผังเมืองกำหนดเป็นพื้นที่โซนสีแดงพาณิชยกรรมมาทำเกษตรกรรมว่า ตนสนับสนุนแนวคิด แต่ว่าอยากให้ผู้ว่าฯกทม.พิจารณาว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมหรือไม่ในช่วงที่เศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัว ควรจะชะลอไปก่อนได้หรือไม่ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจมันขับเคลื่อนต่อไปได้ เพราะภาษีที่ดินถือว่าเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งของภาคธุรกิจ
“เศรษฐกิจช่วง 3 เดือนสุดท้ายนี้ ผมว่าแนวโน้มดีขึ้น แต่เป็นการดีขึ้นบนฐานที่ต่ำ เพราะเราเจอโควิดมากว่า 2 ปี จึงยังไม่กลับมาเท่ากับปีก่อนโควิด แต่จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในปีหน้าก็ยังไม่กลับมา 100% ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2 ปี” นาย
ชานนท์กล่าว
ผวากองทุนน้ำมันฯหนี้พุ่ง!! หลังดีเซลโลกขึ้นแรง พิษโอเปคพลัสลดผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วัน
https://www.matichon.co.th/economy/news_3607540
กองทุนน้ำมันฯลุยอุดหนุนดีเซลแตะ 2.63 บาทต่อลิตร หลังตลาดโลกขึ้นแรงพิษโอเปคพลัสลดผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ดันหนี้พุ่งต่อ
นาย
พรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในฐานะผู้ช่วยเลขาคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันภายหลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดสูงสุดในรอบ 2 ปีว่า ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯมีการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิดทุกวัน โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯเข้าบริหารจัดการ ล่าสุดราคาตลาดโลกปรับขึ้นอีก โดยเฉพาะดีเซล ตลาดสิงคโปร์พุ่งถึง 7.02 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดังนั้นวันที่ 8 ตุลาคมจึงใช้เงินกองทุนน้ำมันฯเพิ่มเงินอุดหนุนดีเซล เป็นอัตรา 2.63 บาทต่อลิตร จากวันที่ 7 ตุลาคม อุดหนุนอยู่ที่ 1.21 บาทต่อลิตร คาดว่าจะทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯติดลบมากขึ้นแตะระดับ 1.25-1.26 แสนล้านบาทภายในต้นสัปดาห์หน้า จากที่ผ่านมาดีเซลลดลง กองทุนน้ำมันฯจึงเปลี่ยนเป็นเก็บเงินเข้าแทน ส่งผลให้สามารถตรึงหนี้กองทุนที่ระดับ 1.24 แสนล้านบาทนานหลายสัปดาห์ ส่วนราคาขายปลีกดีเซลนั้นยังคงตรึงไว้ที่ 32.94 บาทต่อลิตร ถึงสัปดาห์หน้าจากนั้น กบน.จะพิจารณาราคาขายปลีกอีกครั้ง
นาย
พรชัยกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการกู้เงินเพื่อดูแลกองทุนน้ำมันฯนั้น คาดว่าจากขั้นตอนต่างๆ จะมีความชัดเจนเดือนพฤศจิกายน รวมทั้งความชัดเจนเรื่องวงเงินกู้ก้อนแรกด้วย
JJNY : 5in1 "ชลน่าน"อุบ3แคนดิเดต│‘ณัฐชา’ชี้‘ประยุทธ์’ไม่เหลือใคร│'อสังหา'โอด│ผวากองทุนน้ำมันฯหนี้พุ่ง!!│ปูตินชักหนาว!
