แบตเสริมรถ เปลี่ยนศูนย์ ยังอยู่ระยะประกัน แต่เคลมไม่ได้?

สวัสดีครับ

มีเรื่องอยากปรึกษาครับ

ตอนนี้ใช้รถเก๋งของบริษัท T รุ่น P เป็นไฮบริดจ์ มีแบตในรถสองตัวครับ 

เบื้องต้น ขอออกตัวก่อนว่า เราไม่ค่อยรู้ลึกเรื่องรถหรือเครื่องยนต์นะครับ รถที่ใช้อยู่ตอนนี้ ก็เพราะ สิบปีก่อนเห็นรูปในหนังสือพิมพ์แล้วถูกใจ บวกกับที่บ้านใช้รถของ T มาตลอดอยู่แล้ว เลยตัดสินใจไปพรีที่ showroom เลยแบบไม่ test drive ด้วย (ตอนนั้นรถยังไม่เข้างาน motorshow เลยล่ะ) ใช้เงินเดือนปีแรกตัวเอง ดาวน์แล้วค่อยๆผ่อนมาเองจนครบ 

พอดีว่า เมื่อสองเดือนก่อน คุณพ่อยืมรถไปเอาของ แล้วโดนขับรถชนท้าย ระหว่างรอประกัน 1-2 ชั่วโมง แบตหมด สตาร์ทไม่ติด ต้องตามพี่ช่างศูนย์ T มาช่วยจัมป์ เพื่อขับรถกลับมาจอดที่หอระหว่างรอเรียกซ่อม 

พอวันถัดมา ไปเปิดรถ ปรากฎว่า สตาร์ทไม่ติดอีก เลยคิดว่า ยังไงรถก็ใช้ไม่ได้ (ฝาหลังเปิดเผยอตลอด) เลยว่า รอทางอู่กับประกัน เรียกให้เอารถไปเข้าอู่ค่อยเรียกพี่ช่างศูนย์ T มาช่วยจั๊มป์ เอารถเข้าทีเดียวละกัน เพราะ ไม่รู้จะได้ซ่อมเมื่อไหร่ ค่าเรียกมาจัมป์ทีนึง ก็สองถึงสามร้อย จะให้จัมป์แล้วดับ จัมป์แล้วดับไปเรื่อยๆก็ใช่เรื่อง 

สรุปรออยู่เกือบสองเดือน โทรติดตามกับอู่ทุกสัปดาห์ เค้าบอก อะไหล่คันนี้หายากแล้ว ติด black order ให้รอไปก่อน จนสุดท้ายในที่สุด วันเสาร์ที่ผ่านมาประสานกับประกัน จนหาอะไหล่จากส่วนกลางมาแทน ทางอู่ก็ได้ฤกษ์โทรตามไปซ่อมเสียที 

วันเสาร์บ่ายๆ ที่ผ่านมา จึงตามพี่ช่าง T มาจั๊มป์แบต เพื่อนำรถไปอู่ ขับได้ประมาณ 15 นาที ไปถึงอู่ ลงไปติดต่อ รถก็ดับ start ไม่ติดอีก เลยโทรไปหาทางศูนย์ T เลย บอกเค้าว่า "แบตเสริมตัวนี้ เพิ่งเปลี่ยนที่ศูนย์ ไม่ถึงปี จำเดือนแน่นอนไม่ได้ จัมป์แล้วดับหลายรอบแล้วแบบนี้ น่าจะยังอยู่ในประกัน ขอเคลมเปลี่ยนได้ไหมครับ" 

หลังจากนั้น ทางศูนย์ T ก็ขอไปหาข้อมูลเข้าซ่อมในอดีตก่อนจะโทรกลับมาบอกว่า "น้องโชคดีมากเลย แบตน้องอยู่ในประกันถึงวันที่ 1 ตุลานี่ล่ะ แต่ทางศูนย์ต้องขอเอาเข้ามาเช็คก่อนนะว่าอยู่ในเงื่อนไขที่จะเคลมได้มั้ย ขอเอามาเข้าศูนย์วันจันทร์นะ" 

วันจันทร์ที่ผ่านมา ตอนเช้าๆ ทางศูนย์ก็ช่วยบริการ มีคนไปจัมป์ที่อู่แล้วเอามาเช็คที่ศูนย์ให้ครับ 
จนบ่ายสามครึ่งแล้ว เราเห็นยังไม่มีใครโทรมาแจ้งความคืบหน้า ก็เลยโทรไปถามที่ศูนย์ เค้าบอกว่า เดี๋ยวจะให้ช่างโทรกลับ แต่ก็ไม่มีใครโทรมาอีก 

