วันนี้ 1 ต.ค.65 เอาเก้าอี้ตัวน้อยมานั่งริมทะเล ฟังเสียงคลื่น ดูพระอาทิตย์ตก เลยกำหนดดูลมหายใจ เข้า-ออก ไว้ที่หว่างคิ้ว ลมหายใจเข้า กำหนดรู้ว่า “พุท” ลมหายใจออกกำหนดรู้ว่า “โธ” หลับตากำหนดรู้ไปอย่างนั้น หลับตาฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง
กำหนดไปรู้ลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ ลมค่อยๆแผ่วเบาๆลงเรื่อยๆ ตัวรู้เด่นชัดขึ้นที่หว่างคิ้ว เกิดปีติน้ำตาไหลเหมือนคนร้องไห้ ความสงบค่อยๆมากขึ้นๆ ลมหายใจก็ละเอียดขึ้น สุดท้ายลมหายใจ คำภาวนาพุทโธก็ดับสนิท จนสุดท้ายเหลือแต่ความสงบรวมที่หว่างคิ้ว ท่ามกลางความว่าง ความรู้สึกทางกายหายไปหมด เสียงคลื่นทะเล เสียงเด็กเล่นชายหาดก็หายไปไม่รับรู้
มีแต่สติตัวรู้ความสงบที่หว่างคิ้วท่ามกลางความว่าง กำหนดรู้ความสงบ เบาสบายไว้ที่หว่างคิ้วนั้นจุดเดียว ไม่รับรู้ถึงลมหายใจ ไม่ภาวนาพุทโธ ไม่รู้สึกถึงกาย ไม่มีเสียงใดๆเข้ามารบกวน มีแต่ความสงบ เลาสบาย…อยู่กับความสงบจนเต็มอิ่มจิตก็ถอนออกมา รู้สึกอิ่มเอิบ สบายใจ
เพราะเครียดเรื่องงานและเรื่องเรียนความสงบในสมาธิแบบนี้แทบไม่ได้สัมผัสนานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในรอบปี 2565….จึงบันทึกความรู้สึกนี้ไว้
กำหนดดูลมหายใจ เข้า-ออก ไว้ที่หว่างคิ้ว
กำหนดไปรู้ลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ ลมค่อยๆแผ่วเบาๆลงเรื่อยๆ ตัวรู้เด่นชัดขึ้นที่หว่างคิ้ว เกิดปีติน้ำตาไหลเหมือนคนร้องไห้ ความสงบค่อยๆมากขึ้นๆ ลมหายใจก็ละเอียดขึ้น สุดท้ายลมหายใจ คำภาวนาพุทโธก็ดับสนิท จนสุดท้ายเหลือแต่ความสงบรวมที่หว่างคิ้ว ท่ามกลางความว่าง ความรู้สึกทางกายหายไปหมด เสียงคลื่นทะเล เสียงเด็กเล่นชายหาดก็หายไปไม่รับรู้
มีแต่สติตัวรู้ความสงบที่หว่างคิ้วท่ามกลางความว่าง กำหนดรู้ความสงบ เบาสบายไว้ที่หว่างคิ้วนั้นจุดเดียว ไม่รับรู้ถึงลมหายใจ ไม่ภาวนาพุทโธ ไม่รู้สึกถึงกาย ไม่มีเสียงใดๆเข้ามารบกวน มีแต่ความสงบ เลาสบาย…อยู่กับความสงบจนเต็มอิ่มจิตก็ถอนออกมา รู้สึกอิ่มเอิบ สบายใจ
เพราะเครียดเรื่องงานและเรื่องเรียนความสงบในสมาธิแบบนี้แทบไม่ได้สัมผัสนานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในรอบปี 2565….จึงบันทึกความรู้สึกนี้ไว้