https://www.matichon.co.th/politics/news_3607154
ชลน่าน มั่นใจ พท.แลนด์สไลด์ชัวร์ อุบ แคนดิเดตนายกฯ ลั่น ใกล้ถึงเวลาเหมาะสม เสนอ 3 ชื่อแน่นอน
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของพรรคในการเปิดแถลงยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ และความมั่นใจต่อเป้าหมายจำนวน ส.ส. 250 ที่นั่งว่า เป็นเป้าหมายและมียุทธศาตร์รองรับชัดเจน มั่นใจว่ากลไกวิธีการที่เราจะเข้าสู่เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ตรงนั้น เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นผลลัพธ์ที่เราคาดหวังไว้ น่าจะสัมฤทธิ์ตามที่เราตั้งไว้ ประกอบกับพี่น้องประชาชนต้องการออกจากวิกฤตและความทุกข์ยากลำบาก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามีความมั่นใจ
เมื่อถามว่า จากที่หลายฝ่ายจับตามองแคนดิเดตนายกฯของพรรค พท. มีการวางคุณสมบัติของแคนดิเดตไว้อย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดตัว แต่ตอนนี้ใกล้ได้เวลาที่เหมาะสมแล้ว เรื่องแคนดิเดตนายกฯและคณะผู้บริหารพรรค พท.จะเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ เรื่องที่ 2 ก็จะเป็นในส่วนของนโยบาย เรื่องที่ 3 ก็จะเป็นตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่กระจายอยู่ในพื้นที่และมีความเข้าอกเข้าใจ รับฟังปัญหา และอยู่กับพี่น้องประชาชน อันนี้เป็น 3 ยุทธศาสตร์หลักของการเข้าสู่แลนด์สไลด์ของเรา ในเรื่องของแคนดิเดตนายกฯก็รอจังหวะเวลา เราเสนอ 3 ชื่อแน่นอน เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถที่จะนำพา ขับเคลื่อน พาประเทศออกจากวิกฤต สร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนได้ และสร้างความหวังกับอนาคตให้กับลูกหลานได้ เป็นจุดที่เราเชื่อมั่นในตัวแคนดิเดตของเราว่าจะสามารถทำเช่นนั้นได้
เมื่อถามย้ำว่า มีการวางตัวแคนดิเดตนายกฯไว้แล้วใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรามีตัวเลือกอยู่มากพอสมควร อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าในแต่ละลำดับนั้นจะวางไว้อย่างไร
‘ณัฐชา’ ชี้ ‘ผู้กอง-สามมิตร’ ย้ายขั้ว สะท้อน ‘ประยุทธ์’ ไม่เหลือใครนอกจากอำนาจที่ปล้นมา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3607211
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ย้ายไปพรรคเพื่อไทย (พท.) และข่าวกลุ่มสามมิตร จะย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เหลือทรัพย์สมบัติเพียงอย่างเดียว คือตำแหน่งใน ครม. ที่ยังดึงรั้งเอาไว้ด้วยผลประโยชน์ แต่ขณะเดียวกัน สิ่งสุดท้ายที่เหลือของ พล.อ.ประยุทธ์ก็ใกล้จะหมดเวลาเต็มทน ผู้ที่เห็นอนาคต ไปไกลมากกว่าตำแหน่งทางการเมืองอันหอมหวาน บางคนเขาไม่สนใจ แต่มองมาที่พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ที่ประชาชนมองว่าเป็นความหวัง แต่ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังที่จะใช้ตำแหน่งรัฐมนตรี ใส่พานรอให้ใครก็ได้ ที่ต้องการสวามิภักดิ์ตัวเอง มารับตำแหน่งไป นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เหลือใครแล้ว นอกจากอำนาจที่ปล้นประชาชนมา และกำลังใช้ในห้วงโค้งสุดท้ายก่อนจะหมดอายุ
เมื่อถามว่า หากกลุ่มสามมิตร ย้ายออกจากพรรค พปชร. และ ร.อ.ธรรมนัส ไปอยู่กับพรรค พท.จริง จะส่งผลต่อการจัดทัพของพรรค พปชร.ในการเลือกตั้งรอบหน้ามากน้อยแค่ไหน นายณัฐชากล่าวว่า กลุ่มต่างๆ ที่พูดถึงเป็นกลุ่มก้อนนักเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเลือกตั้งครั้งใด เขาหวังกระแส กับกระสุน พรรคไหนมีกระแส มากกว่ากระสุน เขาก็จะเลือกไปพรรคนั้น หรือพรรคไหนมีกระสุน มากกว่ากระแสในบางห้วงเวลา เขาก็จะอาจจะไป กระสุนในที่นี้หมายถึงทั้งเงินทอง อำนาจและกฎหมายรอบที่แล้วต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมาพรรคที่สืบทอดอำนาจมาอย่างพรรค พปชร. เต็มเปี่ยมทั้งเงินทอง อำนาจ หรือกฎกติกา ดังนั้น กลุ่มนักเลือกตั้ง ก็จะย้ายองคาพยพของตัวเองไปอยู่แต่หากวันหนึ่งวันใด กระแสสังคมพูดเป็นเสียงเดียวกันเรื่องพรรคที่มีกระแสประชาธิปไตย อาทิ พรรค ก.ก. และพรรค พท. ก็จะเรียกว่า มีกระแสประชาธิปไตยนำกระสุนต่างๆ ดังนั้น นักเลือกตั้งก็จะเฮโลไปในฝั่งที่ว่าตัวเองจะได้เข้าสู่อำนาจ
'อสังหา' โอดเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น อ้อนรัฐลดภาษีที่ดิน ต่อเวลาค่าโอนอีก 1 ปี
https://www.matichon.co.th/economy/news_3606971
‘อสังหา’ โอดเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น อ้อนรัฐลดภาษีที่ดิน ต่อเวลาค่าโอนอีก 1 ปี
