เจ้าของโรงแรมขอปรึกษาทนายความก่อนครับ
ขณะกำลังกวาดกล้องไป อาจารย์ต่อที่มาด้วยกันแหงนมองไปชั้นบน เบิกตาค้างพร้อมร้อง "โอ้ยพี่ครับ ดูตรงนั้น มีผู้หญิงยืนตรงนั้น" ผมหันไปแต่ผมไม่เห็นอะไร อาจารย์ต่อร้องอีก "โอ้ย เห็นไหมครับ เขายื่นหน้าออกมา" แล้วพาร่างมหึมาของเขาโดดมาเกาะแขนผมอย่างรวดเร็ว ผมไม่เห็นอะไร แต่บนโถงระเบียงมีรูปถ่ายผู้หญิงแต่งชุดพื้นเมืองสามคน มีผ้าดำขึงบังตา
ผมนึก ตัวผมห้อยสมเด็จอรหังของหลวงปู่สุกไก่เถื่อนกับหมากหลวงปู่ใหญ่ อาจบางทีน่าจะเป็นเหตุให้ผมไม่เห็นสิ่งที่อาจารย์ต่อเห็น แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงพลังงานแย่ๆ บางอย่าง
ผมโมโห นึกถึงห้วงเวลาที่เคยไล่ด่าผีที่อาคารเจนเอ๊กซ์อะคาเดมี่ เลยพูดลอยๆ ออกไปทันที … "ผมไม่มีปัญหาอะไรกับดวงวิญญาณแถวนี้นะ แต่ผมไม่พอใจเจ้าของธุรกิจนี้ที่ให้บริการไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ห้องพักสกปรกและไม่มีแม้แต่ความใส่ใจจะทำให้มันสะอาดก่อนขายห้อง และไม่สนใจที่จะดูแลลูกค้า เข้าใจนะ"
ผมเดินเข้าไปด้านในแล้วตะโกนเรียกชายที่เป็นเจ้าของหรือคนดูแลคนเมื่อกี้
"ผมจะไม่พักที่นี้แล้ว ห้องพักสกปรก เหมือนไม่ทำความสะอาดเป็นเดือน ผมว่าคุณไม่แฟร์ต่อลูกค้า และเราจะร้องเรียนกับเอเจนต์ที่เป็นเพจคนกลางขายห้องพักให้คุณ"
ผู้ชายคนนั้นยืนฟัง แล้วเดินกลับเข้าห้องนั้นไป ไอ้ฟักแม้ว! ผมโทรบอกภรรยา เล่าให้ฟัง จากนั้นส่งรูปที่ถ่ายให้เธอเครื่องเตือนขึ้นมาว่า failed to send… retry? ผมกด retry .. ยังคง failed ติดกันสี่ครั้ง ส่งไม่ได้
ผมนึกในใจ ก็ถือว่าเงินค่าห้องที่จ่ายไปแล้วเป็นทานแก่ผู้เป็นเจ้าของบ้านพักร้างนี้แล้วกัน จากนั้นผมกับคณะพากันเดินทางออกจากสถานที่นั้น ตามคำแนะนำของที่ปรึกษา กลิ่นเหม็นเน่าโชยเข้าจมูกขณะที่เรากำลังเดินออกมาขึ้นรถ ผมพูดกับโน๊ตและอาจารย์ต่อ
"อะไรก็ตามที่ดึงดูดให้เรามาที่นี่ คงมีเหตุผลบางอย่าง บางทีพวกเขาคงทุกข์ทรมานกับบางอย่าง เราไปหาวัดสักวัดหนึ่งแถวนี้ ไปทำบุญกรวดน้ำให้เขา" พอออกมาจากที่นั่น ผมส่งรูปอีกครั้ง คราวนี้ส่งสำเร็จ เราแวะไปวัดโลกโมฬี ทำบุญใส่ตู้บริจาค สวดบูชาพระรัตนตรัยแล้วกรวดน้ำอิมินา แล้วพากันออกไปหาที่พักใหม่ ในที่สุดมาเช็คอินที่โรงแรมเล็กๆ ชื่อ xxxxx
เรื่องบางอย่างในโลกนั้นยากอธิบายความเชื่อส่วนบุคคล ดังนั้นโปรดพิจารณาด้วยวิจารณญาณ