วันอังคารที่ผ่านมา ช่วงก่อนเที่ยงก็มีเบอร์มือถือ โทรเข้ามาบอกว่า เบื้องต้นเช็คแล้ว เมื่อวานชาร์ทไฟไว้ วัดได้ (ถ้าจำไม่ผิดเค้าบอก 11 volt ล่ะมั้ง) พอเช้านี้ไปวัดดูไม่มีไฟแล้ว คงต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ดีกว่า แต่เบื้องต้นคงเคลมแบตไม่ได้นะ พอถามเหตุผล เค้าบอกไม่ใช่ช่างเทคนิค เดี๋ยวให้ติดต่อมาถามอีกครั้ง 
ช่วงบ่าย ผมเลยโทรเข้าศูนย์ แล้วต่อฝ่ายบริการ พยายามถามว่า แบตเตอรี่กักเก็บไฟไม่ได้ เปลี่ยนไม่ถึงปี ยังอยู่ในระยะประกัน ทำไมเคลมไม่ได้หรือครับ แต่พี่เค้าบอกว่า เค้าไม่รู้เหมือนกัน เค้าไม่ใช่ช่างฝ่ายเทคนิค เอาแบบนี้แล้วกัน เดี๋ยวน้องโทรไปเบอร์ t.. motor ส่วนกลางที่กรุงเทพนะ แล้วถามเค้าเลยว่าทำไมเคลมไม่ได้ 
ตอนนั้นในใจแอบสงสัย ทำไมเค้าไม่ไปประสานช่าง แล้วมาตอบให้ล่ะ ทำไมให้โทรไปถามทางกรุงเทพเอาหว่า แต่ก็เอ้อ เอาไงก็เอาละกัน ตามประสาคนลักษณ์ 9/ INFP อะนะ (สายยอมคน) โทรไปตามที่ว่าก็ได้ ก็เลยบอกเค้าว่า แต่ผมไม่มีเบอร์นะครับ เค้าก็เลยหาเบอร์เลข 4 หลักให้เรามา 

เราเลยโทรไปตามเบอร์ที่ให้มา เจอสายอัตโนมัติ บอทอัจฉริยะนักแก้ปัญหาชั้นยอด ที่ไม่ยอมบอกวิธีติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรงมาซักที หลังจากวนเวียนกับการพยายามอธิบายให้บอทฟังเรื่องขอเคลมแบตอยู่สามสี่รอบ มีรอบนึงดูบอทจะฟังตรงประเด็นสุดละ ตอบมาว่า 
"ต้องการถามเรื่องการเคลมแบตเตอรรี่ใช่ไหมครับ แบตเตอรี่ของทางเรา ประกัน 1 ปี หรือ 20000 กิโล บลาๆๆ" แล้วก็กลับไป "มีอะไรต้องการสอบถามเพิ่มไหมครับ" 
เราติดลูป จนในที่สุดก็คิดได้ จึงพูดว่า "ขอคุยกับเจ้าหน้าที่ครับ" สุดท้ายก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่สักที ดีใจมากๆ สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ส่วนกลางบอกว่า รับเรื่องไว้แล้ว เดี๋ยวจะประสานกลับมาที่ศูนย์ของจังหวัดที่รับรถไว้ให้ประสานกับลูกค้าต่อไป (แล้วตกลง ต้องโทรไปกรุงเทพทำไมหว่า) 