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในฐานะผู้ประกอบการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อยากขอให้รัฐบาลกำหนดนโยบายหรือมีมาตรการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ เช่น ขยายมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง เหลือ 0.01% และมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือLTVให้กู้ได้ 100% ซึ่งจะสิ้นสุดปลายปีนี้ออกไปอีก เพื่อให้มีความต่อเนื่องในการกระตุ้นตลาด เนื่องจากภาคธุรกิจอสังหาฯเพิ่งฟื้นตัวและยังไม่แข็งแรงมาก
นายชานนท์กล่าวว่า นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลทบทวนการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2566 ที่จัดเก็บ100% เป็นปีที่ 2 โดยขอให้รัฐบาลจัดเก็บแบบเป็นขั้นบันได ซึ่งมองว่าขณะนี้ยังไม่ใช่จังหวะและเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากยังมีข้อกังวลของภาวะเศรษฐกิจถดถอยและเศรษฐกิจที่เห็นว่าฟื้นตัว แต่ยังมีสุขภาพไม่ค่อยดี โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่งฟื้นจากโควิด ซึ่งการทำธุรกิจและนโยบายต้องดูจังหวะและเวลา เราไม่ได้ต่อต้าน เพราะรัฐคงเห็นอะไรมากกว่า แต่ในฐานะผู้ประกอบการมองว่าธุรกิจยังได้รับผลกระทบอยู่ เช่น การท่องเที่ยวและอสังหาฯ
“ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถือว่าเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง ถ้าภาคธุรกิจอสังหาณมีภาระภาษีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมันก็เหนื่อย ถ้าภาครัฐมองว่าอสังหาฯเป็นส่วนหนึ่งของกลไกที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ขอให้ภาครัฐดูจังหวะและเวลาในการจัดเก็บภาษีที่ดินให้ดี ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ๆยังพอไปรอด แต่มองว่าผู้ประกอบรายเล็กที่เป็นเอสเอ็มอีน่าห่วงเพราะต้นทุนจะสูงขึ้นเรื่อยๆและอาจจะทำให้ธุรกิจไปต่อได้ยาก” นายชานนท์กล่าว
นายชานนท์กล่าวถึงนโยบายของนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) จะปรับอัตราภาษีที่ดินเพิ่มในส่วนของที่ดินประเภทเกษตรกรรม กรณีมีเจ้าของที่ดินในเมืองซึ่งตามโซนผังเมืองกำหนดเป็นพื้นที่โซนสีแดงพาณิชยกรรมมาทำเกษตรกรรมว่า ตนสนับสนุนแนวคิด แต่ว่าอยากให้ผู้ว่าฯกทม.พิจารณาว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมหรือไม่ในช่วงที่เศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัว ควรจะชะลอไปก่อนได้หรือไม่ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจมันขับเคลื่อนต่อไปได้ เพราะภาษีที่ดินถือว่าเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งของภาคธุรกิจ
“เศรษฐกิจช่วง 3 เดือนสุดท้ายนี้ ผมว่าแนวโน้มดีขึ้น แต่เป็นการดีขึ้นบนฐานที่ต่ำ เพราะเราเจอโควิดมากว่า 2 ปี จึงยังไม่กลับมาเท่ากับปีก่อนโควิด แต่จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในปีหน้าก็ยังไม่กลับมา 100% ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2 ปี” นายชานนท์กล่าว
ผวากองทุนน้ำมันฯหนี้พุ่ง!! หลังดีเซลโลกขึ้นแรง พิษโอเปคพลัสลดผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วัน
https://www.matichon.co.th/economy/news_3607540
กองทุนน้ำมันฯลุยอุดหนุนดีเซลแตะ 2.63 บาทต่อลิตร หลังตลาดโลกขึ้นแรงพิษโอเปคพลัสลดผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ดันหนี้พุ่งต่อ
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในฐานะผู้ช่วยเลขาคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันภายหลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดสูงสุดในรอบ 2 ปีว่า ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯมีการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิดทุกวัน โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯเข้าบริหารจัดการ ล่าสุดราคาตลาดโลกปรับขึ้นอีก โดยเฉพาะดีเซล ตลาดสิงคโปร์พุ่งถึง 7.02 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดังนั้นวันที่ 8 ตุลาคมจึงใช้เงินกองทุนน้ำมันฯเพิ่มเงินอุดหนุนดีเซล เป็นอัตรา 2.63 บาทต่อลิตร จากวันที่ 7 ตุลาคม อุดหนุนอยู่ที่ 1.21 บาทต่อลิตร คาดว่าจะทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯติดลบมากขึ้นแตะระดับ 1.25-1.26 แสนล้านบาทภายในต้นสัปดาห์หน้า จากที่ผ่านมาดีเซลลดลง กองทุนน้ำมันฯจึงเปลี่ยนเป็นเก็บเงินเข้าแทน ส่งผลให้สามารถตรึงหนี้กองทุนที่ระดับ 1.24 แสนล้านบาทนานหลายสัปดาห์ ส่วนราคาขายปลีกดีเซลนั้นยังคงตรึงไว้ที่ 32.94 บาทต่อลิตร ถึงสัปดาห์หน้าจากนั้น กบน.จะพิจารณาราคาขายปลีกอีกครั้ง
นายพรชัยกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการกู้เงินเพื่อดูแลกองทุนน้ำมันฯนั้น คาดว่าจากขั้นตอนต่างๆ จะมีความชัดเจนเดือนพฤศจิกายน รวมทั้งความชัดเจนเรื่องวงเงินกู้ก้อนแรกด้วย