"ปุ้ม ตาวัน" เล่าประสบการณ์ที่พักหลอน สุดสยองหันกล้องไปทางไหน ก็เจอแต่ผี
ขณะกำลังกวาดกล้องไป อาจารย์ต่อที่มาด้วยกันแหงนมองไปชั้นบน เบิกตาค้างพร้อมร้อง "โอ้ยพี่ครับ ดูตรงนั้น มีผู้หญิงยืนตรงนั้น" ผมหันไปแต่ผมไม่เห็นอะไร อาจารย์ต่อร้องอีก "โอ้ย เห็นไหมครับ เขายื่นหน้าออกมา" แล้วพาร่างมหึมาของเขาโดดมาเกาะแขนผมอย่างรวดเร็ว ผมไม่เห็นอะไร แต่บนโถงระเบียงมีรูปถ่ายผู้หญิงแต่งชุดพื้นเมืองสามคน มีผ้าดำขึงบังตา
ผมนึก ตัวผมห้อยสมเด็จอรหังของหลวงปู่สุกไก่เถื่อนกับหมากหลวงปู่ใหญ่ อาจบางทีน่าจะเป็นเหตุให้ผมไม่เห็นสิ่งที่อาจารย์ต่อเห็น แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงพลังงานแย่ๆ บางอย่าง
ผมโมโห นึกถึงห้วงเวลาที่เคยไล่ด่าผีที่อาคารเจนเอ๊กซ์อะคาเดมี่ เลยพูดลอยๆ ออกไปทันที … "ผมไม่มีปัญหาอะไรกับดวงวิญญาณแถวนี้นะ แต่ผมไม่พอใจเจ้าของธุรกิจนี้ที่ให้บริการไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ห้องพักสกปรกและไม่มีแม้แต่ความใส่ใจจะทำให้มันสะอาดก่อนขายห้อง และไม่สนใจที่จะดูแลลูกค้า เข้าใจนะ"
ผมเดินเข้าไปด้านในแล้วตะโกนเรียกชายที่เป็นเจ้าของหรือคนดูแลคนเมื่อกี้
"ผมจะไม่พักที่นี้แล้ว ห้องพักสกปรก เหมือนไม่ทำความสะอาดเป็นเดือน ผมว่าคุณไม่แฟร์ต่อลูกค้า และเราจะร้องเรียนกับเอเจนต์ที่เป็นเพจคนกลางขายห้องพักให้คุณ"
ผู้ชายคนนั้นยืนฟัง แล้วเดินกลับเข้าห้องนั้นไป ไอ้ฟักแม้ว! ผมโทรบอกภรรยา เล่าให้ฟัง จากนั้นส่งรูปที่ถ่ายให้เธอเครื่องเตือนขึ้นมาว่า failed to send… retry? ผมกด retry .. ยังคง failed ติดกันสี่ครั้ง ส่งไม่ได้
ผมนึกในใจ ก็ถือว่าเงินค่าห้องที่จ่ายไปแล้วเป็นทานแก่ผู้เป็นเจ้าของบ้านพักร้างนี้แล้วกัน จากนั้นผมกับคณะพากันเดินทางออกจากสถานที่นั้น ตามคำแนะนำของที่ปรึกษา กลิ่นเหม็นเน่าโชยเข้าจมูกขณะที่เรากำลังเดินออกมาขึ้นรถ ผมพูดกับโน๊ตและอาจารย์ต่อ
"อะไรก็ตามที่ดึงดูดให้เรามาที่นี่ คงมีเหตุผลบางอย่าง บางทีพวกเขาคงทุกข์ทรมานกับบางอย่าง เราไปหาวัดสักวัดหนึ่งแถวนี้ ไปทำบุญกรวดน้ำให้เขา" พอออกมาจากที่นั่น ผมส่งรูปอีกครั้ง คราวนี้ส่งสำเร็จ เราแวะไปวัดโลกโมฬี ทำบุญใส่ตู้บริจาค สวดบูชาพระรัตนตรัยแล้วกรวดน้ำอิมินา แล้วพากันออกไปหาที่พักใหม่ ในที่สุดมาเช็คอินที่โรงแรมเล็กๆ ชื่อ xxxxx
เรื่องบางอย่างในโลกนั้นยากอธิบายความเชื่อส่วนบุคคล ดังนั้นโปรดพิจารณาด้วยวิจารณญาณ