พอช่วงเย็นๆ ศูนย์ T ก็โทรมาขอโทษว่า ทำไมถึงให้ลูกค้าโทรไปกรุงเทพ แล้วก็ขอข้อมูลหาต่อว่าใครโทรบอกให้ลูกค้าโทรไปกทม.กัน พร้อมรับเรื่อง บอกว่า เบื้องต้น เค้าเช็คแล้วว่า เพิ่งเปลี่ยนแบตลูกเล็กไปจริงๆ ช่วงมกราที่ผ่านมา (ใจแอบสงสัยนิดนึง ประกัน 1 ปี บอกเราว่าเช็คแล้วเปลี่ยนตอนมกรา ทำไมหมด 1 ตุลาหว่า แต่ก็ช่างๆไปละกัน) นอกจากนั้น เค้ายังแจ้งเราว่า สาเหตุที่เคลมไม่ได้ เพราะ รถไม่มีการเปิดใช้มาเป็นเดือน จนเป็นเหตุให้แบตเตอรี่เสียหาย จึงอาจจะไม่อยู่ในประกัน เราก็เลยบอกเค้าเรื่องที่แบตรถมันหมด สองรอบ จัมป์ไปแล้วมันก็หมดอีก ถึงต้องจอดทิ้งไว้ เพราะ ไม่รู้รถจะได้ซ่อมเมื่อไหร่ยังไงล่ะครับ ถ้ารถมันสตาร์ทได้ ใครมันจะจอดรถทิ้งไว้เฉยๆ ไม่สตาร์ทเลยล่ะ จะให้ตามมาจัมป์ไปเรื่อยๆ เสียเงินไปเรื่อยๆ แบบไม่รู้จะได้ซ่อมเมื่อไหร่คงไม่ไหวมั้ง ฝากแจ้งฝ่ายพิจารณาการเคลมให้ด้วยนะครับ 

วันพุธที่ผ่านมา (เมื่อวาน) จนช่วงบ่ายแล้วยังไม่มีใครโทรมา เราก็เลยโทรหาศูนย์ T อีกรอบ ทางศูนย์รับเรื่องไว้ แล้วสักพักมีพี่เจ้าหน้าที่โทรกลับมา 
แจ้งว่า แบตต้องเปลี่ยนจริงๆ แต่ต้องรอฝ่ายพิจารณาตัดสินใจว่า ตกลงจะให้เคลมได้มั้ย แต่ต้องทำใจนะ อาจจะเคลมไม่ได้ เพราะ มีประวัติว่า จอดรถโดยไม่ใช้เลยเป็นเดือน ทำให้แบตเสีย อาจไม่สามารถเคลมได้ (เหตุผลเดิม) 

ถึงตรงนี้ เราก็เริ่มร้อนรนบ้างแล้ว เลยเผลอพูดรัวๆ เลย "พี่ครับ แต่แบตมันเสียตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้วนะครับ ที่ไม่เปิดรถเลยเป็นเดือนๆ ก็เพราะ แบตมันหมดสตาร์ทไม่ได้นี่นา รถก็ยังเอาไปซ่อมอู่ไม่ได้ จะให้จัมป์แล้วปล่อยให้ดับ จัมป์แล้วปล่อยให้ดับ เสียเงินไปเรื่อยๆทุกครั้ง ก็ไม่ไหวนะ ถ้าผมเรียกมาจัมป์เดือนละครั้ง แบบจัมป์ทิ้งๆขว้างๆ ไปเลย ผมจะเคลมไม่ได้ เพราะ จอดรถทิ้งไว้สองอาทิตย์ไหมล่ะ" 

ใจก็แอบหมดหวังแล้ว คิดว่า พรุ่งนี้เค้าจะเปลี่ยนเหตุผลที่เคลมไม่ได้เป็นเพราะอะไรกันนะ 

สรุปวันนี้ (พฤหัส) ทางศูนย์โทรมาแจ้ง ว่าเคลมแบตไม่ได้ สาเหตุ เพราะ ไม่ได้เสียจากที่ตัวแบต แต่เป็นเพราะ การที่ท้ายรถเปิดเผยออยู่ ทำให้มีไฟเตือนโชว์ขึ้นหน้าปัดตลอด ทำให้ไฟไหลออกตลอดเวลา ทางศูนย์ได้ทำการฟื้นฟูแบตเตอรี่ให้แล้ว (ค่าใช้จ่ายประมาณ 1000 บาท) เราเลยถามเค้าว่า ไฟหน้าปัดโชว์เล็กๆ แค่นั้น มันกินไฟจนแบตหมดเลยหรอครับ เค้าบอกว่า ถ้าเปิดไว้นานๆ ก็หมดได้ แนะนำว่า เดี๋ยวตอนไปจอดรอซ่อมที่อู่ ขอให้ถอดขั้วแบตออกจะดีกว่า ในใจเราก็แอบคิดว่า ตอนที่แบตหมดก่อนส่งเคลมก็จอดนานๆจริงล่ะ แต่ที่ศูนย์บอก คือเอารถไปเข้าเช็ค ชาร์ตแบตวันจันทร์ พอเช้าวันอังคาร แบตก็หมดแล้วนี่นา จะบอกว่านานก็ไม่น่าได้นะ  

สงสัยโทรมาแต่ละครั้ง เค้าอาจไม่ได้ประสานกันว่า คนก่อนบอกไว้ว่ายังไงบ้าง มันเลยขัดๆกันนิดหน่อยล่ะนะ
 
เลยถามเค้าอีกว่าที่ฟื้นฟูแบตไป 1000 บาทนี่ มีประกันไหมครับ กลัวจะเป็นการทำให้พ้นๆ กำหนดเคลมประกัน 1 ตุลา ไปเฉยๆ เค้าบอกว่าในส่วนของฟื้นฟูแบต ไม่มีการประกันระยะเวลาล่ะ อย่างไรก็ตาม รถควรมีการ start ลดอย่างน้อย 15 นาที ทุกสัปดาห์ ถ้าไม่อยู่นานๆ ควรถอดขั้วแบตออกด้วย เราก็แอบเศร้าอีก ปกติใช้รถอย่างเดียว ถอดขั้วแบตยังไงหว่า ตอนใส่มันจะช็อตเรามั้ยนะ (ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถ ยิ่งเป็นแบตไฮบริด ยิ่งกลัวทำผิดแล้วแบตไฮบริดจะพังเอา)

ส่วนเรื่องที่แบตทำไมหมดประกัน 1 ตุลา เราลองถามเค้าดู เค้าบอกว่า วันก่อนแจ้งมาผิดล่ะ แบตเสริมที่จะเคลมนี่คือเปลี่ยนตุลาปีที่แล้ว อันที่เปลี่ยนตอนมกรา คือแบต hybrid ลูกใหญ่ต่างหาก 

นี่ก็ทำใจละ ว่ากว่ารถออกจากอู่ คงแบตหมดอีกแน่เลย ตอนนั้นคงพ้นเคลมประกันแล้วด้วย ได้แต่ทำใจเสียค่าแบตอีก 7000-8000 อีกล่ะ 

คราวก่อนตอนแบตลูกใหญ่ ตอนจะครบประกันแบต 10 ปี ก็เคยเอาเข้าไปเช็คแล้วล่ะ เผื่อมีอะไรขัดข้อง จะได้ยังอยู่ในประกัน เค้าบอกไม่มีไฟขึ้น ไม่มีบันทึกไว้ในกล่อง เปลี่ยนไม่ได้หรอก พอผ่านไปได้เกือบปีหลังประกันหมด รถเจ้ากรรมขึ้นไฟเตือนแบต เสียไป 5 หมื่นกว่าทั้งน้ำตาเลย แต่ก็ทำใจ เพราะ มันพ้นประกันแล้วจริงๆ  

มาคราวนี้ อุตส่าห์หวังเต็มที่ว่ายังอยู่ในประกันแน่ๆ สุดท้ายเหตุผลที่เคลมไม่ได้ ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆอยู่ดี แถมจากเดิมที่บอกว่า ต้องเปลี่ยนแน่ๆ กลายเป็นฟื้นฟูแบตได้แทนซะแล้ว 

ทำเอาหมดใจกับ T มากเลย ตั้งแต่เด็กๆ ที่บ้านใช้รถของเจ้านี้มา 5 คันแล้ว ตอนซื้อรถคันแรกเอง ก็ตั้งใจไว้เลยว่า เอาอันนี้แหละ เค้าบอกรถยี่ห้อนี้หาอะไหล่ง่าย ขายออกก็ง่าย 

เจอแบบนี้ เสีย brand royality จากเราเลย คันหน้าคงลองเจ้าอื่นบ้างล่ะ เดี๋ยวนี้ตัวเลือกเยอะแยะแล้ว 

ไม่รู้บริษัทอื่นเจอกรณีแบบนี้ เค้าแก้ปัญหายังไงหรอครับ 

หรือขอถามความรู้ พี่ๆในบอร์ดนี้หน่อยครับ 1. ปกติรถไฟฟ้าไฮบริดจ์นี่ ต้องเปิดใช้อย่างน้อยกี่สัปดาห์หรือกี่เดือนครั้ง แบตถึงจะไม่พัง หรือ อย่างน้อยถ้าพังแล้วยังเคลมได้หรอครับ 

2.ไฟหน้าปัดเล็กๆ ข้างหน้าที่เตือนว่าเปิดประตูทิ้งไว้นี่มันทำให้ไฟรั่วออกจนแบตหมดภายใน 1 คืนได้ด้วยหรือครับ 

ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่